ยาคุมกำเนิดทำให้เป็นหมันได้จริงหรือ การมีรอบเดือน การมีรอบเดือนเกิดจากการสลายตัวของเยื่อบุมดลูกคือ Endometrium มีเลือดไหลออกมาจากบริเวณผนังมดลูกประมาณ 3 วันหลังจากนั้นมดลูกจะเตรียมสร้างเยื่อสำหรับรองรับไข่ใบใหม่อีกซึ่งจะเกิดเป็นวงจรเช่นนี้ทุกๆ 28 วัน หรือ บวก ลบ 7วัน โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงจะเริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่อายุ 12-21 ปีและไปสิ้นสุดประมาณ 41 ปีขึ้นไป เมื่อหมดประจำเดือนแล้วผู้หญิงจะไม่มีการตกไข่อีกต่อไป ไข่ของสตรีที่เตรียมพร้อมรอผสม อาการปวดท้องของสตรีขณะมีรอบเดือน อาการปวดท้องนี้เกิดขึ้นมาจากการที่ปริมาณของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ( Progesterone ) มีปริมาณลดน้อยลง ทำให้มดลูกหดตัวได้มากขึ้น เพราะ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนยับยั้งการหดตัวของมดลูก เพื่อบีบไล่ให้สารที่สะสมเตรียมไว้ รวมทั้งเยื่อผนังชั้นในของมดลูกที่ฉีกขาดให้หลุดลอกออกไป จึงเป็นสาเหตุของการปวดท้องขึ้นขณะมีรอบเดือน ยาคุมกำเนิดเกี่ยวพันกับการตกไข่อย่างไร ตามปกติ สตรีจะมีไข่สุกเดือนละ 1 ฟอง และประมาณ 400 ฟอง ตลอดชีวิต ขอบคุณภาพประกอบเนื้อหาจากเพื่อนบล็อกเกอร์ทุกท่านที่เอื้อเฟื้อ ข้อมูลจากหนังสือ SPECIAL BIOLOGY กังวาล ทองเนตร ขอบคุณนะคะที่ให้ข้อมูลดีๆตอนนี้เริ่มหายกังวลแล้วเพราะกินยาคุมไม่ถึง2-3 เดือน กินไปประมาณ3 กล่องต่อเดือนได้มั่งและฉีดยาเข็มแรกแล้วเลิกฉีดตอนนี้คงไม่เป็นหมั่นใช่ไหมค่ะ
โดย: Who IP: 101.109.240.8 วันที่: 28 มิถุนายน 2556 เวลา:10:20:05 น.
ขอบคุณนะคะที่ให้ข้อมูลดีๆตอนนี้เริ่มหายกังวลแล้วเพราะกินยาคุมไม่ถึง2-3 เดือน กินไปประมาณ3 กล่องต่อเดือนได้มั่งและฉีดยาเข็มแรกแล้วเลิกฉีดตอนนี้คงไม่เป็นหมั่นใช่ไหมค่ะ
โดย: Who IP: 101.109.240.8 วันที่: 28 มิถุนายน 2556 เวลา:10:20:05 น.
ขอบคุณเช่นกันครับ ทั้งหมดที่ผมนำมาก็เป็นข้อมูลในทางวิชาการเท่านั้นเองครับ ใช้เพื่ออ้างอิงได้บางส่วนครับ
ไม่แน่ว่ายาคุมกำเนิดสมัยใหม่อาจไม่มีผลข้างเคียงก็เป็นได้ครับ แต่ที่ผมนำเสนอ เพื่อให้เห็นว่าทำไมต้องกินยาคุมกำเนิด และทำไมกินแล้วไม่ตั้งท้อง มีสาเหตุที่มาอย่างไร และผลข้างเคียงอย่างไร แต่การแพทย์สมัยใหม่ก็คงแก้ปัญหาเหล่านี้ได้บ้างครับ ถ้าไม่สบายใจก็ปรึกษาแพทย์โดยตรงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดครับ โดย: Thongnetra วันที่: 15 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:57:57 น.
|
Thongnetra
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]
Group Blog All Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |