Group Blog
 
 
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
20 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
วรรณกรรมแปล

ปมปริศนาภาพเขียนมรณะ( FALSE IMPRESSION)





ปมปริศนา ภาพเขียนมรณะ
ผู้แต่ง : เจฟฟรีย์ อาร์เชอร์
ผู้แปล/เรียบเรียง : โรจนา นาเจริญ
หมวด : นิยายสืบสวน/ฆาตกรรม

ทำไมหญิงชราผู้สูงศักดิ์เจ้าของคฤหาสน์เก่าแก่จึงถูกฆาตกรรมอย่างเหี่ยมโหดในคืนก่อนเกิดเหตุ 9/11?

ทำไมนายธนาคารชื่อดังคนหนึ่งแห่งนิวยอร์กจึงไม่สะทกสะท้านเมื่อได้รับพัสดุเป็นหูข้างซ้ายของหญิงคนหนึ่ง?

ทำไมหญิงสาวผู้เชี่ยวชาญด้านงานศิลปะจึงเสี่ยงขโมยภาพเขียนชิ้นเอกของแวนโก๊ะ?

ทำไมนักยิมนาสติกโอลิมปิกจึงได้รับค่าเหนื่อยถึงหนึ่งล้านดอลลารืจากการทำงานเพียงแค่ครั้งเดียว?

ทำไมมหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นจึงยอมมอบเงิน 50 ดอลลาร์ให้กับผู้หญิงที่เคยพบกันเพียงครั้งเดียว?

ทำไมสตรีชนชั้นสูงชาวอังกฤษจึงหมายมั่นที่จะฆ่านายธนาคารและนักนิมนาสติก ทั้งที่รู้ดีว่าจะต้องลงเอยด้วยการติดคุกตลอดชีวิต?

ทำไมสายลับเอฟบีไอจึงพยายามหาเบาะแสเชื่อมโยงคนทั้งหกที่ดูเหมือนเป็นผู้บริสุทธิ์เหล่านี้?

คำถามเหล่านี้รอให้คุณค้นหาคำตอบในนวนิยายสุดระทึกที่เต้มไปด้วยการไล่ล่าและซ้อนแผน เพื่อช่วงชิงงานจิตรกรรมชิ้นเอกของโลกอันประเมินค่ามิได้ ซึ่งจะพาคุณเดินทางข้ามทวีป จากนิวยอร์กสู่ลอนดอน ลัดฟ้าจากบูคาเรสต์สู่โตเกียว และสิ้นสุดที่คฤหาสน์เก่าแก่ในอังกฤษ ที่ซึ่งความลับที่แฝงอยู่ในภาพเขียนชิ้นสุดท้ายของแวนโก๊ะจะถูกเปิดเผยในแบบที่คุณเองไม่มีทางคาดถึง


'ปมปริศนาภาพเขียนมรณะ' ผลงานของ เจฟฟรีย์ อาร์เชอร์ โดยนักแปลมือเก่าอย่างโรจนา นาเจริญ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรบอกไปคงไม่สนุกเท่าอ่านเอง แต่บอกได้ว่า ได้ความรู้เกี่ยวกับแวดวงการสะสมซื้อขายงานศิลปะระดับโลกที่โยงมาเข้ากับนิยายสืบสวน - ฆาตกรรมได้อย่างแนบเนียนและสนุกสนานทีเดียว



ความคิดเห็นส่วนตัว...ตื่นเต้น ลุ้นระทึก สุดยอดของนิยายแนวนี้เลยจริงๆ อ่านแล้วไม่อยากวาง มีตอนต่อเนื่องให้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา

ตอนแรกเห็นชื่อคนแต่งแล้วไม่คุ้น ตัดสินใจซื้อเพราะชื่อคนแปล เพราะเป็นแฟนเก่าแก่กันมานาน ได้อ่านแล้วเกินคุ้ม ตอนนี้เริ่มควานหาหนังสือของนักแต่งท่านนี้อยู่ ใครมีเรื่องอื่นนอกจากเล่มนี้ แนะนำบ้างนะครับ




เดอะ รีดเดอร์(The Reader)




ชื่อหนังสือ : เดอะ รีดเดอร์(The Reader)
หมวด : วรรณกรรม -- คลาสสิก/รักอีโรติก
ผู้แต่ง : Bernhard Schlink
ผู้แปล : สมชัย วิพิศมากูล
จัดพิมพ์โดย : สนพ.มติชน
พิมพ์ครั้งที่ 9 : สำนักพิมพ์มติชน เมษายน 2552
กระดาษปอนด์เหลือง
ปกอ่อน
จำนวนหน้า : 272 หน้า
ขนาดหนังสือ : 13.2 cm. x 19 cm.



"น่าจับจิตตรึงใจ สง่างามด้วยปรัชญาและแง่มุมทางศิลธรรมอันซับซ้อน ผู้ประพันธ์เดินเรื่องราวชวนฉงนในท่วงทีเรียบง่าย ไร้เดียงสา เรียงร้อยเงื่อนงำและเปลือยออกอย่างมีศิลปะและมีชีวิต"
เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์

รายละเอียด


เดอะ รีดเดอร์ เป็นเรื่องรักอโรติก ละเมียดลึก และแสนเศร้า ของเด็กหนุ่มแรกรุ่นวัยสิบห้าฝน กับสาวใหญ่วัยสามสิบหก แรกทีเดียวเด็กหนุ่มลุ่มหลงกับโลกกามารมณ์แปลกใหม่ที่เพิ่งค้นพบ พิธีกรรมแห่งความรักต่างวัยคู่นี้ คือ เด็กหนุ่มต้องอ่านวรรณกรรมชิ้นเอกของโลก อาทิ มหากาพย์โอดิสซี ของโฮเมอร์ ให้เธอฟังทุกครั้งก่อนอาบน้ำและร่วมรักด้วยกัน

คุณรู้ไหม...หนังสือบางเล่มร้ายกาจมากเลยนะ นอกจากทำให้เราตกหลุมรักมันได้ตั้งแต่ภาพปกแล้ว เนื้อหาข้างในยิ่งทำให้ชวนลุ่มหลงคลั่งไคล้ เมื่อได้รู้ว่า หนังสือที่เปิดกางและช่อดอกไม้แสนซื่อบนภาพปก มีทำมาจากที่ไหนด้วยแล้ว ก็ยิ่งนึกรักมันมากขึ้น


มีเสียงกล่าวขานถึงกันเยอะมาก สำหรับ "เดอะ รีดเดอร์" ของ เบิร์นฮาร์ด ชลิงก์ ซึ่งเหล่านักอ่านก็รอคอยการเสวนาถึงหนังสือเล่มนี้กัน และก็ได้สมหวังกันเสียที สมชัย วิพิศมากูล ผู้แปล คมสัน นันทจิตร พาฝัน ศุภวานิช บรรณาธิการ มาเสวนากันถึงหนังสือเล่มนี้ โดยมี ปราย พันแสง เป็นผู้ดำเนินรายการ ในเทศกาลอ่านบ้าเลือดที่ร้านเดอะ รีดเดอร์ ในซอยสุขุมวิท 23 จัดขึ้น

