Bloggang.com : hidden file : ทำไม ฮิตเลอร์ จึงเกลียดยิว ตอนต่อมา ^ ^'

ทำไม ฮิตเลอร์ จึงเกลียดยิว ตอนต่อมา ^ ^'

ทำไมฮิตเลอร์จึงเกลียดยิว
ดำรง พุฒตาล

เห็นทีว่าเรื่อง " ทำไมฮิตเลอร์จึงเกลียดยิว" ของผมคงจะไม่จบลงง่ายๆ แค่ 3 ตอนอย่างที่ผมกะเอาไว้ในวันที่ผมคิดจะทำเรื่องนี้ เพราะบังเอิญจริงๆ ที่เรื่องนี้ได้เริ่มลงครั้งแรกในทศแรก เดือนพฤษภาคม 48 อันเป็นวาระครบ 60 ปี ที่ฮิตเลอร์และนาซีแพ้สงครามโลก (ครั้งที่ 2) ต่อหลายๆ ประเทศในยุโรป

ประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย ฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศต่างก็จัดงานใหญ่เพื่อรำลึกและยกย่องเหล่าทหารหารที่เสียชีวิตนับสิบนับร้อยล้านคน

ประเทศเยอรมนีเองก็จัดงานนี้ด้วย ในเดือนพฤษภาคม 48

ความลับดำมืด ความอำมหิต โหดร้ายหลายเรื่องที่ถูกเก็บงำอยู่ 60 ปี ก็ถูกเปิดเผยและขยายรายละเอียดมากยิ่งขึ้น ๆ ความละเอียดชัดเจนต่อการก่อกรรมทำเข็ญของฮิตเลอร์กับสมุนที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนยิว 16 ล้านคน ก็ถูกนำมาตีแผ่ เปิดเผยรายละเอียดชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ตัวผมเองหรือห้องสมุด "คู่สร้างคู่สม" ในวันนี้จึงเต็มไปด้วยหนังสือ เอกสารทั้งภาษาอังกฤษ-ฝรั่งเศส-อิตาเลียน-ไทย อีกทั้งซีดีรูปภาพวีดิทัศน์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่ควรศึกษาและนำมาถ่ามยทอดต่อท่านผู้อ่าน เพื่อได้ประเทืองปัญญาทั้งท่านคนอ่านและผมคนทำได้อย่างน่าสนใจและมีสาระอีกหลายตอนละครับ

อาชญากรสงครามที่โหดเหี้ยมที่สุดของโลกคงไม่มีใครเกิน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จอมเผด็จการของเยอรมนี สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จากแผนการฆ่ากวาดล้างเผ่าพันธุชาวยิวให้หมดไปจากโลก ซึ่งก่อนที่กองกำลังสัมพันธมิตรจะเอาชนะเยอรมนีและฝ่ายอักษะปลดปล่อยชาวยิวออกจากค่ายกักกัน รอการถูกสังหารตามสถานที่ต่างๆ ได้สำเร็จ ประชาชนผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้น ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ทั้งชายและหญิงก็ถูกฆ่าอย่างเลือดเย็นด้วยวิธีการเหี้ยมโหดต่างๆ ตายไปเป็นสิบๆ ล้านคนแล้ว

"คส.คส." เคยแคะคุ้ยเกร็ดประวัติชีวิตในแง่ต่างๆ ของฮิตเลอร์ออกมาเล่าสู่กันฟังบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีรายละเอียดอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจหลงเหลืออยู่อีกมาก โดยเฉพาะเกี่ยวกับการสังหารหมู่ชาวยิว

เมื่อต้นปี 2482 กองทัพนาซีของเยอรมันกำลังประสบชัยชนะในทุกทิศทาง ธงสวัสดิกะปลิวสะบัดอยู่เหนือแผ่นดินบางส่วนของรัสเซียเหนือแหลมบอลข่าน กรีซ ฝรั่งเศสและประเทศทางภาคใต้ของยุโรป รวมไปถึงแอฟริกาเหนือ โปแลนด์ นอร์เวย์และเดนมาร์กด้วย

ชัยชนะทางการทหารทำให้ฮิตเลอร์มีโอกาสเริ่มงานตามขั้นตอนที่ 2 ต่อไป นั่นคือ การจัดการขั้นสุดท้ายกับชาวยิวในยุโรป หลังจากเริ่มต้นมาแล้วแบบประปราย ตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่อำนาจโดยที่พยายามขจัดยิวในประเทศเยอรมนีมาก่อนแล้ว เช่นการออกกฎหมายยึดทรัพย์สิน ตัดสิทธิ์ทางการเมืองของคนเชื้อสายยิว ห้ามคนยิวเดินทางออกนอกประเทศ ตามด้วยการใช้กำลังที่เรียกกันว่า Kristallnacht หรือ "คืนกระจกแตก" คือ คืนวันที่ 9-10 พศจิกายน 2481 เมื่อกองกำลังพิเศษ Nazi Sturmalteilung ในเยอรมนีและออสเตรีย พร้อมกันออกเล่นงานชาวยิว โบสถ์ยิวบ้านและร้านค้าชาวยิวพังพินาศยับเยิน

คราวนี้ฮิตเลอร์บอกว่า ถึงวาระที่ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด หรือกวาดล้างชาวยิวแบบเบ็ดเสร็จทุกแห่ง ทุกประเทศได้แล้ว

แผนการสังหารหมู่ การทำลายล้างครั้งยิ่งใหญ่ที่เรียกกันว่า Holocause จึงได้เกิดขึ้น

และไม่เฉพาะชาวยิวเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงพวกยิปซี ชาวโปล ชาวสลาฟ เชลยศึกรัสเซีย นักคิด นักปรัชญา พวกรักร่วมเพศและศิลปินที่มีความเห็นทางการเมืองแตกต่างไปจากตนด้วย

เพื่อให้แผนการนี้ลุล่วงไปได้เร็วที่สุด ฮิตเลอร์จึงได้คัดเลือกเอา 'นาซีรุ่นใหม่' ที่ใจโหดเหี้ยมอำมหิตเข้ามาเป็นผู้ปฏิบัติการ

เช่น รูดอล์ฟ โฮลส์ (Rudolf Hoess) ผู้บังคับบัญชาค่ายเอาส์ชวิตซ์ (Auschwitz) ในประเทศโปแลนด์ โดยควบคุมให้เชลยทุกคนอยู่กันอย่างกับสัตว์ บังคับให้ทำงานหนักยิ่งกว่าสัตว์ และนำตัวไปสังหารเมื่อเห็นว่าทำงานต่อไปไม่ได้แล้ว โดยมีทั้งห้องแก๊ส เตาเผาศพ ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันรออยู่แล้ว ( มีนาซีตัวแสบอีก 1 คน ชื่อคล้ายๆ กันคือ รูดอล์ฟ เฮสส์)

ดูเหมือนโฮสส์จะพอใจมากที่ทุกวัน ได้เห็นชาวยิวในค่ายเดินแถวเข้าห้องแก๊ส ก่อนนำเข้าเตาเผาได้วันละประมาณ 12,000 คน แทนวิธีการเดิมคือ ยิงเป้า แขวนคอ ซึ่งฮิตเลอร์บอกว่า มันช้าไปและไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

แก๊สที่โฮลส์นำมาใช้ตั้งแต่ปี 2485 เป็นส่วนผสมของกรดปรัสสิค (prussic acid) ที่ปกติใช้สำหรับฆ่าหนูในโรงงานและนำมาทดลองใช้กับเชลยศึกรัสเซียก่อนเป็นครั้งแรก

ครั้งนั้นเชลยชาวรัสเซียถูกสั่งให้เข้าไปอาบน้ำในห้องที่มีผนังมิดชิดทั้ง 4 ด้าน เหนือศีรษะเป็นฝักบัวเหมือนห้องน้ำมั่วไป แต่เป็นของปลอม เพราะสิ่งที่อออกมาแทนน้ำคือ แก๊สพิษ ที่ทำให้ทุกคนตายภายใน 20 นาที

ห้องสังหารด้วยแก๊สแบบเดียวกันเกิดขึ้นอีกหลายแห่ง รวมทั้งห้องสังหารแบบเคลื่อนที่

ที่ค่ายควบคุมเชลยเบิร์คโน มีห้องแก๊สขนาดใหญ่ 2 ห้อง อยู่ติดๆ กับ เตาเผาศพที่พวกเชลยในค่ายนั่นเองเป็นคนสร้าง

จะมีขบวนรถไฟนำเชลยชาวยิวและบุคคลที่นาซีไม่พึงประสงค์ไปส่งที่นั่นทุกวัน.. แบบถูกต้อนมาตาย

เมื่อขบวนรถไฟ นำชาวยิวจากทั่วยุโรปไปถึงค่ายกักกันเบิร์คโน (Birkenau) หรือค่ายเอาส์ชวิตาซ์ 2 ทหารเยอรมันจะสั่งให้แยกชาย แยกหญิงทันที

ผู้โชคร้ายย่อมหัวใจสลาย

สามีถูกแยกจากภรรยา

แม่โบกมืออำลาลูกโดยไม่รุ้ว่า วินาทีนั้นคือครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน

มีคำสั่งให้เข้าแถวหน้ากระดานเรียง 5 บนชานชาลา แต่ส่วนหญ่จะวิ่งกลับไปหากันสั่งเสียกัน สวมกอดกัน กระซิบกระซาบกัน แต่จะถูกหวดด้วยอาวุธมีคมและตวาดไล่เสียงดังให้กลับเข้าแถว

จากนั้น ทหารหมอนาซีจะตรวจสุขภาพผู้ใหญ่ว่าใครจะมีร่างกายที่แข็งแรงเพื่อจะทำงานได้หรือไม่ หมอคนนี้คือพญามัจจุราชเราดีๆ

นาซีมีกฏเหล็กว่า แม่กับเด็กเล็กไม่ฟิตพอที่จะทำงานได้ คนอ่อนแอหรือป่วยก็ไม่มีสิทธิ์ทำงาน ใครจะอยู่ใครจะตายตอนไหนแบบใด ขึ้นอยุ่กับดุลยพินิจของแพทย์ประจำค่าย

พวกที่แพทย์เห็นว่ายังพอจะทำงานได้ แม้จะผอมโซเพราะความอดอยากและถูกทรมาน จะถูกแยกออกไปไว้แถวหนึ่ง ส่วนพ่อ แม่ ญาติพี่น้องที่แก่แล้วรวมทั้งพวกเด็กๆ ที่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ จะถูกกันออกไปอยู่อีกแถวหนึ่ง แถวนี้แหละที่จะต้อง ไปก่อนเพื่อน

ผู้คุมค่ายประกาศผ่านลำโพงว่า จะพากลุ่มคนแก่ คนเจ็บและเด็กๆ ไปอาบน้ำเพื่อกำจัดเห็บ เหา ออกจากร่างกายก่อน แล้วจะส่งกลับมาอยู่กับครอบครัวใหม่ และสั่งพวกนี้ให้กลับไปขึ้นรถโกดังโดยไม่ต้องนับ เพราะไม่รู้ว่าจะนับคนที่กำลังเดินทางไปตายด้วยแก๊สพิษเพื่ออะไร

พวกเขาจะนับเฉพาะยิวที่หมอมัจจุราชได้คัดให้มีสิทธิ์รอดชีวิตเพื่อไปทำงานเท่านั้น แล้วก็สั่งให้เดินแถวเข้าแคมป์หญิง แคมป์ชาย ในขณะที่รถโกดังก็นำแม่ ลูกเล็ก คนชรา คนป่วย เคลื่อนตัวออกไป

เชลยกลุ่มนี้จะถูกนำตัวเข้าไปใน 'โรงไม้' ให้เปลื้องเสื้อผ้าออกหมด เก็บข้าวของ ทรัพย์สินทุกอย่างไว้ในตู้ แล้วโกนศีรษะออกจนเกลี้ยง เก็บรวบรวมเส้นผมใส่กระสอบอย่างเรียบร้อย โดยฝีมือเพื่อนเชลยด้วยกันเอง ก่อนที่จะเดินเข้าสู่ "ห้องน้ำ" ที่ไม่มีน้ำต่อไป ...

แต่ห้องนั้นมีแก๊สพิษกับความตายรออยู่

Create Date : 05 ธันวาคม 2548

Last Update : 27 ธันวาคม 2548 18:00:29 น.

11 comments

Counter : 6241 Pageviews.

น่าอนาจจัง ไม่น่าเชื่อว่าจิตใจคนจะโหดเหี้ยมได้ปานนี้

โดย: ดา ดา

วันที่: 6 ธันวาคม 2548 เวลา:19:19:11 น.

อ่านจบแล้วอึ้งค่ะ
พูดไม่ออก

โดย: ยัยบี๋

วันที่: 6 ธันวาคม 2548 เวลา:22:43:29 น.

เล่นมากไปหน่อย อันแรกหายหมดเลย

อึ้งกิ้มกี่

ทำใหม่ก็ได้ฟระ

โดย: hidden file

วันที่: 7 ธันวาคม 2548 เวลา:1:37:00 น.

..ทามมั้ยเค้าโหดขนาดเนี่ยนะ..

โดย: จอมแก่นแสนซน

วันที่: 7 ธันวาคม 2548 เวลา:16:25:35 น.

ช่ายโหดมั๊ก ดูแล้วหดหู่โน๊ะ
ว่างๆ เอาCODE ไปแจกย่าบ้างนะ หุหุ

โดย: ดา ดา

วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:9:21:45 น.

อ่านแล้ว แทบไม่อยากคิดภาพในตอนนั้นเลย

โดย: Lotusfight

วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:14:13:05 น.

ประวัติศาสตร์ที่เลวร้ายของมนุษย์ชาติ...

เรื่องบางเรื่องถ้าพ่อแม่หรือผู้ปกครองดูแลลูกหลานดีๆ... เรื่องร้ายๆ บางอย่างอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ เช่นพวกฆาตกรโรคจิต ที่อาจโดนทารุนในวัยเด็ก ทำให้เป็นคนร้ายๆ ในตอนโต

โดย: biggg

วันที่: 10 ธันวาคม 2548 เวลา:16:22:22 น.

ขอบคุณนะคะที่แวะไปที่บล็อก
และขอบคุณอย่างมาก ๆสำหรับคำแนะนำ
จะพยายามแก้ไขค่ะ ยังไม่รู้จะได้หรือเปล่า
ยังไงจะเข้ามาอ่านเรื่องทีหลังค่ะ

ขอบคุณค่ะ

โดย: เสียงซึง

วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:2:48:14 น.

ขอบคุณค่ะ ย่าเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว work เจงๆๆๆ

แล้วอย่าลืมไปตรวจการบ้านบ่อยๆนะคะ

โดย: ดา ดา

วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:22:26:34 น.

มันช่างโหดเหี่ยมป่าเถื่อน ฮิลเลอร์นี้ใจเขาป่าเถื่อนยิ่งกว่าสัตย์นะค่ะหรือเรียกว่าพวกไร้หัวใจไร้วิญญาณ เพิ่งจะได้อ่านอย่างละเอียดก็ครั้งนี้หละค่ะ เคยอ่านผ่านๆค่ะ น่าติดตามในความเหี้ยมโหดของเขาค่ะ ดีที่ฮิตเลอร์ไม่มาเกิดในยุคนี้ไม่งั้นโลกโกลาหนแน่ค่

ะ

โดย: erina

วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:2:38:45 น.

อ่านแล้วก็ได้แต่ปลงนะคะ...ตอนนี้ได้แต่หวังว่าจะไม่มีเรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นซ้ำซ้อนอีกครั้งกับเพื่อนมนุษย์

ดึกแล้วนอนหลับฝันดีนะคะ

โดย: marinesnow

วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:3:01:28 น.