" The man who does not read a good books has no advantage over the man who can't read them. " -- Mark Twain
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
+++ อุ่นเครื่องก่อนตะลุยงานมหกรรมหนังสือฯ +++

อัพblog ครั้งนี้เพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง ก่อนงานหนังสือที่กำลังจะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้

ในปีๆหนึ่ง ประเทศไทยจะมีการจัดงานมหกรรมหนังสือระดับประเทศ หลักๆปีละ 2 ครั้งด้วยกัน คือในช่วงเดือนเมษา และเดือนตุลา (ไม่นับงานย่อยอื่นๆ เช่น นายอินทร์บุ๊คแฟร์ หรือ งานหนังสือเด็ก)

คุณภิญโญ ไตรสุริยธรรม เจ้าของสำนักพิมพ์ open อันลือชื่อ ได้ให้ความเห็นกับการจัดงานในลักษณะนี้ว่า " เหมือนกับการทำนาปี กับนาปลัง " ซึ่งผมก็ค่อนข้างที่จะเห็นด้วยอย่างที่สุด

งานหนังสือ เริ่มต้นจากความตั้งใจที่จะช่วยส่งเสริม กระตุ้นให้คนไทยหันมาสนใจในการอ่านหนังสือกันมากขึ้น แต่โดยลึกๆก็เป็นที่รู้กันว่า ต้องการที่จะช่วยสำนักพิมพ์อิสระเล็กๆ ที่ไม่ได้มีหนังสือ (ที่คาดว่าจะเป็น)best seller วางอยู่บนแผงตามร้านหนังสือ ไม่ได้มีเงินทุนค่าโฆษณาหนาเหมือนสำนักพิมพ์ใหญ่ๆที่จะโปรโมท ได้มีโอกาสมาเปิดบู๊ท เพื่อแนะนำหนังสือที่ปกติจะหลบอยู่ตามซอก เห็นเพียงสันปกบนชั้นในร้านหนังสือ ให้กับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือไม่เคยได้รู้จัก ได้เลือกซื้อเลือกอ่านกัน... บางสำนักพิมพ์ถึงขนาดสามารถอยู่รอดปลอยภัยในธุรกิจนี้ได้ ด้วยงานหนังสือที่จัดขึ้นเพียงปีละ 2 ครั้งนี้

เมื่อเราถอยออกมามองภาพรวม แม้จะยอมรับว่า งานมหกรรมฯ ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นให้คนสนใจอ่านหนังสือมากยิ่งขึ้น แต่กระนั้นก็มีผลเพียงแต่เฉพาะกับคนกรุง ที่มีอัตราเฉลี่ยการอ่านหนังสือโดยเฉลี่ยสูงอยู่แล้ว หาได้เข้าถึงคนที่อยู่ต่างจังหวัด หรือคนที่ไม่รู้หนังสือจริงๆไม่..

ผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับมติชน 2 ครั้งด้วยกัน... จากที่ได้ทำงาน การที่ได้พบเจอผู้คน ภายในงานตลอดระยะเวลากว่า 12 วัน ทำให้ได้เห็นมุมมองต่างๆ รวมถึงภาพกว้างๆของวงการหนังสือบ้านเราได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ... แม้จำนวนผู้ร่วมงานจะสูงทุกครั้งที่มีการจัดงาน แต่คุณภาพของผู้อ่านกลับไม่ได้สูงตามเลย ซ้ำยังอาจต่ำลงอีกด้วย..