คนแปลอย่างสมชัย ผู้ที่ต้องเข้าถึงหนังสือเล่มนี้มากที่สุด ก็บอกว่า หนังสือเล่มนี้ไม่สามารถเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นภาษาไทยได้ เพราะจะตื้นเขิน เพราะคำนี้สามารถตีความในความหมายที่ซ่อนอยู่ได้มาก พร้อมทั้งเสนอมุมมองว่า หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วคิดตามได้เยอะ "มีนักวิจารณ์ต่างประเทศเคยกล่าวว่า คนเขียนนวนิยายเรื่องนี้ชอบเล่นศีลธรรมโดยปราศจากศีลธรรมในการเขียน และพยายามแก้ต่างให้เยอรมัน ทำไมต้องมองสงครามโลกครั้งที่สอง ของเยอรมันเป็นสีดำ คนเขียนเชื่อว่า ยังมีชีวิตอยู่ในนั้น ซึ่งทำให้ถูกโจมตีว่า พยายามทำให้ภาพนาซีดูดีขึ้น ซึ่งทำให้เขาถูกมองในแง่ลบ" คมสัน นันทจิต บอกว่า อ่านแล้วประทับใจจนน้ำตาไหล ซึ่งก็มีผู้เข้าฟังเสวนาหลายคนยกมือสนับสนุนว่าตัวเองก็เป็น ซึ่งคมสันเสนอมุมมองไว้หลากหลายมากในการพูดคุยครั้งนี้ "หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่า มนุษย์เราเกิดมาโดยที่ไม่ทำอะไรอย่างที่อยากทำ มนุษย์เราจะแพ้ต่อชะตากรรมที่ไม่ได้ทำ ซึ่งจะทรมานจิตใจมาก ตัวละครในเรื่องนี้ติดอยู่ในอดีตที่สลัดไม่หลุด ทำให้เรื่องนี้จบอย่างโศกนาฏกรรม" คมสันยังชี้ว่า กลไกของการอ่านทำให้เกิดความกันระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง คือเด็กชายกับหญิงแก่ แต่ดูไม่ค่อยผิดศีลธรรมเท่าผู้ชายแก่กับเด็กสาว และคิดว่าคนอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นเดอะ รีดเดอร์ที่แท้จริง ซึ่งหนังสือเล่มนี้บางมุมก็ต้องการบอกว่า นาซีก็มีหัวใจเหมือนกัน สำหรับพาฝัน ซึ่งเป็นบรรณาธิการหนังสือเล่มนี้ บอกว่า หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่า ชีวิตคนเราถ้าจะทำอะไรก็ให้ทำไปเลย อ่านแล้วก็มีกำลังใจที่จะทำให้มีความกล้าหาญขึ้น ถึง ปราย พันแสง จะบอกว่า เดอะ รีดเดอร์ก็คือ นักอ่านคนสำคัญ นักอ่านคนพิเศษ แต่ท้ายสุด เดอะ รีดเดอร์ที่แท้จริงคือใคร คนอ่านเท่านั้นที่จะค้นหาเอาเองได้


ความคิดเห็นส่วนตัว...ลึกซึ้งกินใจ เป็นหนังสือหนึ่งในไม่กี่เล่มที่ผมอ่านรวดเดียวจบ (มีพักทานข้าว และเข้าห้องน้ำด้วยนะครับ)

อ่านจบพูดไม่ออก เรื่องจบแต่ความคิดไม่จบ สวยงามในความเหงาและเศร้าสุดใจ




โกงแบบบูรณาการ (CHEATING DEATH)





ชื่อหนังสือ : โกงแบบบูรณาการ (CHEATING DEATH)
หมวด : สารคดี -- อาชญากรรม

ผู้แต่ง : EDWIN CHEN
ผู้แปล : โรจนา นาเจริญ
จัดพิมพ์โดย : สนพ.มติชน
พิมพ์ครั้งที่ 3 : สำนักพิมพ์มติชน มีนาคม ๒๕๔๘
กระดาษปอนด์เหลือง
ปกอ่อน
จำนวนหน้า : 336 หน้า
ขนาดหนังสือ : 14.6 cm. x 25 cm.


แสบยิ่งกว่าล้มบนฟูก อำมหิตยิ่งกว่าฆาตกร

รายละเอียด
เรื่องจริง! เกี่ยวกับคดีโกงเงินประกันชีวิตที่ "เหลือเชื่อ " ที่สุดคดีหนึ่งของโลก และเป็นคดีแรกในประวัติศาสตร์ที่ "นักสืบ" จากทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในรัฐโอไฮโอและแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา ทั้งเอฟบีไอ ตำรวจท้องที่ สำนักงานชันสูตรศพ อัยการกรมประกับภัย ศุลกากร สายลับพิเศษ และนักสืบเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดีนี้ที่มี "ฆาตกรรมอำพราง" เข้ามาเกี่ยวข้อง

คดีนี้เกือบจะเป็๋นอาชญากรรมสมบูรณ์แบบพวกเขาทำได้อย่างไร?



Metro Life ฉบับที่ 44, 4-10 ธันวาคม 2547

ผมซื้อหนังสือแปลเรื่อง Cheating Death ผลงานการเขียนของเอ็ดวิน เชน (ผมไม่แน่ใจว่าชื่อภาษาอังกฤษของเขาควรจะถอดเสียงเป็นภาษาไทยว่าอย่างไรนะครับ และเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็น “เฉิน” ก็ได้เหมือนกัน) ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือ ชอบชื่อภาษาไทยที่ตั้งไว้ดึงดูดความสนใจเหลือเกินว่า “โกงแบบบูรณาการ”
Cheating Death เป็นสารคดีอาชญากรรม เรียบเรียงขึ้นจากเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เท่าที่ผ่านมาผมอ่านงานเขียนประเภทนี้น้อยมาก จะเรียกว่าไม่ค่อยตรงกับรสนิยมก็ว่าได้ครับ
อย่างไรก็ตาม หลังจากซื้อหามาแล้ว ผมก็ลองเปิดอ่านดู จากนั้นก็เรียบร้อยครับ คือ เกิดอาการติดหนึบตะลุยอ่านรวดเดียวไปจนจบด้วยความอยากรู้อยากเห็น และอ่านจบด้วยความเหน็ดเหนื่อย (เนื่องจากรายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคล สถานที่ และวันเวลาเกิดเหตุค่อนข้างจะเยอะมาก) บวกรวมกับความรู้สึกสลดหดหู่ไปกับบทสรุปของเรื่องราว
Cheating Death เป็นเรื่องของคดีฉ้อโกงบริษัทประกัน ด้วยวงเงินจำนวนมหาศาลเป็นหลักล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อตำรวจหน่วย 911 ได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยฉุกเฉินในคลีนิคเอกชนแห่งหนึ่งกลางดึก เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง คนไข้ก็ได้เสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว ผลการชันสูตรศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย กระทั่งวินิจฉัยไม่ได้ว่าตายเพราะอะไร
อย่างไรก็ตาม มีร่องรอยรูโหว่เงื่อนงำมากมายในเหตุการณ์ดังกล่าว (ซึ่งได้รับการตั้งข้อสังเกตในภายหลัง) และนำไปสู่การรื้อฟื้นสืบเสาะหาข้อเท็จจริง กระทั่งพบว่าเป็นการวางแผนหลอกลวงต้มตุ๋นครั้งมโหฬาร
โดยเค้าโครงและรายละเอียดของเหตุการณ์ ก็คล้าย ๆ กับหนังหรือนิยายประเภทสืบสวนสอบสวนนะครับ เพียงแต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องจริง
ผมเองไม่ได้ติดอกติดใจอะไรมากมายกับเนื้อเรื่องของหนังสือเล่มนี้สักเท่าไร แต่ส่วนที่ชื่นชอบอย่างแท้จริงคือ กลวิธีในการเขียนหนังสือเล่มนี้
อันดับแรกสุดคือ เป็นงานเขียนประเภทที่ “เล่นกับข้อมูล” ได้อย่างร้ายกาจ ทั้งการค้นคว้ามาอย่างถี่ถ้วน และนำมาเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ได้น่าอ่านชวนติดตาม รวมทั้งสามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดปลีกย่อยที่ซับซ้อนเอาเรื่อง เนื่องจากมีบุคคลผู้เกี่ยวข้องมากมาย และระยะเวลาที่เกิดเหตุก็ครอบคลุมช่วงเวลาหลายปี ออกมาให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจและสามารถติดตามได้โดยไม่สับสนงุนงง
