Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
20 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
ชลวาห์กาล ๕ (ธัญรัตน์)




“คุณชนะชลฝากนี่ไว้ให้คุณวาค่ะ บอกว่าคงจะต้องใช้” ดวงแขยื่นซองสีขาวให้เธอ หลังจากอาหารมื้อเช้าเสร็จไปได้สักพักแล้ว และเธอกับป้าทั้งสองก็มานั่งที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน เธอรับซองมาโดยไม่มีคำถามใด ๆ เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นธนบัตรจำนวนหนึ่ง และกุญแจอีกดอกหนึ่ง

“กุญแจห้องทำงานคุณวาค่ะ คุณชนะชลสั่งให้จัดไว้ให้ตั้งแต่คุณวายังไม่กลับมาค่ะ อยู่ใกล้ ๆ กับห้องทำงานของแกนั่นหล่ะค่ะ” ดวงแขบอก เมื่อเห็นเธอหยิบกุญแจออกมา พร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ไม่มีคำพูดใด ๆ จากเธอ นอกจากจะยิ้มรับอย่างเสียไม่ได้ และมันก็ทำให้คนเก่าคนแก่ทั้งสองชิน กับกิริยาแบบนี้มานานแล้ว จะผิดก็แต่ตอนนี้ เธอดูจะเงียบขรึมไปจากเมื่อก่อนมากเท่านั้นเอง

“คุณวาอย่าโกรธคุณพ่อเลยนะคะ ท่านไปดีแล้ว ให้วิญญาณท่านได้สงบสุขเถอะนะคะ” ดวงแขบอก
“ป้าแขเห็นวาเคยโกรธใครเหรอคะ แล้วคนอย่างวามีสิทธิ์ที่จะโกรธใครได้ด้วยเหรอคะ” เธอบอกออกไป แต่แววตาและน้ำเสียงนั้น บ่งบอกให้รู้ว่าน้อยใจเหลือเกิน

“ท่านรู้สึกผิดมากค่ะ และป้าก็รู้ด้วยค่ะว่าท่านเสียใจมากแค่ไหน ที่ทำให้คุณวาต้องผิดหวัง พักหลัง ๆ ก่อนท่านจะเสีย ท่านแทบจะไม่พูดจากับใครเลย และก็ไม่ยอมแม้แต่จะเดินออกมาจากห้อง จะมีก็แค่ครั้งเดียวคือคืนก่อนที่ท่านจะเสีย ท่านให้ป้าโทรเรียกคุณชนะชลมาหา แล้วก็ขอให้คุณชนะชลสัญญาเรื่องคุณวา เรื่องบ้าน และก็เรื่องทุกคนในบ้านเอาไว้ จนกว่าคุณวาจะกลับมาไถ่มันกลับคืน”

“คุณชนะชลก็รับปากนะคะ แล้วก็ออกจากบ้านไป แล้วคุณผู้ชายก็เข้าไปในห้องปิดประตูเงียบ ใครไปเรียกก็ไล่ออกไปให้ไกล ๆ แล้วดึก ๆ ของคืนต่อมา เราก็ได้ยินเสียงปืน พอเปิดประตูเข้าไปดู คุณผู้ชายท่านก็…เอ่อ..” สุขเล่าให้เธอฟัง แต่ก็เล่าต่อไม่ได้ เพราะนึกถึงภาพของสุเมธที่นอนแน่นิ่ง จมกองเลือดอยู่กับเตียงนอน พร้อมกับจดหมายที่เขียนถึงวันวิวาห์ วางทิ้งไว้บนโต๊ะหัวเตียง

ไม่มีเสียงใด ๆ เล็ดลอดออกมาจากปากหญิงสาว นอกจากสีหน้าที่เรียบขรึม และน้ำตาที่เอ่อเต็มเบ้าด้วยความสะเทือนใจกับเรื่องราวของผู้เป็นพ่อ
“งานศพคุณผู้ชาย คุณชนะชลกับคุณแม่เธอมาจัดให้ใหญ่โตสมเกียรติท่านค่ะ แล้วคุณ ๆ ทั้งสองก็อยู่ดูแลให้ตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ และก็กำชับคนใกล้ชิดว่าห้ามใครบอกเรื่องนี้กับคุณวาเด็ดขาด เพราะคุณผู้ชายสั่งเอาไว้ คุณบรรจงกับคุณพุดซ้อนก็สั่งคุณรวิทย์ ว่าให้ปิดคุณวาเอาไว้ก่อน” ดวงแขเล่าต่อ

“วิทย์รู้เรื่องแล้วเหรอคะป้า” เธอถามด้วยความสงสัย และก็คิดถึงคำพูดที่เขาพร่ำบอกเธอ ในหลาย ๆ ครั้งที่อยู่เมืองนอกด้วยกัน
“กลับเมืองไทยไปแล้ว วาจะต้องเข้มเข็งให้มาก ๆ นะ ทุกคนรอให้วากลับไปเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของพวกเขาอยู่” “ทำไมนายต้องย้ำกับเราบ่อย ๆ ด้วยนะ เราฟังมาจะเป็นรอบที่ร้อยแปดแล้วนะ” เธอถามเขาด้วยความไม่เข้าใจ “งั้นก็เอารอบที่ร้อยเก้าไปก็แล้วกันนะ...” เขาพร่ำบอกเธอเสมอมา แต่เธอนั้นกลับไม่ได้คิดอะไร

“แล้วหลังจากที่คุณพ่อเสียหล่ะคะป้า” เธอถามเพราะความอยากรู้
“คุณชนะชลก็เลยต้องมาดูแลที่นี่อย่างเต็มตัว ตั้งแต่สองปีที่แล้วค่ะ แต่ก็ไป ๆ มา ๆ นะคะ และคุณชนะชลก็รักษาทุกอย่างในบ้านนี้ ให้คงสภาพเดิมเอาไว้ตามคำสัญญาค่ะ บางครั้งคุณแม่ของคุณชนะชล ก็จะมาอยู่ที่นี่บ้างแต่ก็ไม่บ่อยนัก เพราะเธอก็อายุมากแล้ว และก็ชอบอยู่บ้านที่เหนือมากกว่าที่นี่ค่ะ” ดวงแขเล่าโดยมีเธอนั่งฟัง โดยไม่ออกความคิดเห็นใด ๆ

“คุณชนะชลเอากฏระเบียบที่คุณปู่ท่านเคยตั้งเอาไว้ มาใช้กับคนในบ้าน และก็ให้คนงานในบ้านส่วนหนึ่งไปทำงานที่โรงงานเครื่องปั้นดินเผาบ้าง ทำที่ไร่บ้าง ตามแต่ความรู้ของแต่ละคน เพราะแกบอกว่าไม่มีเจ้านาย ให้คอยรับใช้หลายคนแล้ว ก็เลยจะเหลือคนเอาไว้ เท่าที่จำเป็นเท่านั้น”

“ป้ากับป้าสุขก็จะมีหน้าที่คอยดูแลที่นี่ และต้อนรับแขกเหรื่อของคุณชนะชล ที่มาพักที่บ้านเรา แต่ก็ไม่บ่อยมากค่ะ คุณชนะชลจะเชิญเฉพาะแขกสำคัญ ๆ เท่านั้น บางครั้งก็จะมีชาวต่างชาติด้วยค่ะ เรียกว่าพอกลับไปแล้ว เด็ก ๆ ที่นี่ได้ทิปกันให้ฉ่ำใจเลยค่ะ เพราะพวกเขาชอบบ้านเรามาก บอกว่าสวย และก็สงบ” สุขเล่าให้เธอฟังต่อ

“คุณชนะชลเป็นคนดีนะคะคุณวา ตอนที่ป้ารู้ว่าเขาจะมาเป็นเจ้าของคนใหม่ ป้ากับทุกคนในบ้านกลัวจะตกงานกันแทบแย่ค่ะ เพราะดูภายนอกแล้ว เธอดูเป็นคนที่หน้าตาเคร่งขรึม ไม่ค่อยจะพูดจากับใครเลย แล้วเวลาดุคนงานนี่....น่ากลัวเหลือเกินค่ะ”

“แต่พออยู่ ๆ ไปกลับกลายเป็นคนละคน แกจะดุกับคนที่ทำผิดเท่านั้นเอง ความจริงแล้วแกเป็นคนที่จิตใจโอบอ้อมอารีย์เหลือเกินค่ะ คนงานถึงได้รักแกไงคะคุณวา....พวกคนงานเริ่มขวัญเสีย ตั้งแต่ที่คุณผู้ชายติดการพนันแล้วค่ะ กลัวจะตกงานกัน ก็คุณผู้ชายเล่นไม่ไปทำงานติดกันเป็นเดือนก็มี เวลาโผล่ไปทีก็หอบเอาเงินออกมาที”

“เช็คที่คุณผู้ชายเซ็นต์สั่งจ่ายไป ก็เด้งกันเป็นแถว ๆ ข้าวของในบ้าน หายไปทีละชิ้นสองชิ้น เครื่องเพชรที่คุณท่านฝากไว้ให้คุณวาก็เหมือนกันค่ะ ตอนนี้มันหายไปหมดแล้ว” สุขเล่าให้เธอฟังต่อ และเธอเองก็ดูเหมือนจะเห็นด้วยในข้อนี้

“ป้ากับแม่แขก็ไม่กล้าห้ามค่ะ ก็รู้ ๆ กันอยู่ ว่าคุณพ่อท่านเป็นคนยังไง ช่วงนั้นนะคะ คนที่บ้านไม่ได้รับเงินเดือนติดกันเกือบจะครึ่งปีค่ะ เพราะพวกเราพร้อมใจกันเสียสละ ให้เอาไปจ่ายคนที่บริษัทก่อน เพราะถ้าไม่มีพวกนั้นทำงาน ก็คงจะแย่ สำหรับพวกเราก็ขอแค่มีที่อยู่กับข้าวให้กินสามมื้อก็พอแล้วค่ะ ส่วนพวกผู้บริหารที่บริษัทก็เหมือนกันนะคะ เพราะความจงรักภักดีที่พวกเขามีต่อคุณท่านแท้ ๆ ค่ะ ก็ช่วยกันอุ้มสถานะการเงินให้ได้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้” สุขเล่าต่อ

“ใช่ค่ะ....พวกที่บริษัทเล่าให้ป้าฟังนะคะ ว่าเงินห้าสิบล้านที่คุณผู้ชายได้มา จริง ๆ แกก็ไม่ได้เอาไปเล่นหมดหรอกค่ะคุณวา แต่แกเอาไปให้บริษัทจับจ่ายด้วยนะคะ แกก็หมุนโน่นหมุนนี่ จนสุดความสามารถหล่ะค่ะ จนในที่สุด สายป่านก็ขาดลง

พอคุณผู้ชายเสียไปไม่เท่าไหร่ คุณชนะชลก็เข้าไปประกาศตัว เป็นเจ้าของคนใหม่ที่บริษัทแทนค่ะ พวกผู้บริหาร กับคนงาน จะพากันลาออกหมดเลย เพราะว่าไม่พอใจที่คุณชนะชลเป็นใครที่ไหนมาก็ไม่รู้ จู่ ๆ จะมายึดเอาทุกอย่างไป แต่ก็เพราะความสามารถของคุณชนะชล แล้วก็ได้คุณพิธานมาช่วยไกล่เกลี่ยกับคนงานให้อีกแรง ทุกอย่างก็เลยลงเอยไปด้วยดี”

“แต่มาตอนนี้สิคะ.....ถ้าให้ถามคนงานเหรอคะ คงไม่มีใครยอมให้คุณชนะชลหลุดมือไปหรอกค่ะ ตั้งแต่เธอเข้ามาบริหาร ทุกอย่างก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาเรื่อย คุณวาน่าจะลองไปดูบ้างนะคะ ตอนนี้แกพัฒนาอะไร ๆ หลายอย่างค่ะ นี่ถ้าคุณท่านอยู่ คุณท่านจะต้องชอบแน่ ๆ เลยค่ะ” ดวงแขเล่าต่อจากสุข
เพราะรู้ดีว่าวันวิวาห์นั้น ไม่ค่อยได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจของครอบครัวเลย เพราะเธอเคยบอกว่า ไม่ชอบทำอะไร ที่เอาแต่คำนึงถึงผลกำไรเพียงอย่างเดียว

“วาคงไม่ไปยุ่งหรอกค่ะ....เพราะมันก็ไม่ใช่ของ ๆ เราแล้วนี่คะ และอีกอย่างป้าก็บอกว่าตอนนี้ทุกอย่างก็ลงตัวดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ” เธอพูดแค่นั้น และดวงแขเองก็พอจะรู้คำตอบ ว่าเจ้านายสาวไม่ใคร่อยากจะไปดูกิจการสักเท่าไหร่
“คุณวาจะไปไหว้ศพคุณผู้ชายเลยหรือเปล่าคะ คุณชนะชลยังไม่ได้เผา บอกว่าจะเก็บเอาไว้รอคุณวากลับก่อน แล้วค่อยจัดงานเผาทีหลังค่ะ” ดวงแขรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

“เก็บไว้ที่ไหนคะ” เธอถามอย่างไม่ค่อยจะเต็มปากนัก
“ที่วัดใกล้บ้านเรานี่หล่ะค่ะ” ดวงแขตอบ “เอาไว้เดี๋ยววาจะไปนะคะ” เธอบอกอย่างเสียไม่ได้
“ป้าสุขคะ พรุ่งนี้วาจะไปสอบขอใบอนุญาติแล้ว จะได้รีบทำงาน และก็ต้องหาเงินมาใช้หนี้ให้หมด วาฝากทุกอย่างในบ้านให้ป้าสุข กับป้าแขดูแลแทนด้วยนะคะ” เธอบอก

“ทำไมคุณวาพูดอย่างนั้นคะ บ้านนี้ก็เหมือนกับบ้านของเราทุก ๆ คนค่ะ ป้ากับแม่แขอยู่บ้านนี้มาตั้งแต่คุณวายังไม่เกิดเลย ไม่ต้องห่วงนะคะป้าจะดูแลมันอย่างดีค่ะ คุณวาทำงานให้สบายใจได้เลยค่ะ” สุขบอก
“ป้าด้วยค่ะ” ดวงแขรีบสมทบ

“ขอบคุณค่ะ....งั้นวาขอตัวไปกราบป้าพุดซ้อนกับลุงบรรจงก่อนนะคะ รวิทย์ฝากของมาให้ด้วย แต่ยังไม่ได้เอาไปให้ท่านเลย...อ้อ...แล้ววาก็มีของฝากของป้าสองคนกับคนอื่น ๆ ด้วยนะคะ เดี๋ยวตอนเย็น ๆ วาจะเอามาให้ค่ะ” เธอบอกและก็เดินขึ้นชั้นบนไปเพื่อไปหยิบของ ปล่อยให้ทั้งสองมองตามเจ้านายด้วยความกังวล กับความคิดของเจ้านายน้อยที่มีต่อผู้เป็นพ่อ


“ไหว้พระเถอะหลานป้า ไหนมาให้ป้าดูซิ ว่าโตขึ้นมาแล้วหนูวาจะสวยมากแค่ไหน” พุดซ้อนเอามือไปลูบศีรษะวันวิวาห์ที่ก้มลงกราบไปที่ตักของเธอและสามีด้วยความนอบน้อม

“ดูสิคะคุณ หนูวาของฉันสวยยังกับนางสาวไทยเลยค่ะ มิน่าหล่ะตาวิทย์ถึงได้ไม่ยอมไปมองสาวที่ไหนเลย หรือต่อให้มองป้าก็จะเขกกะบาลให้เลย หนูวาออกจะสวยขนาดนี้” พุดซ้อนกล่าวด้วยชื่นชมผู้ที่นั่งอยู่ข้างล่างด้วยใจจริง
“ลุกมานั่งข้างบนเถอะหนูวา นั่งข้างล่างนาน ๆ เหนื่อยแย่ คนไม่เคยได้คุกเข่ามานาน” บรรจงรีบ

“คุณลุงกับคุณป้าสบายดีนะคะ” วันวิวาห์ถามผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน หลังจากที่ลุกนั่งที่ชุดรับแขกแล้ว
“สบายดีจ๊ะ” พุดซ้อนบอก “วาซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากค่ะ ไม่รู้ว่าจะถูกใจคุณลุงกับคุณป้าหรือเปล่านะคะ และนี่ก็ของฝากของวิทย์ค่ะ วิทย์บอกว่าเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนค่ะ แล้วชิ้นใหญ่ ๆ จะมาพร้อมกับวิทย์ทีหลังค่ะ” เธอบอกพร้อมกับยิ้มให้คนทั้งสอง

“วิทย์โทรมาบอกป้าแล้วหล่ะลูก แล้วหนูวาเป็นยังไงบ้างลูก ป้ากับลุงเป็นห่วงมากเลย อยากจะไปหาตั้งแต่วันที่หนูมาใหม่ ๆ แล้ว แต่ลุงของหนูสิห้ามเอาไว้ กลัวว่าจะไปรบกวนหนูกับคุณชนะชลเข้า เผื่อจะตกลงอะไรกันยังไม่ได้”
“แล้วตกลงกันได้หรือยังหนูวา” บรรจงถามด้วยความห่วงใยเธอ
“ค่ะคุณลุง เขาให้วาหาเงินต้นมาคืนเขาแค่นั้น จะจ่ายเป็นก้อนหรือเป็นรายเดือนก็ได้ค่ะ”

“แล้วเวลาหล่ะหนูวา” บรรจงถามเพื่อความอยากรู้ “ก็ไม่มีกำหนดค่ะ แล้วแต่วาจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้ แต่เขาก็จะยังไป ๆ มา ๆ ที่บ้านอยู่เหมือนเดิมค่ะ เพราะยังไง ๆ เขาก็ยังเป็นเจ้าของอยู่ดี คงจะเอาไว้มาพักเวลาที่เขามาดูงานที่นี่มั้งคะ และก็เอาไว้รับแขกบ้างแล้วแต่โอกาสค่ะ” เธอบอกตามความจริง

“ก็นับว่าเขายังเปิดโอกาสให้หนูวาอยู่มากนะลูก แล้วหนูหล่ะจะไหวหรือเปล่าเงินไม่ใช่น้อย ๆ นะลูก” บรรจงถามเพราะไม่แน่ใจว่าหลานสาวจะรับภาระที่หนักอึ้งได้นานแค่ไหน แล้ววันวิวาห์ก็นั่งตอบคำถามของผู้ใหญ่ทั้งสองที่ต่างผลัดกันไตร่ถามสารทุกข์สุกดิบต่าง ๆ นานา ของเธอและรวิทย์ จนจะเกือบเวลาอาหารเย็นวันวิวาห์จึงได้ลากลับ เพราะต้องรีบเข้านอนด้วยจะต้องรีบเดินทางไปสอบตั้งแต่เช้ามืด



พิธาน...ที่จากหนุ่มรูปหล่อ พอ ๆ กับสุเมธเมื่อก่อน บัดนี้เขามีวัยห้าสิบกว่าปีแล้ว และก็ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ของโรงพยาบาลที่วันวิวาห์ทำงานอยู่นั่นเอง เขาจ้องมองใบหน้าที่ราบเรียบ และเงียบขรึมของหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าในห้องทำงานของเขา

พิธานรับปากว่าจะดูแลเธอแทนสุเมธ ผู้เป็นเพื่อนรักก่อนเขาตายเอาไว้ และตั้งแต่เธอกลับมาเมืองไทย และเริ่มทำงานที่นี่ได้หกเดือนแล้วนั้น เขาก็ได้เห็นว่าลูกสาวของเพื่อนคนนี้ ช่างเป็นเด็กดีเหลือเกิน วันวิวาห์ขยันทำงาน ทั้งงานประจำและก็ที่โรงพยาบาลเอกชน ด้วยจะต้องหาเงินจำนวนมหาศาล มาไถ่ทรัพย์สมบัติของตระกูลคืน เขาเองก็ไม่รู้ได้ว่าเด็กสาวคนนี้ จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน กับเงินห้าสิบล้านที่จะต้องชดใช้ให้ชนะชล

ถ้าให้เขาลองคำนวนดูแล้ว มันก็คงไม่น่าจะต่ำกว่า ยี่สิบถึงสามสิบปีเป็นแน่ กับเงินเดือนของแพทย์หญิงในโรงพยาบาลรัฐบาล ที่ได้ไม่กี่หมื่นบาท แต่ก็ยังดีที่โรงพยาบาลเอกชนนั้น ได้เงินเดือนค่อนข้างจะมากโขอยู่
แต่จะมากสักแค่ไหน มันก็ยังทำให้เขาอดที่ท้อแท้แทนเธอไม่ได้ เด็กคนนี้มีชีวิตที่น่าสงสารเหลือเกิน ตั้งแต่เกิดจนเติบใหญ่ เธอแทบจะไม่ได้รับความสนุกสนาน ร่าเริงเหมือน ๆ กับเด็กทั่ว ๆ ไปเลย

“หนูวา....หนูไม่จำเป็นจะต้องทำอย่างนี้ก็ได้นะลูก ลุงเองก็เห็นว่าคุณชนะชล ก็ยังคงรักษาทุกอย่างเอาไว้ให้เหมือนเดิม เขาเคยบอกกับลุงว่า ถึงแม้ว่าวาจะไม่ไถ่มันกลับคืน เขาก็จะเก็บคฤหาสน์หลังนั้นเอาไว้ในสภาพนั้น เพราะเขาเสียดายน้ำพักน้ำแรงคุณปู่ทวดหนูที่สร้างมันมา” เขาบอกเธอ

“ไม่ได้ค่ะคุณลุง คุณปู่รักที่นั่นมาก วาจะต้องเอามันกลับมา เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่วาจะทำให้คุณปู่ได้ค่ะ.....และอีกอย่างคุณชนะชลเขาทำธุรกิจ เขาลงทุนแล้ว ก็คงอยากจะได้เงินคืน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่บอกแต่วาก็พอจะเข้าใจค่ะ ลำพังที่เขาไม่คิดดอกเบี้ยกับวา มันก็หนักหนามากพอแล้ว ถ้าลองคำนวนดูก็เป็นเงินหลายล้านบาทเหมือนกันนะคะ” เธอบอกกับพิธาน เพราะเข้าใจชนะชลพอสมควรในแง่ของคนทำธุรกิจ

“แต่ลุงก็ไม่อยากเห็นหนู ทำงานหามรุ่งหามค่ำมากเกินไปนะลูก พักผ่อนบ้าง ทำเท่าที่เราพอจะมีกำลังทำ” เขาบอกเธอ “ขอบคุณค่ะคุณลุง ที่เป็นห่วงวา แล้ววาจะพยายามทำตามที่คุณลุงบอกค่ะ เอ่อ...แล้วไม่ทราบว่าคุณลุงมีอะไรเพิ่มเติม เกี่ยวกับคนไข้รายที่จะเราผ่าตัดพรุ่งนี้อีกหรือเปล่าคะ” เธอถามด้วยความนอบน้อม

“ไม่มีแล้วหล่ะ ปกติลุงก็ไม่ได้รักษาคนไข้นานแล้ว แต่รายนี้บังเอิญเป็นเคสเก่าของลุง ก็เลยอยากจะให้หนูศึกษาให้ดี ก่อนที่เราจะผ่าตัดหน่ะ กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะลูก วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” เขาบอกเธอ เพราะรู้ดีว่าวันวิวาห์นั้นอยากจะพักเต็มที ด้วยทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน กับการผ่าตัดคนไข้มาหลายราย

“ขอบคุณค่ะ งั้นวา....ลานะคะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ” เธอไหว้เขาอย่างนอบน้อม และก็ออกจากห้องทำงานของเขาไป ทิ้งให้เขามองตามด้วยความสงสาร เพราะชีวิตของวันวิวาห์นั้นเขาเองก็ได้รับรู้ความเป็นมาไม่น้อยจากปากของสุเมธ และจากเหตุนี้นี่เองที่ทำให้เขา เอ็นดูและห่วงใยเธอมาก และยิ่งเพื่อนรักของเขาได้ฝากผีฝากไข้ลูกสาวคนเดียวไว้กับเขาด้วยแล้ว เขายิ่งให้ความสนใจและปราณีเธอเป็นพิเศษนั่นเอง


รถหรูที่ถูกขับมาจอดไว้หน้าคฤหาสน์โดยนายส่งเหมือนทุก ๆ วันที่ผ่านมา วันวิวาห์ก้าวเท้าลงมาก็พบกับดวงแข ที่ยืนรอรับเหมือนหลาย ๆ วัน ที่เธอกลับมาจากทำงาน ไม่ว่าเธอจะกลับดึกดื่นมากแค่ไหน ดวงแขก็จะรอจนเธอกลับมา และจัดหาอะไรให้ดื่มก่อนเข้านอนเสมอ

“ดีจังเลยค่ะ ที่คุณวามาเร็วกว่าทุกวัน” ดวงแขทัก แต่คำว่า “เร็ว” ของดวงแขก็คือสองทุ่มไปแล้ว เพราะโดยปกติกว่าวันวิวาห์จะกลับถึงบ้านก็เกือบสี่ทุ่มแทบทุกวัน ด้วยต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนต่อนั่นเอง แต่ถึงกระนั้นวันวิวาห์ก็ไม่เคยย่อท้อ เพราะเธอรักการเป็นแพทย์มาก และก็ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องทำธุรกิจ ที่มุ่งหาแต่ผลกำไรเอาเสียเลย แต่เธอก็เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่า ตัวเองนั้นคิดผิด เพราะหากเธอมีความสามารถทางด้านนี้ ก็คงจะหาทางไปเปิดคลีนิคส่วนตัว และก็คงจะหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำเพื่อจะได้มาใช้หนี้สินให้หมดเร็วกว่าเดิม

“มีอะไรคะ...ป้าแข” เธอถามเพราะเห็นดวงแขมีสีหน้าไม่ดี
“ก็คุณชนะชลสิคะ มาตั้งแต่เช้า หลังจากที่คุณวาออกไปโรงพยาบาล ตัวงี้ร้อนจี๋เลย แต่ก็ดื้อบอกว่าไม่เป็นอะไร ป้าให้กินยาแก้ไข้ก็ไม่เอา ตอนนี้ยังไม่ยอมออกมาจากห้องเลยค่ะ คุณวาไปดูหน่อยนะคะ” ดวงแขบอกด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากเธอ คงมีแต่ใบหน้าที่ดูราบเรียบเหมือนเดิม

แล้วเธอก็เดินเข้าไปหยิบกระเป๋ายาในห้องทำงานตัวเอง แล้วขึ้นไปยังห้องนอนของเขา โดยมีดวงแขและสุขเดินตามขึ้นชั้นบนไปติด ๆ ใบหน้าอันหล่อเหลาและคมเข้มของเขา ที่เธอได้เห็นเมื่อหลายเดือนมาแล้ว ตอนนี้มันแดงกร่ำเพราะพิษไข้

“เขาไม่มายุ่งที่นี่อย่างที่บอกเธอไว้จริง ๆ”
เพราะตั้งแต่วันนั้นเขาก็หายไปเลย หรือถ้ามา เขาก็จะเลือกมาตอนที่เธอไม่อยู่บ้านนั่นเอง
“เขาก็คงจะชังน้ำหน้าเรา เหมือน ๆ กับที่เรา ก็ไม่ได้อยากจะเจอเขาสักเท่าไหร่กระมัง”
หญิงสาวคิด แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เธออยากจะรู้จากเขาก็คือ

“พ่อไปทำอะไรให้เขาโกรธนักหนา เขาถึงดูไม่ค่อยจะชอบหน้าเธอเลยสักนิด” มือเรียวงาม สะอาดสะอ้านของเธอ แตะเบา ๆ ไปที่หน้าผากกว้างของเขา แล้วเธอก็เปิดกระดุมเสื้อของเขาออกสองสามเม็ด แล้วหยิบเอาปรอทยัดใส่ไปในรักแร้ ไม่นานก็รู้อาการ

“ไข้สูงมากค่ะป้าแข แต่ไม่เป็นอะไรหรอกนะคะ วาจะฉีดยาให้ แล้วให้น้ำเกลือ และก็ให้นอนพัก ไม่นานก็คงจะหายดี ป้าให้ลุงส่งไปเอาน้ำเกลือกับยาแล้วก็ของอื่น ๆ ที่โรงพยาบาลด้วยนะคะวาจะโทรไปสั่งไว้” เธอบอกสุขกับดวงแข ที่ยืนรอดูอาการอยู่ปลายเตียง

“คุณต้องฉีดยานะ จะได้หาย” เธอบอกเขา เพราะเห็นเขาลืมตามาดูเมื่อได้ยินเสียงเธอ แต่ก็ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากปากของเขา แล้วดวงตาก็ปิดสนิทด้วยความอ่อนเพลีย

“ให้คนคอยมาเช็ดตัวให้เป็นระยะ ๆ นะคะ แล้ววาจะเข้ามาดูอีกครั้ง แต่ตอนนี้ขอไปอาบน้ำก่อนค่ะ” เธอบอก หลังจากที่ฉีดยาลดไข้ให้เขาหนึ่งเข็ม พร้อมทั้งให้น้ำเกลือทิ้งไว้หนึ่งถุง แล้วก็เดินจากไป







Create Date : 20 กันยายน 2551
Last Update : 20 กันยายน 2551 7:27:04 น. 0 comments
Counter : 438 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.