|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
3 ตุลาคม 2552
|
|
|
|
เฉลย: การรักษาสมดุลยภาพของร่างกาย
เฉลยเรื่อง การรักษาสมดุลยภาพของร่างกาย
ตอนที่ 1 1. ถูก สัตว์น้ำส่วนใหญ่หายใจด้วยเหงือก ปลาดาว ปลาหมึก ปลาสลิด หอย ลูกอ๊อด ตัวอ่อนแมลงปอ ฯลฯ ก็มีเหงือกทั้งนั้น 2. ถูก เป็นคุณสมบัติของโครงสร้างแลกเปลี่ยนแก๊สเลยล่ะ 3. ผิด ถุงลมของแมลงและนก (air sac) ช่วยเก็บอากาศเอาไว้สำหรับบิน แต่ถุงลมของค้างคาว (alveolus) เอาไว้แลกเปลี่ยนแก๊ส 4. ถูก Malpighian tubule ที่เป็นอวัยวะขับถ่ายของแมลงจะดูดของเสียจากช่องร่างกายเข้ามาในทางเดินอาหาร อุจจาระของแมลงเลยประกอบด้วยกรดยูริกและกากอาหาร เหมือนในขี้จิ้งจกไง 5. ผิด hemoglobin ไส้เดือนละลายอยู่ในน้ำเลือดต่างหาก 6. ถูก ทั้งอะมีบา ฟองน้ำ ไฮดรา แลกเปลี่ยนแก๊สและขับถ่ายของเสียด้วยการแพร่ผ่านเข้าออกผิวร่างกายโดยตรงเหมือนๆกันโดยไม่มีระบบมาทำหน้าที่เฉพาะ 7. ผิด ควบคุมด้วย CO2 อย่างเดียวนะ 8. ถูก สะอึกเกิดจากแบบนั้นแหละ ถ้าอยากหายสะอึกเลยต้องปรับวงจรการหายใจใหม่ อย่างเช่นกินน้ำไง 9. ถูก กากอาหารอุจจาระไม่ใช่ของเสียจาก metabolism เพราะเป็นของที่ย่อยไม่ได้ต่างหาก อุจจาระเลยอยู่ในเรื่องระบบย่อยอาหาร ไม่ได้อยู่ในเรื่องระบบขับถ่าย 10. ถูก แอมโมเนียเป็น N-waste จาก metabolism ของโปรตีน เป็นแก๊สมีพิษละลายน้ำได้ดีเลยเป็นของเสียสำหรับสัตว์ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นน้ำ 11. ถูก ไตควบคุม pH โดยขับถ่ายโปรตอนออกไป คุมสมดุลน้ำและเกลือแร่โดยเซลล์บุท่อหน่วยไตที่ดูดกลับและขับออกน้ำและเกลือแร่ตามคำสั่งของฮอร์โมนต่างๆ แถมยังสร้างฮอร์โมน erythropoietin ได้อีกด้วย 12. ผิด renal artery นำของเสียมากรองที่ไตก็จริง ทั้งยูเรีย แอมโมเนีย ยูริก แต่ด้วยความที่เป็น artery เลยต้องมี O2 สูงเพราะเพิ่งออกจากหัวใจ renal vein ต่างหากที่ต้องมี CO2 สูงเพราะรับมาจาก metabolism ต่างๆของเซลล์ที่ไต 13. ผิด ในปัสสาวะเกือบทั้งหมดเป็นน้ำไง -*- แต่ของเสียที่พบมากสุดในปัสสาวะมนุษย์คือยูเรีย 14. ถูก เบาหวานเกิดจาก insulin น้อยไป (หรือตัวรับ insulin ผิดปกติ) เบาจืดเกิดจาก ADH น้อยไป ปัสสาวะเลยออกมามีแต่น้ำ ส่วนเบาเค็มเกิดจาก aldosterone น้อยไป โซเดียมเลยออกมามาก 15. ถูก เป็นสิ่งสำคัญมากว่า hypothalamus คือศูนย์กลางการควบคุม homeostasis ของร่างกาย 16. ผิด กำลังการรักษา pH ต้อง ระบบขับถ่าย (ปัสสาวะออกไปทีละเยอะๆ) > ระบบหายใจ (หายใจเข้าออกทำให้เลือดลดความเป็นกรดทีละน้อยๆ) > บัฟเฟอร์ (เป็นแค่ปฏิกิริยาเคมี ปรับโมเลกุลสารทีละตัวๆ) 17. ผิด ต้องเปลี่ยนคำว่าเลือดดำ เป็นเลือดแดงนะ หัวใจปลามีไว้สูบฉีดเลือดดำไปฟอกที่เหงือก 18. ผิด สัตว์เลือดเย็นอย่าง จระเข้ ก็มีหัวใจสี่ห้องสมบูรณ์เหมือนกัน 19. ถูก การสลายนิวเคลียสของเม็ดเลือดแดง เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ mammal 20. ถูก อ่านดูในหนังสือจะพบว่า erythroblastosis fetalis เกิดขึ้นได้แค่กรณีเดียวเท่านั้นนะ ถ้าแม่เป็น Rh+ ก็ไม่มีโอกาสเกิดเลย 21. ผิด ตับ ไม่ใช่อวัยวะน้ำเหลือง 22. ถูก เพราะหน้าที่ของระบบน้ำเหลืองคือเทสารน้ำที่ออกมาบริเวณเนื้อเยื่อกลับเข้าระบบลำเลียงที่หลอดเลือดดำบริเวณไหล่ (subclavian vein) ซึ่งเข้าสู่หัวใจโดยตรง 23. ถูก กลุ่มเม็ดเลือดขาวที่มีนิวเคลียสหลายพู = granulocyte ทั้งหมดสร้างมาจากไขกระดูก 24. ถูก B-cell จะหลั่ง antibody ต่อต้านสิ่งแปลกปลอม แต่ cytotoxic T-cell จะทำลายเซลล์แปลกปลอม เช่น เซลล์มะเร็ง เซลล์อวัยวะปลูกถ่าย หรือเซลล์ร่างกายที่ติดเชื้อไวรัส 25. ถูก จากปฏิกิริยา deamination หรือ transamination ที่ดึงหมู่ amino ออกจากกรดอะมิโนเพื่อใช้สันดาปกับ O2 นั้น (ดูเรื่องการหายใจระดับเซลล์) จะได้ของเสียออกมาเป็นแอมโมเนีย ซึ่งเป็นแก๊สพิษละลายน้ำ ร่างกายจะกำจัดแอมโมเนียโดยทำปฏิกิริยากับ CO2 ที่ตับได้ยูเรีย แล้วขับถ่ายออกมากับปัสสาวะ 26. ผิด ถึงความดันเลือดจะเป็นส่วนสำคัญสำหรับ glomerular filtration แต่การสร้างปัสสาวะยังมีกระบวนการ tubular secretion และ reabsorption อยู่ด้วย ของที่ปกติต้องดูดกลับหมด อย่างกลูโคสหรือกรดอะมิโน ถึงจะกรองได้มากขึ้นยังไงก็ต้องถูกดูดกลับให้หมดอยู่ดีนะ 27. ถูก เพราะ basophil หลั่งสารที่เกี่ยวกับปฏิกิริยาภูมิแพ้ เช่น histamine 28. ถูก เพราะ medulla เอาไว้ควบคุมอัตโนวัติ ส่วนถ้าควบคุมได้อย่างกลั้นหายใจ หรือร้องเพลง จะใช้ cerebrum 29. ผิด ไม่เกี่ยววววกันเลย มั่วที่สุดในโลก -*- 30. ถูก แมงมุมใช้เลือดที่มีรงควัตถุลำเลียงแก๊สที่แลกเปลี่ยนได้จาก book lung แต่เลือดของแมลงวันไม่มีสี ไม่มีรงควัตถุ และไม่ใช้ลำเลียงแก๊ส เพราะระบบท่อลำเลียงเป็นโครงสร้างแลกเปลี่ยนแก๊สเพียงอย่างเดียวที่อากาศจากภายนอกเข้าหาเซลล์ร่างกายได้โดยตรง
ตอนที่ 2 1. ค. อัตรากรองเป็น 125 ml / min ดังนั้น 1 วันจะมีการกรองเกิดขึ้น 125 x 60 x 24 / 1000 = 180 ลิตร กรองได้ 25 จากเลือด 100 เทียบบัญญัติไตรยางศ์ได้ว่า กรองได้ 180 ลิตร จากเลือด 100 / 25 x 180 = 720 ลิตร 2. ข. ต้องระบบหายใจ (ระบบท่อลม tracheal system) เพราะเป็นระบบที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขา สามารถนำแก๊สจากข้างนอกเข้าหาเซลล์ร่างกายได้โดยตรง ลองคิดดูว่าถ้าแมลงมีขนาดเท่าปลาวาฬ ท่อลมจะต้องแตกแขนงและซับซ้อนมากมายมหาศาลมากแค่ไหน มันเลยบอกว่าเล็กๆแค่นี้แหละดีแล้ว ~ 3. ค. ก. ถูก เป็นการรักษาสมดุลน้ำ เหมือนการที่ปลามีเกล็ด ข. ถูก เป็นการรักษาอุณหภูมิร่างกาย ไขมันเป็นฉนวนความร้อน ค. ผิด อย่าคิดว่าเป็นการรักษา pH ของร่างกาย เพราะเป็นแค่การขับเมือกป้องกันสภาพกรดเบส เหมือนกับผิวหนังของคนเรายังงั้นแหละ ไม่ได้เกี่ยวกับการทำให้ pH ของร่างกายอยู่ในสมดุลเลย ไม่เกี่ยวกับการทำให้มีกรดเบสในร่างกายมากขึ้นหรือลดลง เพราะถ้ากรดเบสเข้าร่างกายได้มันก็ตาย ลองเปรียบเทียบกับข้อ ก. ซึ่งคล้ายๆกัน จะเห็นว่าไส้เดือนดินป้องกันการเข้าออกของน้ำ ทำให้น้ำในร่างกายอยู่ในสมดุล ไม่ทำให้น้ำในร่างกายมีมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ง. ถูก เป็นการรักษาอุณหภูมิ 4. ง. ย้ำเป็นรอบที่ล้าน - - ว่าระบบท่อลมของแมลง centipede และ millipede เป็นโครงสร้างแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์อย่างเดียวที่ออกซิเจนเข้าไปหาเนื้อเยื่อได้โดยตรง 5. ข. เมื่ออยู่ในที่สูง (high altitude) ร่างกายในตอนแรกที่ยังไม่ปรับตัวจะไม่ชิน ทำให้หูอื้อ คลื่นไส้ อาเจียนได้ แต่เมื่ออยู่ไปเป็นวัน เป็นสัปดาห์ จะทำให้ร่างกายค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับปริมาณ O2 ที่มีอยู่น้อย ได้แก่ 1) เพิ่มอัตราการหายใจและแลกเปลี่ยนแก๊สที่ปอด 2) เพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงที่ไขกระดูกโดยอิทธิพลของฮอร์โมน erythropoietin ที่หลั่งออกมาทันที ซึ่งเม็ดเลือดแดงล็อตใหม่ๆจะออกมาในกระแสเลือดเมื่อผ่านไปแล้ว 5 วัน 3) เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ปริมาตรเลือด และปริมาตรเลือดที่ออกจากหัวใจในแต่ละครั้ง ฯลฯ ข้อ c) ผิดเพราะปริมาตรเลือดเพิ่มขึ้นต้องทำให้ปริมาณน้ำเหลืองเพิ่มขึ้นด้วย หลอดเลือดฝอยไม่ได้มีหน้าที่สั่งการควบคุมปริมาณเลือดในร่างกาย แบบว่า พลาสมาอย่าออกไปเป็นน้ำเหลืองเลยนะขอให้อยู่ในหลอดเลือดต่อไปเถิด ไรเงี้ยทำไม่ได้หรอก และอีกอย่างคือการที่พลาสมาออกไปเป็นน้ำเหลืองเกิดจากการแพร่ (passive transport) เราไม่มีกลไกอะไรไปบังคับอยู่แล้ว 6. ข. a) ถูก feather ของนกออกแบบมาตามหลักพลศาสตร์ของไหล (แบร์นูลลีย์) และกระดูกกลวงทำให้ตัวเบาบินได้ดี b) ถูก หายใจเข้าและออกหนึ่งรอบ มันแลกเปลี่ยนผ่านปอดสองครั้ง c) ผิด air sac ของนกไม่ได้แลกเปลี่ยนแก๊ส แค่เก็บอากาศและช่วยทำให้แลกเปลี่ยนได้ 2 รอบ/ครั้ง 7. ข. a) ผิด เลือดแมลงไม่ลำเลียงออกซิเจนจึงไม่มีสี b) ถูก ถึงจะไม่ลำเลียงแก๊สแต่ลำเลียงของเสีย อาหาร เอนไซม์ ฮอร์โมนต่างๆ c) ผิด แมลงเป็นสัตว์ระบบเลือดเปิด บางส่วนเลือดจะอาบอยู่ในแอ่งเลือด (hemocoel) 8. ค. หายใจออกกระบังคมคลาย กล้ามเนื้อหน้าท้องหด (ลองหายใจออกๆๆๆดูสิ จะพบว่าหน้าท้องแข็งเกร็งเป็นลูกๆเชียวล่ะครับ-สำหรับบางคนนะ 55) 9. ง. metanephridium ในไส้เดือน มีการกรองที่ปากแตร (nephrostome) ที่เปรียบเสมือน Bowmans capsule มีการดูดกลับและขับสารตลอดทางเดิน metanephridium เหมือนกับ tubular secretion และ reabsorption ในหน่วยไต (nephron) ของมนุษย์ 10. ค. a), c) ถูก เพราะกรดยูริกเป็น N-waste (มีอะตอมของไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ) ที่กำจัดโดยใช้น้ำน้อยที่สุด เพราะมันไม่ละลายน้ำ b) ผิด ขี้จิ้งจกส่วนสีดำคืออุจจาระ ส่วนขาวต่างหากคือกรดยูริก 11. ค. ข้อสอบเอนท์ที่ยากอยู่นะ a) ถูก สารพิษต่างๆทำลายสารเคลือบถุงลมทำให้ถุงลมโป่งพองได้ b) ผิด คนละโรคกัน ถุงลมโป่งพองอาจจะมีส่วนทำให้เกิดมะเร็งปอดได้ c) ถูก ถุงลมโป่งพองคือโรคที่สารเคลือบถุงลมถูกทำลาย ทำให้เวลาหายใจเข้าถุงลมพองออกแต่เวลาหายใจออกมันไม่ยอมแฟบ ทำให้แลกเปลี่ยนแก๊สไม่ดี d) ถูก เมื่อถุงพองออกจึงเปรียบเสมือนเป็นขยะที่ใช้การไม่ได้ พื้นที่ผิวสำหรับแลกเปลี่ยนแก๊สของปอดจึงมีลดลงเรื่อยๆ 12. ค. a) เกิดขึ้นที่เนื้อเยื่อเพราะปล่อยออกซิเจนออกมาให้เซลล์ b) เกิดขึ้นที่เนื้อเยื่อเพราะรับเอา CO2 ไปสำหรับลำเลียงไปปอด c) เกิดขึ้นที่เนื้อเยื่อเพราะ CO2 แปลงร่างเป็นรูปที่ถูกลำเลียงไปปอด คือ HCO3- d) เกิดขึ้นที่ปอด เพราะรูปลำเลียง HCO3- เปลี่ยนกลับเป็น CO2 เพื่อขับออกนอกร่างกาย 13. ข. pH เป็นกรดแสดงว่ามี metabolism สูง ทำให้ CO2 สูง และ H+ สูงตามลำดับ metabolism สูงอาจจะเกิดจาก 1) ทำกิจกรรมมาก 2) อยู่ในที่เย็น (เพราะคนเป็นสัตว์เลือดอุ่น) ก. ผิด อยู่ในที่ร้อนแล้วมี metabolism สูงก็ยิ่งร้อนเข้าไปใหญ่ ผิดวิสัยสัตว์เลือดอุ่นนะ ข. ถูก ทำงานหนักๆแบบนี้ทำให้ metabolism สูงดีนักแล ค. ผิด ไม่เกี่ยว ไม่ได้ทำงานหนักนะนั่งจู๋จี๋เนี่ย -*- ง. ผิด ร้องเพลงหลังอาหารไม่เกี่ยวกับการใช้พลังงานขนาดนั้น 14. ก. เป็นการทดลองในหนังสือเรียน ลองไปหาอ่านดู เมื่อหยดน้ำสีเลื่อนไปเรื่อยๆ จะคำนวณหาปริมาตรแก๊สที่เกี่ยวใช้ต่อเวลาได้ เรียกว่าอัตราการหายใจ ที่ใส่ NaOH ไปเพื่อให้ดูด CO2 ซึ่งอาจกวนระบบการทดลองได้ เมื่อเวลาผ่านไป O2 ก็จะถูกใช้ไปเรื่อยๆ 15. ก. แรงดันเลือดเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับ glomerular filtration อันนี้ก็ข้อสอบเอนท์ 16. ง. อ่านได้ในบทที่ 9 : กายวิภาคพื้นฐานของสัตว์ ปกติแล้วหน่วยไตข้างหนึ่งมีล้านหน่วย แต่ใช้จริงๆห้าแสนหน่วย เมื่อตัดไปข้างนึง ข้างที่เหลือจะทำงานล้านหน่วยเต็มอัตรา ทำให้ประสิทธิภาพการกรองของเสียยังคงเท่าเดิม การบริจาคไตจึงสามารถทำได้ 17. ค. a), b) ถูก เพราะเซลล์เยื่อบุท่อหน่วยไตต้องดูดกลับ ขับสาร จึงต้องการพื้นที่ผิวมาก (มี microvilli) และต้องการพลังงานมาก (มี mitochondria) เพราะสารบางชนิดต้อง active transport c) lysosome เอาไว้ย่อยในเซลล์ เหมาะกับเม็ดเลือดขาวมากกว่า 18. ง. จาก y > x > z จะได้ว่า glomerulus กรองสาร A ผ่าน Bowmans capsule ข้อ a) จึงถูก ที่ห่วงเฮนเลพบว่าปริมาณสาร A มากกว่าที่กรอง แสดงว่ามีการขับเพิ่ม ข้อ c) จึงถูก แต่พอในน้ำปัสสาวะพบว่าปริมาณสาร A ลดลงกว่าที่ห่วงเฮนเล แสดงว่ามีการดูดกลับในบริเวณ distal tubule หรือ collecting duct ข้อ b) จึงถูก 19. ข. จระเข้มีหัวใจสี่ห้องสมบูรณ์ คือมีผนัง ventricle งอกขึ้นมานิดนึง ต่างจากของเต่าทะเลที่มีหัวใจสามห้อง คือ 2 atrium และ 1 ventricle ที่ไม่มีผนังใดๆมากั้น
