Literature is a luxury. Fiction is a necessity.
Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
บางฉากบางตอนจาก A Conspiracy of Kings (เรื่องชุดยูเจนิดิส)

จขบ. เป็นแฟนผู้บ้าคลั่งของเรื่องชุดนี้ พอได้อ่านภาคอังกฤษแล้วก็กรี๊ดบางฉากมากจนคันไม้คันมืออยากลองแปลมั่ง อาจจะเวิ่นเว้อสักเล็กน้อย ได้โปรดอภัย

ปล. สปอยนะจ๊ะ




หากข้ามีสิทธิให้ทุกสิ่งเป็นไปดังประสงค์ ข้าจะเลือกสิ่งใดกันหรือ ข้าก็จะเลือกให้ตัวเองไม่ไร้ประโยชน์ ข้าจะเป็นรัฐบุรุษอย่างที่ท่านพ่อปรารถนาและเป็นเจ้าชายอย่างที่ประเทศของข้าต้องการ ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าเลือกได้ ข้ายังเป็นเพียงเจ้าชายที่ไม่สมกับตำแหน่งอย่างที่เป็นมาตลอด ข้าคงจะไม่อาจทำตัวให้เป็นประโยชน์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นต่อท่านพ่อหรือต่อใคร เมื่อพวกบารอนกบฎถูกปราบ ข้าก็จะเฝ้าดูท่านลุงอภิเษกสมรสและมีทายาทซึ่งเหนือกว่าข้านัก และตัวข้าเองก็จะถูกรังเกียจโทษฐานที่ช่างไร้ประโยชน์และไม่เป็นที่ต้อนรับแม้ในบ้านของข้าเอง แต่นั่นก็คือสิ่งที่ข้าเลือก

ข้าสงสัยนักว่าผู้คนเลือกแต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาไร้สุขเสมอหรือไร


*


เอดดิสกำลังคิดว่าเครื่องแต่งกายเต็มยศ แผลเป็น และสีหน้าอันเคร่งขรึมสมกับโอกาสนั้นทำให้ซูนิสดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเพียงใดเมื่ออีกฝ่ายสบตาพระองค์ สายตาเคร่งขรึมของซูนิสเลือนหายไปทันที เขากัดริมฝีปากที่มีแผลเป็นนั้นและยิ้มให้พระองค์อย่างเขินอาย

ความเจ็บปวดนั้นเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวราวกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาทั้งที่ท้องฟ้ายังแจ่มใส พระอุระของเอดดิสปวดแปลบราวกับมีใครมาบีบเข้าที่หัวใจ พระองค์สงสัยว่าตัวเองป่วยเช่นนั้นหรือ และถึงกลับคิดไปว่าถูกวางยาอยู่ครู่หนึ่งด้วยซ้ำ ก่อนจะรู้สึกว่าแอตโตเลียเอื้อมมาจับมือของพระองค์ไว้ ในสายตาของคนทั้งหลายในราชสำนักนั้น มันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอันใด ทว่าสำหรับเอดดิสแล้วมันคือสมอที่ยึดโยงนางไว้ และพระองค์ก็ทรงจับมันแน่นราวกับมันคือเชือกช่วยชีวิต ซูนิสมองมาด้วยความเป็นห่วง ทว่ารอยยิ้มที่เอดดิสให้ตอบไปนั้นกลับมิได้ออกมาจากใจ
.
.
.
หลังซูนิสออกเดินทางและเหล่าทหารรักษาพระองค์ทั้งหลายแยกย้ายกันกลับไป เอดดิสก็ผละจากจตุรัสและเดินตรงไปยังส่วนที่สูงที่สุดของพระราชวัง ที่ซึ่งพระองค์จะได้เห็นเงาของซูนิส แม้มันจะเป็นเพียงฝุ่นที่คลุ้งอยู่เหนือถนนขณะที่เขาอยู่ไกลออกไปเรื่อยๆ ก็ตาม พระองค์อยากกลับเข้าที่ประทับและขังตัวเองไว้ภายใน แต่มันก็คงดูผิดปกตินัก แม้บนหลังคานี้พระองค์จะไม่ได้อยู่ตามลำพัง แต่รอบกายก็มีเพียงเหล่าข้าหลวงรับใช้ และมันก็ไม่ได้ผิดปกติจนจะทำให้เป็นเรื่องโจษจัน นี่คงจะเป็นที่ที่เป็นส่วนตัวที่สุดที่จะพระองค์จะหาได้โดยไม่เป็นเป้าสายตาของใคร

พระองค์ได้ยินเสียงกษัตริย์แห่งแอตโตเลีย แต่ก็ไม่ได้หันไปและรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้โดยมิได้ใช้ตามอง เขาโอบเอดดิสไว้จากด้านหลังและตลบเสื้อคลุมตัวยาวที่สวมเข้าห่มกายอีกฝ่ายไว้ เมื่อพระองค์จับชายเสื้อคลุมทั้งสองด้านไว้ เขาก็ยกมือขึ้นขยับหมวกคลุมกว้างที่มากับตัวเสื้อ ก่อให้เกิดที่ว่างซึ่งไม่ได้ใหญ่ไปกว่าตัวของทั้งคู่

“เจ้าส่งแอตโตเลียมาหาข้าในพิธีอำลางั้นรึ” เอดดิสถาม

“ไม่ใช่ข้าหรอก” เจ็นตอบเสียงแผ่ว “ท่านมหาอำมาตย์ต่างหาก ข้าคิดว่าท่านรู้อยู่แล้วว่ารักเขา พวกท่านสองคนขยับเข้าหากันเรื่อยๆ นับแต่วันที่แรกเจอราวกับแม่เหล็ก แต่ท่านมหาอำมาตย์เป็นห่วง เขาคิดว่าท่านอาจไม่ทันตั้งรับความโศกเศร้าจากการจากลา”

“ข้ารู้สึกโง่สิ้นดี” เอดดิสเอนกายเข้าหาอ้อมแขนของอีกฝ่าย “ข้าจะรอฟังข่าวคราวในอนาคตของท่าน” พระองค์ส่ายหน้าอย่างนึกเกลียดตัวเองแล้วสูดจมูก “ข้าน่าจะพูดอะไรที่ดีกว่านั้น อะไรที่...เหมาะสมกว่านั้น”

เจ็นจำต้องเห็นด้วย ซูนิสหวังจะได้ถ้อยคำที่แสดงถึงความห่วงหาของนางติดกายไปด้วยเป็นแน่ “ท่านเขียนจดหมายหาเขาก็ได้” เจ็นเสนอ “ม้าเร็วจะตามขบวนทันก่อนที่เขาจะทันผ่านช่องเขา”

“ข้าไม่ได้อยากจะส่งจดหมายตามเขาไป” เอดดิสว่า “ข้าอยากจะส่งพลธนูหนึ่งพันห้าร้อยนายกับพลทวนตะขออีกพันนายต่างหาก”

“ท่านเป็นคนช่วยกำหนดจำนวนเองนะ”

เอดดิสถอนใจ “ตอนนั้นข้ายังมีสติอยู่ แต่ตอนนี้ข้าไม่มีเท่าใดแล้ว”


*


ข้าอยากหาทางออกที่ดีกว่าการยิงชายซึ่งไร้อาวุธ ข้าอยากให้เหล่าบารอนเลือกข้าเป็นกษัตริย์เพราะเชื่อในตัวข้าและเชื่อในอุดมคติของข้าเช่นเดียวกับตัวข้าเอง แต่นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ข้ามี และข้าก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำให้พวกเขาติดตามข้ามาให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม ข้าจะไม่ยืนเฉยและปล่อยให้พวกเขาตกเป็นเหยื่อของพวกเมเดหรือเมเลนเซ่ หรือสงครามกลางเมืองไร้จุดยุติซึ่งจะทำให้เลือดแดงฉานไปทุกแห่งหนจนกว่าประเทศทั้งประเทศจะเหลือเพียงซาก หากข้าเป็นเอดดิสไม่ได้ ข้าก็จะเป็นแอตโตเลีย หากพวกเขาต้องการเห็นท่านลุงในตัวข้า ข้าก็จะแสดงให้พวกเขาเห็นเช่นนั้น และข้าจะทำตามคำแนะนำของแอตโตเลีย เพราะถ้าข้าระบุตัวศัตรูได้และทำลายเขาเสีย ซูนิสก็จะปลอดภัย

*


Create Date : 29 มีนาคม 2553
Last Update : 30 มีนาคม 2553 12:42:06 น. 10 comments
Counter : 724 Pageviews.

 
โฮกก อยากอ่านแบบเต็มๆ



“ข้าไม่ได้อยากจะส่งจดหมายตามเขาไป” เอดดิสว่า “ข้าอยากจะส่งพลธนูหนึ่งพันห้าร้อยนายกับพลหลาวอีกพันนายต่างหาก”...ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเล้ย แต่อ่านประโยคนี้แล้วฮา^^

เราคงได้กลับกทม.วันที่ 1-2 อ่ะ แล้ววันที่ 4 ก็ต้องไปเช็งเม้งอีก อดไปเจอตะกละแก็งค์ ฮืออ.. แต่จะพยายามหาทางแว่บไปอุ้มบุญลูกๆของทินานะ หนูโครงกระดูกรอป้าด้วย~~


โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:23:04:42 น.  

 
ตัดตอนมาแปลได้กรี๊ดมาก ๆ โดยเฉพาะย่อหน้าสุดท้าย ^ ^

แต่ยกมือถามนิดนึงค่ะ 'พลหลาว' นี่คือ Lancer หรือเปล่าเอ่ย
ถ้าใช่ คำนี้โดยลักษณะมันเป็นกองหนึ่งในกองทหารม้า
แปลเป็นไทยก็น่าจะเป็นประมาณ ทหารม้าถือทวน


โดย: ปิยะรักษ์ IP: 118.172.36.221 วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:23:17:13 น.  

 
อปอช: ชอบประโยคนั้นล่ะถึงแปล แบบว่าสมเป็นราชินีคนนี้จริงๆ ไม่อยากส่งคำหวาน ขอส่งกองทัพไปดีกว่า

ส้ม: แอ๊ะ ปล่อยไก่สินะ (อารมณ์พาไป ไม่ทันเช็คศัพท์) มันคือ pike อะจ้ะ จะว่าไปหลาวมันก็ต้องพุ่งสิเนอะ ก็คงไม่ใช่หลาวแฮะ ไปถามคุณกูลเกื้อดีกว่า


โดย: ทินา IP: 221.128.101.33 วันที่: 30 มีนาคม 2553 เวลา:8:29:36 น.  

 
ส้ม: ไปเจอเค้าแปล pike ว่าทวนตะขอล่ะ เปลี่ยนแล้วเนอะ

ปล. ชอบย่อหน้าสุดท้ายมากเหมือนกัน ช่างเหี้ยมหาญสมเป็นราชา ประมาณว่าต่อให้ต้องมือเปื้อนเลือด หรือเสียเกียรติส่วนตน ก็จะทำเพื่อประชาชน (ยิ่งฉากยิงจริงๆ ยิ่งสุดยอด คนเขียนกำหนดจังหวะเหตุการณ์ได้ดีมากเลย)


โดย: ทินา IP: 221.128.101.33 วันที่: 30 มีนาคม 2553 เวลา:12:39:35 น.  

 
อยากอ่าน แต่ก็อ่านไม่ได้ (เอ๊ะ ) ทรมานขะรั๊บบ


โดย: charot วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:18:29:19 น.  

 
อยากอ่านนนนนนนนนนนนนนน
ชอบบบบบบบบ
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด


โดย: jickky IP: 110.49.205.129 วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:1:58:03 น.  

 
สรุปมันคือซูนิสหรือโซฟอสอะครับ


โดย: OreoKunG IP: 115.87.175.187 วันที่: 18 ตุลาคม 2553 เวลา:4:01:03 น.  

 
โซฟอสกลายเป็นซูนิสแล้วค่ะ ^^


โดย: ทินา วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:43:36 น.  

 
แต่เท่าที่ให้ไปก็เป็นทหารมือดีที่สุดแล้วนะ และหวังว่าจะได้พวกเขากลับมาด้วย แต่ช่างเหอะ เจ็นก็ส่งไปอีก


โดย: เฮกิเท IP: 223.205.240.234 วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:15:36:13 น.  

 
ยูเจนิดิส เป็นหนึ่งในหนังสือในดวงใจเลยค่ะ ชอบบรรยากาศของเรื่องมากๆ ชอบเจนกับแอตโทเลียมากๆ ในที่สุดก็ได้อ่าน 'แผนสมคบคิดแห่งองค์ราชัน' เสียทีหลังจากรอมาเกือบ 4 ปี ได้แต่เฝ้าสงสัยว่าชีวิตของโซฟอสเป็นอย่างไรต่อไปหนอในที่สุดก็ได้รู้เสียที ต้องรอหนังสือแปลปราการเรื่องภาษา ตอนอ่านราชันแห่งแอตโทเลียจบคิดว่าจบแล้ว หลังจากนั้นได้ทราบว่ามีตอนต่อดีใจมากๆ -- อยากให้มีข่าวดีอย่างนี้กับหนังสือในดวงใจชุดอื่นๆด้วยจัง เช่น มงกุฎจันทรา, อลันนา เจ้าหญิงอัศวิน (Tomora Pierce) -- อยากให้หนังสือเหล่านี้ได้เป็นภาพยนตร์มากๆค่ะ ถ้ามีสักวันที่ได้ชม คงจะมีความสุขมาก Y///Y


โดย: Darkness Lamps IP: 58.8.156.151 วันที่: 29 กรกฎาคม 2554 เวลา:5:24:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทินา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




หลังไมค์เชิญทางนี้จ้า
Friends' blogs
[Add ทินา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.