ก่อนอื่นต้องยอมรับก่อนว่า วัฒนธรรมการอ่านของบ้านเรายังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ไม่เหมือนกับประเทศอังกฤษ หรือ อเมริกา ที่มีวัฒนธรรมการอ่านค่อนข้างสูง(มาก) โดยปกติแล้วคนอังกฤษจะซื้อหนังสือสัปดาห์ละ 2 เล่ม !! ... ซึ่งเมื่อย้อนกลับมามองที่บ้านเรา ที่มีอัตราเฉลี่ยการอ่านหนังสืออยู่ที่เพียงปีละ 8 บรรทัด !! แล้วยิ่งทำให้เศร้าใจ (แม้ในความรู้สึกตัวเลขนี้จะน้อยเกินความเป็นจริงก็ตาม) สาเหตุอาจจะเนื่องจากว่า วัฒนธรรมของเรานั้น เน้นไปที่การฟังเสียมากกว่ากระมัง..

แม้ว่าคนอ่านจะน้อย แต่กระแสนักเขียน writer ในบ้านเรากลับสูงขึ้นโดยไม่มีที่ท่าว่าจะลดน้อยลง โดยสามารถดูได้จากจำนวนปกที่ออกมาหลายหมื่นปกต่อปี (แม้จะยังห่างไกลกับพี่ใหญ่อย่างอังกฤษ ที่ปีที่แล้วออกหนังสือมามากกว่า 2 แสนปก ให้เลือกอ่านกันไม่หวาดไม่ไหว)

หนังสือขายดียังคงเหมือนเดิม และยังคงต้องมีบุคคลที่น่าเชื่อถือแนะนำให้อ่าน หาใช่ความน่าสนใจของตัวหนังสือเองไม่ ถึงขนาดที่ มติชนเองยังต้องติดป้ายไว้เลยว่า "หนังสือที่คุณ สรยุทธ์ แนะนำ" ... อันที่จริง ถ้าพูดกันตามหน้าที่คนขาย ย่อมรู้สึกดีที่มียอดขายสูงขึ้น แต่กระนั้นก็กลับรู้สึกหดหู่ใจทุกครั้ง เมื่อคนมาซื้อหนังสือ โดยที่ไม่ยอมเปิดดูเนื้อหาข้างใน หรือฟังคำอธิบาย(อันที่จริงตอนนั้นก็ชอบ เพราะไม่ต้องเหนื่อย) แต่กลับซื้อเพราะมีคนบอกให้ซื้อ... ป้าคนนึงเดินมาบอกผม "นี่หนังสือที่ออกรายการคุณ สรยุทธ์ เมื่อเช้าใช่มั๊ย" "ครับ" ผมตอบ " งั้นเอาให้ป้าเล่มนึง นี่ถ้าสรยุทธ์ ไม่บอก ไม่ออกมาซื้อหรอกนะเนี่ย" ด้วยความหวังดี ผมบอกป้าว่า " คุณป้าไม่ฟังเนื้อหาข้างในก่อนเหรอครับ" "ไม่ต้องหรอก เสียเวลา" คุณป้าตอบ จากนั้นก็ยื่นบัตรเครดิตให้ผม ... เห้อ !!!

สิ่งที่พบนี้ไม่ใช่ปรากฎการณ์ใหม่สำหรับคนไทย เพราะเมื่องานช่วงเมษาปีก่อน ก็เกิดเหตุการณ์ดังว่ากับหนังสือที่เป็นพระเอกในตอนนั้นคือ "An inconvinent truth" ของ อัล กอร์.. เหมือนเป็นการฉายหนังซ้ำเรื่องเดิม เพียงแค่ครั้งนี้เปลี่ยนพระเอกมาเป็น "พระราชพงศาสดาร ร.ศ. 120" และผมก็เชื่อว่าจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งไป..

โดยส่วนตัวแม้จะยอมรับว่า หนังสือทุกเล่มที่แนะนำล้วนแล้วแต่ดีทั้งสิ้น และก็พอมราจะเข้าใจด้วยว่า ในสภาพสังคมที่เร่งรีบในปัจจุบันแทบจะหาเวลาพักไม่ได้ การมีคนมาช่วยกรองให้นั้นก็เป็นสิ่งที่ดี ช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก เพราะหนังสือในปัจจุบัน ออกมามากจนเลือกอ่านกันแทบไม่ทัน แต่อย่างน้อยที่สุด เราก็ควรที่จะเปิดดูเนื้อหาสาระข้างในก่อน โดยใช้วิจารณญาณ หรือรสนิยมส่วนตัวในการเลือกหนังสือที่เขาแนะนำเหล่านั้นด้วย ว่าเราชอบ หรือดีจริงๆตามคำกล่าวอ้างหรือไม่..