ถัดมาคือ ลีลาการเขียนหนังสือ ที่ผสมผสานกันระหว่างวิธีแบบรายงานข่าวและการดึงความสนใจของผู้อ่านเช่นเดียวกับนิยายประเภทเบสท์เซลเลอร์ ซึ่งผมถือว่า Cheating Death เป็นแบบอย่างของการเขียนหนังสือที่กระชับ รัดกุม ได้ใจความ ส่งผลให้เหตุการณ์มีความเคลื่อนไหวคืบหน้าอยู่ตลอดเวลา ด้วยการแบ่งย่อยเป็นบทสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นจบลงอย่างรวดเร็ว และค่อย ๆ ปล่อยให้เรื่องราวในแต่ละบท เชื่อมโยงปะติดปะต่อกันทีละน้อยจนเกิดเป็นภาพใหญ่
ส่วนที่เก่งมากก็คือ วิธีการจบทิ้งท้ายแต่ละบทในลักษณะเร่งเร้าความอยากรู้อยากเห็น บางตอนก็จบด้วยการเปิดเผยเฉลยเงื่อนปมบางอย่างแบบเรียกน้ำย่อย (ให้ต้องติดตามอ่านกันต่อไป) บางบทก็จบด้วยการทิ้งท้ายที่หนักแน่น สะเทือนอารมณ์ และเฉียบแหลมคมคาย
จะมีเพียงสิ่งเดียวที่ขาดหายไป นั่นคือ การพรรณนาบรรยายรายละเอียดของฉากสถานที่ (ในงานเขียนชิ้นนี้ก็มีอยู่นะครับ แต่เป็นการแจกแจงให้ผู้อ่านเห็นภาพ มากกว่าจะมุ่งเน้นความงามในเชิงวรรณศิลป์) และการอธิบายความรู้สึกเบื้องลึกในใจของตัวละคร (ซึ่งโดยความเป็นเรื่องจริง ไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนี้ได้สักเท่าไร) ถ้าหากมีลีลาการเขียนทำนองนี้ปรากฎรวมอยู่ด้วย ก็แทบจะเรียกได้ว่า Cheating Death มีคุณสมบัติของความเป็นนิยายชั้นดีอ่านสนุกครบถ้วนสมบูรณ์เลยทีเดียว
แม้ว่าจะเป็นงานเขียนในเชิงสารคดีเกี่ยวกับคดีอาชญากรรม แต่ถึงที่สุดแล้ว Cheating Death ก็ยังมีแง่คิดประเด็นทางด้านเนื้อหาสาระอยู่เช่นกัน นั่นคือ การสะท้อนภาพให้เห็นถึงผลลัพธ์บั้นปลายของการฉ้อโกง วิถีชีวิตแบบทุนนิยมและความหลงใหลทางด้านวัตถุ ที่มีส่วนยั่วยวนให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลือกวิธี “รวยทางลัด” อย่างผิดกฎหมาย รวมทั้งการพยายามให้รายละเอียดความเป็นมาแต่หนหลังของอาชญากรทั้ง 3 คนในคดีดังกล่าว เพื่อสาวลึกเข้าไปหาเหตุผลและแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขาพลัดหลงเข้าสู่ปลักตมแห่งบาป
Cheating Death ไม่ใช่หนังสือที่ผมรู้สึกถึงขั้นชื่นชอบประทับใจหรอกนะครับ แต่ก็มีเหตุผลที่ทำให้ผมสามารถหยิบงานเขียนเล่มนี้มาอ่านซ้ำอีกในอนาคตอยู่เหมือนกัน นั่นคือ การอ่านเพื่อศึกษากลวิธีการเขียน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำได้ดีและแข็งแรงเหลือเกิน



ความคิดเห็นส่วนตัว...อึ้ง กับสิ่งที่ได้ผ่านสายตา ยังมีอะไรอีกมากมายในโลกใบนี้ที่เรายังไม่รู้ ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ ล้วนทำได้ทุกสิ่งเพื่อผมประโยชน์ของตัวเองจริงๆ

เห็นด้วยกับข้อความข้างบน เล่มนี้ไม่ใช่หนังสือที่ชอบที่สุด แต่ก็หยิบมาอ่านบ่อยที่สุด อ่านเพื่อศึกษาเรื่องราว เพื่อไว้ปกป้องตัวองและคนรอบข้าง



ใต้ดวงตะวันทอสกานี่ (UNDER THE TUSCAN SUN)






ชื่อหนังสือ : ใต้ดวงตะวันทอสกานี่ (UNDER THE TUSCAN SUN)
หมวด : สารคดี -- ท่องเที่ยว
สารคดี -- อาหาร

ผู้แต่ง : กุพัชชกะ
จัดพิมพ์โดย : สนพ.มติชน
พิมพ์ครั้งที่ 1 : สำนักพิมพ์มติชน มีนาคม ๒๕๔๘
กระดาษปอนด์เหลือง
ปกอ่อน
จำนวนหน้า : 334 หน้า
ขนาดหนังสือ : 14.6 cm. x 25 cm.


บ้านแสนสุขในอิตาลี หนังสือเล่มเด่นของนิวยอร์กไทมส์ประจำปี 1997

รายละเอียด
ฟรานเซส เมเยส - กวีที่มีผลงานได้รับการตีพิมพ์มากมาย ทั้งยังเป็นกุ๊กมือฉมังและนักเขียนสารคดีท่องเที่ยว ได้ก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ที่แสนมหัศจรรย์ เมื่อเธอซื้อวิลล่าร้างหลังหนึ่งในชนบทอันงดงามของทอสกานี่และลงมือฟื้นชีวิตให้กับวิลล่าแห่งนั้น ด้วยตัวหนังสือที่ไฟเราะและสำนวนชวนใจ เมเยสได้พาผู้อ่านก้าวเดินไปพร้อมกับเธอในการค้นพบความงามและความเรียบง่ายของชีวิตในอิตาลี จากความสามารถในการทำอาหาร ทั้งยังเป็นนักเขียนเรื่องอาหารอีกด้วยทำให้เมเยสสร้างสรรค์ตำราอาหารรสเลิศขึ้นมากมายสำหรับฤดูกาลต่าง ๆ จากครัวแบบอิตาเลียนแท้และสวนข้างบ้าน ซึ้งเธอได้รวบรวมตำราทั้งหมดไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วย เมเยสเขียนถึงรสชาติและความสำราญของทอสกานี่ด้วยความเพลิดเพลินและกระตือรือร้นเช่นเดียวกับที่ เอ็ม เอฟ เค ฟิชเชอร์และปีเตอร์ เมล เขียนถึงโปรวองซ์ และนี่คืองานที่สดุดีการดำเนินชีวิตแบบพิเศษสุดในทอสกานี่ คืออาหารจานเอกสำหรับทุกรสนิยม เรื่องราวน่ารักของหญิงสาวที่ตัดสินใจซื้อบ้านในขณะที่ครอบครัวของเธอออกเสียงคัดค้านด้วยความเป็นห่วง ความน่ารักของผู้คนที่อาศัยภายใต้ดวงตะวันอันอบอุ่นแห่งเมืองทอสถานี่ ประเทศอิตาลี บรรยากาศโรแมนติกที่คุณเคยเห็นในหนังหลาย ๆ เรื่อง และการผจญภัยที่เติมความสุขให้กับชีวิตทุก ๆ วัน


ความคิดเห็นส่วนตัว... เรียบง่ายแต่อิ่มใจ เป็นหนังสือที่อ่านแล้วใจลอยเข้าไปในบรรยากาศ ทุกๆตัวอักษรสร้างความสุขในจิตใจดีเหลือเกิน อ่านได้เพลินๆ ไม่ถึงกับติดใจ

มีอีกหนึ่งเล่มที่คล้ายๆกับเล่มนี้ คือ หนึ่งปีแสนสุขในโปรวองซ์ หามานานแต่ไม่เจอซักที ท่านใดพอทราบแหล่งขาย แนะนำบ้างนะครับ




เงารักซ่อนเงื่อน(Mirror Image)






เงารักซ่อนเงื่อน (Mirror Image)

ผู้เขียน : แซนดรา บราวน์
ผู้แปล : ขีดขิน จินดาอนันต์

สำนักพิมพ์ : แพรวสำนักพิมพ์
ประเภท : วรรณกรรมแปล


เอเวอรี่ แดเนียลส์ นักข่าวสาวไฟแรง ฟื้นจากอาการสลบไสลหลังเหตุการณ์เครื่องบินที่เธอนั่งตกและพบว่าใบหน้าของตัวเองถูกไฟไหม้เสียโฉม และคนรอบข้างที่เธอไม่รู้จักเลยคิดว่าเธอคือแครอล รัตเลดจ์ ภรรยาของผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหริฐ เทต รัดเลดจ์ ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพราะเธอได้กอดร่างหนูน้อยแมนดี้ ลูกสาวของแครอล และเทต เอาไว้ก่อนจะหมดสติลง
อาการบาดเจ็บทำให้เอเวอรี่พูดไม่ได้ และด้วยเหตุบังเอิญ เธอได้ล่วงรู้ว่ากำลังมีคนปองร้ายเทต เธอเข้าใจแล้วว่าถ้าใครๆ คิดว่าเธอคือแครอล และเชื่อว่าแครอลยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็คงคิดว่าเอเวอรี่ แดเนียลส์ตายไปแล้ว และตอนนี้ พวกเขาก็กำลังจะผ่าตัดให้เธอกลับมามีใบหน้าเหมือนแครอล โดยไม่มีใครให้โอกาสเธอได้อธิบายความจริง
หลังผ่าตัด เอเวอรี่ตัดสินใจปล่อยเลยตามเลย และคิดว่าอย่างไรเสียพูดความจริงไปก็ไม่มีใครเชื่อ และเธอสามารถใช้ฐานะใหม่นี้ ในการช่วยเหลือหนูน้อยแมนดี้จากอาการเครียดหนัก และหาตัวคนที่ปองร้ายเทต สุดท้าย เธอก็จะได้สกู๊ปข่าวเด็ด
แต่ที่เอเวอรี่ไม่รู้เลยคือ ไม่มีใครในบ้านของเทตชอบแครอลเลย แมนดี้เองก็กลัวแม่ เทตก็เกลียดเธอเสียยิ่งกว่าอะไร แต่เธอตัดสินใจแล้ว จะด้วยความต้องการส่วนตัวหรือสัญชาติญาณนักข่าว เธอก็ต้องพยายามช่วยแมนดี้ และหาตัวคนปองร้ายเทตให้ได้ ซึ่งคนคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน น่าจะเป็นคนในบ้านหลังใหญ่ของเทตเอง



ความคิดเห็นส่วนตัว...ลุ้นและน่าติดตามตลอดเวลา พยายามหาว่าใครคือคนๆนั้นที่ปองร้ายเทต พอรู้ความจริงค่อนข้างผิดคาด

เคยอ่านงานเขียนของนักเขียนท่านนี้ ปกติแต่งแต่แนวคอมมีดี้ โรแมนติค ไม่คิดว่าแนวนี้ก็ทำได้ดีเหมือนกัน


Create Date : 20 สิงหาคม 2552
Last Update : 20 สิงหาคม 2552 19:11:40 น. 3 comments
Counter : 940 Pageviews.

 
เอ้า เจิมมมมมมมมมมมมม คิกๆๆๆๆๆ

จริงดิโอ้ว กลับไปยืมอ่านมั่งได้ปะ ชอบแนวเดียวกันเลยอะ อิ อิ

สำคัญ :: ค่อยยังชั่วคนหล่อว่างเขียน


โดย: คนสองภาค วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:13:05:57 น.  

 
ปร้าส่อง ได้เลยครับ ยินดีมากหากสามารถแบ่งปันกันได้

ปล. ช่วงนี้คนหล่อว่างงานครับ


โดย: ป๋อหลาง วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:13:30:35 น.  

 
อยากอ่านปมปริศนา ภาพเขียนมรณะ ค่ะ
เคยอ่านโกงแบบบูรณาการ แต่จำอะไรไม่ค่อยได้

Elbereth




โดย: Elbereth วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:17:27:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ป๋อหลาง
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




: Users Online


MusicPlaylistRingtones
Create a playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add ป๋อหลาง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.