ภาพบรรยากาศค่ายจิตสดใส วัยบริสุทธิ์ ด้วยพุทธปัญญา รุ่นที่ 40 ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม - 4 เมษายน 2556

สวัสดีมิตรรักแฟนเพลงชาวจิตสดใส วัยบริสุทธิ์ ด้วยพุทธปัญญาอีกครั้งค่ะ  จบไปอีกหนึ่งซีซั่นแล้วนะคะ (ทำอย่างกับรายการเรียลลิตี้) กับค่ายของซัมเมอร์ปี 2556 รุ่น 40 และรุ่น 41 ค่ะ
อิ่มบุญ เฮฮา น่ารักกันถ้วนหน้า ทีมงานก็หุ่นสเลนเดอร์กันมากเชียว เพราะน้ำหนักลดจริง อะไรจริง ไม่ธรรมดานะค่ายนี้!!!

รอคอยกันไม่นานเลยสำหรับภาพประทับใจ จะทยอยออกมาทีละรุ่นนะคะ ก็คงต้องประเดิมด้วยรุ่น 40 ก่อน  เรื่องราวประทับใจใฝ่ธรรมะ เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม - 4 เมษายน 2556 ค่ะ  วัยรุ่นใจร้อน วัยรุ่นติดเกมส์ วัยรุ่นมีปัญหา ปัญหาวัยรุ่น

แน่นอนเริ่มด้วยบรรยากาศเช้าวันที่ 31 มีนาคม ที่ลูกโยคีทยอยกันมาเข้าค่าย  ลุ้นมากมายว่าจะมากันกี่คน ปรากฎว่า ครั้งนี้ยอดทะลุเป้าเชียวค่าา... ยอดสูงสุดเท่าที่เคยทำค่ายเด็กมัธยมมา
คือมีโยคีถึง 87 ชีวิตเลยค่ะคุณ

มีร่ำลากันเล็กน้อยค่ะ

แล้วทั้งครอบครัวก็พากันไป "เพาะรัก ปลูกชีวิต"

ซึ่งแอบตัดตอนให้ดูหน่อยนะคะ  ว่าเมื่อเวลาผ่านไปห้าวัน  ต้นรักของลุกๆ ที่ได้ผ่านการรดน้ำเอาใจใส่ งอกงามขึ้นมาอย่างน่าชื่นชมค่ะ

รับเสื้อจิตสดใส ไว้ใส่ในวันสำคัญ

ลูกโยคีสองรุ่นนี้ นับว่าโชคดีมาก เพราะพระอาจารย์ใหญ่ พระอาจารย์มานพ อุปสโม  ให้เมตตาเป็นประธานพิธีเปิด และให้โอวาทเปิดด้วยตัวท่านเองค่ะ  เป็นมงคลแก่ค่ายจริง ๆ ค่ะ

ผู้ปกครองได้ฟังโอวาทเปิดด้วย โชคดีมาก ๆ ค่ะ

เข้าสู่พิธีเปิดค่ะ

 จบพิธีปิด ก็ส่งผู้ปกครองกลับบ้าน เราก็มาตะลุยชมภาพกิจกรรมของลูกโยคีกันเลยดีกว่านะคะ  แน่นอน..ไม่เริ่มด้วยกิจกรรมนี้ ก็ไม่ใช่ค่ายจิตสดใสสิคะ  "เกมส์น้ำใสใจบริสุทธิ์" ค่ะ  ถอดรหัสว่า..
เรามาปฏิบัติธรรมทำไม  อิ อิ

แม๊... เล่นได้เกมส์เดียวเอง ก็ต้องพักทานข้าวกลางวันซะแล้ว  อาหารอร่อยอย่าบอกใครเลยเชียวค่ะคุณ แต่งานนี้ คอนเซ็ปต์ ตักเอง พิจารณาเอง กินเอง ล้างเอง เช็ดเอง เก็บเองทั้งหมด  รับประทานด้วยความสงบ รับรู้รสอาหารแบบเข้าถึงและเข้าใจ ไร้การปรุงแต่งค่ะ