ปรากฎการณ์นี้ยังส่งผลไปกับหนังสือเล่มอื่นๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น the secret ,, My life as a coach ,, มอง CEO โลก ของ วิกรม นับได้ว่าเป็น Power of media อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องอิงงานวิจัยจากสถาบันชื่อดังไหนๆ

แม้ผู้คนส่วยใหญ่จะมุ่งไปแต่ที่สำนักพิมพ์ชื่อดัง แต่งานหนังสือ ก็ยังช่วยให้คนไทยได้มีโอกาสเปิดโลกของหนังสือได้กว้างไกลกว่าเดิม ทำให้ได้รู้จักนักเขียนอิสระคนอื่นๆ นอกเหนือไปจาก ชาติ กอบจิตติ และ วินทร์ เลียววาริณ ทำให้ได้รู้จักสำนักพิมพอิสระเล็กๆ ที่มักจะตีพิมพ์วรรณกรรมที่สะท้อนสังคม หรือแนวอื่นๆ ที่มักจะถูกร้านขายหนังสือทั่วไปมองว่า " ไม่น่าจะขายดี" ทำให้ต้องถูกซ่อนไว้หลังร้าน แล้วก็กลายเป็นหนังสือที่ขายไม่ดี (จริงๆ)

วรรณกรรมชิ้นเอกของโลกหลายเรื่องมีโอกาสได้มาเสนอหน้าให้ผู้คนได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนของ ฟิเจอรัล เฮมมิ่งเวย์ ดอสโตเยฟสกี้ การ์เซีย มาร์เกวซ กามู เฮสเส หรือคนอื่นๆอีกมากมาย ที่พร้อมจะเปิดการแสดง ให้ผู้ที่สนใจได้ซึมซับถึงอัธะรสของเรื่องราวภายในหนังสือ เพียงแค่เปิดอ่านมัน การแสดงเหล่านั้นก็จะเริ่มต้นขึ้น..

ผมเชื่อว่า วรรณกรรมต่างๆ เป็นสิ่งที่สะท้อนมาจากสังคมที่เป็นอยู่จริง เป็นสังคมที่มีชนชั้นต่างๆ ที่ในชีวิตจริงเราไม่อาจจะเข้าไปรับรู้ หรือสัมผัสถึงสภาพความเป็นจริงของสังคมนั้นๆได้ด้วยตัวเองอย่างแท้จริง วรรณกรรมจะเป็นสะพานคอยเชื่อมโยงถ่ายทอดทำให้เราได้มองเห็นความพิกลพิการในโลกของเรา ที่มีทั้งความโสภา และโสมมในเวลาเดียวกัน สิ่งต่างๆที่เราเห็น อาจเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวนึงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกอันเน่าเฟะใบนี้... ทำให้ผมมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าโลกของเราจะหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเท่าไหร่ ผมก็ยังจะมีหนังสือดีๆ ให้ได้อ่าน รวมถึงมีภาพยนตร์ดีๆให้ได้ดู มีเพลงเพราะๆให้ได้ฟัง อยู่อย่างต่อเนื่องไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เปรียบได้ดั่งวรรณกรรม (รวมถึงศิลปะแขนงต่างๆ) ตีเส้นคู่ขนานไปตลอดกับ ความเป็นไปของโลก..

