Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
12 มกราคม 2556
 
All Blogs
 

10 ต้นแบบน่าสนใจแห่งปี 2012 (ตอนที่ 2)

เห็นกันไปแล้วกับ 5 อันดับแรกของรถยนต์ต้นแบบในปี 2012 และนี่คืออีก 5 รถยนต์ต้นแบบที่มีความน่าสนใจและถูกเปิดตัวออกมาในปี 2012

Benz G-Force Concept : ทีมงานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งโจทย์เอาไว้ว่า ‘หน้าตาของ G-Class ที่จะวางขายในปี 2025 จะเป็นอย่าง ? นี่ก็เลยเป็นที่มาของต้นแบบรุ่นนี้ ซึ่งใช้ชื่อว่า G-Force Concept หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็น G-Class แห่งอนาคตก็คงไม่ผิด

คอนเซ็ปต์ของต้นแบบรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานของนักออกแบบรุ่น หนุ่มของค่ายดาว 3 แฉกที่เข้าร่วมการประกวดงานออกแบบรถยนต์ที่จัดโดยสมาคมนักออกแบบและผู้ จัดงาน แอลเอ มอเตอร์โชว์ อย่างรายการ Los Angeles Design Challenge ซึ่งต้นแบบรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นจากผลงานที่ถูกส่งเข้าประกวดในปีนี้ ภายใต้หัวข้อที่ว่า "Highway Patrol Vehicle 2025" หรือหน้าตาของรถตรวจการณ์ในอีก 13 ปี จะเป็นอย่างไร ?

และนี่คือผลงานที่ถูกสานฝันจากแผ่นกระดาษให้กลายเป็นจริง โดยกลุ่มนักออกแบบจากศูนย์ Advanced Design Studio ที่เมือง Carlsbad มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตามไอเดียของทีมออกแบบที่เกิดขึ้น G-Force จะมากับตัวรถที่เน้นความสมบุกสมบันและมีกลิ่นอายการออกแบบของ G-Class เอาไว้ด้วย แต่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับการเป็นรถยนต์แห่งอนาคต

ทั้งหมดนี้เกิดจากไอเดียของนักออกแบบจากค่ายดาว 3 แฉกล้วนๆ แต่โอกาสที่จะกลายเป็นจริงได้หรือไม่นั้น คงต้องรอดูกันต่อไป





BMW Active Tourer Concept : ทันทีที่เปิดตัวออกมา หลายฝ่ายฟันธงเลยว่านี่คือ ว่าที่รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่นแรกของค่ายนี้ และดูเหมือนว่าข่าวก็น่าจะออกมาในทำนองนั้น เพราะ Active Tourer Concept จะถูกพัฒนาต่อเนื่องเพื่อเป็นรถยนต์ รุ่นขายจริง และว่าน่าจะเป็นรถยนต์ที่เป็นซับแบรนด์ใหม่ของ BMW เหมือนกับรหัส i

ต้นแบบรุ่นนี้พัฒนามาจากแพล็ตฟอร์มรุ่น UKL1 และเมื่อดูจากขนาดตัวถังที่มี ความยาว 4,350 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตรแล้ว คู่ปรับของ ATC คงหนีไม่พ้นบี-คลาสจากค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่หนีไปทำรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าตั้งแต่ปี 1997

คาดว่ารุ่นจำหน่ายจริงจะเปิดตัวออกมาในลักษณะเดียวกันกับตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูทรงสูง เน้นความอเนกประสงค์ โดยเบาะนั่งหลังสามารถแยกพับในอัตราส่วน 40-20-40% ส่วนชื่อรุ่นยังเป็นปริศนา ยังไม่รู้ว่าจะใช้ชื่อว่าอะไร แต่บางกระแสก็อ้างว่าจะเป็นการแตกไลน์ของรหัสซีรีส์ 1 โดยใช้คำว่า GT ต่อท้ายเหมือนกับซีรีส์ 5 GT ที่เปิดตัวออกมาก่อนตัวถังซีดาน

รุ่นต้นแบบมากับเครื่องยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน ใช้ขุมพลังแบบ 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหน้า และมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อนล้อหลังเมื่อจำเป็น โดยทั้งระบบสามารถผลิตกำลังออกมาได้ 188 แรงม้า ใช้เวลาต่ำกว่า 8 วินาทีสำหรับการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง







Renault Alpine A110-50 Concept : ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อยสำหรับโปรเจ็กต์การหวนคืนสู่ตลาดของแบรนด์อัลไพน์ แต่อย่างน้อยการนำรถยนต์ต้นแบบที่ชื่อว่า A110-50 ออกมาแล่นโชว์ตัวในงาน FOS หรือ Festival of Speed ที่ Goodwood ประเทศอังกฤษ ถือว่าเป็นหลักฐานที่ดีในการช่วยให้นักข่าวตีความว่า โอกาสที่อัลไพน์จะคัมแบ็คตลาดมีสูงมาก

ในรุ่นต้นแบบคันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ วี6 3,500 ซีซี ที่วางอยู่กลางลำและมีกำลังสูงสุด 400 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 43 กก.-ม. ที่ 6,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ในแบบซีเควนเชียล โดยรายละเอียดทั้งการออกแบบภายนอกและภายในทำขึ้นในสไตล์รถแข่ง เพื่อเฉลิมฉลองอายุของสปอร์ตคลาสสิครุ่น A110 ที่ครบ 50 ปี

อัลไพน์ เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่ตั้งขึ้นโดย ฌอง เรเดเล่ เมื่อปี 1955 และมีการผลิตรถยนต์ออกมาขายหลายรุ่น โดยใช้เครื่องยนต์ของเรโนลต์เป็นขุมพลัง และในปี 1973 เรโนลต์ได้ซื้อกิจการของอัลไพน์เข้ามา ก่อนที่จะยุติการทำตลาดในอีก 18 ปีต่อมา แต่ด้วยชื่อชั้นที่ถูกใจนักเลงรถทั่วโลก ทำให้เรโนลต์กำลังจะนำชื่ออัลไพน์คืนสู่ตลาดรถสปอร์ตอีกครั้งด้วยการยกระดับตลาดและตีตราเป็นแบรนด์ซูเปอร์คาร์ไปเลย เหมือนกับที่มีแบรนด์ดาเซียทำตลาดรถยนต์ราคาประหยัด







TATA Megapixel : มีไม่บ่อยที่เราจะได้เห็นรถยนต์ต้นแบบจากค่ายทาทาบนเวทีมอเตอร์โชว์ระดับโลก และการเปิดตัวต้นแบบที่ชื่อว่าเมกะพิกเซลในงาน เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2012 ถือเป็นอีกขั้นของความพยายามในการที่จะยกระดับแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกให้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้นสิ่งที่น่าสนใจคือ เมกะพิกเซลถูกนำไปเชื่อมโยงกับการเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของนาโน รถยนต์ป้ายแดงที่มีราคาถูกที่สุดในโลกซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2008 ซึ่งเมื่อนับอายุอานามไปแล้ว ก็พอมีเหตุผล เพราะขายกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องดูกันว่าจะมีแนวโน้มเป็นจริงขนาดไหน

สำหรับต้นแบบรุ่นนี้เป็นการพัฒนาต่อเนื่องมาจากรุ่นพิกเซลที่เปิดตัวในปี 2011 และถ้าดูจากชื่อแล้วก็น่าจะพอบ่งบอกถึงระดับตลาดของแต่ละรุ่นว่าใครอยู่สูงกว่าใคร โดยเมกะพิกเซลเป็นแฮทข์แบ็กแบบ 5 ประตูซึ่งประตูบานหลังสไลด์เปิดได้ด้วยไฟฟ้า และมีความยาวตัวถังเกิน 3.5 เมตรมา 4 มม.

ในรุ่นต้นแบบขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี REEV หรือ range extended electric vehicle ซึ่งก็คือรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนแต่มีเครื่องยนต์ทำหน้าที่ชาร์จไฟ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้เป็นแบบฝังอยู่ที่ล้อ และแต่ละตัวมีกำลังสูงสุด 13 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 0.3 ลิตรทำหน้าที่ชาร์จกระแสไฟฟ้า โดยน้ำมัน 1 ถัง (ไม่บอกว่าความจุเท่าไร) สามารถปั่นกระแสไฟฟ้าส่งให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าใช้ในการขับเคลื่อน รวมระยะทางได้ 900 กิโลเมตร





Acura NSX : ในที่สุดฮอนด้าก็ปัดฝุ่นนำแผนการพัฒนาตัวแทนของสปอร์ตรุ่น NSX กลับมาพิจารณาอีกครั้ง โดยคราวนี้ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง และเราคงจะได้เห็นคันจริงที่เป็นโฉมใหม่ของ NSX กลับมาโลดแล่นบนถนนในอีก 2-3 ปีนับจากนี้

ชื่อของ NSX เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในฐานะสปอร์ตญี่ปุ่นเครื่องยนต์วางกลางที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยเฉพาะการนำสิ่งที่ได้จากสนามแข่ง F1 มาใช้ในการพัฒนาตัวรถ ซึ่งฮอนด้าประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะผู้สนับสนุนเครื่องยนต์ให้กับทีมแม็คลาเรนในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 แถมยังได้ ไอร์ตัน เซนน่า แชมป์โลก 3 สมัยชาวบราซิลเข้ามีส่วนในการทดสอบและแสดงความคิดเห็นในการปรับปรุงสมรรถนะของตัวรถอีกด้วย

ในแง่ของตัวรถ NSX ใหม่ที่จะถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 จะคงเอกลักษณ์หลายอย่างเอาไว้ โดยเฉพาะการเป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำ พร้อมเครื่องยนต์วี6 แบบใหม่ติดตั้งระบบ Di หรือ Direct Injection ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางด้านเทคนิคออกมาอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ฮอนด้าจะยังยึดรูปแบบของ Production Version เหมือนกับตัวต้นแบบหรือไม่

เพราะถ้าคำตอบคือ ใช่ NSX ใหม่จะมาในรูปแบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งเป็นการใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบใหม่ที่ประยุกต์จากระบบ SH-AWD หรือ Super Handling All Wheel Drive ภายใต้การติดตั้งขุมพลังแบบไฮบริด เพราะระบบ SH-AWD ใหม่นี้จะมีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มเข้าไปอีก 2 ตัวในการช่วยขับเคลื่อนเพลาขับด้านหน้าและหลัง เพื่อช่วยในแง่ของการเพิ่มสมรรถนะในด้านอัตราเร่ง และในทางกลับกันยังช่วยในแง่ของการยึดเกาะและการทรงตัวในรูปแบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ

และในปี 2015 เราน่าจะได้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้


Credit:manager.co.th




 

Create Date : 12 มกราคม 2556
0 comments
Last Update : 12 มกราคม 2556 22:11:31 น.
Counter : 1104 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ichaboo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ichaboo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.