Bloggang.com : Teacherbik : ภาพบรรยากาศค่ายจิตสดใส วัยบริสุทธิ์ ด้วยพุทธปัญญา ครั้งที่ 32 วันที่ 16-20 ตุลาคม 2554

ภาพบรรยากาศค่ายจิตสดใส วัยบริสุทธิ์ ด้วยพุทธปัญญา ครั้งที่ 32 วันที่ 16-20 ตุลาคม 2554

ก่อนอื่นต้องขออภัยทุกท่านมาก ๆ เลยนะคะ ที่กว่าบล็อคนี้จะคลอด ก็เกือบครบปีพอดี แหะ...แหะ น้ำท่วมเป็นสาเหตุของทุกสิ่งค่ะ ตัวคนทำบล็อคก็ประสบอุทกภัยซะเอง เลยเสียศูนย์ไปหน่อย ล่าช้าไปนิด คงไม่ว่ากันนะคะ เอาล่ะ..คงคิดถึงบรรยากาศค่ายกันมาก ๆ แล้ว พาไปดูกันเลยค่ะ เริ่มด้วยภาพหมู่ของค่ายครั้งนี้ก่อนนะคะ จะได้หายคิดถึงกัน

และพระอาจารย์ปัญญา ก็ยังคงเมตตาเราเหมือนเช่นเคย

นี่คือบรรยากาศกิจกรรมแรก ซึ่งเป็นกิจกรรมใหม่สำหรับค่ายจิตสดใสฯ ด้วย เราเรียกมันว่า "ปลูกรัก ..ปลูกชีวิต" ให้ลูกๆ และครอบครัวได้บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ข้าวสาลีร่วมกันในวันเริ่มค่าย แล้วคอยดูผลว่า ในวันจบค่าย ต้นข้าวที่ลูก ๆ ดูแลรดน้ำ จะเติบโตเพียงใด

ต่อไปเป็นเกมส์แยกตะกอนใจ เพื่อถอดรหัสให้เด็ก ๆ ได้ทราบว่า เรามาปฏิบัติธรรมทำไม ใจของเราเปรียบเหมือนน้ำสะอาด แต่นานวันเข้า มีแต่กิเลสที่เติมเข้ามาทำให้ใจของเราสกปรกและขุ่นมัว เด็ก ๆ ต้องช่วยกันใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ กรองน้ำให้ใสเหมือนเดิม

แต่แล้วเด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้ว่า การทำใจให้สกปรกมันง่ายมาก แต่การกรองใจให้สะอาดน้ำทำได้ยากมาก ต้องใช้เครื่องมือในการกรองเป็นการเดินจงกรม นั่งสมาธิ และเจริญสติเท่านั้น

ดูโอยอดนิยม..พระอาจารย์แจ็คและพระอาจารย์ภิญโญ นำลูก ๆ ว่าคาถาต่าง ๆ น่ารักจังค่ะ มาแนวเกาหลีเลยนะเนี่ย

กิจกรรมนอนกลางวันแบบสีหไสยาสน์ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมค่ะ เพราะเป็นกิจกรรมโปรดของลูก ๆ โยคีเลยทีเดียว

แล้วก็มาถึงกิจกรรมที่ได้รับการโหวตให้เป็นกิจกรรมน้องใหม่ยอดนิยม นั่นคือ การเย็บพวงกุญแจ "รู้-หลง" นั่นเองค่ะ เด็ก ๆ จะต้องเย็บพวงกุญแจเป็น 2 หน้า หน้าหนึ่งคือหน้ารู้ ส่วนอีกหน้าคือหน้าหลง อย่างนี้ค่ะ

กิจกรรมนี้อาจมองดูว่า เหมาะสำหรับลูกโยคีสาว ๆ แต่อยากบอกว่าหนุ่ม ๆ ตั้งใจมาก ๆๆๆๆ ถึงขนาดหมดเวลาแล้วยังไม่ยอมเก็บของ เย็บกุญแจกันอึดจริง ๆ ค่ะ

เรามาชมภาพพวงกุญแจ ผลงานของเด็ก ๆ กันเลยนะคะ มีทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่มให้เลือกสรร ทุกคนชอบมากเพราะฝึกสติและสมาธิได้ดีจริง ๆ

ในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจากแขกคนพิเศษคือ คุณลุงวีระ เป็นคนไทยที่ไปทำธุรกิจที่สหรัฐอเมริกาจนประสบความสำเร็จอย่างสูง ลุงวีระได้มาถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับวัตถุนิยม ที่ตัวคุณลุงเองได้ประสบในระหว่างทำธุรกิจที่นั่น ทำให้ลูก ๆ ได้เห็นว่า เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง คนที่มีเงินอาจไม่มีความสุขเสมอไป และที่สุด เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ "คุณค่าแท้" และ "คุณค่าเทียม"

วันที่สาม ผ่านไป ไวเหมือนโกหก ก็มาถึงอีกกิจกรรมที่เด็ก ๆ ชอบมาก เพราะมันเหมือนการย้อนพุทธกาลกลับมาอีกครั้ง นั่นคือ การทัวร์สังเวชนียสถานสี่ตำบล แต่ก่อนจะไปทัวร์ก็ต้องให้เด็ก ๆ สนุกสนานกันก่อน กับกิจกรรมต่อจิ๊กซอว์สังเวชนียสถาน

เอาล่ะ..ไปทัวร์สังเวชนียสถานกันเลย ค่ายนี้พิเศษ เรามีพระวิทยากรอีก 1 รูป คือ พระอาจารย์แม็ค ปล่อยมุกสุดแสนเฮฮา เด็ก ๆ ชอบฐานพระอาจารย์เป็นพิเศษเลย

จากนั้น ในตอนเย็น ก็เป็นกิจกรรมที่ทำทุกครั้งก็ยังซาบซึ้ง ทั้งคณะทำงานและลูก ๆ โยคี นั่นคือกิจกรรม "เรารักในหลวง" ค่ะ

นำลูก ๆ กราบถวายพระพร ลูก ๆ กราบได้สวยมากค่ะ

ตบท้ายด้วยการเขียนไปรษณียบัตร "ทำดีเพื่อพ่อ" ซึ่งจะเต็มไปด้วยข้อความอันแสนจริงใจที่ลูก ๆ ตั้งใจทำถวายพ่อของแผ่นดิน

วันที่สี่คือไฮไลท์ กิจกรรมใหญ่ของวันนี้คือการเดินทางไกล ฝึกให้ลูก ๆ โยคีเดินธุดงค์แบบคนรุ่นใหม่ ใจเราตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ตั้งแต่วันก่อนว่า ฝนจะตกหรือไม่ เพราะหากเป็นแฟนพันธุ์แท้จิตสดในฯ ท่านคงพอจำได้ว่า การเดินธุดงค์เมื่อค่ายก่อนก็มีบททดสอบเป็นฝนโครมใหญ่ แต่รุ่นนี้ฟ้าเป็นใจมาก เพราะอากาศสดใสตลอดทั้งวัน แดดก็ไม่ร้อนมากด้วย การเดินทางไกลของค่ายนี้มีความพิเศษคือ "เส้นทาง" ที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าเดิม มีการเดินผ่านป่าไม้และลำธาร ส่วนอาหารกลางวันนั้น ทุกกลุ่มก็ต้องหาที่หยุดพักกินข้าวห่อกันเองในป่าหรือข้างทาง ได้ฟีลผจญภัยมั่ก ๆ ไม่อยากเม้าท์แล้ว ให้ท่านดูภาพกันเลยดีกว่านะคะ

สุดสายปลายทางที่ถ้าเขาวง กราบหลวงพ่ออ่องผู้เปี่ยมด้วยเมตตา แล้วเตรียมค้างคืนที่วัดเขาวง ทำให้มีเวลาคืนนั้น..ในการทำกิจกรรมดี ๆ อีกครั้ง นั่นคือการ "เคลียร์ใจ" ครั้งนี้มีหลากหลายอารมณ์ เด็ก ๆ ได้ขอโทษกันในสิ่งที่เคยล่วงเกิน และได้ขอบคุณกันในน้ำใจที่เพื่อนได้ช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างค่าย เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมากค่ะ

ต่อด้วยกิจกรรม "เผาผีความชั่ว" ซึ่งห่างหายจากตารางกิจกรรมของจิตสดใสฯ ไปนาน แต่ครั้งนี้กลับมาอีกครั้ง ที่บรรยากาศ outdoor ของวัดเขาวง เป็นงานศพนายชั่วช้า ช่ำชองบาป ที่จัดเต็มมาก ๆ ลูก ๆ ได้ใช้โอกาสนี้ เขียนนิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง แล้วหย่อนลงไปเผาพร้อมโลงศพของนายชั่วช้า ช่ำชองบาป

นอนที่วัดเขาวงหนึ่งคืน เช้าขึ้นเราได้มีโอกาสทำความดี โดยการ "ตักบาตรความดี" ด้วยไปรษณียบัตรทำดีเพื่อพ่อหลวง และข้าวสุกที่ขาวดังดอกบัว

เมื่อตักบาตรความดีเสร็จ พวกเราก็ขึ้นรถบัสกลับเขาดินหนองแสง เพราะป่านนี้คุณพ่อคุณแม่คงคิดถึงพวกเรามาก และมารอปฏิบัติธรรมพร้อมกับเราแล้ว ปีนี้..พิธีกตัญญูก็ยังคงประทับใจเหมือนเคย ชมบรรยากาศกันเลยค่ะ

พระอาจารย์มานพ อุปสโม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ราชนครินทร์ เมตตาเป็นประธานพิธีปิด และมอบประกาศนียบัตรให้ลูก ๆ โยคี

วันเวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ นะคะ เผลอหน่อยเดียว ค่าย 5 วัน ก็เดินทางมาสู่พิธีปิดแล้ว พระอาจารย์คงจะชื่นใจ หากรู้ว่าลูก ๆ โยคีทุกคนเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ และเป็นและเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคมไทย และที่สำคัญ ใครมีเวลาและมีกำลังกายพอจะแบ่งปัน อย่าลืมกลับมาเป็นครูพี่เลี้ยงให้น้อง ๆ จิตสดใสฯ รุ่นต่อ ๆ ไปด้วยนะคะ ขอบุญรักษา เทวดาคุ้มครองลูก ๆ โยคีและท่านผู้ปกครองทุกท่าน ให้มีความสุข สงบ เย็นตลอดไปนะคะ จนกว่าจะพบกันใหม่ในค่ายหน้าค่ะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

Create Date : 26 มิถุนายน 2555

Last Update : 3 สิงหาคม 2555 14:21:17 น.

3 comments

Counter : 2819 Pageviews.

โอ้วว้่าววววว ไม่มีรูปเห็นหน้าชัดๆของเราเลย 555

โดย: ปัณณรัตน์ จิระพงศ์วิภาส IP: 180.183.163.58 วันที่: 11 สิงหาคม 2555 เวลา:16:41:32 น.

เห็นภาพแล้วรู้สึกปลื่้มใจจริงๆที่ลูกๆโยคีตั้งใจปฏิบัติกันทั่วหน้า อนุโมทนาบุญกับคุณพ่อคุณแม่ที่ได้มอบสิ่งดีๆให้กับบุตร ลูกๆโยคีเมื่อได้มาเรียนรู้แนวทางปฏิบัติธรรมแล้วควรจะปฏิบัติอย่างต่อเนื่องนะครับ แล้วลองสังเกตตัวเองว่า มีสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง แล้วค่ายหน้าถ้ามีโอกาสมาปฏิบัติธรรมที่ค่ายแห่งนี้แล้วมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

โดย: ครูห่วง IP: 110.49.250.102 วันที่: 11 สิงหาคม 2555 เวลา:23:20:12 น.

เป็นค่ายที่ดีมากๆค่ะ ดีใจที่ปริณ พัฒน์ และนัท ได้มีโอกาสมาค่ายนี้ ต้องกราบขอบพระคุณพระอาจารย์มานพ และพระอาจารย์ทุกรูปที่ได้อบรมเด็กๆ รวมถึงครูและพี่เลี้ยงทุกคนในความตั้งใจดีที่มีมากมายต่อเด็กๆค่ะ

โดย: แม่น้องปริณ IP: 112.199.81.210 วันที่: 23 สิงหาคม 2555 เวลา:16:52:51 น.