บทสรุปของงานหนังสือฯ สะท้อนให้เห็นว่า การจัดงานมหกรรมหนังสือ ยังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง แม้จะช่วยให้คนสนใจออกมาซื้อหนังสือ แต่มองอีกด้านก็เหมือนการขุดหลุมให้เราตกไปในวังวลนั้นโดยไม่ตั้งใจ เพราะคนจะรอออกมาซื้อหนังสือกันเพียงปีละ 2 ครั้ง ซึ่งสิ่งนี้ หาได้เป็นการช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน ให้เกิดเป็นวัฒนธรรมการอ่านของคนไทยขึ้นมาอย่างแท้จริงไม่ อีกทั้งงานนี้ก็มีผลแต่กับเฉพาะคนกรุงเทพเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นการตอบโจทย์ที่แท้จริงของปัญหาที่เกิดขึ้น การกระจายความรู้สู่พื้นที่ต่างจังหวัด และพื้นที่ห่างไกลต่างหาก ที่ควรจะเป็นโครงการลำดับต้นๆที่ควรจะเกิดขึ้น.. เป็นประเด็นปัญหาที่ยังต้องช่วยกันส่งเสริม และแก้ไขกันต่อไป ..



Create Date : 01 ตุลาคม 2551
Last Update : 2 ตุลาคม 2551 1:59:08 น. 37 comments
Counter : 791 Pageviews.

 
ในฐานะของคนทำหนังสือ
เห็นคนหยิบหนังสือของเราขึ้นมาอ่าน
ยิ่งถ้าได้เห็นรอยยิ้มของเขาด้วย
มีความสุขกว่าได้รับเช็คค่าเหนื่อยครับ


โดย: beer87 วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:1:46:50 น.  

 
อยากไปค่ะ แต่ติดที่อยู่ต่างจังหวัด แต่ชีวิตนี้จะขอไปให้ได้ซักครั้ง


โดย: อิมาอิซัง วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:16:14:21 น.  

 
เราว่าวิธีการหนึ่งก็คือ

สื่อต้องพยายามทำให้คนเห็นว่า การอ่านหนังสือมันมีประโยชน์ (ซึ่งไม่ได้หมายถึงการทำเงินอย่างเดียว) อย่างไรบ้าง

เชิดชูคนอ่านหนังสือ เชิดชูคนดี มากกว่าพูดถึงคนรวย

น่าจะเป็นวิถีทางหนึ่งที่ช่วยได้นะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:16:15:16 น.  

 
เนื่องจากการรักการอ่านของคนไทยเริ่มต้นช้ากว่าประเทศอย่างอเมริกาและอังกฤษ ทำให้สื่อโฆษณาต้องดึงคนที่มีชื่อเสียงมาเป็นตัวขับเคลื่อนแทนที่จะเป็นเนื้อหาหรือคุณภาพในหนังสือ แต่ส่วนตัวคิดว่าก็เป็นก้าวเล็กๆที่ทำให้คนไทยหลายๆคนเขยิบเข้าไปหาหนังสือได้มากกว่าที่เคยเป็น ก้าวเล็กๆเหล่านี้ถ้าสามารถนำไปสู่วันที่คนไทยจะมีอารยธรรมการอ่านที่แข็งแรง การโฆษณาก็คงจะเปลี่ยนไปตามตลาดที่แปรผันค่ะ

อยากเห็นคนไทยรักการอ่าน


โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:23:51:16 น.  

 
อยากเห็นคนไทยรักการอ่าน ...

คิดตรงกับใจค่ะ
เคยพูดกับพ่อแม่ผู้ปกครองเด็ก ๆ เสมอว่าให้เขาอ่านเถอะหนังสือน่ะ จะหนังสืออ่านเล่นหรือหนังสืออ่านจริงก็ตาม...เมื่อเขาโตขึ้นเขาจะแยกแยะได้เองว่าเขาจะเลือกอ่านหนังสือแบบไหน เพื่ออะไร...


โดย: แม่ไก่ วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:9:22:22 น.  

