ใส่หัวข้อแปลก ๆ เพราะเค้กนี้มีที่มาค่ะ ที่มาที่ทำให้เหนื่อยเอาเหมือนกัน เมื่อทำไปถึงค่อนทาง สมองสั่งการให้หยุดถ่ายภาพ ตัดสินใจว่าจะไม่เอาลงบล๊อก แต่เป็นเค้กวันเกิดสำหรับเพื่อนที่จะมาทานข้าวในวันรุ่งขึ้น ไม่สวยยังไงก็ต้องทำให้เสร็จ



จากภาพข้างบนมีใครทายถูกมั้ยคะว่าเค้กแต่งด้วยอะไร ไม่ใช่ ฟอนแดนท์ แน่นอนค่ะ ไม่คลั่งไคล้ ฟอนแดนท์ ขนาดนั้น รู้นะคิดอะไรอยู่ อิอิ ตอนนี้ยังไม่เฉลย ให้มาดูความยากลำบากก่อน เผื่อเพื่อนจะได้ความรู้จากการทำเค้กก้อนนี้ด้วย

สูตร เป็นของคุณแม่สลิ่มค่ะ เป็น chiffon cake ขอบคุณสำหรับสูตรและวิธีการทำอย่างละเอียดค่ะ

สำหรับพิมพ์ 2 ปอนด์ (ขออนุญาตคุณจุ๋ม copy นำส่วนผสมมาไว้ที่นี่ นะคะ อายจัง แสดงถึงความขี้เกียจ)

แป้งเค้ก 90 กรัม
น้ำตาลทรายป่น (1) 45 กรัม (ใส่ในส่วนไข่แดง)
น้ำตาลทรายป่น (2) 45 กรัม (ใส่ในส่วนไข่ขาว)
ไข่ไก่ 3 ฟอง
นมสดรสจืดหรือนมข้นจืด 35 กรัม
น้ำร้อนจัด 1/3 ถ้วยตวงของเหลว สำหรับชงชา
น้ำมันพืช 40 กรัม
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
ชาไทย 3 ช้อนโต๊ะ ชงกับน้ำร้อนจัด 1/3 ถ้วยตวงที่บอกไว้ด้านบน แล้วกรองเอาแต่น้ำชาเข้มข้น 35-40 กรัม

สูตรอย่างละเอียดคลิกที่นี่ค่ะ

วันนี้จะไม่อธิบายขั้นตอนมาก ถือเป็นการทำการบ้านส่งค่ะ แต่จะขออธิบายขั้นตอนที่มีปัญหา เผื่อจะเป็นข้อระวังสำหรับเพื่อนไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง

เตรียมชาเพื่อคั้นเอาน้ำ



ในรูปเอาชาใส่ filter เพื่อจะเอาไปกรั่นเอาน้ำ



คิดว่า เราใช้ coffee maker คงจะทุ่นเวลาได้มาก แต่ผิดค่ะ ผลออกมาได้สีชาไม่จัดมาก แม้จะใช้ตัวชามากกว่าสูตรอีก ใช้มือขยำแบบไทย ๆ ดีกว่านะคะ

ได้น้ำชาแล้วก็มาตีส่วนผสมไข่แดงและไข่ขาว

ส่วนผสมไข่แดงมี ไข่แดง+น้ำชาไทย+นมสด+น้ำมันพืช+แป้งเค้ก+ผงฟู+น้าตาลทรายป่น+เกลือ

ส่วนผสมไข่ขาวมี ไข่ขาว+ครีมออฟทาร์ทาร์ม+น้าตาลทรายป่น



แล้วผสมส่วนผสมทั้งสองให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ นำเข้าเตาอบได้ ผลออกมาเป็นดังนี้ ค่ะ



อืม ใช้ได้ หน้าไม่แตก แต่แปลกใจว่าทำไมเค้กไม่ฟูซักเท่าไหร่ จะตัดเป็น 3 ชั้นได้หรือเปล่าน้อ แล้วก็ทิ้งเค้กไว้ให้เย็น กลับไปทำความสะอาดอย่างอื่นรอ แล้วกลับมาดูเค้ก เค้กหน้ายุบค่ะ



แต่เช็คดูเนื้อเค้กใช้ได้ทีเดียว แต่คงตัดได้แค่ 1 layer ความหนาประมาณ 2 ซ.ม. ถ้าตัดให้ได้ 2 layerความหนาประมาณ 1 ซ.ม. ก็ไม่มีความสามารถพอ เลยมาทบทวนว่าเราทำอะไรผิดไป เหลือบไปเห็นถ้วยน้ำตาลทรายป่นสำหรับส่วนผสมในไข่ขาวยังนอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะ กรี๊ด (เป็นเสียง echo ในใจ - แต่ถึงร้องเสียงดังก็คงไม่มีใครได้ยิน เพราะเลยเที่ยงคืนแล้ว)
ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดนะคะ ว่าการที่เราลืมใส่น้ำตาลทรายป่นในช่วงที่ตีไข่ขาวนี้จะมีผลต่อโครงสร้างของตัวเค้ก ทำให้เค้กหน้ายุบได้ มีใครทราบเหตุผลไหมคะ อ้อเพิ่งนึกขั้นได้อีกอย่าง ไม่ได้ warm เตาไว้ตั้งแต่ต้น (ตอนทำยังไม่รู้ตัวหรอกค่ะว่าต้อง warm) ทำเค้กมาก็หลายที ส่วนใหญ่ก็ warm ก่อน แต่วันนี้ลืมและอ่านสูตรข้ามขั้นตอนไป

ทีนี้ก็เลยตัดสินใจทำเค้กใหม่ ได้เค้กดังรูป



แต่เชื่อมั้ยว่าเธอไม่รู้ตัวว่าต้อง warm เตาอีกครั้ง พอเสร็จจากเค้กก้อนที่ 1 ก็ปิดเตา คิดดูว่าเตายังจะอุ่นสำหรับเค้กก้อนที่สองอีกหรือ ขั้นตอนการผสมก็ใช้เวลานานพอสมควรอยู่แล้ว แต่คราวนี้ไม่ลืมใส่น้ำตาลทรายป่นในช่วงตีไข่ขาวแน่นอน แต่ไม่รู้ด้วยเหตุอันใดตีไข่ขาวไม่ขึ้น แปลกมาก คิดว่าระวังแล้วนา หรือว่าเป็นเพราะเครื่องตีมือถืออันใหม่หรือเปล่าไม่รู้ค่ะ เธอมีปุ่มกดเพิ่มพลัง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เลยไปกดดู สังเกตุเห็นว่าหลังจากนั้นตีไข่ขึ้นได้ไม่มากเลยค่ะ อืมอันนี้ก็แปลก คงต้องไปศึกษาคู่มือการใช้เครื่องไหม่ เค้กตัวที่สองตอนเอาออกมาจากเตาก็ดูดี มีปริมาณมากกว่าก้อนที่ 1 แต่ก็ไม่มาก พอทิ้งให้เย็นหน้าเค้กก็ไม่ยุบลงไปเท่าไหร่แต่เนื้อเค้กดูแน่น เชื่อว่าต้องเป็นเพราะตีไข่ขาวนานแน่ ๆ เคยอ่านเจอครั้งหนึ่ง
ถือว่าเป็นประสบการณ์ให้พึงระวังในการทำเค้กประเภทนี้นะคะ เอาล่ะ ได้ตัวเค้กแล้ว คิดว่าจำทำเค้กแค่ 2 layer พอสำหรับคืนนี้ เพราะไม่แน่ใจว่าหน้าเค้กที่จะทำต่อไปจะมีปัญหาหรือไม่

มาทำหน้าเค้กค่ะ

(ส่วนที่ 1)
ผงวุ้น 3/4 ช้อนชา วิธีการตวงคือ 1/2 ช้อนชา + 1/4 ช้อนชา
ผงชาไทยที่เหลือจากชงสำหรับทำตัวเค้กเมื่อกี้ และใส่เพิ่มไปอีก 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อนจัด 1 ถ้วยตวงของเหลว
นมสด 100 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
วิปปิ้งครีม 150 กรัม

(ส่วนที่ 2)
แป้งข้าวโพด 30 กรัม
นมข้นจืด 110 กรัม

(ส่วนที่ 3)
เนยสด (รสจืด) 100 กรัม

จัดแยกส่วนผสม เป็นหมวดหมู่ อย่างระมัดระวัง กะว่าจะไม่ให้มีข้อผิดพลาด ตามรูป



ได้หน้าเค้กตามรูปข้างล่าง นำไปราดบนตัวเค้ก ให้แปลกใจอีกว่าทำไมหน้าเค้กเราน้อยจัง แต่เอาน่า คงจะพอ (ปลอบใจตัวเอง) เพราะเราจะราดแค่ 2 layer เอง



ปรากฏว่าน้ำราดเหลือน้อยมาก สำหรับราดชั้นที่ 2 และขอบข้างเค้ก รู้สึกผิดหวังและเหนื่อย เพราะดึกมากแล้ว ราดหน้าเค้กชั้นบน ก็ดูดีอยู่นะคะ แต่หุ้มเค้กได้ไม่หมด ปริมาณไม่พอ ก็เลยไปเอาที่ีเกลี่ยแบบมีลายหยักมาเกลี่ยจนได้หน้าเค้กคลุมไปทั่วเค้ก แต่ได้เป็นแบบบาง ๆ เสร็จแล้วเหลือบไปเห็น ถ้วยเนยของส่วนผสมหน้าเค้กยังอยู่บนโต๊ะ ถึงบางอ้อว่าทำไมถึงได้หน้าเค้กไม่พอ เรื่องนี้เป็นข้อสอนใจว่าอย่าทำเค้กตอนที่เราเหนื่อยมาก จะทำให้เราเบลอและหลงลืมค่ะ

Tha show must go on. ค่ะ ด้วยความที่ไม่ยอมแพ้ของตน ก็คิดจะทำหน้าเค้กใหม่ แต่ทำไงดีไม่มีวิปปิ้งครีมเหลือ มีนมข้นจืดเหลืออยู่ 1 กระป๋อง เอาแทน วิปปิ้งครีมแล้วกัน อ้าวแป้งข้าวโพดก็หมดแล้ว เอาไง ใช้แป้งมันแทนแล้วกัน คิดตกดังนั้นก็เริ่มทำหน้าเค้กใหม่ทันที ต้องการแก้เค้กให้ดูดีขึ้นน่ะค่ะ แต่ผลปรากฏว่าหน้าเค้กที่ได้เหนียวมาก ก็เลยไม่ได้การหรอก ตัดสินใจทำหน้าเค้กใหม่ครั้งที่ 3 คราวนี้ไม่มีแม้กระทั่งนมข้นจืด ใช้นมสดแทนส่วนผสมของนมและวิปปิ้งครีมทั้งหมด และเปลี่ยนเป็นใช้แป้งสาลีธรรมดาแทนแป้งข้าวโพด ผลออกมารสชาติใช้ได้ค่ะ แต่คิดว่าหน้าเค้กคงไม่เด้งหรอก แต่ก็คงทำให้เค้กดีขึ้น ก็เอาไปราดเค้กแล้วเอาการ์ดขอบหยักแต่ง รูปร่างเค้กก็ค่อยยังชั่วขึ้น

หัวคิดยังไม่หยุดทำงาน (อย่าเพิ่งเบื่อนะคะว่าทำไมพูดยาวจัง) มานั่งนึกถึงวิธีแต่งเค้กให้ดูดีขึ้น ก็นึกถึงวุ้นกะทิขึ้นมา ฮั่นแน่ รู้แล้วใชมั้ยคะว่าใช้อะไรในการแต่งเค้ก ไม่ขอลงสูตรวุ้นวันนี้นะคะ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ด้วย เพราะแค่นี้ก็ยืดยาวมากแล้ว แต่อ่านให้หน่อยเถอะค่ะ วุ้นนี้ทำไม่ยากหรอกค่ะ วันหลังจะเอาวิธีทำมาลง สูตรนี้อร่อย ทำวุ้นเสร็จแล้ว ทิ้งไว้ให้เย็นสักครู่ ก็นำเข้าตู้เย็น เสร็จแล้วก็เข้านอนด้วยความเหน็ดเหนื่อย............

วันรุ่งขึ้นมาตกแต่งเค้กด้วยวุ้น ได้เค้กดังนี้ค่ะ



ไม่แพ้ Fondant เลยค่ะ แถมอร่อยอีกต่างหาก สามารถเปลี่ยนสีได้ด้วย โดยการนำวุ้นขาวกลับไปต้มแล้วใส่สีที่ต้องการลงไป ทิ้งไว้ให้เย็น หรือนำเข้าตู้เย็นเลยก็ได้ ทิ้งไว้ซัก 5-10 นาที ก็ได้แล้ว เป็นการค้นพบโดยบังเอิญทีเดียวค่ะ
ไม่เสียแรงกับความเหนื่อยยากเมื่อคืนนี้ รสของวุ้นไปกันได้ดีกับเค้ก ต่อไปคงจะนำวุ้นไปแต่งเค้กหลาย ๆ แบบแน่ค่ะ

ขออีกรูปค่ะ ให้สมกับความยากลำบากในการทำ



ทำลายง่าย ๆ เพราะรีบ ทำแถบข้างไม่ปราณีตเท่าที่ควร และเทวุ้นค่อนข้างบางไป ถ้าได้ ขนาดหนา 3 ม.ม. คงจะดี

รูปถูกตัดที่ Party ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ค่ะ แต่เพื่อน ๆ ว่าอร่อย ตัวเองก็คิดว่าอร่อยนะคะ



อันนี้ เหลือ 1 ชิ้น นำมาถ่ายรูปในวันรุ่งขึ้น ลืมเอาเข้าตู้เย็นหน้าแห้งเชียว



อืมไว้แก้ตัวคราวหน้่าแล้วกัน จะต้องทำอีกแน่ ๆ เค้กชาไทยอร่อยดีไม่แพ้เค้กชาเขียวนะคะ คนไหนยังไม่เคยลองทำ ทำดูนะคะ the end สำหรับวันนี้