เที่ยวเอง 4D3N เมืองลาว ทริปทุ่งไหหิน -วังเวียง-เชียงขวาง 2011:

Day2  ตอน4  : ตามรอยทุ่งไหหินแหล่ง 1   เมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง   สปป.ลาว 

  ----------------------------------------------------

Day1:  9 Dec2011  เวียงจันทน์ -วังเวียง - เชียงขวาง (เมืองโพนสะหวัน)
Day2 : 10 Dec2011  ย่ำตลาดเช้าเมืองโพนสะหวัน         
         :  ตามรอยทุ่งไหหินแหล่ง 3  แหล่ง 2 และ แหล่ง1
Day3  :  11 Dec2011  อำลาทุ่งไหหิน เชียงขวาง สู่ วังเวียงเมืองแห่ง                     สายน้ำ  นั่งเรือล่องแม่น้ำซอง วังเวียง
Day4 :  12 Dec2011 ตลาดเช้าวังเวียง ความสุขริมน้ำซอง
             อำลาวังเวียง กลับเวียงจันทน์  
   Hotel
Night1 : โรงแรมจิตตะวัน โพนสะหวัน เชียงขวาง
Night2:  โรงแรมดวงแก้วมณี โพนสะหวัน เชียงขวาง
Night3:  โรงแรมถาวรสุขรีสอร์ท วังเวียง 
-------------------------------------------------------------------

Day2 : Part 4   Saturday 10/12/2011

+++ทุ่งไหหินแหล่ง1++++
เมืองโพนสะหวัน  แขวงเชียงขวาง สปป.ลาว

หลังจากไปเยี่ยมเยือทุ่งไหหินแหล่ง3และ2 มาแล้ว เราก็เดินทางเพื่อไปทุ่งไหหินแหล่ง 1

พิกัด อยู่ห่างเมืองโพนสะหวัน10กม.

แขวงเชียงขวาง
อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของลาว ที่มีชายแดนติดกับเวียดนาม ในสมัยสงครามเวียดนามปี2513 แขวงเชียงขวางเคยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ทหารอเมริกาทิ้งระเบิด B52 ทำลายเส้นทางลำเลียงอาวุธจากประเทศเวียดนามเหนือสู่ขบวนการประเทศลาวจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก จนต้องย้ายเมืองหลวงจากเมืองคูนเป็นเมืองดพนสะหวันซึ่งห่างเมืองหลวงเก่า 30กม. 

   
ระหว่างเส้นทางที่จะไปยังทุ่งไหหิน1 เราผ่านหมู่บ้านม้งหรือลาวสูง ที่สร้างบ้านไม้ขัดแตะอยู่ตามข้างถนน วันนี้มีประเพณีประจำปี สาวๆแต่งตัวด้วยชุดพื้นเมืองอย่างสวยงาม ตามบ้านมีการชุมนุมกัน กินอาหารร่วมกัน สาวๆเดินแต่งกายสวยงาม ดูคึกคัก ยกเว้นแต่หนุ่มม้งที่มองหาไม่เจอใครใส่ชุดพื้นเมืองสักคน วัฒนธรรมภายนอกที่เข้าไปในวิถีชีวิต ทำให้ความสวยงามของประเพณีเก่าแก่เริ่มหายไป

หนุ่มสาวโยนลูกกลมๆสลับกันรับอย่างคล่องแคล่ว เล่นเพื่ออะไรไม่ทราบแน่ชัด บางคนบอกเล่นแก้หนาว





ขอถ่ายรูปได้โดยไม่ขัดเขิน ยิ้มหวานของสาวม้ง









15.30 วันนี้อากาศหนาวจนเย็น ท้องฟ้าเป็นสีเทาตั้งแต่เช้า อุณหภูมิน่าจะประมาณ10องศา การเดินทางไปทุ่งไหหินแหล่ง1 เป็นไปอย่างสะดวกสะบาย ขับรถไม่ไกลจากเมืองคูนก็ถึงแล้ว บ่อนขายปี้อยู่ในร้านขายอาหารและขายของที่ระลึก ค่าเข้าชมคนละ10,000กีบ

ทุ่งไหหินแหล่ง 1 
ทุ่งไหหินแห่งนี้ มีไหมากที่สุด จำนวน334ใบ ลักษณะเด่นของไหหินจะมีขอบไหอยู่ด้านนอก ใบใหญ่สุดมีน้ำหนักถึง6ตัน







สวนทางกับสาวเชียงขวาง




จากที่ขายตั๋ว เราเดินขึ้นเนินไปเล็กน้อย ทุ่งไหหินตั้งอยู่บริเวณเนินโล่ง มีไหกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ที่แหล่งนี้มีไหหินมากที่สุด กระจายอยู่บนเนินเขาหลายเนิน และไหหินใบใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ที่นี่







คุณยายหายไปไหนครับ

หนุ่มน้อยผู้เฝ้ารักษาไห

 

ไหแม่-ลูก

ช่วงเวลาตั้งแต่บ่ายสามถึงห้าโมงเย็น เหมาะสมที่สุดในการเที่ยวชมทุ่งไหหิน เพราะทุ่งหญ้าและใบไหจะเปลี่ยนสีไปตามแสงแดด แต่วันที่เราไปฟ้าปิด ไม่มีแดด ฟ้าหลัวทั้งวัน


ใกล้ๆกับบริเวณนี้ ประมาณ50เมตร เราเดินไปดู "ถ้ำไห" ที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ เป็นถ้ำที่ชาวเชียงขวางใช้หลบภัยจากสงครามทางอากาศ ในถ้ำบรรจุคนได้ประมาณ40คน หน้าถ้ำมีศาลเจ้าเล็กๆ ภายในถ้ำมีปล่องอากาศที่ด้านบน2ปล่อง










สภาพจากภายในถ้ำมองออกไปยังภายนอก ความรู้สึกที่ยากจะบอก......หากเราคือผู้ที่หลบภัยจากระเบิดและต้องอยู่ภายในนี้



ภายนอกถ้ำ บริเวณไม่ไกลมีหลุมระเบิดเป็นวงกว้าง หลุมระเบิดเช่นนี้พบได้อีกหลายแห่งใกล้ๆถ้ำ







ไหขนาดใหญ่ที่สุด อยู่ที่นี่ สูงประมาณ 2.5 เมตร สังเกตุลักษณะเด่น มีขอบอยู่ด้านบน

ที่ทุ่งไหหินแห่งนี้ยังมีช่างภาพคอยบริการถ่ายภาพนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เอากล้องมา ราคา 10,000กีบ เคลือบพลาสติคให้อย่างดี



วิวทุ่งไหหินเมื่อมองจากบนเนินเขาลูกที่สอง



ไม่ไกลจากทุ่งไหหิน มีค่ายทหารและสนามบินทุ่งไหหินอยู่ไม่ไกล



เมื่อเราเดินผ่านทุ่งไหหินบริเวณพื้นราบ ต่อไปจะมีเส้นทางขึ้นสู่บนเนินเขาลูกที่สอง มีไหหินให้เห็นประปราย แต่สิ่งที่เห็นแปลกตากว่าแห่งอื่นคือ ที่บนเนินเขานี้มีคันดินขุดเป็นแนวสู้รบในสมัยสงครามปรากฏให้เห็น ปัจจุบันหญ้าขึ้นรกปกคลุมหลุม



ภูเขาหัวโล้นพบเห็นทั่วไปในบริเวณเขตสงคราม




วิ่งมากเริ่มหมดแรงครับ หิวขนมแล้ว



อิอิ ใครแอบอยู่ข้างหลัง



คุณตาครับ กองทัพอยู่นี่



อำลาแล้วทุ่งไหหิน แล้วเราจะกลับมาเยือนอีกครั้งในวันหน้า

หาของที่ระลึกไม่เห็นไหสักใบ มีขายผ้าเล็กน้อย ไม่ได้อะไรติดมือกลับมาเลย






และสุดท้าย ลาก่อนทุ่งไหหิน
11ชม.ที่ผ่านเส้นทางหลายพันโค้งเพื่อมาตามหาอดีตที่นี่

เราออกจากทุ่งไหหินเมื่อใกล้ค่ำ

เข้าพักโรงแรมที่เราจองทางagodaไว้แล้ว

โรงแรม ดวงแก้วมณี  ทางโรงแรมเตรียมกุญแจห้องให้เรียบร้อย

ห้องพักของกองทัพ แทนไท เป็นห้อง Triple bed เด็กๆสนุกตื่นเต้นกันใหญ่ที่คืนนี้จะได้นอนห้อง3เตียง ( แต่พอตกดึก น้องกองทัพหอบหมอนมานอนกับแม่เหมือนเดิม)

อาหารค่ำวันนี้ ตะเวณหาร้านหลายร้าน เจอร้านบรรยากาศดี อยู่ริมน้ำแต่พอเข้าไปเป็นร้านอาหารกึ่งกินเหล้า มีจอเพลงคาราโอเกะจอยักษ์และขี้เมาเริ่มร้องเพลง เดินออกมาจากร้าน ไม่ใช่แนวหนวกหูเกินไป ร้านอาหารมีไม่มากนัก ในที่สุดขับรถกลับมาถนนเส้นเดิมเมื่อคืน หาร้านที่เคยเจอแนะนำในเวบ ชื่อ

ร้านสง่าโภชนา เป็นร้านอาหารธรรมดามากๆ แต่หิวแล้ว ขี้เกียจที่จะหา ร้านนี้เมนูอาหารหลากหลาย มื้อนี้สั่งตามใจทุกคน



คุณแม่หนาวเลยสั่งเฝอร้อนๆ กองทัพสังสปาเกตตี้ แทนไทสั่งข้าวแกงกะหรี่ไก่ นอกนั้นมีสลัดลาว แม่ค้าพูดจาดี เข้าใจง่าย อาหารได้ตามที่สั่งไม่มีผิดพลาด สอบถามคิดว่าเจ้าของร้านเป็นคนไทย แต่กลับเป็นชาวลาวชื่อสะหง่า อาหารหลากหลาย จานไม่ใหญ่มาก รสชาติใช้ได้ แต่บรรยากาศร้านเหมือนร้านริมถนนทั่วไป วันที่เราไปกินข้าว โต๊ะข้างๆน่าจะเป็นม้ง มานั่งกินข้าวฉลองเทศกาลอะไรสักอย่าง สั่งเฝอชามโตกินกันทั้งโต๊ะ แอบเหล่มอง



อากาศหนาวมาก กลับไปอาบน้ำอุ่นๆที่โรงแรม เล่นเนตก่อนนอน สัญญาณแรงดีมาก   แล้วเข้านอนหลับอย่างอบอุ่นสบาย กับน้องกองทัพ (แอบกลับมานอนกับแม่)

คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์พี่น้องชาวลาวทุกท่าน 

 =============================