 
จะว่าไปโลกของการอ่านก็ขยับขึ้นมานิดหนึ่งนะคะ แต่ที่ขยับขึ้นเพราะเป็นการอ่านตามกระแสมากกว่า แรงโปรโมทเขาเยอะยิ่งหนังสือเล่มไหนออกทีวี ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยค่ะ ดิฉันคิดถึงหนังสือดี ๆ ที่ไม่ได้ถูกโปรโมทแล้วเราไม่เคยพบเจอ เพราะไปซ่อนอยู่ในชั้นลึก ๆ ของตู้หนังสือในร้าน บางทีไปถามหาบางเล่มแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ขายยังไม่รู้จักเลยค่ะ...ครั้งหนึ่งเคยไปร้าน Book@53 ย่านทองหล่อ เจ้าของร้านบอกว่าที่นี่มีจัด book club กันทุกวันศุกร์ (แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้อยู่อยู่หรือเปล่า) นำหนังสือเล่มหนึ่งมาพูดในกลุ่ม แล้วให้คนเข้าร่วมกลุ่มอ่านแสดงความคิด ดิฉันว่าดีจัง การแชร์เรื่องราวต่างๆจากมุมมองของผู้อ่านเล่มเดียวกันทำให้เราได้มองเห็นอีกมุมหนึ่งค่ะ ที่อเมริกามีวันแห่งการอ่าน ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันตั้งแต่คนขับแท็กซี่จนถึงนักศึกษาปริญญาเอกไปไหนก็ถือหนังสือ อ่านกันเต็มไปหมด หวังว่าเมืองไทยจะเป็นแบบไหนบ้าง โรงเรียนประถมในบ้านเราก็จัดให้มีวันแห่งการอ่านค่ะบางที่นะ เด็กๆก็ดูกระตือรือร้น ดีเหมือนกันเริ่มต้นจากลูกหลานเราก่อน
ยังไงก็อยากให้คนไทยอ่านหนังสือก็มาก ๆ ค่ะ


โดย: หลักไมล์ วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:16:57:31 น.  

 
เขียนถึงงานหนังสือในฝันไว้ในหนังสือจีเอ็มเล่มที่กำลังจะวางแผงด้วยค้า

ง่านหนังสือคราวนี้เจอกันที่บู้ทนะคะ


โดย: grappa วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:9:32:52 น.  

 
สวัสดีคะ ขอบคุณที่แวะไปคอมเม้นต์นะคะ ชื่อหนังสือไปคล้ายกับชื่อหนังจริงๆด้วย คุ้นๆว่าเคยดูหนังเหมือนกัน

แล้วเจอกันที่งานหนังสือค่า รวมพลหนอน


โดย: แอปเปิ้ลอบเชย (apple_cinnamon ) วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:18:57:34 น.  

 
zwani.com myspace graphic comments


.....ดีใจจังที่ได้เจอคนที่เกิดวันเดียวกับผม.....

.....ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ.....


โดย: doctorbird วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:0:10:07 น.  

 


H B D อย่าเจ็บ อย่าจน นะครับ






โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:0:16:48 น.  

 
center>

::::::: H A P P Y :: B I R T H D A Y :::::::


ขอให้มีความสุขมากๆและมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ



โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:0:19:01 น.  

 


มีความสุขมากๆนะครับ


โดย: veerar วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:0:20:38 น.  

 






โดย: พ่อระนาด วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:0:37:27 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดนะคะ


โดย: teansri วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:0:37:51 น.  

 
ในวันคล้ายวันเกิด ขอให้มีความสุขสมดั่งใจปรารถนาทุกประการ จ๊ะ


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:6:51:44 น.  

 


โดย: แพรวา (peacepair ) วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:8:19:48 น.  

