|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
งานที่อังกฤษและสารคดีบีบีซี
Britain's Homecare Scandal
วันที่ 9 เมษายน 2552 ขณะที่การเมืองบ้านเรากำลังร้อน ดิฉันเปิดข่าวบีบีซีไว้ หลังจากมีข่าวของเมืองไทย ผู้ประกาศข่าวก็ตัดเรื่องไปที่การดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน (Domiciliary Care) เป็นการเรียกแขก(คนดู)ให้ไปดูว่าอุตสาหกรรมที่สำคัญมูลค่ามหาศาลที่รัฐบาลให้บริษัทเอกชนดำเนินการ 70% ของตลาดมูลค่า1.5 พันล้านปอนด์ต่อปี และเกิดอะไรขึ้นในธุรกิจนี้ ทีมงานบีบีซีได้บันทึกเทปอย่างลับๆโดยความร่วมมือของผู้ใช้บริการที่เป็นผู้สูงอายุ ในธุรกิจนี้เราไม่ใช้คำว่าคนไข้ หรือคนป่วยแต่เราใช้ว่า ผู้ใช้บริการ(Service User)หรือลูกค้า(Client)แทน
Carer(ผู้ดูแล) เป็นภาษาพูดใช้เรียกงานที่ดิฉันทำอยู่ ถ้าเป็นทางการเราใช้ว่า Social Care and Suport Worker แต่ด้วยความที่เป็นชื่อที่ยาว คนทั่วไปและสื่อก็จะใช้สั้นๆว่า Carer จริงๆแล้วคำว่า Carer นั้น ใช้เรียกคนในครอบครัว เพื่อน หรือญาติที่ดูแลผู้สูงอายุเพื่อให้ผู้สูงอายุเหล่านั้นสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ หากผู้ดูแลเหล่านั้นต้องดูแลสมาชิกในครอบครัว ญาติ เพื่อน เกินกว่า 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แล้ว เขาเหล่านั้นสามารถขอสวัสดิการของรัฐได้อาทิตย์ละ 50.55 ปอนด์ ลูกของลูกค้าบางคนของดิฉันบ่นว่าน้อยมากตกวันละไม่ถึงสิบปอนด์เลย
ถ้าจำไม่ผิดในงานครบรอบ 60 ปีของ NHS(National Health Service) นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ได้ขอบคุณ Carer ที่ดูแลสมาชิกในครอบครัว ญาติ เพื่อน โดยไม่ขอรับเงินจากรัฐบาล และทำให้รัฐบาลประหยัดเงินได้ถึงปีละ 87 พันล้านปอนด์
ถ้าใครสนใจว่ามีรายละเอียดอย่างไร ตามไปดูได้ที่ลิงค์นี้คะ ;
แฉความเลวร้ายของบริษัทผู้ดูแลผู้สูงอายุในอังกฤษ บีบีซีมีข้อคิดเห็นจากคนดูประมาณร้อยกว่าความคิดเห็นส่วนมากจะเห็นด้วยกับสารคดีนี้ ดิฉันก็เห็นด้วย สิ่งที่ปรากฏในสารคดีจะเป็น Poor Practice คะ ส่วน Best Practice ก็มีนะคะแต่จะไม่ดัง
เหมาะกับคนที่ทำงานในสาขานี้ แต่ยืนยันได้ว่าดูเสร็จแล้วจะหนาวว่าเป็นไปได้เพียงนี้หรือในประเทศที่เจริญแล้ว คุณภาพของคน คุณภาพของงานลดลงมาก
จะยกตัวอย่างให้ดูในส่วนที่ดิฉันเจอในงานนะคะแม้แต่ตัวคุณหมอเองก็เถอะ(ที่นี่เราเรียก GP (General Practitioner)) เมื่อลูกค้าคนหนึ่งของดิฉันสายของถุงปัสสาวะหลุดและมีเลือดไหลไม่หยุด ลูกค้าของดิฉันอายุ 90 ปี ใส่เครื่องช่วยฟัง การได้ยินน้อยมาก ดิฉันโทรไปหาคุณหมอของเธอ คุณหมอบอกว่าจะส่งพยาบาลมาดู ตั้งแต่เวลาเที่ยงวันจนจะห้าโมงเย็นซึ่งเป็นครั้งที่สองที่ดิฉันมาดูแลเธอ ก็ไร้เงาของพยาบาล ดิฉันก็โทรศัพท์หาคุณหมออีก คุณหมอบอกว่าพยาบาลไม่ว่าง แล้วก็ไม่ใช่งานของหมอที่ต้องมาดูแลไอ้ถุงปัสสาวะนี่ คุณ (หมายถึงดิฉัน)ลองยัดๆสายนั้นเข้าไปซิ ไม่น่าจะยากนะ ดิฉันช็อคเลยคะ คุณหมอคาดคั้นให้ดิฉันทำอย่างนั้นจริงๆ ดิฉันปฏิเสธที่จะทำเกิดลูกค้าเป็นอะไรขึ้นมา ฟ้องร้องอีก ดิฉันบอกคุณหมอว่าไม่ทำ เป็นเรื่องนอกเหนือความรับผิดชอบ ดิฉันโทรฯแจ้งหัวหน้างาน แต่ท้ายที่สุดคุณหมอก็ต้องมาคะ จริงๆแล้วคลีนิคของคุณหมอและบ้านลูกค้าของดิฉันขับรถ 3 นาทีก็ถึงคะ
มาถึงเรื่องของเจ้าหน้าที่ศูนย์สันทนาการภาคกลางวัน (Day Centre)ลูกค้าส่วนใหญ่ที่พอจะเดินหรือเคลื่อนไหวได้ ก็จะไปศุนย์นี้อาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้ง เพื่อไปเจอะเจอเพื่อนฝูง มีกิจกรรมร่วมกัน ทานอาหาร เดินเล่นหรือนั่งเล่นในสวน หากอากาศดี วันหนึ่งดิฉันไปหาลูกค้าแต่ปรากฏว่าทางศูนย์มารับไปแล้วก่อนเวลาที่ควรจะมา ที่นี้เธอก็ยังไม่ได้ทานยา ดิฉันก็นำกล่องยาไปให้เธอ เหลือบเห็นเฟรมสำหรับใช้เดิน วางเป็นสง่าอยู่ที่ลานจอดรถ ยังคิดว่าทำไมเหมือนของลูกค้าเราจังเลย กำลังจะออกรถมีโทรศัพท์จากที่ทำงานบอกว่า ธันยาเธอเห็นเฟรมสำหรับช่วยเดินของนางเอที่ลานจอดรถหรือเปล่า เจ้าหน้าที่ๆศูนย์โทรมาบอกว่าลืม เธอช่วยนำไปส่งให้นางเอหน่อยนะ เฮ้อ ! สงสัยจะรีบมาก หลังจากไปถึงศูนย์แล้วดิฉันก็ให้ยากับนางเอ และกำชับพนักงานที่ศูนย์ว่า นางเอต้องทานยาหลังอาหารเที่ยงด้วย คุณช่วยกรุณาให้ยาเธอด้วย พนักงานก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ วันรุ่งขึ้นต้องไปหานางเออีก หากล่องยาไม่เจอ ฟันธงเลยว่าเจ้าหน้าที่ๆศูนย์ลืมนำใส่กระเป๋าให้เธอ ดิฉันอีกนั่นแหละต้องขับรถไปที่ศูนย์แห่งนั้น แล้วต้องไป ถาม ถาม ถาม ว่ายาของนางเออยู่ที่นี่หรือเปล่า เจ้าหน้าที่เก็บใส่ล็อกเกอร์อย่างดีแทนที่จะนำมาคืน การทำงานคนเดียวในชุมชน ในหลายๆครั้งต้องแก้ปัญหาเอง คิดซะว่าเป็นเรื่องท้าทาย
Poor Practice ยังมีอยู่ทุกที่ การให้ยาผิดก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แทนที่จะให้ยาตอนเช้า ก็นำยาตอนเย็นมาให้แทน แพ็คยาที่นี่จะเป็นยาที่ใช้ในหนึ่งอาทิตย์ จะเขียนบอกไว้ วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ โดยในวันหนึ่งๆจะมีสี่ช่องเป็นยาช่วงเข้า เที่ยง บ่าย ก่อนนอน อยากให้เมืองไทยมีระบบนี้จัง ตามโรงพยาบาลที่เมืองไทยยังเให้ยาป็นซองๆอยู่เลย คนที่นี่จะไปรับยาที่ร้านขายยาโดยมีใบสั่งยาของแพทย์ ลูกค้าที่ไม่สามาถไปรับยาเองได้จะมีเจ้าหน้าที่ NHS มาส่งยาถึงบ้านทุกวันศุกร์ตอนเย็น เมื่อวานข่าวบีบีซีรายงานเรื่องเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลให้ยาคนไข้ผิดและให้เกินขนาดทำให้คนไข้ตาย 3รายเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราคงไม่สามารถบอกว่าเป็น Human Errorได้ในเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นความตาย สุขภาพ ควรจะทำด้วยความระมัดระวังยิ่ง หรือว่านี่คือด้านมืดด้านหนึ่งของสังคมที่นี่....
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมนะคะ ตอนนี้ดอกบลูเบลล์บานแล้วแถวบ้าน พรุ่งนี้มีนัดกะเพื่อนสาวไทยไปถ่ายรูปกัน วันหลังจะนำรูปดอกไม้สวยๆมาใส่บล็อคบ้าง สวัสดีทุกคนคะ
Create Date : 22 เมษายน 2552 |
|
10 comments |
Last Update : 22 ธันวาคม 2552 20:40:51 น. |
Counter : 1090 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Nok (nokjeffus ) 23 เมษายน 2552 2:03:48 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Just dropping by to say hello ka.