ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร

รู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น แตกต่างกันยังไง ?
ฟิลเลอร์ (Filler) Hyaluronic Acid HA หรือ Hya คือสารเติมเต็มที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบคอลลาเจนที่ร่างกายมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ
 

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สวิส ลด 8,000 เหลือ 12,000 (เคสรีวิว)

โปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.67 - 30 เม.ย.67 เท่านั้น

จำแนกประเภทฟิลเลอร์ (Filler) ได้ 3 ชนิด คือ
1.ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler)
เป็นสารเติมเต็มประเภทซิลิโคน (Siliocone) อาจเป็นซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate microspheres) ซึ่งหลังฉีดไปแล้วผิวจะไม่สามารถดูดซึมได้ ทำให้ตกค้างอยู่ในชั้นผิว เนื่องจากสารดังกล่าวไม่สามารถสลายตัวได้ทำให้ส่งผลข้างเคียงได้ในระยะยาวจึงทำให้ไม่นิยมใช้ในการฉีดบริเวณใบหน้า
 

2.ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler)
เป็นฟิลเลอร์ประเภทที่ไม่สามารถสลายไปได้เองทั้งหมด เช่น สารแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite) สาร PLLA (Poly-L-lactic acid) และ สาร Polyalkylimide อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เนื่องจากไม่สามารถสลายได้ทั้งหมด เมื่อฉีดไปนานๆ อาจเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือการอักเสบตามมา ทำให้รักษา หรือแก้ไขได้ยาก ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรนี้มีใช้ในต่างประเทศ แต่ยังไม่ผ่านอย.ในประเทศไทย
 

3.ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler)
เป็นสารสารไฮยารูโรนิกแอซิดหรือสารเติมเต็มที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าบริเวณที่ต้องการแก้ไขแล้วจะคงอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่น เป็นฟิลเลอร์ที่จัดว่ามีความปลอดภัยสูง เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ไทย สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติและยังสามารถเติมได้ตลอดเมื่อเริ่มสลายหรือยุบตัว
 

ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการปรับรูปหน้า หรือเติมเต็มที่ใช้กันในคลินิกเสริมความงามทั่วไป มักจะเป็นประเภทที่ 3 ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler)
 

ฟิลเลอร์ (Filler) นั้นมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี และอาจจะได้ดีมากถึง 1,000 เท่า เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงทำให้ ฟิลเลอร์ (Filler) นั้นมีความปลอดภัยสูงและถูกจัดว่าเป็นสารเติมเต็มที่มีหน้าที่ช่วยเพิ่มและปรับโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนังให้มีความอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น ผิวเรียบเนียนดูเต่งตึงมีมิติมากยิ่งขึ้น ทั้งยัง ช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มจุดบกพร่องบนใบหน้า ดวงตา และอวัยวะอื่นๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
 

ในท้องตลาดมีฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมอยู่หลายยี่ห้อ โดยแต่ละยี่ห้อนั้นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป อีกทั้งยังออกแบบในการผลิตเพื่อให้แก้ปัญหาในแต่ละส่วนที่แตกต่างกันไปเช่นกัน

ที่ Rassapoom Clinic มีฟิลเลอร์ที่ใช้ในการให้บริการคนไข้เพื่อแก้ปัญหาสำหรับเรื่องต่างๆ ถึง 4 ยี่ห้อด้วยกัน โดยฟิลเลอร์ในแต่ละยี่ห้อนั้นเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมากในท้องตลาด และยังได้ชื่อว่าเป็นฟิลเลอร์ที่ดีมากๆ อีกด้วย เนื่องจากผลิตภัณฑ์ ฟิลเลอร์ (Filler) ทุกยี่ห้อที่ รัสมิ์ภูมิ คลินิก เลือกนำมาใช้กับคนไข้ต้องเป็น ฟิลเลอร์ (Filler) ที่ผ่านอย. ไทยทุกตัว

ฟิลเลอร์ (Filler) แต่ละยี่ห้อมีดังนี้
1.ฟิลเลอร์ (Filler) สารเติมเต็มยี่ห้อ Juvederm
เป็นฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มจากประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (THFDA) สหรัฐอเมริกา (USFDA) และ EDQM ผลิตโดยบริษัท Allergan และถูกเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัท Allergan Thailand

เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูงผลิตด้วยกระบวนการผลิตถึง 2 เทคโนโลยี คือ Hylacross และ Vycross Technology
- Hylacross Technology คือเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการอุ้มน้ำ ทำให้ฟิลเลอร์มีความอุ้มน้ำได้ดี ฉีดแล้วฟู เนื้อเจลของฟิลเลอร์มีความเนียนละเอียด มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี เหมาะกับการฉีดบริเวณที่มีการขยับบ่อยๆ เช่น ร่องแก้ม แก้ปัญหาแก้มตอบ ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นที่อยู่กลุ่มเทคโนโลยี Hylacross ได้แก่รุ่น Ultra Plus
- Vycross Technology คือเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นจากเทคโนโลยี Hylacross ให้มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี มีโมเลกุลยึดเกาะที่แน่นหนา และมีอัตราการบวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อยเพื่อให้ฉีดออกมาไม่เป็นก้อน จึงทำให้มีผลลัพธ์หลังฉีด เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติใช้ในการยกกระชับได้ ที่สำคัญยังเป็นฟิลเลอร์ที่อยู้ใต้ผิวหนังได้นาน เหมาะสำหรับฉีดเพื่อเติมเต็ม หรือเพิ่มความอวบอิ่ม เช่นฉีดเพิ่ม Volume ของปาก หรือเติมเต็มร่องแก้ม
 

ฟิลเลอร์ Juvederm กลุ่มที่อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี Vycross ได้แก่รุ่น Volite, Voluma, Volift, Volbella และ Volux
 

ที่ Rassapoom มีให้บริการทั้งหมด 5 รุ่น คือ Juvederm รุ่น Volux , Juvederm รุ่น Voluma, Juvederm รุ่น Volift,Juvederm รุ่น Volbella และ Juvederm รุ่น Volite

1.Juvederm Volux
ฟิลเลอร์ Juvederm Volux ถูกพัฒนาออกมาเป็นรุ่นล่าสุด เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงทำให้มีความยืดหยุ่นในตัวฟิลเลอร์สูงมาก สามารถปั้นเป็นทรงได้สวย และคงรูปได้ดี เหมาะสำหรับฉีดบริเวณคาง ใต้ตา ขมับ และร่องแก้มชั้นลึก สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 18 - 24 เดือน

2.Juvederm Voluma
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงทำให้มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง ความหนาแน่นสูง ทำให้ปั้นง่าย รวมทั้งฉีดแล้วไม่ไหล เหมาะสำหรับใช้ในการแก้ไขบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ใช้เติมคางและขมับ แก้ปัญหาแก้มตอบ ลิฟท์หน้าแก้ม หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 18 เดือน

3.Juvederm Volift
ฟิลเลอร์ Juvederm Volift มีลักษณะเป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง มีความละเอียดและยืดหยุ่นสูง เหมาะกับผู้ที่มีผิวบาง นิยมใช้ในการฉีดบริเวณใต้ตา ร่องแก้มชั้นตื้น ร่องมุมปาก ที่ไม่ลึกมาก ร่องน้ำหมาก สามารถนำมาเก็บรายละเอียดร่องแก้มชั้นตื้นได้ดี หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 12 เดือน

4.Juvederm Volbella
ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุดทั้งยังให้ความฟู และให้ความเรียบเนียน เหมาะสำหรับการนำมาเติมบริเวณหน้าผาก ที่ต้องการความเรียบเนียน หลังฉีดจะดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน หรือเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น เติมเต็มใต้ตาและแก้ไขริ้วรอยบริเวณปากได้ด้วย สามารถคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 12 เดือน

5.Juvederm Volite
ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์รุ่นเนื้อนิ่มเนียนละเอียดช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น จึงเหมาะแก่การปรับคุณภาพผิว มีความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ที่มักเน้นปรับรูปหน้า เหมาะสำหรับการนำมาใช้เพื่อ ลดริ้วรอยชั้นตื้นๆ นำมาฉีดทั่วผิวหน้าเพื่อให้ผิวหน้าฟู อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี ฉีดใต้ตา ฟื้นฟูผิวปากให้ชุ่มชื้น อวบอิ่มขึ้น หลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 8 -12 เดือน
 

ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นใด เหมาะแก่การนำมาฉีดบริเวณใบหน้าบริเวณใด แจกแจงได้ดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผาก
• Juvederm Volbella เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเนียนละเอียด นิ่ม ทำให้เมื่อฉีดไปบนหน้าผากจะไม่จับตัวกันเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ
• Juvederm Volux และ Juvederm Voluma เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็ง ยืดหยุ่น ปั้นง่ายอยู่ได้นานเหมาะแก่การนำมาฉีดบริเวณขมับชั้นลึก

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา
• Juvederm Volite เนื่องจากมีเนื้อที่ละเอียด จึงทำให้ฉีดบริเวณใต้ตาแล้วไม่จับตัวเป็นก้อนเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะกับบริเวณที่บอบบางอ่อนโยนอย่างบริเวณใต้ตา
• Juvederm Volux และ Juvederm Voluma เนื่องจากมีเนื้อฟิลเลอร์ที่เข้มข้น หากต้องการฉีดบริเวณผิวใต้ตาชั้นลึกจะช่วยพยุงผิวได้ใกล้เคียงกับกระดูกมากที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปาก
• Juvederm Volift เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่ม ละเอียด มีความยืดหยุ่นสูง ไม่เป็นก้อน ทำให้เพิ่มความอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
• Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแน่น แข็ง แต่มีความฟูปานกลาง จึงทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีปากอวบอิ่มที่มีผลลัพธ์อยู่ได้นาน
• Juvederm Volite ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการเรียกคืนความชุ่มชื้นของริมฝีปาก

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม และฉีดฟิลเลอร์บริเวณคาง
• Juvederm Volux และ Juvederm Voluma เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะแก่การฉีดบริเวณผิวชั้นลึกหรือบริเวณ ใต้กล้ามเนื้อ Mentalis มีคุณสมบัติเด่นคือช่วยพยุงผิวได้ใกล้เคียงกับกระดูกมากที่สุด ที่สำคัญยังทำให้เวลายิ้มฟิลเลอร์ไม่จับตัวกันเป็นก้อนอีกด้วย
 

2.ฟิลเลอร์ (Filler) สารเติมเต็มยี่ห้อ Restylane
ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มจากประเทศสวีเดน ผลิตโดยบริษัท Galderma เป็นฟิลเลอร์ที่เริ่มผลิตมาได้ยาวนานที่สุดในโลก มีการผลิตและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและยาวนานมีลิขสิทธิ์เฉพาะ ได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ไทย และเกาหลีใต้ รวมถึงได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากสหภาพยุโรป (EDQM) ได้รับความนิยมจากทั่วโลกใช้ส่วนประกอบของ ไฮยารูลอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง ช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มและปรับรูปหน้าให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ

ผลิตด้วยกระบวนการผลิตถึง 2 เทคโนโลยี คือ NASHA Techology (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid Technology) และ OBT Technology (Optimal Balance Technology)
 

NASHA Techology
เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ไฮยารูลอนิกแอซิดมีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หลังฉีด เนื่องจากเนื้อเจลมีความคงตัว จึงทำให้สามารถคงรูปร่างในการฉีดไว้ได้ทำให้ไม่ก่อให้เกิดการไหลไปในบริเวณต่างๆ ข้างเคียง

ทั้งยังมีคุณสมบัติในการดึงโมเลกุลที่เป็นน้ำบริเวณโดย มากักเก็บในตัวฟิลเลอร์ โดยรุ่นที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ได้แก่ Restylane Vital Light ,Restylane Vital ,Restylane classic และ Restylane Lyft

OBT technology
เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเน้นเรื่องการสร้างความยืดหยุ่นของเนื้อฟิลเลอร์ให้ปรับทรงได้หลากหลายมากขึ้น มีความคงตัวและกลืนกับผิวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหา และเติมเต็มในแต่ละจุดที่ต้องการอย่างเป็นธรรมชาติ

รุ่นที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ได้แก่ Restylane Refyne , Restylane Volyme ,Restylane Defyne และ Restylane Kysse

วิธีสังเกตง่ายๆ คือทั้ง 2 เทคโนโลยีจะมีสีกล่องที่แตกต่างกัน NASHA Techology จะมีพื้นกล้องสีขาว และ OBT technology จะมีพื้นกล่องเป็นสีน้ำเงิน
 

ฟิลเลอร์ (Filler) ที่ Rassapoom มีให้บริการทั้งหมด 4 รุ่น คือ Restylane Perlane Lyft , Restylane classic , Restylane Skin Boosters , Restylane Kysse
1.Restylane Perlane Lyft
ฟิลเลอร์ Restylane Perlane ถูกออกแบบมาให้เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความเข็งแรงคงตัวสูง ไม่ฟู สามารถคงรูปได้ดีที่สุดและยังมีแรงยกกระชับ เหมาะสำหรับนำมาฉีดบริเวณ ใต้ตา จมูก คาง หรือเพิ่มบริเวณแก้มส้มให้ดูหน้าเด็ก สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 12 เดือน

2.Restylane Classic
ฟิลเลอร์ Restylane classic ถูกออกแบบมาให้เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง โดยการใช้เจลที่มีอนุภาคใหญ่ เพื่อใช้สำหรับการแก้ปัญหาริ้วรอยในระดับปานกลางไปจนถึงมาก เหมาะสำหรับนำมาใช้ฉีดบริเวณใต้ตาเพื่อเก็บรายละเอียดในผิวชั้นลึก ร่องแก้ม รอยขมวดคิ้ว สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 8-12 เดือน

3.Restylane Skin Boosters
ฟิลเลอร์ Restylan Skin Boosters ถูกออกแบบมาให้เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยได้ง่าย เหมาะสำหรับนำมาฉีดบริเวณใต้ตา หน้าผาก ให้ความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 12 เดือน

4.Restylane Kysse
ฟิลเลอร์ Restylan Kysse เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียดมีความคงตัวสูง ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับเติมเต็มริมฝีปากและช่วยสร้างขอบปากโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับนำมาฉีดเพื่อช่วยให้มีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์ Restylane รุ่นใด เหมาะแก่การนำมาฉีดบริเวณใบหน้าบริเวณใด แจกแจงได้ดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผาก
• Restylane Skin Boosters เนื่องจากมีเนื้อที่ละเอียด เกลี่ยง่าย ช่วยในการปรับให้ผิวชุ่มชื้น ให้ผลเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ จึงสามารถนำมาแก้ไขปัญหา ริ้วรอย ร่องลึกได้ดี

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ
• Restylane Classic และ Restylane Lyft เนื่องจากออกแบบมาเพื่อให้มีเนื้อที่แข็ง คงตัว เหมาะสำหรับร่องลึกในระดับมาก

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา
• Restylane Perlane Lyft ,Restylane Classic เนื่องจากออกแบบมาเพื่อให้มีเนื้อที่แข็ง คงตัว เหมาะสำหรับร่องลึกในระดับมาก
• Restylane Skin Boosters เนื่องจากมีเนื้อที่ละเอียด เกลี่ยง่าย ช่วยในการปรับให้ผิวชุ่มชื้น ให้ผลเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ จึงสามารถนำมาแก้ไขปัญหา ริ้วรอย ร่องลึกได้ดี

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปาก
• Restylane Skin Boosters เนื่องจากมีเนื้อที่ละเอียด เกลี่ยง่าย ช่วยในการปรับให้ผิวชุ่มชื้น ให้ผลเรียนเนียนเป็นธรรมชาติ
• Restylane Kysse เนื่องจากมีเนื้อละเอียด มีความคงตัวสูง ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ ช่วยสร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม
• Restylane classic เนื่องจากออกแบบมาเพื่อให้มีเนื้อที่แข็ง คงตัว เหมาะสำหรับร่องลึกในระดับมาก

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณคาง
• Restylane Perlane Lyft เนื่องจากออกแบบมาเพื่อให้มีเนื้อที่แข็ง คงตัว เหมาะสำหรับร่องลึกในระดับมากทำให้ปั้นได้สวยงาม

3.ฟิลเลอร์ (Filler) สารเติมเต็มยี่ห้อ Belotero
เป็นฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องโดย อย. สหรัฐอเมริกา ยุโรปและไทย

ผลิตด้วยนวัตกรรม Dynamic Cross-Lining Technology (DCLT) หรือเรียกอีกอย่างได้ว่า Double Crosslink นวัตกรรมการผลิตแบบพิเศษที่มีแค่ Belotero เท่านั้น ได้รับการจดสิทธิบัตรกระบวนการ Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถปรับแต่งสมดุลของความยืดหยุ่น การยึดเกาะและความเรียบเนียนไม่เป็นก้อน เป็นการเพิ่ม Hyaluronic Acid ที่มีจากเดิมในร่างกายเพื่อให้ Crosslink ที่อยู่ในฟิลเลอร์จับตัวกันได้ดีมากยิ่งขึ้น

จึงทำให้ฟิลเลอร์ Belotero มีคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัว 3 อย่าง ได้แก่ ความยืดหยุ่นของเนื้อเจล, การเกาะกันเป็นเนื้อเดียวไม่ไหลไม่เป็นก้อน และการปั้นทรงดีมากขึ้น

ทำให้ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่มีความหลากหลาย เหมาะกับการใช้ในแต่ละจุดของใบหน้าที่แตกต่างกันไป
 

ที่ Rassapoom มีให้บริการทั้งหมด 5 รุ่น คือ Belotero Intense , Belotero Volume , Belotero Balance ,Belotero Soft และ Belotero Revive
1.Belotero Intense
ฟิลเลอร์ Belotero รุ่น intense กล่องสีชมพู ถูกออกแบบเพื่อให้มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึก จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพตามวัย และบริเวณที่มีการขยับบ่อย เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณ ขมับ ริมฝีปากเพื่อเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม และใช้ยกกระชับใบหน้า รวมไปถึงริ้วรอยร่องลึกตามใบหน้า คงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 18 เดือน

2.Belotero Volume
ฟิลเลอร์ Belotero รุ่น Volume รุ่นกล่องสีม่วงเป็นฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและคงตัว จึงนิยมใช้ในการเติมเต็ม ในบริเวณที่ต้องการคงที่ของฟิลเลอร์ มีจุดเด่นในการเพิ่มมิติให้กับใบหน้า เหมาะสำหรับแก้ปัญหาใต้ตา แก้ปัญหาใบหน้าตอบ จากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูก อีกทั้งยังสามารถใช้ฉีดเสริมกระดูกบริเวณใต้ตาชั้นลึก เพื่อให้โครงสร้างใบหน้าได้สัดส่วน ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น นิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า คาง โหนกแก้ม คงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 18 เดือน

3.Belotero Balance
ฟิลเลอร์ Beloter Balance รุ่นกล่องสีส้มเป็นฟิลเลอร์ที่คุณสมบัติในการทำให้ผิวเรียบเนียน พัฒนามาให้เหมาะกับการแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลาง เหมาะสำหรับฉีดบริเวณใต้ตาเพิ่มความกระจ่างใส เรียบเนียน ไม่จับตัวเป็นก้อนและฉีดปาก เพื่อสร้างขอบปากสร้างร่องเหนือริมฝีปากให้ชัดขึ้น อีกทั้งยังใช้บริเวณหน้าผากที่ไม่มีปัญหามาก รักษาหลุมสิวที่ไม่ลึกได้เป็นอย่างดีคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 18 เดือน

4.Belotero Soft
ฟิลเลอร์ Beloter Soft รุ่นกล่องสีเหลือง เป็นรุ่นที่เนื้อละเอียด มีจุดเด่นคือมีโมเลกุลเล็ก สามารถเก็บรายละเอียดได้ดี มีความคงตัวยืดหยุ่นสูงแต่ไม่จับตัวเป็นก้อน เหมาะสำหรับสามารถแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกมากๆ หรือบริเวณที่ฉีดแล้วต้องการให้ดูเป็นธรรมชาติมากๆ เติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวใส หน้าฉ่ำวาว มีน้ำมีนวล สามารถใช้แก้ปัญหาการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนังหรือริ้วรอยแห่งวัยคงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 6 - 12 เดือน

5.Belotero Revive
ฟิลเลอร์ Beloter Soft รุ่นกล่องสีฟ้าเป็นการผสมผสานระหว่างสารเติมเต็ม HA และ Glycerol HA+Glycerol (Duo Action) ช่วยในเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้น อิ่มฟู กระชับรูขุมขน เหมาะสำหรับเติมเต็มริ้วรอย เพิ่มวอลลุ่ม ปรับผิวให้มีความเรียบเนียน ลดริ้วรอย ดูแลผิวขาดน้ำ ดูแลผิวมีรูขุมขนกว้าง ไม่กระชับสามารถใช้ในการฟื้นฟู หรือเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว
 

ฟิลเลอร์ Belotero รุ่นใด เหมาะแก่การนำมาฉีดบริเวณใบหน้าบริเวณใด แจกแจงได้ดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผาก
• Belotero Soft เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กและมีความละเอียดมากทำให้เหมาะสมสำหรับฉีดริ้วรอยตื้นๆ บริเวณหน้าผาก เพราะมีความเด่นเรื่องการเก็บรายละเอียด
• Belotero Balance เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีความนิ่มปานกลาง มีความละเอียดปานกลางทำให้เหมาะสำหรับฉีดบริเวณหน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ
• Belotero Volume เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นและคงตัวสามารถนำมาปรับให้ใบหน้าดูเด็กลง สร้างสัดส่วนใบหน้าได้ทำให้เหมาะสำหรับฉีดบริเวณขมับ

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา
• Belotero Soft เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กและมีความละเอียดมากทำให้เหมาะสมสำหรับบริเวณใต้ตา ริ้วรอยหางตา หรือเก็บริ้วรอยเล็กๆ
• Belotero Volume เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นและคงตัวสามารถใช้เพื่อเติมแทนกระดูกใต้ตาชั้นลึกได้ จึงเหมาะสมสำหรับการฉีดใต้ตาเช่นกัน

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปาก
• Belotero Intense เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูงมีความทนใช้สำหรับบริเวณที่มีการขยับกล้าเนื้อมากๆ และมีความหนืดทำให้เหมาะสำหรับฉีดเติมริมฝีปากเพิ่มความอวบอิ่ม

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม
• Belotero Balance เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่นิ่มปานกลาง มีความละเอียดปานกลางทำให้เหมาะสำหรับฉีดบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม
• Belotero Intense เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูงและมีความหนืดเหมาะกับการเติมเต็ม และยกกระชับจึงทำให้เหมาะสำหรับการสำหรับฉีดบริเวณแก้มตอบและร่องแก้มลึก 

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณคาง
• Belotero Intense เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง ทำให้ปั้นได้ง่าย ขึ้นรูปได้ง่ายและมีความหนืดจึงทำให้เหมาะกับการนำมาฉีดบริเวณคาง
• Belotero Volume เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นและคงสูง ขึ้นรูป และปั้นง่ายตัวจึงเหมาะสมสำหรับการนำมาฉีดบริเวณคาง

4.ฟิลเลอร์ (Filler) สารเติมเต็มยี่ห้อ YVOIRE
เป็นฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มคุณภาพดีจากประเทศเกาหลี ที่ได้รับมาตรฐานระดับยุโรปอยู่ภายใต้บริษัท LG Chem บริษัทที่พัฒนากรดไฮยาลูรอนิกมามากถึง 25 ปี ขายมากกว่า 45 ประเทศทั่วโลก ผ่านการรับรองจาก U.S. Food and Drug Administration (FDA) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันความงามทั่วโลก โดยผ่านการฉีด 10 ล้านเข็มใน 44 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปัจจุบันมีการออกแบบมาเพื่อให้ฉีดง่ายมีการดีไซน์ Syring แบบ Ergonomic ไม่ทำให้เกิดการรั่วของฟิลเลอร์ช่วยป้องกันการแตกหัก มีความโค้งที่กำลังดีถนัดมือ ทำให้ดันยาง่าย ขึ้นรูปได้สวยงาม และช่วยลด Injection Force จัดเป็นกลุ่มฟิลเลอร์ที่มีการออกแบบตัวผลิตภัณฑ์ที่ดีจนได้รับรางวัล 2012 Consumer Product Award

ผลิตด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ HICE Technology ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะบริษัท แอลจี เคม (LG Chem) บริษัทเคมียักษ์ใหญ่ในเกาหลีใต้ จึงทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูงมี High Cross Link มากถึง 30% ช่วยในการกระจายตำแหน่งของ Cross Link ได้อย่างสม่ำเสมอ และมีความหนาแน่นมาก ทำให้ฟิลเลอร์ YVOIRE มีความยืดหยุ่นสูง มีโครงสร้างที่แข็งแรง มีผิวสัมผัสที่เรียบเนียน เป็นธรรมชาติ ไม่จับตัวหนาเป็นก้อน ด้วยเทคโนโลยีนี้เองจึงทำให้ฟิลเลอร์ YVOIRE มีความปลอดภัยสูง มีผลข้างเคียงอื่นๆ น้อย มีความคงทนไม่สลายตัวง่ายทั้งยังช่วยยกกระชับผิวได้ดีอีกด้วย
 

ที่ Rassapoom มีให้บริการทั้งหมด 3 รุ่น คือ YVOIRE Classic Plus , YVOIRE Volume Plus, YVOIRE Contour
1.YVOIRE Classic Plus
ฟิลเลอร์ YVOIRE รุ่น Classic plus ถูกออกแบบมาให้มีโมเลกุลเล็กและละเอียดที่สุดในทั้ง 3 รุ่น ฉีดง่าย ไม่ไหล ไม่ย้อย มีความเรียบเนียนไม่เป็นก้อน คงรูปได้ดี ยึดเกาะแน่น เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณ ตา หว่างคิ้ว เติมเต็มร่องลึกแก้ปัญหาเบ้าตาลึกหรือในบริเวณที่ผิวบางหรือในบริเวณที่มีความตื้น คงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 6 – 9 เดือน

2.YVOIRE Volume Plus
YVOIRE รุ่น Volume Plus ถูกออกแบบมาให้มีโมเลกุลขนาดกลาง ทำให้ขึ้นรูปได้ดี เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณหน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม ริมฝีปาก ร่องน้ำหมาก และช่วยเพิ่มโวลุ่มให้กับชั้นผิว คงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 9 - 12 เดือน

3.YVOIRE Contour
YVOIRE รุ่น Contour ถูกออกแบบมาให้มีโมเลกุลขนาดใหญ่และยังมีขนาดที่ใหญ่มากที่สุดในบรรดา 3 รุ่น สามารถขึ้นรูปยึดเกาะ และเซ็ตตัวได้ดี เป็นรุ่นเดียวที่ไม่ผสมยาชา โดดเด่นด้านการยกกระชับใบหน้าลิฟท์ติ้งกรอบหน้า เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณ โหนกแก้ม คาง และกรอบหน้า คงผลลัพธ์ได้นานประมาณ 12 - 18 เดือน

ฟิลเลอร์ YVOIRE รุ่นใด เหมาะแก่การนำมาฉีดบริเวณใบหน้าบริเวณใด แจกแจงได้ดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผาก
• Volume Plus เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดปานกลาง ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ทำให้เหมาะแก่การนำมาฉีดหน้าผากเพื่อช่วยเพิ่มความอิ่มฟู

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ
• Volume Plus เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดปานกลาง ขึ้นรูปได้ดี มีความเรียบเนียน ช่วยเพิ่มโวลุ่มให้กับชั้นผิว ทำให้เหมาะแก่การนำมาฉีดบริเวณขมับเพื่อเติมเต็ม

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา
• Classic plus เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กและละเอียด คงรูปได้ดี ยึดเกาะแน่น เรียบเนียนไม่เป็นก้อน ทำให้เหมาะแก่การนำมาฉีดบริเวณใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปาก
• Volume Plus เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดปานกลาง ขึ้นรูปได้ดี มีความเรียบเนียน ช่วยเพิ่มโวลุ่มให้กับชั้นผิว ปั้นง่าย และขึ้นรูปง่าย ทำให้เหมาะแก่การนำมาฉีดบริเวณริมฝีปาก

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม
• Volume Plus เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดปานกลาง ขึ้นรูปได้ดี มีความเรียบเนียน ช่วยเพิ่มโวลุ่มให้กับชั้นผิว ทำให้เหมาะแก่การนำมาฉีดบริเวณร่องแก้ม

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณคาง
• Yvoire Contour เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ช่วยให้ขึ้นรูปทรง ยึดเกาะ และเซ็ตตัวได้ดี เหมาะแก่การนำมาปั้น แต่งเพื่อเพิ่มมิติทำให้เหมาะแก่การนำมาฉีดบริเวณคาง
 

ข้อควรปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
1.ควรศึกษาข้อมูลแพทย์และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยรวมทั้งผลลัพธ์ที่ดีและตอบโจทย์ตรงตามปัญหาผิวให้มากที่สุด
2.งดรับประทานวิตามิน ยาแอสไพรินและ NSAIDs ก่อนฉีดฟิลเลอร์
3.งดทำเลเซอร์ หรือนวดหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์
4.งดทายาผลัดเซลล์ผิว การดึง ถอน หรือโกนขนในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
5.หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานเป็นประจำควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่และแพทย์ที่ทำการ
 

ข้อควรปฏิบัติหลังจากการฉีดฟิลเลอร์
1.ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ ขั้นต่ำวันละ 2-3 ลิตร
2.งดการทำเลเซอร์ที่มีความร้อนลงบริเวณผิวชั้นลึก
3.งดการออกกำลังกายอย่างหนักใน 48 ชั่วโมงแรก
4.ห้ามบีบ นวด แคะ หรือเกา ในบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ ป้องกันการอักเสบจากมือที่สกปรก ร่วมถึงมีผลต่อการเคลื่อนที่
5.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
6.ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดหรืออากาศร้อนจัด
 

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์
1.งดรับประทานอาหารหรือของหมักดอง 14 วัน
2.งดรับประทานอาหารดิบ 14 วัน
3.งดรับประทานอาหารที่อยู่หน้าเตาร้อนๆ
4.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 14 วัน
5.งดอาหารที่หวานจัด และนมวัว เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้

นอกจากนี้ ควรปฎิบัติดังนี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น
• นอนหมอนสูงเพื่อให้ศีรษะสูงกว่าหน้าอก
• ระวังอย่าให้มีการกดทับใบหน้าระหว่างที่นอน
• ควรรับประทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ

เพื่อลดการก่อให้เกิดอาการอักเสบหลังจากการฉีดฟิลเลอร์รวมทั้งเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น

หลังการฉีดอาจมีอาการบวมแดงได้ใน 3 วัน หากอาการดังกล่าวไม่หายใน 3 วันไม่หายให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที

ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์ในยี่ห้อใดนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ให้การรักษา และงบประมาณของผู้ใช้บริการ โดยฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นนั้น อาจมีราคาที่ลดหลั่นแตกต่างกันออกไป อาจจะใช้ยี่ห้ออื่นที่มีคุณสมบัติคล้ายกันในการทดแทนได้ แต่อาจจะแทนกันไม่ได้ทั้งหมด

ดังนั้น ควรปรึกษาและแจ้งความประสงค์แก่แพทย์ผู้ดูแลอย่างละเอียด เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ในการให้บริการ และเพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ชัดเจน รวมทั้งถูกใจผู้เข้ารับบริการให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ว่าจะฉีดยี่ห้อใดก็ตาม สามารถเข้ามาฉีดได้ที่ Rassapoom Clinic เนื่องจากมีฟิลเลอร์แท้ทุกยี่ห้อ ทั้งยังมีรางวัลการันตีด้านยอดการให้บริการฟิลเลอร์สูงสุดระดับประเทศ อีกทั้งยังเป็น KOL ของฟิลเลอร์ Allergan ที่ได้รับการการันตีว่าใช้ฟิลเลอร์ แท้ 100%
 

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สวิส ลด 8,000 เหลือ 12,000 (เคสรีวิว)

โปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.67 - 30 เม.ย.67 เท่านั้น

Create Date : 06 เมษายน 2567
Last Update : 6 เมษายน 2567 11:47:25 น.		0 comments
Counter : 64 Pageviews.
(โหวต blog นี้)  Share Tweet