ย้ายโรงเรียน.............................ปีนี้ น้องเป้ยย้ายกลับมาเรียนที่โรงเรียนเดิม หลังจากไปเรียนที่อื่นมา 2 ปี มาเรียนชั้น ป.3 ใช้เวลาปรับตัวไม่นาน เพราะมีเพื่อนเก่าสมัยอนุบาลเกือบทั้งห้อง ดูลูกมีความสุขดีแต่ที่ถูกใจลูกมากที่สุดคือ น้องเป้ยได้เข้าชมรมนาฎศิลป์ ต้องซ้อมรำแทบทุกวัน ความที่ชอบแต่งตัว กับได้แสดงออกบ้าง ซึ่งปกติเธอเป็นเด็กขี้อาย แม่ก็เลยไม่ว่าอะไร อยากจะดูความอดทนของลูกด้วย เพราะการฝึกรำไม่ง่ายอย่างที่คิด ไม่ใช่แค่เล่นสนุกเท่านั้น ที่สถานี ททบ.5 : 2 กรกฎาคม 2550ได้ออกงานเสียที.......................เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2550 น้องเป้ยและเพื่อนๆ ได้ไปบันทึกเทปรำถวายพระพรองค์ราชินี เนื่องในวันแม่ ที่ ททบ.5 เป็นงานแรก ลูกต้องตื่นแต่ตีสี่ครึ่งมาแต่งหน้าทำผม แม่ทำเอง ไม่ได้ไปจ้างช่างแต่งหน้าที่ไหน เข็ดจากปีที่แล้ว ตอนงานโรงเรียน แม่ไปให้ช่างทำผมให้ ช่างหวังดีแต่งหน้าให้ด้วย แม่ก็มัวแต่นั่งอ่านหนังสือ เงยหน้าขึ้นมา เธอโปะแป้งให้ลูกแล้ว แป้งคนละสีกับผิวลูกเลย ลูกผิวขาวเหลือง แต่ทาออกมาแล้วหน้าออกดำ ไม่มีเวลา ก็เลยต้องเลยตามเลย ดูรูปทีไรเจ็บใจทุกที เพื่อนคนอื่นหน้าขาว ลูกเราหน้าดำ ไม่เอาอีกแล้วแม่แต่งหน้าก็พอดูได้ ไปแต่งตัวที่โรงเรียน นุ่งซิ่น ใส่สไป เหมือนนางฟ้าตัวน้อย ปกติปลุกก็ไม่ค่อยอยากจะตื่น วันนี้เรียกแค่คำเดียวกระเด้งจากที่นอนเลย ลูกเราหนอเป็นไปได้เด็กๆ รอคิวขึ้นรำถวายพระพร ขอบันทึกไว้ตรงนี้เลยว่า... ตั้งแต่ต้นจนจบลูกไม่บ่นแม้แต่คำเดียว... นี่แค่บทแรกเท่านั้น ต้องดูต่อไปแม่เป็นแม่คนเดียวที่ตามไปดูลูก ความห่วงใยอยู่ในใจ แต่ความอยากไปดูสถานีโทรทัศน์เขาทำงานกันอย่างไรมีมากกว่า ลูก 8 ขวบแล้ว ไม่ค่อยห่วงเหมือนตอนเขายังเล็กอยู่ แต่ยังไง ลูกก็ยังเป็นลูกสาวตัวน้อยของแม่อยู่วันยังค่ำ