Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
2 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
ปาท่องโก๋......ตามมีตามเกิด ประสาแม่บ้านญี่ปุ่น

สวัสดีค่ะ....เพื่อน ๆ ที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมทุกท่าน

กระทู้นี้....เป็นกระทู้ที่ใช้เวลาในการเขียน (ดองเอาไว้) นานสุด ๆ เพราะต้องเป็นนู๋ทดลองทำแล้วชิม ปรับส่วนผสมจนพอเอาออกงานมาโชว์โฉม ไม่ทำให้เจ้าของหน้าแตกเป็นเสี่ยง ๆ ...อิอิ เพิ่งได้ฤกษ์คลอดกะเค้าเสียที

จัดให้ตามรีเควสแล้ว โดยเฉพาะเพื่อน ๆ ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ถ้าไม่มีการบ้านมาส่ง....ละก้อ ฮึมมมมม ๆๆ ....เป็นได้ตามไป ถึงบ้านกันทีเดียวเชียวแระจ้า เพราะทำให้เราเครียดเล็ก ๆ อีกทั้งบางคน...ก็ได้รับแบ่งส่วนผสมสำคัญ คือ แอมโมเนีย (เช้าเก่า) ไปเก็บกักตุนกันไว้นานแล้วด้วย ขอบ่นหน่อยว่า......อ้ายตอนที่ชั่งตวงวัด แบ่งใส่ถุงนั้น....คนชั่งลมแทบจับ เพราะกลิ่นของมาน โคดตระเหม็น สุด ๆ ทีเดียวเชียวแระจ้า

ก่อนเข้าเรื่อง....ขอเป็นแมงโม้หน่อยนะค้า ตอนที่ได้กลับไปเที่ยวเมืองไทยเมื่อหลายปีที่แล้ว เจ้าตัวแสบได้ชิม ปาท่องโก๋ จิ้มนมข้นหวาน , ทานคู่กับโจ๊ก พอพวกกลับมาถึงญี่ปุ่น ก็ร่ำร้องอยากกินอีก เพราะเกิดติดใจ คราวนี้....ก็เดือดร้อนแม่มานละจิ แต่เพื่อลูกสุดที่ร๊าก แม่มานก็ต้องมานั่งหัวฟู เสริท์หาสูตรจากเนท ซึ่งกว่าจะได้สูตร+ลงมือทำจริง ๆ นั้น.....ก็มัวแต่ไปหลงอยู่ที่ "ตำนานปาท่องโก๋" เสียเพลินเชียวค้า ก็เรากินมาตั้งแต่สมัยวัยละอ่อน แต่ไม่เคยรู้ที่มาที่ไปของมันเลยเนอะ ขอก๊อบบางส่วนมาให้เพื่อน ๆ อ่านเล่นด้วยกันนะค้า

ปาท่องโก๋..... เป็นอาหารที่ทำจากแป้งสองชิ้นประกบกันแล้วทอด นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า ปาท่องโก๋ ที่คนไทยเรียกกันนั้น ในภาษาจีน เรียกว่า อิ่วจาก้วย โดยมีที่มาจาก สมัยราชวงศ์ซ้อง ที่มีขุนนางกังชิน ชื่อว่า " ฉินข้วย" หรือ "ฉินฮุ่ย" มีความอิจฉาริษยา นายทหาร "เยียะเฟย" หรือ แม่ทัพงักฮุย จึงได้วางแผนให้ฮ่องเต้เรียกตัวงักฮุยกลับจากแนวหน้า และ ฉินข้วย ทำให้เขาถึงแก่ชีวิตในเวลาต่อมา ข่าวล่วงรู้ไปถึงประชาชนจึงโกรธแค้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ช่วงนั้น ชาวจีนนิยมรับประทานแป้งทอดอยู่แล้ว และได้มีคนคิดเอาแป้งสองชิ้นมาประกบกันเพื่อเป็นตัวแทนขุนนางกังฉิน และภรรยาแซ่หวัง แล้วนำมาทอดกินเพื่อระบายความแค้น เรียกว่า “โหยวจ้าข้วย” หมายถึง น้ำมันทอดฉินข้วย [1]

ส่วนที่คนไทย เรียกว่า ปาท่องโก๋ นั้น เพราะจำมาผิด เนื่องจาก สมัยก่อนชาวจีนที่ขายปาท่องโก๋ (ขนมน้ำตาลทรายขาว) มักจะขาย อิ่วจาก้วย ด้วย พอคนขายตะโกนขายปาท่องโก๋ จึงเข้าใจว่า ปาท่องโก๋ คือ แป้งทอดอิ่วจาก้วย นั่นเอง [2]

ถ้าเพื่อนสนใจอยากอ่านเรื่องราวตำนาน "ปาท่องโก๋" ต่อ.....ตามไปอ่านได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ //gotoknow.org/blog/beesman/11362 ขืนให้เอามาแปะหมด คงไม่ได้กินแน่นอน

พอลองทำ (ตามสูตรที่หาได้จากเนท) ก็พอได้หม่ำให้หายคิดถึงได้ จนอดโม้ (ทางเอ็ม) กะน้องสาว (ลูกพี่ลูกน้อง) ไม่ได้ว่า....

"เจ้ทำปาท่องโก๋ กินเองเป็นแล้วนะ"
น้องก็ตอบกลับมาว่า...."อาเค้าก็ทำขายเป็นอาชีพมานานหลายปีแล้ว"
อ๊าว.....จุดใต้ตำตอจริง ๆ รีบบอกน้องทันที ให้ขอสูตรจากอาให้หน่อย

สำหรับสูตรต้นฉบับของอานั้น....ไม่ได้รับอนุญาตให้นำมาโพส เพราะเค้าต้องไปเสียกะตังค์หลักหมื่นเรียนมา ทำเป็นอาชีพรายได้ดี + เก็บค่าสอนวิชาให้คนอื่นต่อได้อีกด้วย แต่....มันต้องมีซิคะ เพราะส่วนผสมต่าง ๆ นั้น....พอมาอยู่ไกลบ้านอย่างเรา มันหาตามสูตรแป๊ะ ๆ ไม่ได้เอาเสียเลย ก็จำเป็นต้องเป็นนู๋ทดลอง ซึ่งก็หมดแป้งไปหลายกิโลเชียวแระค้า....กว่าจะได้สูตรที่อร่อยสมใจ จนสามารถนำมาโพสได้นี้ ....ขอขอบคุณ ทุกท่านที่ได้กล่าวไว้เบื้องต้น ที่สามารถทำให้ได้ทาน ปาท่องโก๋ แสนอร่อย เป็นที่ถูกอกถูกใจของสมาชิกในบ้าน + เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่นำไปแจกให้ช่วยเป็นนู๋ทดลอง

เรามาเข้าครัว เตรียมทำ ปาท่องโก๋ สูตรไกลบ้าน (แม่บ้านญี่ปุ่น) กันดีกว่านะคะ

ส่วนผสม ......ได้แป้งสดประมาณ 1,750 - 1,800 กรัม

แป้งเค้ก - ฮะคุริคิโกะ (Hakuriki ko - 薄力粉)..... 300 กรัม
แป้งทำขนมปัง - เคียวริคิโกะ ( Kyoriki ko - 強力粉)...... 700 กรัม

หรือจะใช้

แป้งสาลี - โคมุงิโกะ (Komugi ko - 小麦粉)...... 400 กรัม
แป้งทำขนมปัง - เคียวริคิโกะ ( Kyoriki ko - 強力粉)...... 600 กรัม

นำแป้งทั้ง 2 ชนิด มาผสมกันรวมกัน แล้วร่อนด้วยตะแกรง เพื่อให้แป้งผสมกันได้ดี และมีความเบาขึ้น



แป้งที่ร่อนเตรียมไว้



ส่วนผสมน้ำเชื้อ

ไข่ไก่........ 1 ฟอง ( 52 กรัม )
เกลือป่น....... 1 ช้อนโต๊ะ ( 12 กรัม )
น้ำสะอาด......... 600 - 620 ซีซี *
น้ำตาลทราย..... 4 ช้อนโต๊ะ ( 32 กรัม)
แอมโมเนีย (เช้าเก่า)........ ½ ช้อนชา
โซดา (ทันซัน).......... 1 ช้อนโต๊ะ ( 16 กรัม)
ผงฟู....... 2 ช้อนโต๊ะ ( 20 กรัม)
ยีสต์...... ½ ช้อนชา (3 กรัม)
น้ำมันพืช....... 2 ช้อนโต๊ะ ( 24 กรัม )

* รายละเอียดของส่วนผสม ถ้าอยากทราบเพิ่มเติม ตามไปชมต่อได้ที่นี่ค่ะ แป้งต่าง ๆ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบอาหาร และ ขนม , ส่วนประกอบสำหรับการทำขนม+เบเกอรี่

แอมโมเนีย (เช้าเก่า)......เป็นส่วนผสมสำคัญ ที่ญี่ปุ่นหาซื้อแบบผงไม่ได้เลยค่ะ เคยลองใช้แบบน้ำมาลองทำดูแล้ว มันไม่เวิรค์เอาเสียเลย ตัดสินใจให้พี่สาวซื้อที่เมืองไทย แล้วส่งทางไปรษณีย์มาให้ ราคาถุงหนึ่ง บรรจุ 1 กิโล ราคาแค่ 30 บาทเอง (เค้าไม่มีแบบถุงเล็กกว่านี้) ถูกมั๊ก ๆ แต่ที่เข็ดขยาดจนถึงทุกวันนี้....ก็ครือค่าส่งนะค้า ราคารวมของทั้งหมด ที่ให้พี่สาวซื้อ (มีเพิ่มพวกพริกแกงต่าง ๆ อีกไม่มาก) จับใส่กล่องส่งมาให้ รวมแล้วไม่ถึง 500 บาท แต่เจอค่าส่งไป 1,600 กว่าบาท ตอนที่ไปรษณีย์มาถึงบ้าน เห็นแสตม์ที่ติดเต็มพรืดหน้ากล่องแล้ว... ช๊อคซีนีม่า ไปเมื่อไหร่ ค่อยซื้อมาตุนดีกว่าเนอะ



เพื่อน ๆ เคยรู้สึกมั้ยคะ? ว่าเวลาเราไปซื้อปาท่องโก๋ที่เค้าทอดขายนั้น จับเข้าปากกัดปุ๊ป มันมีกลิ่นเหม็นตุ๋ย ๆ (กลิ่นของแอมโมเนีย) ทำให้หมดความรู้สึกอยากกินไปทีเดียว จากที่ได้ลองทำเองหลาย ๆ ครั้งแล้ว พอจับจุดได้ กลิ่นอันไม่พึงประสงค์นี้ หายไปเลยค้า

วิธีการเตรียมส่วนผสมของน้ำเชื้อ

น้ำสะอาด (อุ่นหน่อย อุณหภูมิประมาณ 40 องศา) 600 ซีซี (น้อยไว้ก่อนดีกว่า เพราะแก้ง่าย ตอนนวดแป้ง ค่อยสังเกตุดูว่าแป้งแห้งไปหรือเปล่า ถ้าแห้ง ก็ค่อยหยอดน้ำเพิ่มทีละ 1 ช้อนโต๊ะ) ใส่น้ำตาลทราย + ยีสต์ ลงไปคนให้ละลาย (ได้เช็คดูว่ายีสต์ยังทำงานอยู่หรือเปล่า?) ใส่ แอมโมเนีย + โซดา + ผงฟู คนให้เข้ากัน เติม เกลือ +ไข่ไก่ (ที่ตีให้แตกแล้ว) คนให้เข้ากัน ใส่น้ำมันพืชเป็นอันดับสุดท้าย คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จะได้น้ำเชื้อแบบนี้ค่ะ



