กะหล่ำปลีตุ๋นเจครับ สวัสดีครับ ยามเช้าของวันนี้ ตอนนี้ก็เข้าสู่เทศกาลกินเจกันแล้วนะครับ พึ่งผ่านไปได้แค่1-2วัน คือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ใครหลายคน คงจะเริ่มทานกันตั้งแต่วันเสาร์แล้ว ต๊ะเองก็ทานตั้งแต่วันเสาร์วันแรก ในช่วงมื้อเย็น เป็นการล้างท้องก่อน ที่จะทานเต็มตัวในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ ต๊ะพึ่งเริ่มทานได้6-7ปีเองครับ ซึ่งแต่ก่อนนั้น ไม่เคยคิดที่จะทานเลย เพราะปกติตัวเองเป็นคนที่ทานผักได้น้อย หรือ ไม่ชอบตั้งแต่เด็กก็ว่าได้ จนหันเปลื่อนมาตอนไปเรียนที่ ว.เกษตรเขาเขียวราชบุรี นั่นเองครับ 3ปีเต็มๆ ที่ต้องอยู่หอของ วิทยาลัย ที่ ว. จะมีโรงอาหารให้ นศ. ได้ทานฟรี3มื้อ เหมือนเป็นการกระตุ้นให้คนมาเรียนทางด้านเกษตรกัน เพราะนักเรียนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แล้วส่วนใหญ่หลายๆคน ก็ไม่นิยมเรียนด้วย ผักที่มาทำ จะมาจากที่ พวกๆ นักเรียนนั่นแระครับที่ปลูกตอนเรียน จะมีเหลือขายบ้าง หรือ บางอย่างทางโรงครัวก็ต้องซื้อมาด้วย ซึ่งมันก็ทำให้ต๊ะได้ทานผักจริงๆจัง ตั้งแต่นั้นมา ไหนๆก็พูดถึง ว. ที่นี่กันแล้ว ชีวิตที่นี่สนุกมากครับ จากเด็กในตัวเมือง ต้องไปเรียนต่าง อำเภอ ระยะการเดินทางประมาณ40กิโลได้ ฉะนั้นจำเป็นอย่างมากครับ ที่ต้องอยู่หอของวิทยาลัย เพราะว่ามันลำบากครับ ตอนทางเข้า ว. ต๊ะต้องนั่งรถจากตัวตลาดราชบรีตอนตี5ของวันจันทร์ เป็นรถบัสติดพัดลม เช้าๆคนไม่ค่อยมีหรอกครับ บางครั้งนั่งคนเดียว จนถึงที่ที่จะลงก็มีมาแล้ว ต๊ะจะถึงปากทางเข้าประมาณเกือบๆ 6 โมงเช้าครับ แต่ทางที่จะเข้าไปนั้น ไม่มีรถประจำทาง หนทางที่จะเข้าไปได้ก็คือ วินมอเตอร์ไซค์ หรือ การโบกรถคนที่ผ่านทางนั้นเข้าไปครับ ส่วนใหญ่ต๊ะจะโบกรถมากกว่าครับ เก็บเงินค่ามอไซค์ไว้ทำอย่างอื่นดีกว่าครับ แต่เช้าๆก็จะรอนานหน่อยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นรถกระบะที่โบกเข้าไป พอเห็นหัวรถเลี้ยวเข้ามา ตาก็ต้องมองแล้วครับ ว่าข้างหลังรถว่างรึเปล่า ถ้าว่าง ก็รีบเอามือยื่นออกไป แล้วโบกสะบัด โชว์ขาอ่อน กันครับ อิอิ ส่วนใหญ่เค้าจะใจดีกันทั้งนั้นครับ เพราะรู้ว่าเป็น นศ. ที่เข้าไปเรียน ก็จะมีบางคนที่ใจดีมากๆ เข้าไปส่งที่ ว. เลยก็มี ระยะทางเข้าไปประมาณ6-7 กิโลได้ครับ ถ้าจะไม่ผิดนะครับ แฮ่ๆ พอดีระยะผ่านไปพอสมควรแล้ว พอถึงเป้าหมายหน้าทางเข้า ว. ก็จะเอามือทุบกระจกข้างหลังกัน หรือ มองผ่านเข้าไปในกระจกคนขับ พี่ๆเค้าจะรู้ แล้วก็จอดให้ นส. ทุกคน พอกระโดดลงรถ ก็จะรีบวิ่งมาข้างหน้า