 


สุขสันต์วันเกิด จ้า

พรใดทีเป็นของชาวโลก

สุขใดที่ช่วงโชติของชาวสวรรค์

รักใดที่อมตะและนิรันดร์

ขอรักนั้นและพรนั้น จงเป็นของ...จขบ...จ้า



โดย: หน่อยอิง วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:9:04:25 น.  

 


โดย: supergaye วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:10:00:57 น.  

 
HBD น่ะค๊า ขอให้มีความสุขในวันดี ๆ แบบนี้และก็ตลอดไปเลยค่ะ









โดย: plely วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:10:15:38 น.  

 
ขอบคุณข้อมูลดีดีค่ะ


คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]


โดย: bo (bow_relax ) วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:10:34:45 น.  

 

Birthday comments at honeypiegraphics.com!


สุขสันต์วันเกิดค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ทำสิ่งใดก็ขอให้ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจทุกประการค่ะ
สุขสันต์วันเกิดค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ทำสิ่งใดก็ขอให้ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจทุกประการค่ะ


โดย: แม่น้องแปงแปง (แม่น้องแปงแปง ) วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:10:41:42 น.  

 


お誕生日おめでとう!
สุขสันต์วันเกิด
มีความสุขมากๆ สุขสมหวังดังตั้งใจไว้ทุกประการเลยจ้า...

เดหลีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ


โดย: เดหลีสีแดง วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:11:58:07 น.  

 

Happy Birthday นะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ
และมีสุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมหวังคะ






โดย: คิตตี้น้อยสีชมพู วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:12:07:41 น.  

 


ป้าเชิญนางฟ้า..มาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
และเหตุการณ์ดีๆรวมทั้ง...
ความรักที่ดีที่สุดในชีวิตนะคะ
หวังว่าคงจะไม่ช้าไปนะคะ
*********
*****




โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:13:09:11 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดคะ
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ยายกุ๊กไ่ก่ วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:13:29:49 น.  

 


โดย: joblovenuk วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:13:44:01 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดนะึคะ
ขอให้สุขภาพแข็งแรง
อ่านหนังสืออย่างมีความสุข
สมปรารถนากับเรื่องที่หวังไว้ค่ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:14:47:18 น.  

 


โดย: โสมรัศมี วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:17:43:28 น.  

 
happy


โดย: retrojass วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:17:53:00 น.  

 


HAPPY BIRTHDAY ค่ะ คนมีแผลฯ


โดย: คนมีแผลพ่อแม่ไม่รัก วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:18:35:42 น.  

 


โดย: sysee วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:18:45:28 น.  

 




โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:19:48:42 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

อ้อมแอ้มขอร่วมอวยพรวันเกิดด้วยคนนะค่ะ..

ขอให้มีความสุขมากๆในทุกๆวัน..

ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์..

ขอให้มีรักที่สมหวังและยั่งยืน..

zwani.com myspace graphic comments
สุขสันต์วันเกิดนะค่ะ


โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:20:09:11 น.  

 



โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:20:57:58 น.  

 


สุขสดชื่นมากมายในวันเกิด
ความสำเร็จบรรเจิดพริ้งเพริศใส
เบ่งบานเบิกฉ่ำชื่นรื่นเริงใจ
ทั้งโชคดีและมีชัยในทุกวัน


สุขสันต์วันเกิดค่ะ




โดย: โสดในซอย วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:21:31:39 น.  

 
ขอให้สุขภาพแข็งแรงงงค๊าบ


โดย: ต้อม การ์ตูนล้อ, (TOM_KATOON99 ) วันที่: 21 ตุลาคม 2551 เวลา:0:36:36 น.  

 
ขอขอบคุณทุกท่ายที่เข้ามาอวยพรวันเกิดให้นะครับ

ขอบคุณจากใจจริงครับ


Tentty


โดย: Tentty วันที่: 21 ตุลาคม 2551 เวลา:18:50:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Petrus85
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




I am a fallible human creature.

Friends' blogs
[Add Petrus85's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.