เที่ยวเอง4D3N ทริปเมืองลาว ทุ่งไหหิน -วังเวียง-เชียงขวาง2011:ตอน1ตามหาอดีต เวียงจันทน์ สู่เชียงขวาง


1
เที่ยวเอง 4D3N ทริปทุ่งไหหิน -วังเวียง-เชียงขวาง 2011:

ตอน1  ตามหาอดีตทุ่งไหหิน
จาก เวียงจันทน์ สู่ เชียงขวาง (เมืองโพนสะหวัน)


Smiley  ----------------------------------------------------
Day1:  9 Dec2011  เวียงจันทน์ -วังเวียง - เชียงขวาง (เมืองโพนสะหวัน)
Day2 : 10 Dec2011  ย่ำตลาดเช้าเมืองโพนสะหวัน         
         :  ตามรอยทุ่งไหหินแหล่ง 3  แหล่ง 2 และ แหล่ง1
Day3  :  11 Dec2011  อำลาทุ่งไหหิน เชียงขวาง สู่ วังเวียงเมืองแห่ง                     สายน้ำ  นั่งเรือล่องแม่น้ำซอง วังเวียง
Day4 :  12 Dec2011 ตลาดเช้าวังเวียง ความสุขริมน้ำซอง
             อำลาวังเวียง กลับเวียงจันทน์  
335   Hotel
Night1 : โรงแรมจิตตะวัน โพนสะหวัน เชียงขวาง
Night2:  โรงแรมดวงแก้วมณี โพนสะหวัน เชียงขวาง
Night3:  โรงแรมถาวรสุขรีสอร์ท วังเวียง 
-------------------------------------------------------------------


9/12/2011
9 ธ.ค.2554 

++++ ตอนที่1 เส้นทางเวียงจันทน์ - เชียงขวาง ++++

Day1: เวียงจันทน์ -วังเวียง - เชียงขวาง (เมืองโพนสะหวัน) 

การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางที่พวกเราเกือบพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว เป็นการเดินทางตามหาอดีตของคุณตา ที่ครั้งหนึงเมื่อ40ปีที่แล้วเคยมีประสบการณ์ชีวิตช่วงหนึ่ง ณ ทุ่งไหหิน เวลาผ่านไป40ปี ร่องรอยของอดีตยังคงเหมือนเดิมหรือมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน  ทริปครั้งนี้เราจัดเพื่อคุณตาโดยเฉพาะ ครั้งนี้ลูกหลายเลยถือโอกาสมาย้อนรอยดูอดีตที่คุณตาเคยมาที่นี่เมื่อนานมาแล้ว เราเตรียมตัวกันอย่างดีเนื่องจากการเดินทางต้องใช้เวลาค่อนข้างยาวนาน

11 ชั่วโมงบนเส้นทางสู่อดีต สะบายดีเวียงจันทน์-เชียงขวาง

ทริปนี้โดย แทนไทและกองทัพทัวร์ครับ ( ทัวร์นี้แสนดี ทัวร์ไปกันเอง )
ทริปนี้เช่ารถตู้ลาวจากบริษัทที่หนองคายเป็นรถตู้เจ้าประจำอีกเจ้า วางใจได้ อุ่นใจในการเดินทาง โดยแผนการเที่ยวครั้งนี้ เหมือนกับการมาลาวในทุกครั้ง คุณแม่วางแผนการท่องเที่ยวเองตลอดการเดินทาง โดยหาข้อมูลล่วงหน้าจากอินเตอร์เนต คำนวณระยะทางและที่เที่ยว รวมทั้งเวลาในการเที่ยวชมที่ต่างๆ และจองที่พักผ่านทางอินเตอร์เนตเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากเราเดินทางกันมีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ หากไม่เตรียมตัวล่วงหน้าเป็นอย่างดีคงจะมีปัญหาพอสมควร ทริปนี้เที่ยวได้ตามใจเรา สะดวกสบายดีมาก

เริ่มการเดินทาง เราเอาโปรแกรมที่กำหนดไว้ให้คนขับรถดูเพื่อดูแผนการเที่ยวและอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม

คุณพ่อมาส่งที่หนองคาย ตามที่เรานัดกับรถเอาไว้ เวลา730 น คุณพ่อติดภารกิจด่วนไปกับเราไม่ได้ มอบหมายให้ลุงจ่าณัฐไปดูแลพวกเราแทน เราเปลี่ยนจากรถตู้เรามาขึ้นรถตู้ลาวที่วัดโพธิ์ชัยหรือวัดหลวงพ่อพระใส หลังออกจากบ้านพักที่อุดรธานีเวลา 0630



เริ่มต้นจากด่านที่ฝั่งลาวนะครับ

 สิ่งสำคัญในการเดินทางนอกจากเสบียง น้ำ ขนมที่ตุนมากินเป็นอาทิตย์ก็กินไม่หมดแล้ว ที่ห้ามลืมคือ พาสปอร์ต เพราะเราเดินทางออกนอกเขตพระนครเวียงจันทน์ ต้องพกพาสปอร์ตติดตัวเสมอ
ส่วนเสบียงอาหารแห้ง น้ำ ควรเตรียมเพราะอาหารในลาวจะแพงมาก ตามข้างทางอาจไม่สะดวกในการแวะซื้อ( แต่เอาเข้าจริง ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า อยากลองอาหารลาว ขนมปังที่เตรียมแทบไม่ได้กินเลย )

ก่อนออกเดินทางควรแลกเงินกีบไว้ใช้เพราะจะเข้าไปลึกในฝั่งลาว ควรมีเงินกีบติดตัวไปด้วย เราแวะธนาคารที่ด่าน รับแลกในอัตรา 1บาท=260กีบ เป็นเศรษฐีเงินล้านในพริบตา

การคิดคำนวณเงินแบบง่ายๆ เงินกีบ ตัด0สามตัวและคูณด้วย4 จะได้เป็นเงินบาทไทย เช่น 5000กีบ = 20บาท



เวียงจันทน์ 

8.30 น ออกจากด่าน เริ่มการเดินทาง Smiley

เลี้ยวซ้ายโดยใช้เส้นทางถนน450ปี ถนนดอกจำปา เส้นทางวิ่งเรียบออกนอกตัวเมือง ไม่ผ่านตัวเมืองนครเวียงจันทน์ เส้นทางออกนอกเมืองเมื่อพ้นถนนดอกจำปาแล้ว เริมเข้าสู่ชีวิตวิถีลาวแบบจริงๆ ถนนกำลังก่อสร้างซ่อมแซม รถวิ่งกระเด้งกระดอน เส้นทางปกคลุมด้วยฝุ่น เราเดินทางออกมานอกเมืองเรื่อยๆ ผ่านบ้านไทพวน บ้านโพนไซ ตลาดกม.52(ซึ่งเราจะแวะขากลับ) ผ่านตลาดม้ง




10.20 น ถึง  เมืองโพนโฮง ( 70 กม.) อ้ายเพชรคนขับหิวขับ แวะหาข้าวเหนียวปิ้งกินรองท้อง



ราคามาตรฐานทุกอย่าง 5000 กีบ (20บาท) ลองกินขนมคล้ายข้าวเกรียบปากหม้อญวน อร่อยมากๆ

1040 น. ระหว่างทางไปวังเวียง เริ่มเป็นเนินสูง มีภูเขาให้เห็น เส้นทางเวียงจันทน์-วังเวียง เริ่มมีทางเคี้ยวโค้ง คนขับบอกนี่แค่ระดับอนุบาลมีประมาณ1300-1400โค้ง นี่เพียงเริ่มต้น เด็กๆยังดูการ์ตูนหัวเราะเริงร่า ไม่มีอาการเมารถให้เห็น


หมู่บ้านม้ง ลาวเทิง มีให้เห็นตามริมทาง มีรถขายเสื้อdeliveryเข้าถึงหมู่บ้าน เด็กๆม้ง วิ่งเล่นอยู่ข้างถนน ส่วนมากใส่เสื้อสีสดใส สังเกตุเห็นว่าตามข้างทางบ้านม้งจะมีเด็กเยอะมาก ที่เล่นที่ยืนก็คือตามทางติดถนน ไม่กลัวรถบีบแตรเตือนยังเฉยไม่มีการหลบรถแต่อย่างใด



ตามริมทางบนเขา จะเห็นทหารลาวเทิง หรือลาวสูง เดินถือปืน ไปมา อยู่ริมทาง คนขับรถบอกว่าจะมีผสมกันระหว่างลาวลุ่ม ลาวเทิง เดินดูแลความปลอดภัยของหมู่บ้านตัวเอง เห็นแล้วไม่น่ากลัว บางคนหน้ายังเด็กๆอยู่เลย