เดินจงกรมอิสระ  ย่อยอาหารเสียหน่อยนะคะ

พักสายตาเบา ๆ กับท่าศพอาสนะ  ชอบจริง ๆ เลย  กิจกรรมโปรดของลูกโยคีทุกคน

ระหว่างลูก  ๆ นอน  พระอาจารย์ก็ประชุมทีมงานกันซะหน่อย

ลูกโยคีตื่นแล้วเหรอ...เร็วจัง   ฮ่า ฮ่า  ได้เวลาฝึกเข้มแล้วค่ะ  เราอาบน้ำชำระกายเรามาตลอดชีวิต  ค่ายนี้จะเป็นโอกาสดีที่ลูกโยจะได้ชำระใจของลูกให้สะอาด ด้วยทาน ศีล ภาวนา 
งั้นเรามาฝึกเดินจงกรม นั่งสมาธิ และเรียนรู้ธรรมะกันดีกว่าค่ะ 

พระอาจารย์ติวเข้ม เข้าห้องสอบอารมณ์เพื่อการปฏิบัติที่จริงจัง

สวดมนต์กันบ้าง

ฟังนิทานจากพระอาจารย์กันหน่อย

ปรบมือเจริญสติกันนิด

 เวียนฐานไปเรียนธรรมะกับพระอาจารย์กัน

 เรียนธรรมะผ่านคำคมมีคติสอนใจ

ตะกร้าน้ำที่รัก

 พระอาจารย์สักกลักษณ์และพระอาจาย์พงษ์ศักดิ์

ฝึกมารยาทชาวพุธกันหน่อยนะคะ  กราบพระ กราบผู้ใหญ่ การประเคนของพระ การแต่งกายเข้าวัด การถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 ยืดเส้นยืดยามเช้ากันค่ะ  กับโยคะเพื่อสุขภาพโดยครูอุ้น

เข้าใจถึงความสำคัญของสติ ผ่านกิจกรรม "ลูกโป่งหัวใจ" และ "เก้าอี้แห่งใจ"   ในแต่ละขณะ มีผี 3 ตัว
คอยจะครองใจเราอยู่  ในขณะเดียวกัน ทุกคนมีเพื่อนที่ดีที่สุดคือ "สติ" ในการป้องกันผีไม่ให้ครองใจ
ของเราได้  ขึ้นอยู่กับเรา ว่าจะให้อาหารผี หรือให้อาหารสติ  เพราะสิ่งที่แข็งแรงกว่าเท่านั้น จึงจะ
ครอบครองพื้นที่แห่งใจเราไว้ได้

 ในค่ายรุ่นนี้ มีเรื่องสร้างสีสัน คือมีกิจกรรมใหม่เข้ามาถึง 2 กิจกรรมค่ะ  กิจกรรมแรกคือ "กิน อยู่ ดู ฟัง" สอนการใช้สติและปัญญาในการบริโภค  แต่ครั้งนี้ เรื่องเก่านำมาเล่าใหม่ ไฉไลกว่าเดิม
โดยหลวงพี่ปณต จากวัดญาณเวศกวัน เมตตามาเป็นพระวิทยากรในหัวข้อนี้

ไม่น่าเชื่อว่า การนำเรื่องนี้มาถ่ายทอดใหม่ โดยผ่านกิจกรรมแบบ "เดินข้าสู่ศูนย์กลาง" จะทำให้เราได้ซื่อสัตย์กับตนเอง และมีพลังมากพอจะทำให้ลูกโยคีเกือบทุกคนได้เห็นภาพของตัวเองโดย
ไม่ผ่านการตัดสินของสังคม  ผ้าปิดตาที่เปียกไปด้วยน้ำตาเป็นเครื่องยืนยันความรู้สึกของ
ลูกโยคีได้เป็นอย่างดี

ยังค่ะ..ยังไม่หมด  ต้องขอบคุณค่ายปฐมนิเทศ "จิตอาสา จิตสดใส" ที่ทำให้เราได้ไอเดียสดใหม่ จากครูพี่เลี้ยงรุ่นใหม่  จนกระทั่งสามารถนำมาประยุกต์เข้ากับค่ายรุ่น 40 ได้เป็นอย่างดี 
เกมส์นี้คือเกมส์ "หนักใจ" ค่ะ

เกมส์นี้เหมาะกับเด็กรุ่นนี้มาก  ตัวแทนของกลุ่มจะต้องทำบัญชีสิ่งที่ตัวเอง "อยากได้" และ "อยากเป็น"

จากนั้นลูกๆ สามารถที่จะเนรมิตแพ็คขวดน้ำให้กลายเป็นส่ิงเหล่านั้นได้  แต่การ "ครอบครอง" สิ่งเหล่านั้น ทำได้โดยการ "แบก" แพ็คของเนรมิตมายืนหน้าห้องให้ได้นานที่สุด

 เกมส์นี้อเมซิ่งมากค่ะ  เพราะในขั้นแรกนั้น รายการของที่ลูก ๆ "อยากมี" และ"อยากเป็น" นั้นยาวเหยียด
หน้ากระดาษเดียวแทบจะไม่พอ  แต่เมื่อเค้าได้รู้ว่า จะต้องเนรมิตแพ็คขวดน้ำและต้องยืนถือเอาไว้
ครูบิ๊กได้ยินเสียงบ่นออกมาว่า "งั้นเฟอร์บี้ไม่เอาก็ได้" แสดงว่าลูก ๆ เริ่มเห็น "ความหนัก" ของการครอบครอง
ครั้นเมื่อได้ครอบครอง (โดยการยืนแบกเอาไว้) หลายคนทนความหนักไม่ไหวก็ปล่อยขวดน้ำร่วงลงมา
ที่ว่า..อเมซิ่งคือ เมื่อไปดูว่า เด็กเนรมิตแพ็คขวดน้ำเป็นอะไรบ้าง อะไรหรือที่วัยรุ่นยุคนี้อยากได้
ก็คงหนีไม่พ้นวัตถุหรูหรา เช่น ไอโฟน ไอแพ็ด  ฯลฯ  แน่นอนว่า เมื่อสอบถามความรู้สึกของเด็กที่
ต้องแบกวัตถุเหล่านั้นไว้  ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "หนัก" และ "ทุกข์" และเมื่อ "วาง" มันลง
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นทันทีคือ "เบา" และ "มีความสุข"  อ๊ะ ๆ  เดี๋ยวก่อน..มันยังไม่หมดแค่นั้นน่ะสิคะ  ลูกปลื้ม ลูกโยคีคนหนึ่งตอบคำถามพระอาจารย์ว่า "ตอนแบกไว้มันหนักและเจ็บแขน แต่พอวางแล้วมันเบา แต่ก็ยังเจ็บแขนอยู่  เพียงแต่เจ็บน้อยลง" เข้าทางมาก ๆ ... พระอาจารย์จึงถอดรหัสว่า "ของบางอย่างตอนมีก็หนัก พอวางแล้วก็เบา แต่ยังเจ็บอยู่ เช่น มีบ้าน ต้องผ่อนบ้านก็เป็นทุกข์ บางคนผ่อนไม่ไหวบ้านโดนยึดไป แม้จะเบาแล้ว แต่ผลจากการผ่อนบ้านอาจจะยังทำให้เกิดทุกข์อยู่ เช่น หลายคนเสียชื่อเสียงเพราะไปกู้หนี้
ยืมสินเค้ามา หรือโดนเจ้าหนี้นอกระบบมาทวงด้วยวิธีการทำร้ายร่างกายก็มี"