20. ง. ก. ถูก ฮอร์โมนนั้นคือ ADH เพิ่มปริมาตรเลือดและแรงดันเลือด ข. ถูก hypothalamus ควบคุม homeostasis ต่างๆดังต่อไปนี้ อ่านเฉพาะคำที่อยู่นอกวงเล็บจะได้เอาไว้ท่องในห้องสอบนะครับ หิว อิ่ม กระหาย หื่น ตื่น (หัวใจ)เต้น (รู้สึกร้อน-) เย็น อารมณ์ สมดุล(ยภาพของร่างกาย) (ความ)ดัน ค. ถูก aldosterone ช่วยดูดโซเดียมแต่ขับโพแทสเซียมออกไป ง. ผิด ADH หลั่งออกมาเพิ่มเพิ่มปริมาตรและแรงดันเลือด จึงหลั่งออกมาเมื่อเลือดมีแรงดันต่ำแต่มีแรงดันออสโมติกสูง หรือเมื่อเลือดมีปริมาตรลดลง 21. ข. การปรับตัวเมื่ออุณหภูมิภายนอกสูงขึ้น a) ถูก หลอดเลือดหดตัวทำให้เลือดอุ่นๆนั้นกักเก็บในหลอดเลือดได้ดีขึ้น ไม่ออกเป็นเหงื่อ ทำให้สงวนความร้อนได้ b) ผิด กล้ามเนื้อโคนขนต้องหดตัว ทำให้ขนลุกตั้งชัน c) ถูก เพราะคนเป็นสัตว์เลือดอุ่น อัตราเมตาบอลิสมแปรผกผันกับอุณหภูมิภายนอก 22. ข. ปลาอินทรีเป็นปลาทะเล ต้องกันน้ำออกกันเกลือเข้า แต่ปลาที่บึงบอระเพ็ดเป็นปลาน้ำจืด ต้องกันน้ำเข้ากันเกลือออกนะครับ ก. ผิด มีเกล็ดเหมือนๆกันแต่หน้าที่ต่างกัน คือปลาบึงบอระเพ็ดกันน้ำเข้ากันเกลือออก ปลาอินทรีกันเกลือเข้ากันน้ำออก ข. ถูก ปลาบึงบอระเพ็ดมีแต่น้ำเข้ามา เลยต้องหาทางกำจัดน้ำให้ได้มากที่สุด คือฉี่เจือจางอย่างบ่อยๆ ค. ผิด ปลาบึงบอระเพ็ดต้องสงวนเกลือแร่ด้วยชีวิต จะขับออกไปทำไม ง. ผิด ต้องฉี่บ่อยๆสิ เพราะมีน้ำเข้าร่างกายมาก 23. ค. ก. ผิด สัตว์ปีกเป็นสัตว์เลือดอุ่นเหมือน mammal คืออุณหภูมิร่างกายจะคงที่ในช่วงอุณหภูมิภายนอกที่เปลี่ยนแปลง (ยกเว้นภาวะที่ไม่ปกติ เช่นมีไข้) ข. ผิด กระรอกทะเลทรายต้องสงวนน้ำเอาไว้มากๆ เลยต้องมี Bowman capsule เล็กๆจะได้กรองได้น้อยๆ รวมถึงมีห่วงเฮนเลยาว จะได้ดูดกลับน้ำได้มากๆ ค. ถูก หมาหายใจหอบเพราะมันรู้สึกร้อน การระบายความร้อนด้วยต่อมเหงื่อไม่ดีเหมือนในคน ง. ผิด กลไกลการจำศีลของสัตว์เลือดเย็นกับสัตว์เลือดอุ่นต่างกัน แถมหมีขั้วโลกไม่ได้จำศีล มันแค่นอนหลับในฤดูหนาวเฉยๆ 24. ง. คือถามว่าสารไหนเป็นระบบบัฟเฟอร์ของร่างกาย ก็ต้องทั้งหมดเลยเหมือนในหนังสือบอก คือมีคู่สารไบคาร์บอเนต (ข้อ a) คู่สารไฮโดรเจนฟอสเฟต (ข้อ b) และพวกโปรตีนในเซลล์ต่างๆ (ข้อ c) 25. ค. ลิ้นไบคัสปิดกั้นระหว่างห้อง atrium และ ventricle ด้านซ้าย ลองนึกดูว่าถ้าเกิดมันปิดไม่สนิท ก็จะทำให้เลือดที่ออกจาก aorta ส่วนหนึ่งทะลักกลับเข้ามาในหัวใจ ปริมาตรเลือดที่สูบฉีดออกจากหัวใจลดลง ความดันเลือดจึงลดลงด้วย คล้ายๆกับใช้มือบีบน้ำออกจากภาชนะยืดหยุ่นได้ที่มีรูรั่วนั่นแหละ 26. ง. ก. หอยแครง = เปิด, หอยงวงช้าง = ปิด เป็น mollusk ชั้นสูง ข. ทากบก = เปิด เป็น mollusk, ทากดูดเลือด = ปิด เป็น annelid ค. แม่เพรียง = ปิด เป็น annelid, เพรียงหิน = เปิด เป็น crustacean ง. ไรฝุ่น = เปิด เป็นแมง, ไรแดง = เปิด เป็น crustacean 27. ค. ระบบท่อน้ำ (water vascular system) ทำหน้าที่เป็นหลายๆระบบ ทั้งระบบลำเลียง ขับถ่าย แลกเปลี่ยนแก๊ส แต่ไม่เป็นระบบประสาท เพราะมีระบบประสาททางด้านท้อง (ventral nerve cord) แยกออกมา เรียกว่า nerve ring 28. ค. ก. ถูก เพราะ pulmonary artery นำเลือดดำไปฟอกที่ปอด ส่วน pulmonary vein นำเลือดที่ฟอกแล้วกลับเข้าสู่หัวใจ ข. ถูก เพราะ coronary artery นำเลือดแดงไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ส่วน coronary vein มีเลือดดำที่เพิ่งเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมา ค. ผิด glomerulus เป็นหลอดเลือดฝอย ต้องมีความเร็วน้อยกว่าหลอดเลือดดำ ข. ถูก arteriole เป็นหลอดเลือดแดง ต้องมีความดันมากกว่าหลอดเลือดดำ 29. ข. เลือดจาก renal vein ไป renal artery ได้ต้องผ่านลำดับดังนี้ (ลองค่อยๆไล่นึกไปเรื่อยๆนะไม่มีอะไรยากเลย) renal vein > inferior vena cave > right atrium > tricuspid valve > right ventricle > pulmonary semilunar valve > pulmonary artery > capillary ที่ alveolus > pulmonary vein > left atrium > bicuspid valve > left ventricle > aortic semilunar valve > aorta > renal artery ยาวจัง . . . - -a 30. ก. สัตว์ทะเลทีเป็น invertebrate ชั้นต่ำส่วนใหญ่ เช่น ปลาดาว แมงกะพรุน ไฮดรา จะมีสารละลายในร่างกาย isotonic ต่อน้ำทะเล จะได้ไม่ต้องควบคุมสมดุลไอออนให้มากความ 31. ข. ก. ตกตะกอน กรุ๊ป B รับได้จากกรุ๊ป O และ B ด้วยกันเท่านั้น ข. ไม่ตกตะกอน นาย ก. เป็นกรุ๊ป B รับเลือดจากนาย ข. เป็นกรุ๊ป O ค. ตกตะกอน Rh- เมื่อรับ Rh+ มากกว่าหนึ่งครั้งเป็นต้นไปจะเป็นอันตราย ง. ตกตะกอน ถ้าแม่เป็น Rh- เมื่อตั้งท้องลูก Rh+ (มี antigen Rh) แล้วครั้งหนึ่ง หากมีลูก Rh+ อีกคนอาจเกิดอันตรายได้ 32. ก. A = thromboplastin จากเกล็ดเลือดและเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย B = prothrombin สร้างจากตับโดยอาศัยวิตามินเค C = fibrinogen เป็น plasma protein ที่สำคัญสร้างมาจากตับ D = fibrin ปกติไม่พบในเลือด เกิดขึ้นเมื่อต้องการให้เลือด ณ ตำแหน่งหนึ่งๆแข็งตัว (blood coaggulation) ก. ผิด thromplastin ไม่ได้สังเคราะห์มาจากตับ ข. ถูก ยาปฏิชีวนะอาจส่งผลต่อแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ที่สร้างวิตามินมากมาย อย่าง วิตามินเค, บี 12, biotin และ folate ได้ ค. ถูก fibrinogen เป็นหนึ่งใน clotting factor ที่พบในพลาสมา เมื่อพลาสมาไม่มี clotting factor ต่างๆ (รวมทั้ง fibrinogen) เราจะเรียกว่า serum ส่วนในน้ำเหลืองไม่พบ plasma protein เพราะน้ำเหลืองเกิดจากการแพร่ออกนอกหลอดเลือดฝอยของพลาสมา โมเลกุลโปรตีนมันใหญ่เกินกว่าจะแพร่ออก ง. ถูก เพราะกระบวนการแข็งตัวของเลือดนับสิบขั้นตอน ต้องอาศัยแคลเซียมเป็นองค์ประกอบสำคัญ 33. ง. a) ถูก ท่อน้ำเหลืองไม่มีพลาสมาโปรตีนเพราะมันใหญ่เกินกว่าจะเล็ดลอดออกมาจากหลอดเลือดฝอย b) ผิด ถึงแม้เม็ดเลือดแดงจะออกมาจากหลอดเลือดฝอยไม่ได้ แต่ท่อน้ำเหลืองก็มีเม็ดเลือดขาวอยู่มากมาย (โจทย์บอกว่า การมีหรือไม่มีเม็ดเลือด) c) ถูก หลอดเลือดแดงส่วนใหญ่ (ที่ไม่ใช่ pulmonary artery) จะไม่มีลิ้น ในขณะที่ท่อน้ำเหลืองจะมีลิ้นช่วยลำเลียง 34. ค. a) ถูก ไม่มีนิวเคลียสจะได้บรรจุ hemoglobin ได้เยอะๆ b) ถูก รูปร่างแบบ biconcave นี้ทำให้เพิ่มพื้นที่ผิวในการแลกเปลี่ยนแก๊ส c) ผิด เม็ดเลือดแดงลำเลียงแก๊สได้สามชนิดแล้วดียังไง ในเมื่อ CO2 ลำเลียงกับเม็ดเลือดแดงแค่นิดเดียว แถม CO ยังเป็นแก๊สพิษที่ไม่มีประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย 35. ก. lymphocyte ไม่เป็น phagocyte ....ง่ายนะครับข้อนี้ 36. ก. a) ไม่สร้าง ในไขกระดูกเป็นที่สร้างและอนุบาล B-lymphocyte ที่สร้าง antibody ก็จริง แต่ B-cell จะทำงานได้ก็ต่อเมื่อออกลาดตระเวนในร่างกายและจ๊ะเอ๋กับ antigen เท่านั้นนะ b) ไม่สร้าง ต่อมไทมัสเป็นที่อนุบาล T-lymphocyte ซึ่งไม่ได้ทำหน้าที่สร้าง antibody c), d) สร้าง ม้ามและต่อมน้ำเหลืองเป็นอวัยวะในระบบน้ำเหลือง เป็นแหล่งปฏิบัติงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันมากมายอยู่แล้ว 37. ก. ข้อนี้จะถูกต้องที่สุดเมื่อบอกว่าเซลล์ไหนในเลือด นะครับ (ถ้าไปดูเม็ดเลือดที่อื่นๆแล้วใช้ความรู้มหาลัยอาจไม่ตอบ ก. ก็ได้นะ) ก. = eosinophil (สังเกตได้จากนิวเคลียสของมันมีสองพู งอไปงอมาคล้ายรูปตัว e : เพราะมันย่อมาจาก eosinophil ยังไงละ) ข. = neutrophil (สังเกตได้จากนิวเคลียสมี 3 5 พู) ค. = basophil (สังเกตได้จาก granule ติดสีเข้มมากและมีปริมาณมาก) ง. = monocyte (สังเกตได้จากเซลล์มีขนาดใหญ่ ไม่มี granule และนิวเคลียสเป็นรูปถั่ว) ปลาน้ำจืดดิบๆเป็นโฮสต์ชั้นดีของพยาธิต่างๆ ส่วน eosinophil เป็นเม็ดเลือดขาวที่เอาไว้กำจัดพยาธิ เห็นยังงี้ข้อนี้ก็ข้อสอบเอนท์นะ 38. ค. วัคซีนเป็นเชื้อโรคที่ตายแล้ว กระตุ้นให้ร่างกายสร้าง antibody ตอบสนองขึ้นมาเอง จึงเป็นแบบจำเพาะ (เพราะเกี่ยวกับ antigen antibody) และเป็นแบบก่อเอง (ร่างกายผู้รับสร้าง antibody ขึ้นมาเอง) คำว่าภูมิคุ้มกันแบบรับมา (passive immunity) หมายถึงรับ antibody เข้ามาเลย เช่น เซรุ่มแก้พิษงู น้ำนมแม่ คำว่าภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด (innate immunity) ตรงกับคำว่า non-specific defense ในหนังสือหน้า 100 คือพวกการทำงานของ phagocyte, lysozyme (สารต้านจุลชีพอย่างหนึ่งในน้ำตา, น้ำลาย), เยื่อเมือก, การอักเสบต่างๆ 39. ค. a), c) ถูก HIV จัดเป็นไวรัสที่มี RNA เป็นสารพันธุกรรม (เรียกว่า retrovirus) ทำให้มันกลายพันธุ์ได้ง่าย b) ผิด ทำลาย CD4+lymphocyte หรือ helper T-cell ต่างหาก ซึ่งเป็นเซลล์ศูนย์กลางควบคุมภูมิคุ้มกันของร่างกาย 40. ข. อืมมม ข้อนี้เอาจริงๆข้อสอบเอนท์ไม่น่าถามเด็กม.ปลายเพราะมันเกินไปนิดนึง งั้นก็จำไปเลย ว่าเวลากินเหล้าแล้วฉี่บ่อยๆเนี่ย (เห็นคนงานแถวบ้านเล่าให้ฟังพี่ไม่เคยกินหรอกครับ ^^) มันเป็นเพราะแอลกอฮอล์ไปลด ADH ทำให้หน่วยไตดูดกลับน้ำลดลงครับ ตัวอย่างสารที่ลดการหลั่ง ADH : alcohol, ยาบางอย่าง เช่น clonidine, haloperidol ตัวอย่างสารที่เพิ่มการหลั่ง ADH : มอร์ฟีน, นิโคติน, cyclophosphamide เห็นมั้ยจำๆไปเหอะอันนี้ไม่ยากอะไรหรอก ข้อสอบเอนท์นี่นะ -*- 41. ก. a = เลือด, b = plasma แยกกับชั้นของเม็ดเลือดข้างล่าง, c = serum เพราะเลือดข้างล่างเกิดการแข็งตัว แสดงว่า clotting factors ต่างๆตกลงไปแล้ว ก. ถูก อย่างที่บอก ข. ผิด ตัด fibrinogen ทิ้งเพราะมันเป็น clotting factors ค. ผิด พิษงูที่ฉีดเข้าม้า กระตุ้นให้ม้าสร้าง antibody มาต่อต้านพิษงูด้วยตัวม้าเอง เป็นแบบ active นะ ง. ผิด เซรุ่ม (serum) ที่ได้มี antibody ที่ม้าสร้างเอาไว้เองเรียบร้อยอยู่แล้ว ฉีดให้คนคนก็รับเข้ามาโดยไม่ต้องสร้างใหม่ เลยเป็นแบบ passive 42. ก. x = 0.1 เพราะกลูโคสจะกรองได้หมดและถูกดูดกลับหมดเช่นกัน y = 0 เพราะโปรตีนที่ใหญ่ขนาดนั้นจะไม่ผ่านการกรองเข้ามา z > 0.03 เพราะยูเรียเป็น N-waste ที่ท่อหน่วยไตจะต้องขับเพิ่มอีกเยอะแยะ พร้อมๆกับ N-waste ตัวอื่นๆทั้งแอมโมเนียและยูริก 43. ก. โปรตีนที่มากสุดคือ albumin ซึ่งมีหน้าที่รักษาแรงดันออสโมซิสในหลอดเลือด คิดเสียว่า albumin เป็นตัวถูกละลายตัวหนึ่ง พอมันออกมาความเข้มข้นของพลาสมาก็เจือจางลง (นั่นคือแรงดันออสโมซิสของหลอดเลือดฝอยมีค่าลดลง) แต่การที่ albumin รั่วออกไปนั้นทำให้ปริมาณน้ำเหลืองรอบเซลล์เพิ่มมากขึ้น เพราะ 1) albumin และพลาสมาโปรตีนอื่นๆมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ถ้าเกิดโปรตีนหายไป น้ำในหลอดเลือดเลยทะลักออกมานอกหลอดเลือดฝอย ผู้ป่วยจะเกิดภาวะบวมน้ำ (edema) ได้ 2) โปรตีนที่ออกมานอกหลอดเลือดฝอย เป็นเหมือนฟองน้ำที่วางอยู่นอกหลอดเลือดฝอย พอพลาสมาแพร่ออกมาก็ดูดซับเอาไว้ (เพราะมันอุ้มน้ำได้ดี) ทำให้ปริมาณน้ำเหลืองมากขึ้น และปริมาณพลาสมาน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น อืมม ข้อสอบเอนท์ข้อนี้ยากอยู่ -*- 44. ง. อัตราการหายใจขณะพัก เอาไว้ดูว่าจริงๆแล้วสัตว์ตัวนั้นมี metabolism สูงมากมั้ย และ class ที่มี metabolism สูงสุดๆในพวก vertebrate ก็คือ aves (พวกสัตว์ปีก) นั่นเอง เพราะการบินมันกินพลังงานมากจริงๆ โครงสร้างส่วนใหญ่ของร่างกายก็ต้องสอดคล้องและรองรับการบิน และ metabolism ที่สูงนี้ด้วย ปล. คำว่าสัตว์สี่เท้า ในทางชีววิทยาหมายถึง vertebrate พวก tetrapod (ไม่ใช่ปลา-pisces) ได้แก่ amphibian, reptile, สัตว์ปีก และ mammal ครับ อย่างงูหรือนก เราก็ถือเป็นสัตว์สี่เท้าในเชิงอนุกรมวิธานและวิวัฒนาการนะ 45. ค. a) ผิด พืชใต้น้ำอย่างสาหร่ายหางกระรอก ก็ไม่คายน้ำ b) ผิด การขับเหงื่อไม่ใช่กลไกหลักในการกำจัดน้ำและแร่ธาตุ ต้องเป็นไตสิ c) ถูก การคายน้ำเกือบทั้งหมดเกิดที่เซลล์คุม ส่วนการขับเหงื่อถูกควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนวัติ 46. ก. a) ถูก 98.5% ของออกซิเจนถูกลำเลียงในรูป oxyhemoglobin b) ถูก 23% ของคาร์บอนไดออกไซด์ถูกลำเลียงในรูป carbaminohemoglobin c) ผิด ลำเลียงในรูป HCO3- ต่างหาก หรือถ้าบอกว่ากรด H2CO3 มันก็เป็นกรดอนินทรีย์อยู่ดี ไม่ใช่กรดอินทรีย์ d) ผิด เลือดแมลงไม่ลำเลียงแก๊ส ย้ำรอบที่ล้านแปด 47. ค. x จะต้องเป็นสารที่ไม่ทำให้เลือดแข็งตัว เพราะ 1) ยังคงตรวจพบ clotting factors อย่าง fibrinogen อยู่ในพลาสมา (A) 2) ตั้งทิ้งไว้แล้ว ยังไงๆเม็ดเลือดข้างล่างของเหลว A ก็ยังไม่ตกตะกอน เพราะ clotting factors ต่างๆไม่ตกลงมานั่นเอง a) ผิด thrombin เป็น clotting factors อย่างหนึ่งที่ทำให้เลือดแข็งตัว b) ถูก heparin เป็นสารโดยธรรมชาติที่เม็ดเลือดขาว basophil หลั่งออกมาป้องกันเลือดในหลอดเลือดแข็งตัว c) ถูก hirudin เป็นสารที่พวก annelid ดูดเลือด อย่างปลิงดูดเลือด ทากดูดเลือด หลั่งออกมาเลียนแบบ heparin ของเรา เวลาดูดเลือดอยู่เลือดจะได้ไม่แข็งตัว ข้อนี้ก็ข้อสอบเอนท์นะทำได้ไหม 48. ก. หลอดเลือดนี้เป็น vein เพราะ 1) มีลิ้น 2) อาศัยการหดของกล้ามเนื้อลายๆรอบๆช่วยขับเคลื่อนเลือด ถ้าเป็นหลอดเลือด vein ที่ขาตามที่โจทย์ให้มา แสดงว่า เลือดกำลังไหลกลับเข้าหัวใจห้องบนขวาผ่าน inferioir vena cava โดยมีกล้ามเนื้อลายรอบๆหดตัวบีบไล่เลือด และขณะนั้นลิ้น b กำลังปิดเพื่อป้องกันการไหลย้อนกลับ ส่วนลิ้น a กำลังเปิดให้เลือดพุ่งผ่านไป 49. ก. อ่านบทที่ 9 นะ ..อัตราการหายใจจะเพิ่มขึ้นเพราะปอดเหลือข้างเดียว ตามปกติถุงลมทุกถุงทำงานเต็มที่ แต่อย่างที่บอกคือการกรองจะเท่าเดิม เพราะตามปกติไตจะใช้หน่วยไตแค่ครึ่งหนึ่งของที่มีเท่านั้น (ห้าแสนจากหนึ่งล้าน) ตัดไปหรือบริจาคไปข้างหนึ่งก็ไม่เป็นไร 50. ค. a) ผิด จับ O2 ได้ดีกว่า ไม่งั้น CO2 ส่วนใหญ่ก็ต้องลำเลียงโดยใข้ hemoglobin สิ b) ถูก โครงสร้างจตุรภูมิของ hemoglobin เป็น polypeptide สี่สาย แต่ละสายมีโมเลกุลของ heme แต่ละโมเลกุลของ heme มี Fe 1 อะตอมเป็นองค์ประกอบ แต่ละ Fe จับกับ O2 ได้ 1 โมเลกุล สรุปคือ hemoglobin 1 โมเลกุลขนส่ง O2 ได้ 4 โมเลกุลนั่นเอง c) ถูก CO กับ O2 จับ hemoglobin ที่ตำแหน่ง Fe ของ heme เหมือนกัน CO จึงเป็นคู่แข่งตัวร้ายกาจของ O2 ในขณะที่ CO2 จะจับกับ hemoglobin ที่ตำแหน่งอื่นๆ ตรงกรดอะมิโน (ลองอ่านหน้า 90 พี่แอบพูดไว้นิดนึง)
Create Date : 03 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 20:58:01 น. |
|
45 comments
|
Counter : 53346 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ภีม IP: 58.9.252.251 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:23:57:10 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:15:15:28 น. |
|
|
|
โดย: foon IP: 110.49.177.22 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:41:13 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:01:44 น. |
|
|
|
โดย: TuRn IP: 58.8.198.74 วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:3:15:23 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:21:07:27 น. |
|
|
|
โดย: มะนาว IP: 124.122.110.227 วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:17:42:46 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:18:21:38 น. |
|
|
|
โดย: มะนาว IP: 124.120.72.96 วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:5:11:47 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:1:19:24 น. |
|
|
|
โดย: MN IP: 118.172.95.4 วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:8:10:28 น. |
|
|
|
โดย: มะนาว IP: 124.122.134.59 วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:18:59:12 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:20:50:46 น. |
|
|
|
โดย: ป.ปลา IP: 125.25.6.84 วันที่: 6 มกราคม 2553 เวลา:21:31:56 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:21:47:30 น. |
|
|
|
โดย: กวาง IP: 118.172.249.66 วันที่: 9 มกราคม 2553 เวลา:11:34:15 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 222.123.152.105 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:22:12:31 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 222.123.152.105 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:22:49:57 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 222.123.152.105 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:22:53:23 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 222.123.152.105 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:23:13:09 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:23:20:52 น. |
|
|
|
โดย: กวาง IP: 118.172.247.189 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:10:30:40 น. |
|
|
|
โดย: Cen IP: 202.149.25.234 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:44:43 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:10:56 น. |
|
|
|
โดย: ซาลาเปา IP: 118.172.172.109 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:59:56 น. |
|
|
|
โดย: น้องญิ๋งญ๋วย :D IP: 61.7.149.38 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:2:03:15 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:45:42 น. |
|
|
|
โดย: pung 012 IP: 118.172.83.133 วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:21:45:40 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:13:51:51 น. |
|
|
|
โดย: Bank IP: 117.47.5.84 วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:13:04:46 น. |
|
|
|
โดย: ปลื้ม IP: 223.205.60.98 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:15:34 น. |
|
|
|
โดย: เจม แฮปปี้ IP: 58.64.110.78 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:43:42 น. |
|
|
|
โดย: GeGa IP: 192.168.247.191, 192.168.247.191, 127.0.0.1, 180.180.51.170 วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:9:55:15 น. |
|
|
|
โดย: GeGa IP: 192.168.247.191, 192.168.247.191, 127.0.0.1, 180.180.51.170 วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:9:56:41 น. |
|
|
|
โดย: lol IP: 58.8.54.225 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:34:53 น. |
|
|
|
โดย: เบ้น IP: 180.180.134.120 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:38:35 น. |
|
|
|
โดย: saith253 IP: 172.16.0.4, 101.109.103.63 วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:14:00:16 น. |
|
|
|
โดย: jef IP: 182.52.199.217 วันที่: 29 ธันวาคม 2556 เวลา:17:54:22 น. |
|
|
|
โดย: ิิbb_bb IP: 49.230.155.115 วันที่: 23 พฤษภาคม 2557 เวลา:9:31:47 น. |
|
|
|
โดย: Jane IP: 182.53.120.252 วันที่: 18 มีนาคม 2558 เวลา:21:05:28 น. |
|
|
|
โดย: น้องเนย IP: 180.183.56.188 วันที่: 19 มีนาคม 2558 เวลา:14:31:55 น. |
|
|
|
โดย: sac chanel rabat IP: 192.99.14.34 วันที่: 6 สิงหาคม 2558 เวลา:2:36:41 น. |
|
|
|
โดย: รังสิมา IP: 182.52.132.232 วันที่: 11 มกราคม 2559 เวลา:12:02:54 น. |
|
|
|
โดย: อาน IP: 49.228.110.219 วันที่: 25 กรกฎาคม 2565 เวลา:14:50:08 น. |
|
|
|
โดย: Alta IP: 51.210.176.129 วันที่: 19 มีนาคม 2567 เวลา:16:57:30 น. |
|
|
|
| |
|
|
มิสเตอร์คัสตาร์ด |
|
|
|
|
ผมว่า แค่ 1 วันมันยังเวไปที่จะเพิ่ม RBC นะครับ