หลังจากที่หลวงพ่อเงินมรณภาพปรากฏว่าได้มีการสร้างพระในนามของท่านขึ้นมาหลายรุ่น หลายวาระ ทางวัดบางคลาน และวัดอื่นๆ รวมทั้งหน่วยงานราชการ และผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ได้จัดสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายรุ่น แต่ที่โด่งดังสุดๆ ก็คือพระหลวงพ่อเงินที่สร้างในปี พ.ศ. 2515 หรือที่เรามักจะเรียกว่าสั้นๆว่า หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ปี 15 ซึ่งสมัยนั้นมีพระครูพิบูลธรรมเวทหรือหลวงพ่อเปรื่อง เป็นเจ้าอาวาส โดยวัตถุประสงค์เพื่อสมนาคุณแก่ผู้ร่วมสมทบทุนสร้างโบสถ์หลังใหม่ และเป็นที่ระลึกงานผูกพัทธสีมาของวัดบางคลาน หรือชื่อใหม่ก็คือ วัดหิรัญญาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าที่หลวงพ่อเงินได้สร้างและจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ โดยมี พล.ต.ต. สง่า กิตติขจร รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น เป็นประธานอุปถัมภ์ นายเผด็จ จิราภรณ์ ประธานสภาจ.พิจิตร เป็นประธานกรรมการอำนวยการ ส่วนประธานฝ่ายสงฆ์คือ สมเด็จพระวันรัต วัด พระเชตุพนฯ และ พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดสุทัศน์ โดยมี อาจารย์เทพ สาริกบุตร เป็นเจ้าพิธี
หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ปี15 ที่โด่งดังสุดๆ เหตุเพราะการสร้างพระในครั้งนั้นวัตถุประสงค์ดี เจตนาบริสุทธิ์ จึงเป็นส่วนหนึ่งของอานิสงส์ทำให้เกิดผลอัศจรรย์แก่ผู้ที่มีไว้ครอบครองปรากฏให้เป็นข่าวคราวตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ
เนื่องจาก พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ปี15 จัดพิธีปลุกเสกอย่างสมบูรณ์แบบ ปัจจุบันพระรุ่นนี้จึงได้รับความนิยมเช่าบูชาอยู่ในเกณฑ์สูงมากมีราคาตั้งแต่หลักหมื่นต้นๆจนถึงหมื่นปลายๆ ปรากฏคุณวิเศษเป็นเรื่อราวเล่าขานมากมายหลายเรื่อง เชื่อกันว่าพระหลวงพ่อเงินรุ่นนี้ใช้บูชาแทนรุ่นเก่าซึ่งมีราคาสูงถึงหลักล้านได้
ชนวนโลหะและการปลุกเสก
มวลสารหลักๆที่นำมาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลรุ่นนี้ คือ แผ่นทองเหลืองแผ่นทองแดงที่พระคณาจารย์ดังทั่วประเทศรวมพลังอธิษฐานจิตลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสกมาเป็นอย่างดี หลังจากนั้นจึงนำมาหล่อหลอมเป็นแผ่นโลหะแต่ละชนิด
ปลุกเสกครั้งที่1 ปฐมฤกษ์ เป็นการปลุกเสกแผ่นโลหะซึ่งได้จากการหลอม โดยพระเกจิคณาจารย์ 74 รูปจากทั่วประเทศ ทำพิธีที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ
หลังจากปลุกเสกเสร็จสิ้น ได้มอบแผ่นโลหะเหล่านั้นให้โรงงานนำไปจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลชนิดต่างๆจนแล้วเสร็จ นำมาส่งมอบให้คณะกรรมการตรวจรับนับจำนวน
ปลุกเสกครั้งที่2 เมื่อได้รับมอบวัตถุมงคลชนิดต่างๆครบถ้วนแล้ว ได้จัดพิธีปลุกเสกขึ้นที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ ในวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2514 โดยพระคณาจารย์ดังทั่วประเทศ 127 รูป
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการปลุกเสกครั้งที่ 2 นี้แล้ว คณะกรรมการได้ขนวัตถุมงคลเดินทางไปยังวัดบางคลาน โดยทางรถไฟ
ปลุกเสกครั้งที่3 ซึ่งเป็นพิธีการปลุกเสกครั้งสุดท้าย ได้จัดพิธีขึ้น ณ วัดต้นกำเนิด คือวัดบางคลานในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2515 โดยได้นิมนต์พระคณาจารย์จากทั่วประเทศมาบริกรรมปลุกเสกตามพิธีกรรมแบบโบราณ ตลอดทั้งคืนเริ่มตั้งแต่ 4 โมงเย็นไปจนถึง 6 โมงเช้าโดยได้แบ่งพระคณาจารย์เข้าปลุกเสกเป็นชุดๆละ16 รูป จำนวน 6 ชุด รวม 96 รูป ปลุกเสกชุดละ 2 ชั่วโมงสลับกันไปอย่างไม่มีหยุดพักมีทั้งนั่งปรก บริกรรมภาวนาสวดคาถามหาทิพย์มนต์ พระคาถาพุทธาภิเษกและพระคาถาภาณวาร เป็นต้น รุ่งเช้าวันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2515 เป็นการฉลองสมโภช ภายหลังจากนั้น จึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่สั่งจองวัตถุมงคลมารับได้
ในการพุทธาภิเษกที่วัดบางคลานในครั้งนี้ อุโบสถวัดบางคลานยังก่อสร้างไม่เสร็จหลังคายังไม่มี ได้เกิดปรากฏการณ์พระราหูอมพระจันทร์ หรือจันทรุปราคาและเกิดเหตุการณ์อีกหลายอย่างจนทำให้ หลวงพ่อเงิน ปี15 จำหน่ายจ่ายแจกหมดอย่างรวดเร็ว และราคาขยับขึ้นอยู่ตลอดเวลาจนบัดนี้
สำหรับหลวงพ่อเงิน ปี 15 นั้นใด้จัดสร้างแหนบหลวงพ่อเงินขึ้นด้วย มีอยู่ 2 แบบ แบบแนวตั้งกับแนวนอน และยังมี 2 สีให้เลือกคือ สีแดง และสีเหลือง
แหนบหลวงพ่อเงิน บางคลาน ปี 15 องค์นี้เป็นแบบแนวตั้งและสีแดงขณะนี้เป็นที่นิยมเช่นเดียวกับพระรูปหล่อและเหรียญจอบของวัดบางคลาน หลายคนเสาะหากันมาก ตัวแหนบเนื้อสวยได้ยุค คุ้มค่าน่าสะสมมาก
หลวงพ่อเงิน บางคลาน ปี 15 ราคาไปหลายหมื่นบาทหรือสวยๆบางองค์ราคาเกือบสองแสนแล้ว แหนบองค์นี้เหมาะสำหรับท่านที่ติดตามกระแส...ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ปี 15 ...แต่ไม่สามารถเช่าบูชารูปหล่อหลวงพ่อเงิน ปี 15 บางคลานได้ เนื่องจากงบในกระเป๋ามีจำนวนจำกัด...ขอให้ใช้งบของท่านให้เกิดประโยชน์สูงสุด...โปรดหันกลับมามอง แหนบหลวงพ่อเงิน ปีเดียวกัน พิธีปลุกเสกเดียวกัน เกจิรูปเดียวกัน พระคาถาบทเดียวกัน...ส่วนที่แตกต่างมีเพียง ค่านิยม พิมพ์ทรง เท่านั้น...และสำคัญสุดคือราคาค่าบูชาถูกกว่ากันมาก รีบเก็บก่อนราคาแพงมากนะครับ พุทธคุณก็ไม่ต่างกับรูปหล่อหลวงพ่อเงิน ปี 15 บางคลานครับ เพราะปลุกเสกพิธีเดียวกัน