12.00 น.-1315 น. 
อีก20กม.จะถึงเมืองวังเวียง แวะทานข้าวเที่ยงที่ ตลาดห้วยหม้อ   

เป็นหมู่บ้านเล็กๆขายปลา มื้อนี้ทานอาหารปลาที่ร้านอาหารยายปัญจา เป็นร้านเล็กๆติดลำน้ำ ที่เด็ดของร้านคือกาแฟลาว เหมือนกาแฟโบราณของไทย ยายปัญจาชงใส่แก้วให้เรากิน เห็นแล้วต้องรีบยกเลิกที่สั่งไว้4แก้ว เพราะแกเล่นชงใส่ขวดคอฟฟี่เมตมาให้



วิวจากร้านอาหาร



โอวัลตินของน้องแทน 1แก้วยายปัญจา

 



อาหารสุดอร่อย สั่งต้มยำปลา ลาบปลา ปลาทอดกระเทียม ผัดผัก ไข่เจียว แต่แม่ครัวเอามาอย่างละ3 ชุด เกือบ15จาน ?????? คนกิน6คนแถมเป็นเด็ก2คน ทำมาเยอะจนต้องไปกระซิบบอกแม่ครัวว่าเอาทำไมอย่างละตั้ง3ชุด แม่ครัวบอกเห็นคนหลาย ????? ประสบการณ์มื้อแรกบอกให้รู้ว่าต้องกำชับเรื่องการสั่งอาหารให้ดี ค่าอาหารมื้อนี้ 1,640บาท ห่อกลับ กินไม่ไหว
สังเกตุ เมนูนอกเมืองเวียงจันทน์ออกมาจะมีแต่เมนู ไม่เขียนราคาไว้



วังเวียง 

++++++ 13.40 น      วังเวียง     

ทิวทัศน์รอบข้างเริ่มเห็นภูเขาหินปูนแปลกตา ต่างจากภูเขาที่ผ่านมาที่เป็นเทือกเขาสูงปกติ เราขับรถผ่านเท่านั้นเพราะวันนี้จุดหมายอยู่ที่เมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง ขากลับเราจะแวะนอนค้างที่นี่1คืน ยังมีเวลาเก็บตกภายหลัง



ผ่านสนามบินเก่าวังเวียง ที่ซึ่งในอดีตจะมีเครื่องบินนำทหารอเมริกันบินจากสนามรบเพื่อมาพักผ่อนที่วังเวียง พร้อมเบี้ยเลี้ยงจำนวนหนึ่งให้มาผ่อนคลายกินดื่มที่วังเวียงให้เต็มที่ ในขณะที่เวลาผ่านไป สนามบินวังเวียงในวันนี้ แลดูวังเวง โล่ง เงียบ ท่ามกลางรอบข้างที่กลายเป็นเพิงขายอาหาร ร้านค้าเล็กๆ




1445 น. แวะปั๊ม   เมืองกาสี    ห้องน้ำสะอาดมาก





เมืองกาสีเป็นเมืองเล็กๆเป็นเพียงจุดพักรถ ทานอาหาร ระหว่างทางมีหมู่บ้านม้ง บ้านไม้ขัดแตะตลอดข้างทาง บ้านมักตั้งบนขอบเหวหรือขอบเขา ติดถนน บนภูเขาบางลูกมีการปลูกข้าวทางชันเกือบ90องศา เห็นแล้วน่ากลัวว่าตอนทำนาจะตกภูเขาเสียก่อนชาวเขาส่วนใหญ่เป็นเผ่าเย้า ลาวเทิ่ง สังเกตุมีเด็กชาวม้งเยอะมาก มีส้มกาสีขายข้างทาง ราคาค่อนข้างแพง 3กิโล100




15.45 น. แวะพัก จุดชมวิวยอดเขาพูคูน

ห่างเมืองกาสีประมาณ35กม. มีห้องน้ำสะอาด ร้านอาหาร จุดชมวิว ลานจอดรถบัส จุดนี้เป็นจุดสูงสุด อากาศเย็นสบาย พักหายเมื่อยประมาณ20นาที เดินทางกันต่อ