แล้วยกมือไหว้กันทุกคน ภาพแบบนี้เห็นเป็นประจำครับ ที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน พูดได้เลยว่าคนไทยยังมีน้ำใจกันอยู่ครับ พอลงรถเสร็จ ก็ใช่ว่าจะถึงเลยนะครับ ต้องเดินจากปากทางเข้าไปอีก ประมาณ1 กิโลได้ ถ้าเจอเพื่อน หรือ อาจารย์ ที่รู้จักที่เค้าเอารถมอร์ไซค์มาจากบ้าน ก็จะรับเข้าไปด้วย แบบว่า ต้องภาวนาครับ ว่ามีรถเข้ามาเถิด ตรูส์ขี้เกียจเดินแล้ว อิอิ ถ้าวันไหนฝนตก จะเป็นวันที่แย่มากครับ น้ำจะท่วม แถมทางเป็นลูกรัง ผสมยางมะตอย คือว่า เหมือนทำๆไปแบบนั้นกินงบกันเปล่าหว่า ฮ่าๆๆ ทุกคนก็ต้องถอดรองเท้า แล้วพับขากางเกง เดินกันไป ถ้ามากับเพื่อนด้วย ก็จะสนุกกันใหญ่ เพราะเดินเล่นน้ำกันไป ข้างทางจะเป็นนา กับ ไร่ ที่ชาวบ้านปลูกกัน ต้นไม้ใหญ่ข้างทางไม่มีหรอกครับ ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนเนี่ย โอโห ตับแทบแตก เดินกันหัวขวิด ร้อนจริงๆครับ เมื่อเข้าไปถึว ว. ไม่ใช่ว่าจะถึงที่พักเลยนะครับ เพราะที่พักจะอยู่ข้างในสุดเลย ติดกับภูเขา ที่นี่จะแบ่ง หญิง กับ ชาย ผู้หญิงหอพักจะอยู่หน้า ว.เลยครับ ซึ่งง่ายต่อการดูแลของอาจารย์ ซึ่งแน่นอนครับ ต้องเดินอีกแล้ว อีก 1 กิโลกว่าๆ ได้ครับ ทางที่จะเดินนั้น ต้องผ่านสวน ไร่ ที่ปลูกผลไม้ หรือ ผัก ข้างทาง จะมีม่วง มะขามหวาน น้อยหน่า ขนุน และอีกมากมายครับ ถ้าช่วงไหนเป็นฤดูของผลไม้นั้นๆ แล้วเผอิญว่าสุกอยู่พอดี นั่นคือผลกำไรของนักศึกษาที่เดินผ่าน อิอิ คือแอบเด็ดกินกันนั่นเอง ต้องคอยมองดูดีๆครับ ว่ามีอาจารย์ผ่านมาเปล่า ไม่งั้นล่ะก็งานเข้าแน่ๆ พอถึงหอพัก ก็เอาเสื้อผ้าเก็บให้เรียนร้อย อาบน้ำ หรือ จะไม่อาบก็แล้วแต่ ก้เตรียมตัวลงไปเรียน ซึ่งที่เรียนก็อยู่ปากทางเข้านั่นแระครับ ต้องเดินกันอีกแล้ว เฮ่อ เกิดมาเพื่อเดินจริงๆๆ อิอิ ห้องนึงจะอยู่กัน 6 คนครับ เป็นเตียง2 ชั้น อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ไม่มีครับ ตู้เสื้อผ้า ต้องหากันมาเอง จะมีแค่ เตียง ฟูก หมอน ผ้าปู สิ่งที่เอามาได้คือ พัดลม และ วิทยุ เครื่องใช่ไฟฟ้าอย่างอื่นห้ามครับ ถ้าใครแอบเอามาแล้วจับได้ โดนยึดของ แล้ว โดนเรียกผู้ปกครองเป็นรายๆไป ที่นี่จะมีห้องดูทีวี อยู่2ที่ครับ ที่นึงเป็นห้องแบบที่ต๊ะนอนแต่ใหญ่กว่า ไม่มีเตียง พื้นที่โล่งๆ มีพัดดลมเพดานให้ เวลา เปิด-ปิด เป็นเวลาครับ ส่วนใหญ่จะได้ดูก็ตอนเย็นหลังเรียนเสร็จ ส่วนอีกที่ก็ไม่ไกลกันนัก จะเป็นแบบโอเพ่น มีแค่หลังคา แล้วมีทีวีที่ใส่กรงแวนไว้ ข้างๆจะเป็นไร่ดอกทานตะวัน หรือ ไร่อ้อย แล้วแต่ตามฤดูกาลครับ ซึงนักเรียนก็เป็นคนปลูกกันเองในวิชาเรียน เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ เพราะชีวิตที่นี่เยอะมากครับ ได้สอนอะไรหลายๆอย่างมากเลยทีเดียว ถ้าจะให้ต๊ะพูดบอกได้เลยว่าที่นี่ถึงกานดารแต่สิ่งที่ได้รับมาไม่กานดารเลยครับ ถ้าพูดไปเดี๋ยวจะเบื่อ่กันซะก่อน แฮ่ๆๆ กลัวจะปิดหน้านี้หนีกันไปซะเปล่าๆๆ อิอิ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ นั่นแระครับที่ทำให้ต๊ะได้กินผักเป็น วันนี้ต๊ะเลยทำเมนูเป็นไม่ยากมาก แล้วเป็นอาหารที่คนส่วนใหญ่มักจะชอบ รวมถึงตัวต๊ะด้วย แต่ก่อนไปขอฝาก พระคาถาชินบัญชร ของ สมเด็จพระพุฒจารย์ โต พรหมรังสี ไว้ให้อ่านกันครับ เพราะมีคนบอกต๊ะว่า ไหนๆก็กินเจแล้ว สวดมนต์ด้วยก้ดีน่ะ ต๊ะเลยนำมาฝากกันครับ กระหล่ำปลีตุ๋นเจ เป็นอาหารที่ทุกร้านที่ขายอาหารเจแทบจะต้องมีเลยก็ว่าได้ ยิ่งถ้าต้มนิ่มๆ ยิ่งอร่อยมากๆ แต่ว่าไปซื้อเค้านั่นแพงจริงๆครับ ถุงนึง30 ถึง50 บาทได้ โอโห บางร้านก็มีแต่กระหล่ำกับเต้าหู้2-3ชิ้น มีฟองเต้าหู้อีกนิดหน่อย สำหรับต๊ะว่าแพงเหมือนกัน ในเมื่อมีเวลา ก็ทำไว้กินเองเลยครับ ต๊ะตุ๋นไว้เกือบเต็มหม้อครับ พอเมื่อคืนทานเสร็จ ต๊ะก็ตักแบ่งใส่ถุงไว้ได้5 ถุงใหญ่ๆ แล้วเข้าตู้เย็นซะ ถ้าให้อุ่นไปอีก กว่าจะหมด สงสัยเนื้อผักจะกลายเป็นน้ำซะก่อน ไม่ต้องเคี้ยวกันพอดี ฮ่าๆๆๆ ตามต๊ะมาเข้าครัวกันเลยดีกว่าครับ มาดูเครื่องปรุงกันก่อนครับ ใครชอบแบบไหนใส่แบบนั้นครับ 1 กะหล่ำปลี ต๊ะเลือกแบบหัวกลางๆมาค่อนข้างเล็กครับ 2 เห็ดหอมแห้ง 3 เต้าหู้ขาวแผ่น 4 หมี่กึง (ไส้หมูเจ) 5 ฟองเต้าหู้แบบแห้ง 6 โปรตีนเกษตร 7 ซีอิ๊วขาวเจ 8 ซอสปรุงรสเจ 9 เกลือ 10 น้ำตาลทรายขาว 11 น้ำมันพืช 12 น้ำสะอาด อย่างแรกมาลงมือทำกะหล่ำปลีกันก่อนครับ ล้างให้สะอาด แล้วจะสะบัด เช็ด หรืออะไรก้ได้ครับ ให้แห้งซักหน่อย ต๊ะหั่นลูกนึง 4 ชิ้นครับ กำลังดีเลยครับ ตั้งกระทะ ติดไฟ ใส่น้ำมัน ของอุปกรณ์ทุกอย่างต๊ะจะล้างก่อนวันกินเจ1วัน เพราที่บ้านมีต๊ะกินคนเดียว จะมีแจมๆก็เธอคนนั้น ต๊ะใส่น้ำมันไม่เยอะครับ พอน้ำมันร้อนนิดๆเบาไฟกลาง ใส่กระหล่ำลงไป บางคนอาจใส่น้ำมันจนท่วม แต่ต๊ะสำหรับมันเลี่ยนไปครับ เลยเลือกทำแบบนี้ ความหอม ได้พอๆกันครับ ทอดไม่นานครับ พอสีเหลืองๆ ก็เปลื่อนข้างกลับไปมา จนเหลืองทั่วๆ ก็ตักขึ้นพักไว้ครับ ทอดได้ที่ กลิ่น และ สีตามที่ต้องการ ก็พักไว้ก่อนครับ จากนั้น เราก็ใช้กระทะใบเดิม ทอดเต้าหู้ขาวครับ เอาพอเหลือง ก็ตักพักไว้ครับ แล้วก็มาจัดการทอดหมี่กึง หรือ ไส้หมูเจ ต๊ะชอบเอาทอดก่อนครับ เวลาเอาไปตุ๋นมันจะพองอร่อยดีครับ ทอดไปซักระยะ ก็กลับข้าง พอเหลือง ก็ตักขึ้นเตียมหั่นครับ ต๊ะหั่นชิ้นพอฟระมาณครับ แบบนี้ครับ มาเตรียมกันเลยครับ ถ้าบ้านใครมี2เตา ก็ตั้งน้ำไส่หม้อรอไว้เลยครับ พอน้ำเดือดก็ใส่ กะหล่ำลงไปครับ แล้วก็ตามมาด้วย เต้าหู้ทอดครับ ใส่เห็ดหอมลงไปครับ ต๊ะเลือกดอกเล็กหน่อยครับ ไม่ต้องหั่นกำลังพอดีคำ เอาไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วแช่ให้นิ่ม แล้วเอามาตัดก้านออก เทลงไปพร้อมน้ำที่แช่เลยครับ อย่าทิ้งครับ เสียดาย หอมดี แล้วตามมาด้วยโปรตีนเกษตร เอาไปแช่น้ำให้นิ่ม แล้วบีบบน้ำออก หั่นเป็นชิ้น แล้วตามลงไปครับ แล้วก็ตามาด้วยไส้หมูเจครับ ลงไปโลด มาปรุงรสกันก่อนครับ ใส่ซีอิ๊วขาวลงไปเลยครับ ตามมาด้วยเกลือครับ อย่าพึ่งรีบร้อนใส่ไปเยอะนะครับ ไม่เค็มแล้วเพิ่มได้ครับ ซอสปรุงรสครับ เพิ่มความหอม และสีสันซักนิด จัดไปปปครับ แล้วก็ตามมาด้วยน้ำตาลทรายขาวนิดนึงครับ โปรยลงไป จะได้กลมกล่อมมม ต้มไปได้ซัก 20-30 นาที ก็ใส่ฟองเต้าหู้ลงไปครับ ต๊ะไม่ได้แช่น้ำครับ แค่ล้างน้ำ แล้วบิๆเอา จะใส่ลงไปตอนแรกเลยก้ได้ไม่ผิด แต่ต๊ะว่ามันเปื่อยไปครับ แล้วใส่ตอนนี้ดีกว่า ประมาณ1ชั่วโมงกว่าๆ กะหล่ำก็นิ่มได้ที่แล้วครับ มาก้มดูในหม้อกันครับ เสร็จแล้ว ก็ตักใส่ถ้วย มากินกันเลยครับ ซูมกันไกล้อีกหน่อยครับ วันนี้พูดน้อยหน่อยครับ อิอิ เหนื่อยพิมพ์ข้างบนไปซะเยอะ ฮ่าๆๆ ตักมาทานกับข้าวร้อนๆๆ เป่าก่อนนะครับ ไม่งั้นปากพองแน่ๆ ฮ่าๆๆ มาครับ เดี๋ยวต๊ะป้อนให้ อ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอขอบคุณคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมกันนะครับ และฝากบุญเผื่อให้ทุกๆท่านด้วยครับ ...... สูตรอาหาร และ รูปภาพ ได้คิดเอง และ ถ่ายรูปเองครับ ......   Create Date : 20 ตุลาคม 2552 6 comments Last Update : 20 ตุลาคม 2552 5:05:35 น. Counter : 784 Pageviews. Share Tweet

ทำไปเมื่อ 2-3 วันก่อน มาเห็นสูตรนี้น่าทานกว่าตั้งแยะ วันหลังจะลองทำดูค่ะ   โดย: Yolanrita 20 ตุลาคม 2552 7:06:16 น.

น่ากินมากๆๆๆ ขอให้ได้บุญเยอะๆนะค่ะ   โดย: aung (warunee0159 ) 20 ตุลาคม 2552 8:59:16 น.

น่าหม่ำมากเลยครับผม   โดย: น้ำแข็งไสใส่นมข้น 20 ตุลาคม 2552 10:05:26 น.

หิวข้าวแล้วค่ะ เมื่อวานก็ซื้อมาทานแต่เจ้าหนี้ทำหวานมัก กินไปน้ำตาจะไหลไป หิวข้าวจังเยย   โดย: กวางหูกระต่าย 20 ตุลาคม 2552 10:53:05 น.

ทำทานเองเก่งจังคะ น่าทานจ้า   โดย: แม่อ้วนใจดีที่สุด 20 ตุลาคม 2552 14:19:23 น.

แวะมาฉก 1 ถ้วย แหม....เจพอดีเลย   โดย: คนมีแผลพ่อแม่ไม่รัก 20 ตุลาคม 2552 22:14:30 น.