Miles Errant (Vorkosigan Saga): I-love-Naismith! คาแรคเตอร์สุดยอดกับการผจญภัยสุดเหวี่ยง นับแต่อ่าน Conspiracy of Kings จบ ก็เกิดอาการติดขัดเรื่องการอ่านเล็กน้อยถึงปานกลางค่ะ หยิบจับอะไรก็ไม่ค่อยสนุกเอาเสียเลย (Knife of Never Letting Go ก็เป็นการเอาเรื่องปีมะโว้มาเขียน) ทีแรกก็คิดว่าคงเพราะงานอึด ไม่มีเวลาให้อ่านอะไรติดพัน แต่เมื่อหยิบหนังสือที่ผลัดมานานแล้วเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ก็พบว่า...ไม่ใช่ความผิดของงานหรอก แต่ไอ้เล่มที่หยิบๆ จับๆ มันไม่ได้ใจต่างหาก ก็คิดดูสิคะเล่มนี้ได้ใจตั้งแต่ประโยคแรกเลย จากนั้นก็เปิดพรึ่บๆ ไม่มีหยุด ดูเอาเถอะว่าเปิดเรื่องแบบนี้แล้วจะไม่ใจได้ยังไง How could I have died and gone to hell without noticing the transition? ขอต้อนรับสู่การผจญภัยวายป่วงของ Admiral Miles Naismith ค่ะ (ปล. รีวิวนี้ยาวเฟื้อย + เต็มไปด้วยการพล่าม กรุณาทำใจ อ้อ สปอยโลดด้วยนะคะ) Miles Errant Lois Mcmaster Bujold อันที่จริงก็เริ่มอ่านซีรี่ย์เรื่องนี้เมื่อนานมากแล้ว แต่ดันมีอุปสรรคขวากหนาม คือเล่มสองในชุด Miles ที่เป็นการผจญภัยในฐานะ Admiral Naismith ดันหน้าซ้ำไปห้าสิบหน้า ไอ้จะหาซื้อใหม่ก็ไม่มี ก็เลยดองๆ ไว้ จากนั้นก็ข้ามไปอ่านตอนสามในชุดซึ่งเป็นเรื่องในมาด Lord Vorkosigan ไม่ใช่ท่านนายพล ที่ก็โอเคแต่ก็ไม่ได้ทำให้ปลื้มม Miles มากเท่ารุ่นพ่อแม่อย่าง Aral และ Cordelia ดังนั้นก่อนจะอ่านเจ้ารวมเล่มฉบับนี้ ก็ชอบ Miles อยู่ แต่ไม่ถึงขั้นกรี๊ดๆ จิกหมอน แต่เมื่อได้อ่านเรื่องราวแบบเน้นๆ ที่แสดงให้เห็นตัวตนของ Miles ทั้งภาค Naismith และภาค Vorkosigan รวมไปถึงข้อบกพร่องและข้อดีของเขา คนอ่านคนนี้ก็ตกหลุมรักเจ้าคนแคระไฮเปอร์เช่นเดียวกับใครๆ อีกมากมายและกลายเป็นสาวกไปทันที หนังสือเล่มนี้รวบรวมเรื่องสั้นขนาดยาวที่มีชื่อว่า The Border of Infinity กับเรื่องยาวอีกสองคือ Brothers in Arms กับ Mirror Dance เข้าไว้ด้วยกัน โดยทั้งหมดเป็นการผจญภัยของ Lieutenant Lord Miles Vorkosigan แห่ง Barrayar ในฐานะ Admiral Miles Naismith แห่งกองทัพทหารรับจ้าง Dendaerri ซึ่งทหารรับจ้างทั้งหลายไม่รู้หรอกว่าท่านนายพลของตัวเองจริงๆ แล้วเป็นทหารของดาว Barrayar แถมยังเป็นถึงลูกชายคนเดียวของท่านนายกรัฐมนตรี โพรไฟล์ดีขนาดนั้นแต่ Miles ไม่หล่อไม่เท่เลยค่ะ พระเอกของเราเป็นอัจฉริยะไฮเปอร์ที่สูงแค่ 4 ฟุต 9 นิ้วเพราะแม่ถูกพิษเข้าขณะตั้งครรภ์ (เหตุการณ์รุ่นพ่อแม่ถูกเล่าไว้ใน Shard of Honor/Barrayar ที่เคยรีวิวไว้เมื่อนานแสนนาน)ทำให้เขามีปัญหาเรื่องกระดูกซึ่งนับเป็นเรื่องใหญ่มากในสังคมของ Barrayar ที่กลัวการกลายพันธุ์เป็นที่สุด และให้ความสำคัญกับรูปร่างภายนอกเอามากๆ Border of Infinity ซึ่งเป็นเรื่องสั้นว่าด้วยภารกิจของ Miles ที่ต้องแฝงตัวเข้าไปในหมู่เชลยสงครามเพื่อช่วยใครบางคนออกมา แต่กลับลงเอยด้วยการขนเชลยออกมาทีเดียวหมื่นกว่าคน และมีฉากที่กระชากใจมากๆ ฉากหนึ่งในซีรี่ย์ Brothers in Arms เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ Miles ต้องขนกองทัพ Dendaerii ไปซ่อมบนโลก จนความจริงที่ว่า Lord Vorkosigan กับ Admiral Naismith เป็นคนเดียวกันเกือบถูกเปิดเผย (แบบฮาสุดๆ) ซ้ำร้ายกลุ่มกู้ชาติของดาวที่ Count Aral พ่อของเขาเป็นผู้นำทัพไปยึดครองยังสร้างโคลนของ Miles ขึ้นมาโดยกะว่าจะให้โคลนปลอมเป็น Miles ไปสร้างความวุ่นวายที่ Barrayar และฆ่า Aral Mirror Dance เริ่มเรื่องขึ้นเมื่อ Mark โคลนของ Miles ที่เป็นอิสระไปในเล่มก่อน กลับมาปลอมตัวเป็น Admiral Naismith เพื่อช่วยโคลนที่เหลือให้รอดพ้นจากการถูกนำไปใช้เป็นภาชนะรับปลูกถ่ายสมองของพวกคนรวย แต่ภารกิจดันล้มเหลวจนถูกจับได้ Miles จึงบุกเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกยิง แถมร่างที่แช่แข็งไว้ยังหายไปอีกเสียนี่ Mark จึงต้องรับหน้าเสื่อปลอมเป็น Miles ก่อนจะถูกส่งไปพบ Count กับ Countess Vorkosigan ที่ Barrayar และได้ค้นพบว่าตัวตนของ Lord Mark นั้นคือใครกันแน่ ก่อนจะกลับไปช่วย Miles ออกมา คนเขียนเธอเขียนหนังสือได้มันส์มากๆ ค่ะ อารมณ์เหมือนนั่งรถไฟเหาะหมุนติ้วอยู่ตลอดเวลา มีทั้งแอคชั่น ทั้งตลก ทั้งดราม่า นาทีนี้ขำอยู่ นาทีหน้าอาจจะสะอึกกับชะตากรรมของใครบางคนได้ทันที และตัวละครทุกตัวก็จะมีปมทางจิตวิทยาลึกซึ้ง ไม่เว้นแม้แต่ตัวพระเอกของเราเอง แต่สุดท้ายแล้วตัวละครเอกทั้งหลายก็เอาชนะปีศาจในใจได้เสมอ ยกตัวอย่างเช่นใน Border of Infinity ซึ่งเปิดตัวมาอย่างฮา มาถึง Miles ก็ถูกพวกขาใหญ่รุมจนต้องแก้ผ้าโทงๆ แต่ดันมีตาลุงเบลอๆ ชื่อ Suegar บอกว่าตัวเองและ Miles เป็นประกาศกจะช่วยให้ทุกคนรอด แถมยังมีเศษกระดาษเป็นพระคำภีร์ด้วยนั่น และแน่นอนว่าเจ้า Miles ก็รับมุก คิดแผนขึ้นมาฉับพลันและออกเผยแพร่ลัทธิพิลึก แต่แล้วเราก็ได้เจอ Tris ซึ่งเป็นหัวหน้าพวกผู้หญิงในค่ายกักกัน เธอผ่านอะไรมาหลายอย่างจนเหลือแต่ความแข็งกร้าวและความแค้น โดยเฉพาะต่อพวกผู้ชายในค่ายซึ่งเคยเป็นสหายร่วมรบ แต่สุดท้าย Miles ก็ทำให้เธอเชื่อว่าการคิดแต่จะแก้แค้นนั้นไม่ได้ช่วยให้ชนะ แต่การมีอำนาจเหนือใจตนเองต่างหากที่จะเอาชนะศัตรูได้ Mark โคลนของ Miles ก็มีปีศาจที่ใหญ่มาก เขาไม่เคยมีตัวตนของตัวเอง ตั้งแต่แรกจนโตล้วนถูกสอนให้เป็น Miles ให้ฆ่า Aral ถูกทรมานต่างๆ นานา แถมเมื่อหลุดออกมาได้ ก็ไม่เคยมีใครใยดี ขณะที่ Miles มีแต่คนรัก มีแต่คนมองอย่างชื่นชม มีทุกสิ่งที่เขาไม่เคยมี กระทั่งชื่อที่ใช้อยู่ Miles ก็เป็นคนตั้งให้ Mark คิดจะไปชิงตัวโคลนเพื่อให้มีคนยอมรับ ทว่าสุดท้ายก็เป็น Miles ที่ช่วยโคลนเหล่านั้นจนตัวตาย (ชั่วคราว) Mark จึงทั้งอยากจะเป็น Miles เพื่อให้ได้การยอมรับ แต่ก็ไม่อยากจะเป็น Miles เพราะกลัวจะสูญเสียความเป็นตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ค้นพบว่า Miles เองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ และในเมื่อคนเราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบเพื่อให้มีคนรักหรือนับถือ โคลนอย่างเขาก็สามารถมีที่ทางของตัวเองได้เช่นกัน ปีศาจของ Miles ก็แปลกไปอีก เขารู้ว่าตัวเองฉลาด แต่ก็รู้ว่าร่างกายที่มีนั้นเป็นอุปสรรคขนาดไหน และต้องทุ่มสมองให้คนอื่นยอมรับ จนกลายเป็นการสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมา Miles ในฐานะ Admiral Naismith เป็นหัวหน้ากองทหารรับจ้างที่ลูกน้องยอมถวายชีวิตให้ และมีคนรักเป็นสาวสุดแกร่ง ขณะที่ Lord Vorkosigan ก็ยังถูกมองเป็นแค่คนแคระประหลาดที่ได้ดีเพราะพ่อเท่านั้นเอง แต่ปมนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่น่ารักของ Miles เพราะเขายินดีทำทุกอย่างเพื่อคนที่ยอมเดินตามเขาด้วยใจจริง ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง เชลยศึกที่เพิ่งเจอกัน หรือลูกพี่ลูกน้องที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เกิด นอกจากนี้ Cordelia ยังคงสุดยอดตามเคย เธอเป็นตัวละครหญิงที่จขบ.ชื่นชมที่สุดในสามโลก เข้มแข็งแต่อ่อนโยน เข้าใจโลก เข้าใจคน และมีอารมณ์ขันแบบเจ็บๆ ป๋า Aral ก็โผล่มาเท่อีกแล้ว ถึงจะมาแค่สองสามฉากก็เถอะ เรื่องที่หงุดหงิดใจที่สุดในตอนนี้ก็คือจขบ.มีรวมเล่มชุดถัดไป (Miles in Love) อยู่ในมือแล้ว แต่ระหว่างนั้นจะต้องอ่านเรื่องเดี่ยวอีกเล่มอันเป็นจุดหักเหของชุด (Memory) เสียก่อน ปัญหาก็คือหนังสือมันอยู่ที่คิโนะฯ สาขาพารากอนน่ะสิ แถมคำคมนิดหน่อยก่อนจบบทพร่ำเพ้อ "Power is better than revenge. Power is a live thing, by which you reach out to grasp the future. Revenge is a dead thing, reaching out from the past to grasp you." "การมีอำนาจนั้นดีกว่าการแก้แค้นเสียอีก อำนาจเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งเราใช้มันคว้าอนาคตได้ แต่การแก้แค้นเป็นสิ่งไร้ลมหายใจซึ่งเอื้อมจากอดีตมาคว้าตัวเราไว้"   Create Date : 10 พฤษภาคม 2553 7 comments Last Update : 10 พฤษภาคม 2553 23:13:52 น. Counter : 953 Pageviews. Share Tweet

โอ...เล่มนี้น่าสนุกแฮะ เห็นนุชรีวิวหนังสือของคนนี้แล้ว พี่เลยไปสั่งซื้อมาเล่มนึง เรื่อง Hallowed Hunt ... หนุกป่าวไม่รู้ แต่ในดาสะมีอยู่เล่มเดียว ฮา   โดย: Clear Ice 13 พฤษภาคม 2553 9:29:36 น.

ชุดนี้มีกี่เล่มคะเนี่ย? ท่าจะยาวน่าดูเลย -*- เนื้อหาหนักไปทาง military มากหรือเปล่าคะ เพราะนิยาย military เท่าที่เราเคย(พยายาม)อ่านมา ส่งให้หลับสนิทได้ดีนักเชียว คุณทินา เราจะเชียร์ๆๆให้อ่าน Parasol Protectorate ค่ะ ออกจะ chick-lit ไปสักหน่อยไม่รู้คุณทินาจะชอบหรือเปล่า แต่โปกฮาได้ใจดีนะคะ อ่านเลยๆ อิอิ ขอแอดคุณทินาเป็นเพื่อนด้วยนะคะ   โดย: @Dakki_Chan@ 14 พฤษภาคม 2553 23:57:14 น.

ขออีกนิด ท่ายืนนางเอกบนปก Soulless พิสดารจริงๆด้วย เพิ่งสังเกต   โดย: @Dakki_Chan@ 14 พฤษภาคม 2553 23:59:33 น.

มาลงชื่อค่ะ รอเล่มใหม่อย่างใจจดใจจ่อ (ถ้าคุณป๋าอาราลไม่เดี้ยง)   โดย: jk (jackfruit_k ) 21 พฤษภาคม 2553 3:48:01 น.

คุณ jk: อยากเห็นป๋าอาราลเล่นกับสองแฝดอะ ต้องเป็นคุณปู่ที่ตามใจหลานสุดๆ แน่ (และก็คงโดนคอร์ดีเลียปราม อิอิ)   โดย: ทินา 23 พฤษภาคม 2553 16:56:54 น.

เนื่องจากคุณปู่อยู่ถึง Sergyar คงมีโอกาสไม่มาก คิดถึง มาร์ค อีวาน ดูฟ หรือ อิลยาน เล่นสิคะ หึ หึ หึ หึ อ้อ เช็คแล้วค่ะ CryoBurn ออก พ.ย. นี้ จากย่อใน MySpace ของ LMB ดูท่าจะคล้าย Diplomatic immunity   โดย: jk (jackfruit_k ) 26 พฤษภาคม 2553 20:27:14 น.

jk: อา เห็นภาพอีวานโดนหลานๆ เล่นขึ้นมาเลย ว่าแต่เมื่อไหร่เจ้าอีวานจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีน้า Cryoburn ออกเป็นปกแข็งก่อนป่าวคะ ถ้าใช่ก็ต้องร้องเพลงรออะดิ T^T   โดย: ทินา IP: 183.89.70.108 30 พฤษภาคม 2553 10:04:21 น.