เมื่อลิ้นรู้รสชา สิ่งสำคัญในการดื่มชาให้ได้รสชาติ คือ ป้านชา ป้านชานั้นมีหลากหลายแบบ หลายขนาด แต่ป้านที่เห็นตามท้องตลาดทั่วไปในเมืองไทยนั้น จะเป็นป้านเคลือบ หรือที่เรียกว่าเซรามิก ป้านดินเผานั้น ผมไม่ค่อยเห็นเลย แม้แต่เวลาเดินในตลาดนัดจตุจักรก็ไม่เห็น กว่าร้อยละ 99 จะเป็น ป้านชาเซรามิก ซึ่งชาบางชนิด ต้องชงในป้านดินเผา ถึงจะได้กลิ่นหอม และรสชาติดีกว่า ผมก็ไม่ใช่ผู้ที่สันทัดจัดเจนในเรื่องของป้านชานัก แต่เท่าที่สังเกตุดู ผมว่ามันเป็นจิตวิทยามากกว่า ที่คนดื่มชา จะได้ลิ้มรสชา และชื่นชมความงามของป้าน
หากถามว่ารสชาตินั้น มันหอมกว่ามากจริงหรือ?? ก็ต้องตอบว่า มันคงจะไม่หอมกว่ากันชัดแจนแจ่มแจ้งดั่งแสงตะวัน เช่นว่า ความหอมแบบนี้เป็น ความหอมแบบที่ 1 , ความหอมแบบที่ 2 , ความหอมแบบที่ 3 – คงไม่ใช่ความแตกต่างที่ชัดแจนแบบนั้น แต่ที่ว่าหอมกว่านั้น มันก็คงบวกกับความรู้สึกเข้าไปด้วย กลิ่นหอมนั้นก็คงหอมแบบเดิม แต่ที่แตกต่างคงเป็นรายละเอียดปลีกย่อย ความหอมที่แตกต่างอาจต้องวัดกันเป็นจุดทศนิยม เช่น ชงในป้านเซรามิก ได้ ความหอมแบบที่ 1.1 , ส่วนชงในป้านดินเผา ได้ ความหอมแบบที่ 1.2 แบบนี้มากกว่า
แรกเริ่มที่ไปเดินซื้อป้านที่เยาวราช ไม่เคยเข้าไปในร้านเลยครับ อาศัยกะบะหน้าร้าน แบกะดิน ราคาใบละ 80 บาท เป็นป้านดินปั้นเครื่อง เนื้อดินหยาบ ใช้มือลูบแล้วสากมือ แต่ถ้าไม่ได้คิดอะไรมาก ก็ถือว่าใช้ได้ไม่เสียหายอะไร แต่เมื่อ ลิ้นรู้รสชา ใจมันก็มักอยากจะมีป้านดีๆ ไว้ใช้สักใบ พอนานเข้า และมีเงินเหลือ ก็มักจะซื้อเพิ่ม จนเป็นของสะสมไปโดยไม่รู้ตัว ผมจึงตัดใจ ซื้อป้าน ใบละเป็นพัน เป็นครั้งแรก ซึ่งตอนแรกไม่ได้ใช้ป้านเล็ก ใช้ป้านใหญ่ขนาดสิบจอก ซึ่งราคาสูงกว่า หลังๆ ใช้ป้านเล็ก ราคาก็ย่อมเยาว์ลงกว่าครึ่ง จึงเจียดเงินซื้อข้าวแกง ไปซื้อป้านเพิ่มได้
*Photo - Search on Google*