<



คนไทย แอ็คท่าถ่ายรูปบนขอนไม้ที่ข้างล่างเป็นเหว แค่เห็นก็หวาดเสียวเเล้ว


เด็กชาวม้งละเเวกนั้น อายกล้องหลบหน้ากันใหญ่


สามแยกพูคูน

1620 น. ถึง  สามแยกพูคูน   แยกซ้ายไปหลวงพระบาง
แยกขวาไปเชียงขวาง

ไม่มีเวลาแวะ จะมาเก็บตกภายหลัง วันนี้ต้องรีบไปให้ถึงเชียงขวางก่อนที่จะดึกมาก สภาพบริเวณนี้จอแจ มีรถโดยสาร ฝุ่นเยอะ



บรรยากาศสองข้างทางยังคงคดเคี้ยวมากขึ้น โค้งหักศอกโดยข้างๆถนนเป็นหุบเหว บางแห่งมองลงไปเห็นด้านล่างลิบๆ แต่ยังดีที่มีหมู่บ้านชาวม้งตั้งริมทางตลอดแนวภูเขา ทำให้ไม่รู้สึกน่ากลัวเท่าไหร่ ตลอดจนมีทหารลางเทิงถือปืนเป็นระยะ ที่ลาว รถวิ่งกันช้ามาก บนเขาน่าจะประมาณ 20 กม.ต่อชั่วโมง ( ในที่ราบยังจำกัดความเร็ว60กม/ชม.) รถที่วิ่งสวนกันเส้นทางนี้ไม่มากเท่าทางไปหลวงพระบาง ส่วนมากเป็นรถสินค้า รถหกล้อ



เชียงขวาง 

1715 น. เข้าเขตแขวงเชียงขวาง มืดกลางภูเขา เริ่มไต่ระดับความสูงลงมาเรื่อยๆ เป็นช่วงลงเขา อ้ายเพชรบอกขับรถกลางคืนง่ายกว่ากลางวัน ดูแค่แสงไฟ

เมืองโพนสะหวัน 

1910 น. เข้าสู่     เมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง
ระยะทางจากพูคูนมาถึงโพนสะหวัน 135 กม.

โรงแรม จิตตะวัน 

เข้าที่พักโรงแรมจิตตะวัน ที่จองผ่านagodaไว้แล้ว 
โรงแรมเตรียมห้องให้พร้อมเข้าได้ทันที และเจ้าของโรงแรมยังได้ upgradeห้องให้เป็นห้องVIPด้วย ลืมบอกว่าตอนลงจากรถตู้จะเข้าพักที่โรงแรมเกือบหนาวตาย ลงจากรถมาเจออากาศ10องศา(หรือน่าจะต่ำกว่า) ทันที สั่น หนาวมากกก



เกือบสองทุ่ม เราหาอาหารค่ำทานกัน

ถนนสายหลักในเมืองโพนสะหวัน มีโรงแรม ที่พัก ร้านอาหารให้เลือกไม่มากนัก เราลองหาร้านอาหารตามสั่ง ร้านแรก มีเรื่องให้ขำอีกแล้ว



เมนูดูดีไม่น่าจะมีอะไร อาหารก็หลากหลาย แม่ครัวคงเก่ง สั่งซะเลย

ข้าวหมูทอดกระเทียม ของลูก2จาน และอาหารจานเดียวง่ายๆคนละเมนูสองเมนู ไม่นานนัก อาหารมาแล้ว จานใหญ่ซะด้วยขนาดจานเปลของบ้านเรา มองดู ทำไมมีข้าวราดด้วยหมูใส่ดอกกะหล่ำมา เด็กเสริ์ฟน่าจะเป็นชาวลาวเวียดนาม บอกนี่ไงข้าวหมูทอดกระเทียม(ผัดหมูใส่กระเทียมเป็นหัวๆ แถมดอกกะหล่ำให้แล้วราดมาบนข้าว) และอาหารของคนขับรถชาวลาวด้วยกันก็ยังทำมาให้ผิดสั่งปลาผัดอะไรสักอย่างได้ปลามาเป็นตัวผัดใส่ผักโปะมาให้บนข้าว เราเห็นแล้วจะโกรธก็โกรธไม่ลง แต่ยังไงก็คงกินข้าวหมูทอดสูตรนี้ไม่ได้(ลูกไม่กินเด็ดขาด) เลยบอกไม่ใช่แบบนี้ เจ้าของร้านชาวลาวเข้ามาขอโทษใหญ่ โต๊ะข้างๆที่กำลังจะสั่งอาหารเลยขอข้าวหมูทอด(ฉบับเชียงขวาง) สองจานนี้ไปกินซะเลย




เข้าทางเรา เพราะตอนแรก กำลังเหล่ร้านอาหารฝรั่งข้างๆที่ติดกันพอดี ได้โอกาสพาลูกเปลี่ยนร้านไปชมบรรยากาศร้านนี้ทันที

ร้านอาหาร Craters หน้าร้านตกแต่งด้วยลูกระเบิดจากสงคราม




ร้าน Craters ขายอาหารฝรั่ง ภายในร้านอบอุ่น นั่งแล้วมีความสุข มีฝรั่งนั่งอยู่3โต๊ะ เด็กๆเลยสั่งสเต๊คหมู , ฟิชแอนด์ชิฟ มากินแทนยิ้มแป้นไปเลย ค่าอาหารไม่แพง รวมแล้วสองจานหมดไป7000กีบ (280บาท) เด็กเสริฟเป็นชาวลาวกิริยามารยาทเรียบร้อย

ภายในร้านตกแต่งด้วยภาพสงครามลาวและอาวุธโบราณต่างๆ เวลา1ทุ่มของทุกวันจะมีฉายหนังสงครามของลาวด้วย เสียดายมาช้าไป อดดู



โต๊ะข้างๆด้านหลังเจอนักท่องเที่ยวหน้าเหมือนนิโคลัจ เคช นั่งเมาเบียร์หัวเราะเสียงดังทั้งโต๊ะเลย



น้องกองทัพนั่งตาโต โต๊ะข้างหลังหนุ่มน้อยนั่งกินเบียร์ไปเกือบ7ขวดแล้ว ยังนั่งเล่นเนตอย่างเพลิดเพลินใจ



จบรายการอาหาร

เข้าพักผ่อนคืนนี้ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ณ เมืองเชียงขวาง
ได้นอนพักในห้องอย่างอบอุ่น แคบไปนิดแต่สะดวกสบายทุกอย่าง ในห้องไม่มีแอร์เเต่อากาศยังหนาวกว่าเปิดแอร์

คืนนี้นอนหลับสบายอบอุ่นกับเทวดาน้อยของแม่ทั้งสองคน

====================================

 

++++รู้จักเมืองเชียงขวาง ให้มากขึ้น+++++

เเขวงเชียงขวาง

ในปี พ.ศ. 2513 แขวงเชียงขวาง เคยเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือดนับครั้งไม่ถ้วน ในยุคสงครามอินโดจีน หรือสงครามเวียดนามที่ผ่านมา อาจเพราะว่าในอดีตเชียงขวางคือจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศลาว เพราะตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ อยู่ห่างจากนครเวียงจันทน์ประมาณ 400 กิโลเมตรและจากเมืองโพนสะหวันซึ่งเป็นเมืองหลวงของเชียงขวาง ขวางข้ามเทือกเขอันสลับซับซ้อนบนทางหลวงหมายเลข 7 ไปสิ้นสุดที่ด่านน้ำกลั่น ชายแดนทางตอนเหนือของประเทศเวียตนามระยะทางเพียงแค่ 130 กิโลเมตรซึ่งในช่วงสงครามอินโดจีนเส้นทางสายนี้เคยใช้เป็นเส้นทางส่งกำลังบำรุงรวมทั้งอาวุธยุโธปกรณ์ต่างๆจากประเทศเวียตนามเหนือ สู่ขบวนการประเทศลาวซึ่งในขณะนั้นเป็นพันธมิตรซึ่งกันและกันและเส้นทางสายนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเส้นทางโฮจิมินห์ ความที่อยู่ใกล้เวียตนามเหนือทำให้ขบวนการลาวตัดสินใจตั้งกองบัญชาการใหญ่ขึ้นที่นี่กองทัพอากาศอเมริกันจึงส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี 52 เข้ามาทิ้งระเบิดปูพรหมหมายทำลายล้างขบวนการลาวอย่างหนัก หมู่บ้านใหญ่น้อยหลายร้อยแห่งตลอดจนวัดวาอารามถูกทำลายแทบทั้งหมด ส่งผลให้ราษฏรและทหารฝ่ายขบวนการประเทศลาวต้องอพยพเข้าไปอยู่ตตตามถ้ำและหุบเขาทั่วไปในแขวงเชียงขวางและข้างเคียง

• ในอดีตในสมัยช่วงทศวรรษที่ 1830 แขวงเชียงขวางถูกรวมเข้าอยู่กับเวียตนาม ชาวเชียงขวางในสมัยนั้นถูกบังคับให้แต่งกายและใช้ขนบธรรมเนียมของเวียตนาม แต่ความรักอิสระและทรนงในชาติพันธ์ของตนเองทำให้ชาวเชียงขวางทุกคนลุกขึ้นสู้เพื่อรักษาความเป็นอธิปไตยของตนเองไว้อย่างสุดความสามารถ แต่ท้ายที่สุดชาวเชียงขวางก็ไม่อาจต้านทานกำลังจากประเทศเพื่อนบ้านผู้ทรงอิทธิพลในขณะนั้นจึงตกเป้นเมืองขึ้นของเวียตนามอยู่ชั่วระยะหนึ่ง

• ปัจจุบันเมืองเชียงขวางเริ่มฟื้นตัวเรื่อยๆค่อยเป็นค่อยไป มีสิ่งดีๆมอบเป็นของกำนัลแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนเสมอ ชาวเชียงขวางไม่เคยลืมอดีตที่โหดร้ายของสงครามที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีอคติกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและผู้มาเยี่ยมเยือนทุกคนช่วยกันก่อสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ คือเมืองโพนสะหวันแทนเมืองคูนเมืองหลวงเก่าที่ถูกทำลายลงด้วยพิษสงคราม

 =====================================
ติดตามทริปเที่ยวเองตอนต่อไป
เที่ยวเอง 3D3N ทริปทุ่งไหหิน -วังเวียง-เชียงขวาง 2011:

ตอน1: 9/12/54  เวียงจันทน์ -วังเวียง - เชียงขวาง (เมืองโพนสะหวัน)

ตอน2: ย่ำตลาดยามเช้าเมืองโพนสะหวัน / ตามรอยทุ่งไหหิน แหล่ง 3

ตอน3: ตามรอยทุ่งไหหินแหล่ง 2 (กลุ่มไหหินนาโค) เมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง   สปป.ลาว 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-01-2012&group=3&gblog=4

ตอน4:ตามรอยทุ่งไหหินแหล่ง 1   เมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง   สปป.ลาว
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-01-2012&group=3&gblog=5

ตอน5: อำลาทุ่งไหหิน เชียงขวาง สู่ วังเวียง 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=10-01-2012&group=3&gblog=6

ตอน6:  วังเวียง เมืองแห่งสายน้ำ นั่งเรือล่องแม่น้ำซอง 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=18-01-2012&group=3&gblog=8

ตอน7:  ตลาดเช้าวังเวียง ปิดทริป4D3N ย้อนอดีตทุ่งไหหิน ความสุขริมน้ำซอง กลับเวียงจันทน์สู่เมืองไทย
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=20-01-2012&group=3&gblog=7

 4

 




Create Date : 06 มกราคม 2555
Last Update : 14 สิงหาคม 2562 12:09:15 น.
Counter : 9484 Pageviews.

1 comments
  
ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ
โดย: paijong IP: 183.89.227.183 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2558 เวลา:14:31:16 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

momarmy
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]



เทคนิคการแพทย์ที่มีฝัน รักการเดินทาง เขียนบันทึกการท่องเที่ยว และรักการถ่ายภาพลูกชายเป็นชีวิตจิตใจ มีความสุขทุกครั้งที่ได้เก็บกระเป๋า สะพายกล้องออกเดินทาง รักอิสระชอบวางแผนและเดินทางท่องเที่ยวเอง มีความฝันอยากพาผู้คนไปท่องเที่ยวให้มีความสุข บันทึกการเดินทางในบล็อคนี้คือการบันทึกวันเวลาแห่งความสุขเก็บไว้ และยินดีแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางในการท่องเที่ยวด้วยตัวเองให้กับผู้ที่มีความฝันเหมือนกัน
Group Blog
มกราคม 2555

1
2
3
4
5
8
9
11
12
13
14
15
16
17
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog