คนใช้รถใช้ถนนมากขึ้นทุกวันเลี่ยงไม่ได้เลยค่ะที่จะต้องเจอกับฝุ่นควันและมลพิษอยู่มากมายบนท้องถนน ดังนั้นแล้วเราควรใส่ใจและเลือกสิ่งที่เป็นมิตรสำหรับท้องถนนวิธีเลือกรถที่ดีที่ช่วยลดมลพิษต้องเลือกอย่างไรไปดูพร้อมกันเลย ใครจะคิดว่าสิ่งเล็กๆ อย่าง ฝุ่นละอองจะกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาใหญ่ระดับโลกได้หลายปีที่ผ่านมาเมืองใหญ่ในภูมิภาคเอเชียอย่าง ปักกิ่ง นิวเดลีต้องประสบกับปัญหาวิกฤตฝุ่นละอองที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนจำนวนมากล่าสุดสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของกรุงปักกิ่งเปิดเผยว่า คุณภาพอากาศอยู่ที่ระดับดี และ ดีเยี่ยม จากการวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ยอยู่ที่34 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)ซึ่งมาตรฐานคุณภาพอากาศระดับชาติอยู่ที่ 35 มคก./ลบ.ม. สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณภาพอากาศของจีนพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นคือการลดการผลิตรถยนต์และรถตู้ที่ใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินและตั้งเป้าให้มีการใช้รถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริด ให้มีสัดส่วนอย่างน้อย1 ใน 5 ของรถยนต์ที่ขายในจีนภายในปี 2025เพื่อต่อสู้กับปัญหามลพิษและก๊าซคาร์บอน ย้อนกลับมาที่กรุงเทพฯ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ก็ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายคนเริ่มตระหนักโดยเฉพาะในปีนี้ที่เกิดขึ้นเร็วและนานกว่าปีที่ผ่านมา หนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดปรากฏการณ์นี้คือการเผาไหม้ของเครื่องยนต์อย่างไม่มีประสิทธิภาพ คงดีกว่าหากหลังจากนี้คนไทยจะเลือกใช้รถยนต์ที่ทำให้เกิดมลพิษน้อยที่สุด กว่า 2 ทศวรรษแล้วที่โตโยต้าได้คิดค้นและผลิตนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกนั่นคือรถยนต์ไฮบริดรถที่ขับเคลื่อนได้จากการใช้ทั้งเชื้อเพลิงจากน้ำมันและพลังงานจากไฟฟ้าในการขับเคลื่อนซึ่งเริ่มจำหน่ายรุ่นแรกคือ Toyota Prius ในปี 1997 ถือเป็นไฮบริด Generation 1 และยังได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่าจนมาถึงยุคนี้ยุคของไฮบริด Generation 4 ไฮบริดรุ่นที่4 ตอบทุกข้อสงสัย ประเด็นสำคัญที่อาจทำให้ผู้คนกล้าๆ กลัวๆยังไม่เลือกใช้รถยนต์ไฮบริด อาจจะเป็นเพราะกังวลเรื่องอายุของแบตเตอรี่ว่าจะใช้งานได้ยาวนานมากน้อยแค่ไหนและราคาแบตที่ว่าแพงนักหนา รวมไปถึงวิธีการดูแลยากกว่าปกติหรือไม่ เรื่องนี้โตโยต้ามีคำตอบอยู่ที่ไฮบริดรุ่นล่าสุด Generation 4 ซึ่งถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องของแบตเตอรี่ ที่เป็นแบตเตอรี่ไฮบริด Ni-MH (Nickel-MetalHydride) ที่มีขนาดเล็กลง เก็บประจุไฟฟ้าได้เร็วขึ้นและสามารถจ่ายไฟให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมพัฒนาระบบระบายความร้อนใหม่ ช่วยให้ทนทานและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ PCU (Power Control Unit) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้นช่วยให้ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งไฮบริดรุ่นที่ 4 นี้ถูกนำมาใช้ในโตโยต้า C-HR ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานอีกด้วย สำหรับหลายคนที่ยังกังขาในความปลอดภัยของแบตเตอรี่หรือสงสัยว่าหากตัวรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบนี้ต้องลุยมวลน้ำรอการระบายในเมืองกรุงแล้วจะเป็นอย่างไรทางโตโยต้าเองได้พัฒนาความปลอดภัยของตัวแบตเตอรี่นี้ให้สามารถลุยน้ำได้ในระดับ 10-30เซนติเมตร เทียบเท่ารถยนต์ปกติทีเดียว ส่วนความปลอดภัยอื่นๆที่พัฒนาขึ้นมาของแบตเตอรี่ตัวนี้ ได้แก่ การตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมีการชนเกิดขึ้นตัวแบตเตอรี่ไฮบริดเชื่อมต่อกับเซนเซอร์ที่ถุงลมนิรภัยซึ่งเมื่อถุงลมนิรภัยทำงานด้านตัวแบตเตอรี่จะทำการตัดไฟอัตโนมัติแบตเตอรี่นี้จะมีเบรกเกอร์เหมือนกับไฟในบ้าน ซึ่งเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจรเบรกเกอร์ก็จะตัดลงมามีตัววัดแรงเคลื่อนหรือโวลต์ของกระแสไฟ ซึ่งหากมีกระแสไฟออกมามากเกินไปก็จะทำการตัดไฟอัตโนมัติ และตัวแบตเตอรี่ไฮบริดเองยังมีประกันนานถึง 10 ปี
รถยนต์ที่ขับเคลื่อนผู้คนไปด้วยพลังงานไฮบริด ในปัจจุบันพลังงานทางเลือกนับว่าอยู่ในกระแสความสนใจของผู้คน รถยนต์ไฮบริดก็เป็นหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์เพราะรถยนต์ไฮบริดเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อนจะมาจากการชาร์จไฟเข้าขณะที่รถกำลังแล่นอยู่บนถนนผ่านเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง หากเมื่อชาร์จไฟได้ประมาณ 80% ของแบตเตอรี่ เครื่องยนต์ก็จะทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้าในขณะขับเคลื่อนจึงใช้เชื้อเพลิงน้อยลง กินน้ำมันน้อยลงอย่างชัดเจน รวมถึงระบบสามารถแปลงพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นจากการชะลอเบรกหรือหยุดรถให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งกลับไปเก็บในแบตเตอรี่ไฮบริดอีกด้วย ทำให้มลพิษที่ปกติจะเกิดจากการสันดาปของเครื่องยนต์ลดลงไปด้วยช่วยในเรื่องการลดมลพิษได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น โตโยต้า พริอุสมีอัตราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนน้อยกว่ารถยนต์เบนซินขนาด1.8 ลิตรทั่วไปถึง 55 กรัมต่อกิโลเมตรซึ่งปริมาณไอเสียที่ลดลงดังกล่าว เปรียบเทียบได้กับการปลูกต้นไม้กว่า 100 ต้นต่อปีเลยทีเดียว จุดนี้ทำให้ถูกใจกลุ่มคนที่สนใจสิ่งแวดล้อมและหันมาใช้รถยนต์ไฮบริดกันมากขึ้น ToyotaC-HR ไฮบริดรุ่นล่าสุด ประหยัดที่สุด เป็นมิตรที่สุด สำหรับ ToyotaC-HR (Coupe High Rider) นับเป็นรถไฮบริดรุ่นที่ 4 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอกย้ำแนวคิด Ever Better Car กับการพัฒนาให้แบตเตอรี่ไฮบริดมีประสิทธิภาพสูงขึ้นพร้อมรับประกัน 10 ปี และระบบไฮบริดอีก 5 ปี จากรถยนต์ไฮบริดที่ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยโตโยต้าเป็นเจ้าแรกจนมาถึงรุ่นที่ 4 ในปีนี้บ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่มาวันนี้เมื่อคนเมืองต้องเจอปัญหามลพิษใหญ่อย่างฝุ่นละอองในอากาศสูงเกินค่ามาตรฐานอันมีสาเหตุหนึ่งมาจากเรื่องของมลพิษจากรถยนต์โตโยต้าไฮบริดอาจเป็นอีกทางเลือกที่พร้อมรองรับทุกการขับขี่ของผู้ใช้ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเรื่องของความประหยัด ความทนทาน และความปลอดภัยในการใช้งานคุณยังได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย การเลือกรถยนต์มาขับบนท้องถนนอาจเป็นจุดเล็ก ๆในการแก้ปัญหาแต่เชื่อเถอะค่ะว่าสามารถช่วยให้ท้องถนนลดมลพิษไปได้มากเลยทีเดียวสะดวกเราแล้วก็สบายผู้อื่นด้วย จุดเริ่มต้นเล็ก ๆแต่หากทุกคนใส่ใจรายละเอียดในการเลือกรถยนต์มาขับขี่ก็จะทำให้ท้องถนนของเรามีมลพิษน้อยลงได้ ขอบคุณข้อมูลจาก https://thestandard.co/toyota-hybrid-car/
Create Date : 07 มกราคม 2562 |
Last Update : 7 มกราคม 2562 14:25:31 น. |
|
0 comments
|
Counter : 439 Pageviews. |
|
|