ยังไม่หมดแค่นั้นค่ะ บางคนอยากเป็นพระอริยะ อยากเป็นคนดี อยากสอบได้ที่หนึ่ง ฟังดูเหมือนดีนะคะ แต่พระอาจารย์ท่านลึกซึ้งกว่านั้น ท่านถอดรหัสว่า "แม้อยากเป็นคนดีก็หนักใช่มั๊ยลูก"  ใช่เลยเจ้าค่ะ...โดนมาก ๆ

อีกกิจกรรมซึ่งเป็นที่จับตามองคือกิจกรรม "กระจกเงา" ทั้งนี้เพราะแขกรับเชิญของช่วงนี้ จะเปลี่ยนไปทุก
ซีซั่น และซีซั่นนี้ เราได้รับเกียรติจากเซเลบรุ่นจิ๋ว อายุเพียง 12 ปี ที่สำคัญเป็นหนุ่มลูกครึ่งพื้นเพระยองบ้านใกล้เรือนเคียงกับจันทบุรี  เจสซี่เป็นลูกครึ่งไทยเยอรมัน อยู่กับคุณแม่ชาวไทยแค่สองคน
แต่ปากกัดตีนถีบไม่ได้ย่อท้อต่อโชคชะตา ช่วยคุณแม่หารายได้โดยการตระเวนขายขนมเค้กที่ชายหาดบ้านเพ ด้วยลีลาเสนอขายที่เร้าใจไม่ซ้ำใคร หนุกหนานอย่างไรเจสซี่แสดงให้ดูด้วย
ไปชมภาพกันก่อนนะคะ

 คุณแม่กับเจสซี่ให้สัมภาษณ์ไว้อย่างน่าสนใจมากค่ะ แม่บอกว่า กอดคอกันร้องไห้อยู่บ่อย ๆ เวลาที่ไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียนให้เจสซี่ แต่เพราะความลำบากนี่กระมัง ที่ทำให้เราสองคนแม่ลูกรักกันมาก  แม่บอกว่า..
บางทีถ้าเราสองคนมีกินมีใช้ เราอาจไม่รักกันมากเท่านี้ก็ได้ 

เราถามเจสซี่ว่า ช่วยแม่ขายของไม่มีวันหยุด มีลูกค้าที่น่ารัก แต่ก็มีลูกค้าที่ไล่เรา ตะคอกเรา ด่าเรา เคยท้อบ้างไหม  เจสซี่ตอบว่า "วันนึงมากกว่าสิบครั้งครับ"  ท้อแต่ไม่ถอย ยังคงทำงานต่อไป จนกระทั่งทีมงาน
คนค้นคนมาเจอและนำชีวิตเจสซี่ไปออกรายการ  ชีวิตเด็กน้อยก็เปลี่ยนไปในชั่วข้ามชั่วโมง  เค้ากลายเป็นเซเลบตัวน้อยที่ทุกคนรู้จัก  แม้ภาพโดยรวมเค้าจะขายขนมเค้กได้ดีขึ้น แต่ก็ไม่วายมีคนพูดใส่หน้าว่า "เฮ้ย..ไม่ต้องไปซื้อมันหรอก มันดังแล้ว คงจะรวยสิท่า"  อ้าว...เป็นงั้นไป!!!  ตอนนี้เจสซี่มีงานในวงการบันเทิงเข้ามา ซึ่ง
จะว่าไปมีรายได้มากกว่าขายขนมเค้กอีก แต่แม่กับเจสซี่ก็ไม่เคยคิดจะเลิกขายขนมเค้กเลย  ยังคงหอบขนมขายเหมือนเดิม เพียงแต่ขอหยุดวันพุธเพียงหนึ่งวันต่อสัปดาห์เท่านั้น มีหนำซ้ำ เจสซี่ยังไปหางานพิเศษทำอีกงานหนึ่ง คือรับลงโปรแกรมมือถือและคอมพิวเตอร์ เพราะเจสซี่ชอบเรื่องเกี่ยวกับไอทีมาก
เค้าจึงคิดเปลี่ยนสิ่งที่เค้ารักให้เป็นรายได้   เราถามเจสซี่ว่า เจสซี่มีไอโฟนกับเค้าบ้างมั๊ย เค้าตอบว่า "สเป็คของไอโฟนคือ ........ (แล้วก็บอกสเป็คไอโฟนออกมาเป็นภาษาไอทีแบบรู้ลึก รู้จริง)  ผมว่าสเป็คแบบนี้เหมือนกับซัมซุงรุ่น...เป๊ะเลย แล้วจะเสียเงินแพงกว่าอีกตั้งสามสี่หมื่นทำไมล่ะครับ"
แสดงถึงความฉลาดในการบริโภคจริง ๆ ค่ะ  ที่สำคัญ มือถือและโน้ตบุ๊คที่เค้ามีนั้น เค้าซื้อด้วยเงินของเค้าเองด้วยค่ะ  คุณแม่ไม่ได้ซื้อให้แต่อย่างใด   ค่ายจิตสดใสฯ ขอปรบมือ และชื่นชมแนวคิดของเจสซี่ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ทุก ๆ คน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ได้เป็นอย่างดีค่ะ

อ่านมายาวเลย ... มาถึงกิจกรรมไฮไลท์จริง ๆ ของค่ายโยคีระดับมัธยม นั่นคือการเดินธุดงค์ค่ะ  ซีซั่นนี้
มีรสชาติถึงพริกถึงขิงเชียวค่ะ  เพราะเราไม่ได้เดินเส้นทางเดิมเหมือนค่ายที่ผ่าน ๆ มา ที่สำคัญ เส้นทาง
ใหม่นี้ เลียบชายทะเลจันทบุรีซะด้วย ไปจบที่วัดปากน้ำแขมหนูค่ะ  ตลอดเส้นทางมีการแวะพักทาน
ข้าวเช้า และหา RC เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเช่นเดิม 

ออกเดินทางจากเขาดินหนองแสงตั้งแต่ 5.30 น.  เดินทางไปวัดคลองขุด จุดปล่อยตัว

 ปล่อยตัวออกจากวัดคลองขุด 7.30 น.  จุดหมายคือวัดปากน้ำแขมหนู ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีก 11 กม. อุปกรณ์ยังชีพมีเพียง เป้ หมวก อาหารเช้าใส่กล่อง น้ำ 1 ขวด  และสมุดน้อยกับปากกาสำหรับนับก้าวเดิน
เพราะลูก  ๆต้องเดินกันด้วยสติ  นับทุกย่างก้าวที่ย่ำไป ด้วยใจที่เบิกบาน

 แวะพักทานข้าวเช้ากันตามความสะดวกของแต่ละกลุ่ม

 มีแรงแล้วก็ เดิน เดิน และเดินค่าาาาา

 เหนื่อยมั๊ยคะ...พักหน่อยแล้วกันเนอะ

 ลูก ๆ หา RC กันใหญ่เลย

 RC ในทริปนี้ ล้วนเป็นเรื่องราวของพ่อหลวงของเรา "รูปที่มีทุกบ้าน"

 เมื่อพบรูปของพ่อหลวงที่ใด  ลูก ๆ พร้อมจะกราบลง แม้พื้นจะร้อนและขรุขระเพียงไหน เพราะเราทราบ
ดีว่า เรามีผืนดินนี้เพราะใคร

 เดิน และเดินกันมานับสามสี่ชั่วโมง  ใกล้ถึงจุดหมายของเราแล้ว   "วัดปากน้ำแขมหนู"

 มาถึงวัดเวลาดี  เหนื่่อยขนาดนี้ มีผู้ใหญ่ใจดีนำน้ำมาให้ดื่ม พร้อมข้าวมันไก่แสนอร่อยค่ะ  เราได้พักทำ
การบ้านที่พระอาจารย์ให้ไว้  แล้วพักทานข้าวกลางวันกัน

 ส่งการบ้านพระอาจารย์ ว่าลูก ๆ เจริญสติระหว่างเดินได้ดีเพียงไร และเอาชนะอุปสรรคคือความร้อนและเหนื่อยได้อย่างไร

 หลังจากไหม้เกรียม..เอ๊ย..ดำกันถ้วนหน้า  เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกันสักหน่อย

 กลุ่มนี้จะเบิกบานไปไหน โชว์กิ๊ปวิเศษเสียด้วย!!!!

 หลายคนถามว่า จะ "เดิน" กลับเขาดินหนองแสงหรือไม่  คำตอบคือ "ไม่ดีกว่า"  เราก็ขึ้นรถบัสกลับกัน
เถอะนะ  เพราะมีกิจกรรมสำคัญรออยู่ในช่วงค่ำ  นั่นคือ "เรารักในหลวง"

 เรากราบถวายพระพร ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 และได้เขียนไปรษณียบัตร "ทำดีเพื่อพ่อ" เพื่อทูลเกล้าถวายเช่นทุก ๆ ค่ายที่ผ่านมา

 ต่อด้วยกิจกรรม "เคลียร์ใจ" เปิดพื้นที่พูดคุยอันอบอุ่น

 และแล้ววันที่ห้า .. วันสุดท้ายของค่ายก็มาถึง  เราได้ทำบุญแต่เช้าด้วยดวงดาวความดี  ไปรษณียบัตร
ทำดีเพื่อพ่อ  และข้าวขาวดั่งดอกบัว  ต่อด้วยการสวมบทบาทเป็นแม่กันดูสักครั้ง

ท้องกันดีกว่า

ถ่ายรูปหมู่กันแบบท้องโต

 ลอง

หอบท้องเล็ก ๆ ของเรานี้  ไปทำการงานดูซี  ว่าจะเป็นอย่างไร

 ฝ่ายคุณพ่อคุณแม่  ก็ทยอยกันมาลงทะเบียนและไปฟังพระอาจารย์เทศน์เรื่องธรรมะในครอบครัว

และได้ลงมานั่งสมาธิ และเดินจงกรม  ภาวนาร่วมกันทั้งครอบครัว  เป็นภาพที่น่ารักมากค่ะ

เข้าสู่พิธีการสุดท้าย  "พิธีกตัญญู" พร้อมส่งมอบลูกโยคี พร้อมกับต้นรักที่เค้าบรรจงดูแล คืนให้กับผู้ปกครองค่ะ

ก่อนจากกันไป  มีไปรษณียบัตร "ทำดีเพื่อพ่อ" ทุกใบเขียนได้น่าประทับใจ คัดมาบางส่วน เพื่อแบ่งปัน
ความจงรักภักดี ที่ชาวค่ายจิตสดใสฯ มีต่อพ่อหลวงของแผ่นดินค่ะ

 เช่นเดียวกันกับทุก ๆ ค่ายที่ผ่านมา ความเหนื่อยของพวกเราหายไป เมื่อได้เห็นภาพครอบครัวที่
แสนอบอุ่นกว่าห้าสิบครอบครัวในพิธีปิด ทุกคนมีความสุขและนำธรรมะของพ่อทางจิตวิญญาณ
ไปเพาะให้งอกงามที่บ้านและชุมชนต่อไป  ทีมงานทุกคนก็ขอตัวไปเตรียมปัดกวาดค่าย
เพื่อต้อนรับค่ายน้องเด็กประถม รุ่นที่ 41 ซึ่งจะเริ่มค่ายในวันรุ่งขึ้นก่อนนะคะ

ขอได้รับความขอบคุณจากทีมงานจิตสดใส วัยบริสุทธิ์ ด้วยพุทธปัญญา เช่นเดิมค่ะ

Create Date : 19 เมษายน 2556		8 comments
Last Update : 21 เมษายน 2556 22:44:24 น.
Counter : 2989 Pageviews.
Share Tweet