ถ้าที่บ้านเพื่อน ๆ มีแม่สองแขน ยกออกมาใช้งานได้เลยนะคะ เพราะทุ่นแรงงาน (แจ๋ว) ไปได้เยอะเชียวค่ะ โดย..เทน้ำเชื้อที่ผสมไว้ ลงไปในแป้งที่ร่อนแล้ว ทิ้งไว้สัก 2-3 นาที เปิดสวิตท์เครื่องให้ทำงาน ใช้สปีดต่ำสุด (ใช้หัวตะขอ สำหรับนวดแป้ง)



ระหว่างที่เครื่องนวดแป้งให้นั้น ใช้ไม้พายช่วยปาดข้าง+ก้นอ่างด้วย ส่วนผสมจะได้เข้ากันได้ดี



ในกรณี...ที่ไม่มีเครื่องทุ่นแรง ก็สามารถใช้มือของเราเนี่ยแระ นวดได้เช่นกัน ได้ออกกำลังแขนกันพอควร...อิอิ



นวดแป้งแบบอโรมา โดยใช้วิธีนวดโกยขึ้น แล้วหมุนกะละมังช่วย นวดเคล้าเบา ๆ อย่าออกแรงกดเหมือนการนวดขนมปังนะคะ นวดจนแป้งเนียน ไม่ติดมือ ใช้เวลาในการนวดประมาณ 15-20 นาที



แป้งที่นวดได้ที่แล้ว



* - ระหว่างที่นวดแป้ง ถ้าแป้งแห้ง ก็เติมน้ำสะอาด (อุ่น) ทีละ 1 ช้อนโต๊ะ

- ถึงแม้นว่าจะใช้เครื่องทุ่นแรงในการนวด ก็ควรใช้มือจับดูเนื้อแป้งด้วย จะได้รู้ถึงความยืดหยุ่นของแป้งค่ะ


พักแป้งทิ้ง โดยใช้ผ้าบาง ๆ ชุบน้ำบิดหมาด ๆ หรือจับใส่ถุงพลาสติกผูกปาดให้แน่น เพื่อไม่ให้แป้งแห้ง แต่ควรมีเนื้อที่เหลือไว้ให้แป้งหายใจ (ขึ้น) ทิ้งไว้ในห้องอุณหภูมิปรกติ (หน้าร้อนของญี่ปุ่น) ประมาณ 6-8 ชั่วโมง

*แต่ถ้าเป็นช่วงที่หน้าหนาว....ส่วนใหญ่จะทำตอนค่ำ ๆ จับยัดไว้ใต้โต๊ะ "โคตัททสึ" ช่วงที่เรายังไม่นอน พอจะเข้านอน ก็ปิดสวิทต์ไฟฟ้า แต่ก็ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น จนถึงเช้า



วิธีสังเกตง่าย ๆ .....ว่าเราพักแป้งได้ที่แล้วหรือยัง? เพราะถ้าแป้งยังพักไม่ได้ที่ แล้วรีบนำไปทอด ปาท่องโก๋จะเนื้อแน่นแข็ง ให้ดูได้จากแป้ง จะเห็นว่ามีฟองอากาศปุดขึ้นมามากอย่างนี้ค่ะ



ชุดแรก ๆ ที่นำแป้งสดเอาไปให้น้อง ๆ ที่อยู่ในญี่ปุ่น....ช่วยกันติชม บรรจุใส่กล่องสวยงาม



เป็นช่วงหน้าร้อน กว่าจะแยกย้ายกันกลับ แป้งก็ขึ้นอืดได้ที่



ก่อนที่จะตัดแป้งควรเตรียมกระทะ ใส่น้ำมันพืช ตั้งไฟเอาไว้รอท่าก่อน น้ำมันจะได้ร้อนได้ที่พอดีกับที่เราทำเสร็จ

ตัดแบ่งแป้งมาวางบนโต๊ะ โรยด้วยแป้งสาลี (แบบไหนก็ได้) บาง ๆ กะแค่พอไม่ให้แป้งติดมือเท่านั้นก็พอนะคะ เพราะถ้าเราใช้แป้งสาลี (แป้งนวล) มากเกินไป จะทำให้น้ำมันขุ่นเร็วขึ้น



รูปต่อจากนี้.....ต้องขอบคุณน้องเอ็ม (Omiya) ที่ช่วยบรรทุกภาพเก็บไว้ให้ แล้วได้ส่งรูปมาให้ เพราะถ้าทำเองที่บ้าน คงไม่มีปัญญาถ่ายรูปได้ครบทุกช๊อตแบบนี้เป็นแน่แท้ มีนัดเม้าท์กันที่บ้านน้องเอ็ม ตอนเช้า....พอจัดการอาหารเช้าเสร็จ ก็ลงมือทำแป้งปาท่องโก๋ หอบหิ้วเอาแป้งสดไป โชคดีที่เป็นช่วงหน้าร้อน ก็เลยใช้เวลาในการพักแป้งไม่นาน ไปถึงบ้านน้องเอ็ม ทำอาหารเที่ยง ทานกันจนอิ่มตื้อ พออาหารเก่าเริ่มย่อย แป้งก็ขึ้นอืดได้ที่พอดิบพอดีเชียวค้า จัดการถลกแขนเสื้อลงมือทอดทานกันต่อ....อิอิ

ใช้มือตบแป้งเบา ๆ ดึงให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/2 เซนติเมตร อย่าให้แป้งหนามากเกินไป เพราะจะทำให้แป้งเนื้อแน่น หั่นตัดแป้งเป็นชิ้น ขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว (กะเอาด้วยสายตา แต่ควรให้แต่ละชิ้นมีความกว้างเท่า ๆ กัน) ใช้ตะเกียบแตะน้ำตรงกลางของชิ้นแป้ง ชิ้นเว้นชิ้น



จับชิ้นแป้งประกบติดกัน (ชิ้นที่แตะน้ำ+ไม่แตะน้ำ) ไม่ต้องบีบแป้งแน่น เพราถ้าเราบีบแป้งแน่นเกินไป จะทำให้ขนมไม่กางตัวออกมาเวลาทอดค่ะ



ความร้อนของน้ำมัน.....ที่จะทอดควรใช้ ไฟปานกลาง เพราะถ้าใช้ไฟแรงเกินไป จะทำให้ผิวของปาท่องโก๋ มีสีไม่สวยสม่ำเสมอ (อาจกลายเป็นนิโกรไปก็ได้) อีกทั้งผิวด้านนอกนิ่ม ไม่กรอบ

วิธีการเช็ค.....ว่าน้ำมันร้อนได้ที่แล้วยัง?...ให้ตัดแป้งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไป ถ้าแป้งลอยตัวขึ้นมาทันที ก็แสดงว่าน้ำมันร้อนได้ที่ พร้อมที่จะทอดได้

จับชิ้นแป้งที่เราประกบไว้ ดึงยืดเบา ๆ



หย่อนแป้งลงในกระทะน้ำมัน พอแป้งลอยขึ้นมา ใช้ตะเกียบพลิกกลับไปกลับมา จะช่วยทำให้แป้งแห้งฟู และ พองตัวดี ขอบคุณ...คุณรัตน์ที่เป็นผู้ช่วยในการทอดครั้งนี้ด้วยนะจ้า



ข้อควรระวัง.....อย่าใส่แป้งปาท่องโก๋ ในการทอดแต่ละครั้ง มากเกินไป ควรเหลือเผื่อเนื้อที่ให้มันขยายตัวด้วยค่ะ



จากสูตรที่ได้มานั้น.....เค้าแนะนำให้ใช้น้ำมันปาล์มในการทอด แต่ที่ญี่ปุ่นหาซื้อไม่ได้ค่ะ ก็ใช้น้ำมันพืชที่ขายตามซุปเปอร์ฯ ทั่วไป มาโดยตลอด ส่วนน้ำมันที่เหลือในการทอดแต่ละครั้ง ก่อนที่จะเก็บหรือจะนำมาใช้ทอดต่อนั้น ควรกรองด้วยกระดาษกรองน้ำมัน (คิดว่า....เพื่อน ๆ ทุกคนก็คงทำกันอยู่แล้วนะคะ)

อันที่จริง.....น้ำมันที่ผ่านการทอด (ความร้อน) หลาย ๆ ครั้ง มันไม่ค่อยดี เพราะจะเกิดสารพิษสะสม ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรใช้ซ้ำเกิน 2-3 ครั้ง ยอมสิ้นเปลืองหน่อย แต่ก็ดีต่อสุขภาพของเราค่ะ

ทอดให้สีออกเหลือง ตักขึ้น วางบนตระแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน



สุกพร้อมหม่ำแล้วค้า วันนั้น......น้องโอ๋ เค้าเตรียมพร้อม หอบหิ้วนมข้นหวานตราหมี มาให้จิ้มกันด้วย หอม หวาน อร่อยกว่านมข้นหวานของญี่ปุ่นเยอะเชียวจ้า กลับไปเมืองไทย พยายามไปตระเวณหาอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ยักจะมีขายแล้ว



คืนไหน ที่ทำแป้งปาท่องโก๋...ทั้งคุณพ่อ+ลูก (ที่พวกรู้ ก็เพราะเตะกะละมังใต้โต๊ะ..อิอิ) มื้อเช้าเป็นต้องได้เหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกเท่า เค้าจะรีเควส ขอ "โจ๊กหมูใส่ไข่" ทานคู่กับปาท่องโก๋ร้อน ๆ ยิ่งทานตอนหน้าหนาวแบบนี้ อาหร่อยอย่างบอกครายเชียวค้า

ถ้ามีเวลามากหน่อย....ก็จะเอามาปั้นให้เป็นเส้นกลมเล็ก ๆ ทอดจนกรอบ เก็บเอาไว้ทานแบบ "เต้าฮวย+น้ำขิง" ใช้ โดยใช้เต้าหู้อ่อนเนื้อนิ่ม (คินุโทฝุ) ซึ่งพอทดแทนแก้อยากได้ ซดคล่องคอ แก้หวัด หายหนาว อร่อยไปอีกแบบค่ะ

ทอดเป็นเส้นเล็ก ๆ กรอบ ๆ แบบนี้ค้า



***ขอปิดการให้ Comment ในกระทู้นี้ไว้แค่นี้ก่อน***

หากเพื่อน ๆ ท่านใดมีความประสงค์ อยากเพิ่มเติม , ติ ชม หรือมีคำถามใด ๆ กรุณาแวะไปฝากข้อความไว้ได้ที่นี่ค่ะ

♥♥♥ Guestbook .....เล่มที่ 4 ♥♥♥

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และขออภัยในความไม่สะดวก ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ




Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2554 6:49:10 น. 10 comments
Counter : 21430 Pageviews.

 
เก่งจังค่ะ น่าทานมากเลย ดูดีกว่าที่เค้าขายๆกันอีกนะคะ


โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:32:56 น.  

 
ท่าจะกรอบนอก นุ่มในนะค่ะ อยากทำบ้างแล้วซิ


โดย: yanipa IP: 112.142.138.247 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:01:21 น.  

 
เก่งมากเลยคะ ทำทานเองได้
น่าทานด้วยนะ เหมือนที่เค้าขายเลย


โดย: แม่อ้วนใจดีที่สุด วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:02:41 น.  

 


โดย: ตาอ้วนชวนคุย วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:21:41 น.  

 
อยากกินจังคะ ชอบจังเลย


โดย: มิคุริ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:10:06 น.  

 
พี่เต่าเก่งจังเลยค่ะ เคยอยากทำเหมือนกันแต่อยู่เมืองไทยทุกอย่างพร้อมซื้อกินได้ พอคิดจะเริ่มทำก็นึกถึงร้านแถวบ้านทุกที ปั่นจักรยานไปซื้อก็ได้กินของอร่อยแล้ว แถวบ้านมีร้านนึงขายดีมากค่ะ เป็นแบบเกลียว คนเข้าคิวซื้อกันเลยทีเดียว เห็นแล้วอยากขายมั่ง อิอิ

ระวังอย่าไปดมแอมโมเนียนะคะ มันจะทำลายโพรงจมูกค่ะ


โดย: เจซอง วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:56:08 น.  

 
นี่ขนาดตามมีตามเกิดนะค่ะเนี่ย ยังน่ากินเลย oishiisou desune!!!!


โดย: currywurst วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:21:15 น.  

 
ได้ น้ำหนักเพิ่มมากี่โลค่ะ
เห็นว่าหมดแป้งไปหลายโล
แล้วเจ้าตัวแสบได้แอบช่วยชิมบ้างมั้ยค่ะ


โดย: ซามอ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:54:37 น.  

 
คิดถึงพี่เต่าจังค่ะ ทำปาท่องโก๋ออกมาน่ากินมากเลยค่ะ แอ๋วคงไม่มีความสามารถขนาดนั้น อยากกินก็ขี่แมงกะไซด์ไปซื้อกินที่ปากซอยเอา อิอิ ไว้พี่เต่ามาเมืองไทยมะไหร่ เด๋วจะพาไปหม่ำที่ร้านป๋าต๊อบ ชื่อร้าน Kanom ค่ะ ปาท่องโก๋เค้าจะอร่อยมั๊กมาก แต่จะขายกลางวันตอนเช้าไม่ขาย ไม่รู้พี่เต่าเคยไปทานรึยังนะคะ


โดย: Aly IP: 125.24.229.15 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:59:45 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาช่วยชิมนะคะ

เจซอง....ถ้ายังอยู่เมืองไทย พี่ก็คงไม่ขวนขวายทำลองเหมือนกันหรอกจ้า แต่พอทำเป็นแล้ว กลับไปเมืองไทย...พอเห็นที่เค้าทอดขาย ยี้...น้ำมันดำปี๋ กลับกลายเป็นว่าไม่กล้าซื้อมากินไปเสียอย่างนั้น // ขอบใจที่เตือนเรื่องแอมโมเนียนะจ๊ะ

คุณซามอ.....ตัวเองไม่ได้น้ำหนักเพิ่มหรอกค้า เพราะส่งไปให้นู๋ (ทดลอง) หลายคนช่วยกันอ้วนแทน...อิอิ ส่วนเจ้าตัวแสบไม่มีการแอบค่ะ ก็พวกช่วยทอด แล้วก็กิน ถ้าไม่ห้ามไว้เป็นหมด

นู๋แอ๋ว-Aly....คิดถึงเหมือนกันจ๊ะ พี่ก็ยุ่งหัวฟูกับเรื่องเตรียมสอบของเจ้าตัวแสบ ไม่ค่อยมีเวลาได้แวะเวียนไปบ้านโน้นเลย ส่วนร้านป๋าต๊อบ (ร้าน Kanom) ยังไม่เคยไป+ชิมจ้า รู้ตัวว่าจะได้ไปเมืองไทยเมื่อไหร่ จะรีบแจ้ง (ล๊อคตัว) เอาไว้ล่วงหน้าทีเดียว เห็นแก่กิน เจ้าตัวน้อย...คงโตขึ้นมากแล้วเนอะ ท่ากำลังอยู่ในช่วงซนแน่ ๆ เชียว


โดย: เต่าญี่ปุ่น วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:5:33:16 น.  

เต่าญี่ปุ่น
Location :
埼玉県 Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 234 คน [?]




ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ จุดประสงค์หลักก็คือ... อยากเก็บประสพการณ์ต่าง ๆ ของชีวิตในต่างแดน (ญี่ปุ่น) ซึ่งได้อยู่มาเข้ารอบปีที่ 15 แล้ว เพื่อบันทึกความทรงจำ กันลืม เพราะแกร่แย้วววว ^o^ มีหลายเรื่องที่อยากเขียน....จนตัดใจเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกเรื่องไหนเป็นหลัก......"รักพี่เสียดายน้อง" ไหน ๆ ก็ตัดใจเลือกไม่ได้ ก็เขียนมันเสียทุกเรื่องจะดีกว่าเนอะ.... บล๊อคนี้...ก็เลยกลายเป็น " บล๊อคจับฉ่าย " อย่างที่เพื่อน ๆ เห็นละนี้แระคร้า
Friends' blogs
[Add เต่าญี่ปุ่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.