ตลอดช่วงเดือนนี้ เราได้หัดทำขนมหม้อแกงไปสี่ครั้งแล้วค่ะ ไม่ต้องแปลกใจนะคะว่าทำไมเราจึงมีรูปสำเร็จหลายแบบ หลายรูปเหลือเกิน ... หากโหลดช้า ก็ขออภัยนะคะ เพราะใส่รูปไว้เยอะ คือทำไว้แล้วก็อยากถ่ายรูปไว้ดูเปรียบเทียบแต่ละครั้งน่ะค่ะ









สูตรของคุณจุ๋ม - แม่สลิ่ม ค่ะ ใครที่ยังไม่เคยทำหม้อแกง เราแนะนำให้ไปเรียนที่นี่นะคะ ... เพราะคุณจุ๋มบอกวิธีไว้ละเอียดเหลือเกิน ขอบคุณคุณจุ๋มสำหรับสูตรอร่อยค่ะ .... เดี๋ยวจะบอกภายหลังนะคะ ว่าเราทำขนมนี้เนื่องในโอกาสไหนบ้าง ....




อุปกรณ์ที่จำเป็น


1. กระทะทองและไม้พาย สำหรับกวนขนม เราไม่มีกระทะทอง ก็ใช้หม้อกวนเทปล่อนเอาค่ะ ใครไม่มี ก็ไม่ใช่ the end of the world นะคะ อิอิ ใช้หม้อสแตนเลสธรรมดาก็ได้ ... แต่ระวังอุณหภูมิหน่อย อย่าให้ร้อนเกินไป

2. กระชอนและผ้าขาวบาง สำหรับกรองขนมก่อนจะกวน
(เรากรองผ่านแค่กระชอนตาถี่เอาค่ะ)

3. ถาดอลูมิเนียมสำหรับใส่ขนม

ถาดทีสามารถถอดก้นได้จะดีมากเลยค่ะจะช่วยให้เราตัดชิ้นขนมได้ง่ายและสวยค่ะ *** ใช้กระดาษอลูมินั่มฟอยล์ปูด้านล่างแล้วไล่ข้างขอบขึ้นมา ปูซัก 2 ชั้น กันขนมรั่วถาด ค่ะ


** ถ้าทำสูตรเดียวตามส่วนผสมข้างล่างจะพอดีกับ ถาดขนาด 8 x 8 นิ้ว ถ้าทำดับเบิ้ลสูตร ถาดขนาด 9 x 12 x 2 นิ้ว จะพอดีค่ะ




ส่วนผสมหม้อแกงเผือก







1. หัวกะทิ 400 กรัม
(คั้นจากมะพร้าว 350-400 กรัม - แต่เราใช้กะทิกระป๋องขนาด 400 มล. เอาค่ะ)

2. ไข่เป็ด 5 ฟอง
(เราใช้ไข่ไก่ทั้งหมดค่ะ - ไข่ไก่ที่นี่มีเปลือกสีขาว)
3. น้ำตาลปีบ 280 กรัม
4. เผือกนึ่งสุก 200 กรัม
5. แป้งข้าวจ้าว 10 กรัม
6. หัวหอมแดง 50 กรัม หรือมากน้อยตามชอบ
7. น้ำมันพืช 50 กรัม
8. ใบเตย 5 ใบ
(ใครไม่มีใบเตย คงต้องใช้วนิลาเอานะคะ ไม่งั้นไข่จะคาวค่ะ)




หมายเหตุ : กรณีทำเป็นหม้อแกงถั่วเหลือง - ให้เปลี่ยนส่วนผสมเผือกเป็นถั่วเหลืองบด ปริมาณเท่ากัน ขั้นตอนวิธีการทำก็เหมือนเดิมค่ะ .... รูปขนมที่ทำเสร็จในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นหม้อแกงเผือกผสมถั่วเหลือง ค่ะ ... ยกเว้นแบบในพิมพ์ถ้วยมัฟฟิ่น ที่เราทำประกอบบล็อกจะเป็นหม้อแกงเผือกค่ะ



วิธีทำ





1. เริ่มจากเอาน้ำมันใส่กระทะ ตั้งไฟกลาง อุ่นน้ำมันจนร้อนได้ที่ก่อน (ทดสอบ โดยการโรยชิ้นหอมลงไป เห็นน้ำมันเป็นฟองฟู่น้อย ๆ ก็ใช้ได้ค่ะ) ใช้ตะหลิวหรือพายไม้คนตลอดเวลา โดยกวาดหอมด้านขอบเข้าส่วนกลางกระทะ หอมจะได้ไม่ไหม้ค่ะ .... หอมจะชอบไหม้จากขอบก่อน


พอหอมเริ่มเหลือง ก็ใช้กระชอนโปร่งตักแล้วพักให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ แค่หอมเริ่มเหลืองก็ตักขึ้น เพราะหอมยังมีความร้อนสะสมอยู่ พอพักไว้ซักครู่ หอมก็เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น ... ใช้กระทะก้นลึกจะดีค่ะ หอมจะได้กรอบ ๆ อันนี้เป็นภาพจากที่ทำในครั้งแรก





2. ตักน้ำมันที่เหลือจากหอมเจียวแยกไว้ประมาณ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าทำดับเบิ้ลสูตร ตักไว้ซัก 2 - 3 ช้อนโต๊ะค่ะ) เราจะใช้ส่วนนี้ในช่วงท้าย ๆ (ใส่ในส่วนผสมขั้นสุดท้าย ก่อนนำไปกวนบนไฟ … ใส่เพื่อให้ขนมมีกลิ่นหอมและเนื้อนุ่ม)







3. หั่นน้ำตาลปึกให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ... น้ำตาลปึกที่นี่จะมาเป็นก้อนใหญ่แบบนี้ ค่ะ เสร็จแล้วเราก็นำไปบดในเครื่องบดอาหารให้ละเอียด เวลาผสมกับไข่จะได้ละลายง่าย ... บางคนอาจจะนำไปละลายในไมโครเวฟก่อนก็ได้นะคะ แต่เรายังไม่ได้ลอง และขี้เกียจรอให้เขาเย็นน่ะค่ะ ......







4. เตรียมเผือก ที่นึ่งสุกแล้ว เราใช้ที่บดมันฝรั่ง บดให้แตกก่อน แล้วใช้ส้อมยีให้เป็นครัมเล็ก ๆ ไม่ถึงกับละเอียดค่ะ เพราะเวลาทานเราชอบให้มีความรู้สึกว่าได้เคี้ยวชิ้นเผือกนิด ๆ ด้วยน่ะค่ะ ใครชอบละเอียด ก็ยีให้ละเอียดเลยนะคะ .... เสร็จแล้วก็ใส่แป้งข้าวเจ้าลงคลุก ใช้มือคนผสมให้เข้ากัน พักไว้ค่ะ (การใส่แป้งลงผสมเพื่อให้เผือกเกาะตัวกันดี กับส่วนผสมไข่ค่ะ)






5. ตอกไข่ใส่ชามผสมใบใหญ่ ๆ แล้วหั่นใบเตยลงกลบ ขยำใบเตยกับไข่ ให้ไข่ขึ้นฟูให้มากที่สุด ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เหตุผลของการขยำ เพื่อให้ขนมหอมกลิ่นใบเตยและทำให้ไข่ฟูค่ะ








จะได้ไข่ขึ้นฟองแบบนี้ค่ะ







6. เติมน้ำตาลปึกลงไป แล้วใช้มือขยำทั้งใบเตย จนน้ำตาลละลายเข้ากันกับเนื้อไข่
ใช้เวลาประมาณ 2 นาทีค่ะ






7. ใส่กะทิลงผสม ขยำให้เข้ากันอีกครั้ง จนส่วนผสมเข้ากันดี ประมาณ 1 – 2 นาที




+++++++++++++++

.... ก่อนทำขั้นตอนต่อไป ก็อุ่นเตาอบไว้ที่ 350 F หรือ 180 C … ค่ะ ไฟบนและล่างนะคะ

+++++++++++++++






8. นำส่วนผสมที่ได้ไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ ... ใครขยันก็กรองด้วยผ้าขาวบางนะคะ จะได้เนื้อหม้อแกงเนียน ๆ เราทั้งไม่มีผ้าขาวและไม่ขยัน ... ผ่านกระชอนพอ ... เราว่าเนื้อก็เนียนดีนะคะ ....






9. นำเผือกที่เราคลุกแป้งไว้แล้วลงผสม ใช้มือขยำ บี้ ๆ เผือก ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ขยำจนส่วนผสมเข้ากันดี






10. เทส่วนผสมลงในหม้อกวน ใส่น้ำมันจากหอมเจียวที่เราแยกไว้ลงไป คน
ผสมให้เข้ากัน แล้วนำไปกวน บนไฟกลาง กวนไปเรื่อย ๆ ให้พอข้น อย่า
หยุดมือ เราใช้เวลาประมาณ 3 นาที ครึ่ง ค่ะ .... เหตุผลของการกวน คุณ
จุ๋มบอกว่าเพื่อให้ขนมเป็นเนื้อเดียวและป้องกันไม่ให้ขนมแยกชั้นตอนอบ
(ส่วนไข่กะกะทิ) .... อย่ากวนนานไปนะคะ พอแป้งเริ่มข้นก็พอ ...







กวนให้เริ่มข้นประมาณนี้พอนะคะ







11. นำส่วนผสมไปเทใส่ถาดที่เตรียมไว้



วันนี้อยากทดสอบว่าถ้าใส่ถ้วยพิมพ์มัฟฟิ่นแบบนี้ แล้วขนมจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร (โดยการทาน้ำมันจากที่เหลือเจียวหอมให้ทั่วภายในพิมพ์ก่อน ทาให้หนาหน่อยค่ะ ไม่งั้นขนมติดพิมพ์ - ทำขั้นตอนนี้ก่อนทำขนม พักไว้ค่ะ)


ผลออกมาไม่ดีเลยค่ะ เอาขนมออกจากพิมพ์ได้ยาก ... เราชอบขนมหม้อแกงให้อยู่ในรูปตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมมากกว่า ได้อารมณ์ของการรับประทานมากกว่า .... ขนมไทยต้องทานในรูปลักษณ์เดิม ๆ นะคะ ถึงจะได้บรรยากาศ ...




12. นำขนมเข้าเตาอบที่วอร์มไว้แล้ว ... ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาทีค่ะ ... (ถ้าเป็นถาดอลูมิเนียม) ... ถ้าเป็นถ้วยมัฟฟิ่นแบบในรูปใช้เวลาประมาณ 25 นาที






13. พอขนมสุก ก็ทิ้งไว้ให้เย็นบนตระแกรง แล้วโรยด้วยหอมเจียว .... ตัดเสิร์ฟตามขนาดที่ต้องการ









ภาพข้างบนและล่างนี้ ทำไปฉลองวันชาติกับเพื่อน ๆ ค่ะ เราตัดใส่ถ้วยกระดาษมัฟฟิ่นเพื่อความสะดวกในการหยิบ ..... ทำดับเบิ้ลสูตร ขนมที่ได้ไม่ค่อยสูงเท่าที่ควร เพราะเราเอาสูตรจากที่อื่น มาประยุกต์ค่ะ อิอิ ใส่ไข่แค่แปดหรือเก้าฟอง จำไม่ได้ ....














แบบในถ้วยมัฟฟิ่น เนี่ย ... ที่จริงตอนอยู่ในเตาอบ เขาขึ้นฟูมาก ๆ เลยนะคะ ... อาจเป็นเพราะเราปิดเตาอบ แล้วยังค้างขนมไว้ในเตาประมาณ 2 นาที เอาออกมาพักให้เย็น เลยเหี่ยวเลย ...









อันที่เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋านี่ทำครั้งที่สามค่ะ เอาไปฝากพี่ที่ทำร้านอาหารไทยชิม ... ส่วนที่เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมยาว ๆ ไปฝากพี่เขาลองขายดู อิอิ ...


สูตรนี้พี่ที่เป็นมืออาชีพบอกว่าใช้ได้ทีเดียวค่ะ .... เขาบอกว่า จากที่ชิมมาหลาย ๆ ที่ (รัฐ) สูตรนี้ใกล้เคียงกับเมืองไทยมากทีเดียว :))










ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่มาทักทายนะคะ ... มีเวลาดี ๆ ทุกท่านค่ะ