ฮอนด้าฝันขายบิ๊กไบค์ทั่วประเทศ Gold Wing หรือ GL1800 ราคาจำหน่าย 1.539 ล้านบาท เกาะความเคลื่อนไหวในตลาดบิ๊กไบค์ โดยเฉพาะแบรนด์ดังหนึ่งในท็อปโฟร์จากประเทศญี่ปุ่นอย่างค่ายฮอนด้า หลังจากประเดิมลุยตลาดในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยโมเดลนำเข้า 6 รุ่น ภายใต้ศูนย์จำหน่ายและบริการใหญ่ยักษ์ “บิ๊กวิง” (BigWing) ย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา...“ยุทธนา มั่งคั่ง ผู้จัดการศูนย์ ฮอนด้า บิ๊กวิง บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด” อัพเดตสถานการณ์ล่าสุด พร้อมประเด็นที่สาวกปีกนกรอคอย เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่รุ่นประกอบในประเทศจะมาเมื่อไร อย่างไร เชิญติดตาม... ยอดขายพุ่งแรงเกินเป้า หลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดมียอดขายและรถส่งมอบไปแล้วทั้งสิ้น 47 คัน แบ่งออกเป็นรุ่น NC700X ประมาณ 50% ส่วนที่เหลือกระจายไปในแต่ละรุ่นใกล้เคียงกัน โดยมีสิ่งที่ผิดคาดเล็กน้อยคือ รุ่น Gold Wing หรือ GL1800 ราคา 1.539 ล้านบาท ตั้งเป้าขาย 4 คันในปีนี้ แต่ปรากฏว่าสองเดือนผ่านไปขายได้ครบตามเป้าแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมียอดค้างจองทุกรุ่นอีกราว 7-8 คัน ซึ่งรอนัดลูกค้ารับรถเร็วๆ นี้ ยุทธนา มั่งคั่ง เชื่อกำลังซื้อบิ๊กไบค์ขยายตัว สำหรับสัดส่วนลูกค้าแบ่งออกเป็นรถคันแรกประมาณ 40% รถคันที่สองหรือซื้อเพิ่มอีก 40% สุดท้ายคือกลุ่มที่ขายคันเก่าออกไปหรือเปลี่ยนมาจากยี่ห้ออื่นอีก 20% ซึ่งสัดส่วนนี้อนาคตจะเปลี่ยนแปลงไป โดยกลุ่มที่ซื้อรถคันแรกจะมีเพิ่มมากขึ้น จากพฤติกรรมเกือบ 70% เป็นการซื้อด้วยเงินสด ส่วนอีก 30% ซื้อด้วยเงินผ่อน สลับขั้วกับกลุ่มรถตลาดทั่วไป สะท้อนกำลังซื้อในตลาดบิ๊กไบค์มีอยู่แน่นอน ด้านยอดขายรวมในปีแรกตั้งเป้าเพียง 100 คันเท่านั้นสำหรับรถนำเข้า และเชื่อว่าตลาดบิ๊กไบค์ในเมืองไทยยังเติบโตได้อีกมาก โดยแต่ละค่ายต้องดึงจุดเด่นของตัวเองมานำเสนอ ซึ่งฮอนด้าเน้นความรวดเร็ว หากลูกค้าตัดสินใจซื้อแล้วภายใน 7 วันต้องสามารถรับรถได้ทันที NC700X สนนราคาเริ่มต้น 4.51 แสนบาท มีออฟชันตัวแต่งจอดโชว์เปรียบเทียบด้วย สกู๊ตเตอร์ยักษ์ Intergra คันละ 4.87 แสนบาท โมเดลนำเข้าเจาะช่องว่างตลาด แม้จะมาหลังค่ายอื่นๆ แต่ฮอนด้าเชื่อว่ายังมีช่องว่างในตลาดเมืองไทย การนำรถเข้ามาจำหน่ายจึงต้องคัดสรรเป็นอย่างดี สำหรับจุดขายคือการจับเทคโนโลยีใหม่เข้ามารองรับตลาดที่คู่แข่งไม่ได้ทำ นั่นคือ DCT (Dual Clutch Transmission) หรือระบบคลัทช์คู่ ติดตั้งในรุ่น VFR 1200, Intergra และ NC700X เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ กระทั่งกลุ่มเดิมที่ขับขี่บิ๊กไบค์อยู่ แล้ว และต้องการครอบครองรถอีกคันสำหรับการขับขี่ที่ง่ายขึ้น เพื่อความสะดวกในการใช้วิ่งในเมือง ตลอดจนตอบสนองคนที่ต้องการมีเพื่อนหรือมีสังคมในกลุ่มบิ๊กไบค์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน เพราะลูกค้าบางท่านยังขี่รถไม่เป็น เราจึงมีบริการทั้งในส่วนของรถทดสอบ ครูฝึก สถานที่ และสามารถประสานกับกรมขนส่งเพื่อจัดสอบใบขับขี่ให้ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งทั้งหมดพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ มือใหม่ขี่ง่ายบิดอย่างเดียว จากจุดแข็งของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด DCT และสนนราคาเริ่มต้นเพียง 4.51 แสนบาท ความนิยมอันดับหนึ่งของรุ่นรถที่ลูกค้าพุ่งความสนใจไปคือ รุ่น NC700X ด้วยการขับขี่ทำได้ง่าย สะดวก และปลอดภัย เหมาะสำหรับมือใหม่ เพียงแค่บิดอย่างเดียวเท่านั้นก็ได้สัมผัสความเร้าใจแบบบิ๊กไบค์ รวมถึงสไตล์รถแอดเวนเจอร์ สามารถลุยออกทริปได้ทั้งถนนทั่วไปและเส้นทางลุยๆ ซึ่งปัจจุบันหลายค่ายต่างเน้นผลิตรถเพื่อรองรับตลาดกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก VFR 1200 ค่าตัวอยู่ที่ 8.99 แสนบาท สงครามบิ๊กไบค์เพิ่งเริ่มต้น นอกจากศูนย์บิ๊กไบค์แห่งแรกของฮอนด้า ตอนนี้วางแผนเตรียมขยายช่องทางจำหน่ายไปตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆ ด้วยการใช้บิ๊กวิงเป็นต้นแบบ พร้อมด้วยยึดหลัก 6 เอส (Sales, Service, Spare Parts, Second Hand, Safety Riding และ Society ) เป็นมาตรฐานในการทำตลาดทั่วประเทศเร็วๆ นี้ โมเดลใหม่ประกอบไทยปลายปี สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่รุ่นประกอบในประเทศไทย ตามที่ประธานกรรมการบริหาร จิอากิ คาโต เคยกล่าวไว้ ยืนยันว่ามีครบทุกเซกต์เมนท์แน่นอนช่วงปลายปีนี้ แต่ในเบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ มุมนี้บริการอุปกรณ์เซฟตี้ครบวงจร ส่วนของงานบริการพร้อมเครื่องมือทันสมัย CRF250R ราคาอยู่ที่ 3.1 แสนบาท CBR1000RR สนนราคา 7.99 แสนบาท มุมนี้แสดงการแพครถนำเข้าก่อนส่งมอบถึงมือลูกค้า Create Date : 06 สิงหาคม 2555 Last Update : 6 สิงหาคม 2555 0:17:07 น. 0 comments Counter : 930 Pageviews. Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet