Takkub
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
6 พฤศจิกายน 2560
 
All Blogs
 
เลนส์เก่า เล่าใหม่ #8 Mamiya Sekor 50mm F2 สมญานาม "คมอิ๊บอ๊าย"



  สวัสดีครับ ห่างหายไปพักใหญ่ๆ เป็นความตั้งใจที่จะรอให้งานราชพิธีผ่านพ้นไปก่อนถึงจะเริ่มเขียน ในเมื่อมีโอกาสได้เขียนในเวลาดึกๆแบบนี้ก็ไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มกันเลย วันนี้ผมจะมาพูดเลนส์มือหมุนสัญชาติญี่ปุ่นแบรนนึงนั่นก็คือ Mamiya Sekor ก่อนหน้านี้ผมเคยทำคลิบเกี่ยวกับเจ้าเลนส์ Mamiya Sekor 55mm 1.4 M42 มาก่อนแล้ว แต่ในครั้งนี้ผมจะพูดถึงเลนส์ Mamiya Sekor 50mm F2 M42 Original Silver Version และก็ตามธรรมเนียม ผมจะขอเล่าถึงประวัติความเป็นมาของแบรน Mamiya สักนิดหน่อย เริ่มกันเลย

*ข้อมูลส่วนใหญ่ได้จากการค้นหาและรวบรวมด้วยตัวผมเอง ซึ่งถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ* 


Mamiya อ่านว่า มา-มิ-ยะ [ผมอ่านผิดมาหลายปี] เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ผลิตกล้องและเลนส์คุณภาพสูง รวมทั้งอุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพต่างๆ ก่อตั้งในวันที่ 10 เดือน พฤษภาคม ปี 1940 โดย คุณ Seiichi Mamiya (pronounced ma-MEE-yah) และนักธุรกิจหุ้นส่วน Tsunejiro Sugawara (pronounced su-ga-WAR-a)
ในนามว่า  Mamiya Koki Seisakusho or Mamiya Optical Works











โลโก้หรือสัญลักษณ์ ถูกออกแบบโดยนักเรียนศิลปะชาวญี่ปุ่น Japan Art Collage เป็นรูปชิ้นเลนส์สองอันซ้อนทับกัน และมีชื่อย่อของผู้ก่อตั้งเป็นตัว S และ M โดยตัวอักษร S คือ Sugawara M คือ Mamiya


Mamiya กล้องตัวแรกที่ Mamiya ผลิตออกมาคือกล้องฟิลม์ 6*6  Medium-format (120 film) รุ่น  Mamiya Six ออกมาในปี 1940




ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โรงงานหลายแห่งของ Mamiya ใน Tokyo ก็ได้รับผลกระทบจากสงครามทำให้ขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต จึงได้มีการซื้อวัตถุดิบเหล่านั้นจากหลายที่ และหนึ่งในนั้นก็มีการซื้อเลนส์จาก Olympus ด้วย


















ขอแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ณ เวลานั้นบริษัท Olympus ยังไม่ได้ผลิตกล้องถ่ายรูปเป็นจริงเป็นจัง เหมือนอยู่ในขั้นทดลอง เพิ่งออก Semi-Olympus I (1936)  และ Semi-Olympus II (1938) 
ยังเป็น Olympus Optical ที่เน้นการผลิตชิ้นเลนส์และอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นหลัก

Semi-Olympus I (1936) 


หลังสงครามสิ้นสุด ในปี 1948 Mamiya ได้ผลิตกล้องสองเลนส์ออกมา
flash-synchronized twin lens reflex (TLR) ในชื่อว่า Mamayaflex


กล้องขนาด 35mm ของ Mamiya ก็ได้ออกมาในปี 1949. คือรุ่น The Mamiya 35-I และหลังจากนั้นก็ผลิตกล้องและเลนส์ออกมามากมาย ผมจะเล่าถึงเฉพาะตัวที่เด่นๆนะครับแบบผ่านๆนะครับ จะมีคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษครับ

1949 Mamiya 35-I, the first 35mm Mamiya camera.


1956 Mamiya 35-III, the first Mamiya helical focus rangefinder with self-cocking lever and linked finder.


1957 Mamiya Magazine 35, the first production 35mm camera with an interchangeable film back. 






1958 Mamiya Elca, the first Japanese camera with match-needle metering.




1959 Mamiya Ruby, which would become the style basis for several Mamiya rangefinders. 

1961 Mamiya Prismat, Mamiya's first 35mm SLR. 


1961 Mamiya Prismat PH, Mamiya's first leaf shutter SLR. 


1964 Mamiya Prismat CWP (in USA - CP elsewhere) used a 42mm threaded lens mount. 


1966 Mamiya 500TL, Mamiya's first 35mm with CdS through the lens (TTL) metering. 


1968 Mamiya 500DTL, the first 35mm SLR with dual spot/averaging CdS TTL metering. 


1971 Mamiya AutoXTL, arguably the most advanced 35mm SLR of its time.


1978 Mamiya NC1000, a quality lightweight 35mm SLR system, with a full complement of lenses. 


1980 Mamiya ZE, the first Japanese SLR to use an electronic coupling system to transmit information between the camera body and its interchangeable lenses. 


หลังจากนั้น Mamiya ก็ยังคงผลิตกล้องและเลนส์ออกมาอีกหลายรุ่น มีทั้งที่ประสบผลสำเร็จและไม่สำเร็จ ปี 1984 Mamiya ประสบปัญหาด้านการเงินหลายๆอย่างการพัฒนาต่อยอดกล้องหยุดชะงัก
ส่งผลทำให้ กล้องฟิลม์ 35mm ของ Mamiya หยุดผลิตไปในปีนี้เอง 

1985 กล้อง Mamiya 645 ได้ถูกผลิตขึ้น




1988 กล้อง Mamiya 6 และ Mamiya 7 ถูกผลิตขึ้น




กล้อง Medium Format ยังคงถูกผลิตและพัฒนาต่อ จนก้าวข้ามจากยุคฟิลม์มาสู่ Digital 
Mamiya ได้ผลิตกล้อง Digital Medium Format รุ่น Mamiya ZD ออกมาในปี 2005


1 กันยายน 2006 บริษัทถูกซื้อไปโดยบริษัท Cosmo Digital Imaging และถูกซื้ออีกครั้งในปี 2009 ปัจจุบัน Mamiya โดย Phase One บริษัทผลิตกล้อง Digital Medium Format จาก Denmark

ผู้อ่านหลายท่านคงเริ่มสงสัยว่าผมจะพูดถึงเลนส์หรือพูดถึงกล้องกันแน่ เนื่องจากว่ายังไม่มีคนไทยเขียนเรื่อง Mamiya สักเท่าไหร่ผมจะถือโอกาสเขียนให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจในรุ่นต่อๆไปครับ ว่าแล้วก็เลี้ยวกลับเข้าเรื่องเลนส์ของเรา Mamiya Sekor 50mm F2 เลนส์ตัวนี้มากับกล้อง Mamiya 500TL ที่ออกในปี 1966 - 1978 

มีทั้งหมด 4 เวอร์ชั่นพอจะแบ่งได้ดังนี้ 
[การแบ่งเหล่านี้สามารถอ้างอิงถึงเลนส์ระยะ 55mm ได้เช่นกัน]

1. เวอร์ชั่นต้นฉบับ คือตัวนี้ที่นำมาเล่า 
AUTO mamiya/sekor  1:2  f=50 mm  (TL Series)
- บอดี้ส่วนบนและล่างเป็นสีเงิน
- มีสวิท A - M
- ฟ้อนตัวหนังสือ ขาว แดง ดำ





2. ตัวเวอร์ชั่นแรก มากับกล้อง DTL Series
AUTO mamiya/sekor  1:2  f=50 mm  Model I  (DTL Series)
- บอดี้ดำล้วน จมูกเงิน 
- มีสวิท A - M
- ฟ้อนตัวหนังสือ ขาว แดง ดำ




3. ตัวเวอร์ชั่นสอง มากับกล้อง DTL Seris เช่นกัน
AUTO mamiya/sekor  1:2  f=50 mm  Model II  (DTL Series)
- บอดี้ดำล้วน 
- ไม่มีสวิท A - M 
- วงแหวนปรับรูรับแสงจะเป็นสันๆไม่เรียบเหมือนสองรุ่นก่อน
- สังเกตุตรงหน้าเลนส์ส่วนที่เป็นหลุมก่อนถึงชิ้นเลนส์ด้านหน้า จะเป็นหลุมสองชั้น
- Font มามิยะ ด้านหน้าเลนส์จะตัวใหญ่กว่าสองเวอร์ชั่นแรกนิดนึง และมีการเว้นวรรคช่องไฟที่แต่ละตัวอักษรมากกว่าสองโฉมก่อน
- ฟ้อนตัวหนังสือ ขาว แดง ดำ








4. ตัวเวอร์ชั่นสุดท้าย มากับกล้อง Mamiya MSX/DSX Series
AUTO mamiya/sekor  SX  1:2  f=50 mm
- บอดี้สีดำล้วน
- ไม่มีสวิทปรับ A - M
- Font มามิยะ ด้านหน้าเลนส์จะตัวใหญ่เท่ากันกับเวอร์ชั่น 2
- ฟ้อนตัวหนังสือ เขียว ขาว ส้ม
- ระยะเข้าใกล้แบบ เข้าใกล้ได้มากกว่าสามรุ่นแรก อยู่ที่ 0.45 m (1.5 ft.)




มาดูเลนส์ที่ผมนำมาพูดถึงกันครับ Mamiya Sekor 50mm F2 M42 Original Silver Version


หน้าตา ใช้ฝาหน้าขนาด 52mm




ระยะเข้าใกล้แบบ เข้าใกล้ได้มากที่สุดอยู่ที่ 0.5 เมตร หรือ 1.75 ฟุต


สีแดงบอกหน่วยเมตร m สีขาวบอกหน่วยฟุต ft


ท้ายเลนส์เป็น Mount M42 มีเดือยโผล่มาให้เห็น และมีสวิท A-M ให้เราสามารถเลื่อนเลือกได้


มาดูใบเบลดรูรับแสงกัน เมื่อเปิดกว้างสุด


หรี่รูรับแสงลงมาใบเบลดจะเป็นหกเหลี่ยมปลายๆมน


เมื่อหรี่สุดที่ 16


จมูกและกระบอกเลนส์บนล่างจะเป็นสีเงิน




มาดูโบเก้กันก่อน
เปิดค่ารูรับแสงที่ 2 2.8 4 ตามลำดับ


เปิดค่ารูรับแสงที่ 5.6 8 11 ตามลำดับ


เลนส์ตัวนี้สู้แสงพอได้ ย้อนแสงมี Flare พอสมควรเช่นกัน




ย้อนแสง Detail ยังมาอยู่




ภาพตัวอย่างจากเลนส์ตัวนี้ครับ 
*ผมถ่ายด้วยกล้อง Olympus OMD EM1 , OMD EM5 Panasonic GX7 และ Fujifilm XE1 ซึ่งเป็นเซนเซอร์ m4/3 ภาพจากเลนส์ตัวเดียวกันนี้หากถ่ายด้วยกล้องที่เซนเซอร์ต่างขนาดกันไปเช่น APSC หรือ FullFrame  อาจจะได้ลักษณะโบเก้ที่ไม่เหมือนกันซะทีเดียวครับ เรียกว่าต่างเซนเซอร์โบเก้ไม่เหมือนกัน แต่โทนของภาพจะเคียงกันครับ*









































มาลองดูภาพบุคคลกันบ้าง


















มีแฟรให้เห็นที่ขอบล่างภาพบางๆ
























เลนส์ตัวนี้ถ่ายขาวดำได้ดีพอสมควร






















ยกกดไปเรื่อยล่ะครับ






































































คลิบบ่นๆ


คลิบเก่า


ข้อดี
- ความคมเหลือเฟือ สมกับฉายาที่คนรุ่นก่อนตั้งว่า"คมอิ๊บอ๊าย" แต่อย่าเอาไปเทียบกับเลนส์ Digital ที่คมยันขอบภาพ เลนส์ในยุคกล้องฟิลม์ถ่ายได้ความคมชัดขนาดนี้ถือว่าคมมากๆแล้วครับ หากคุณสงสัยในความของมันลองโฟกัสให้เข้าแล้วคร๊อบ100 ดูครับคำตอบอยู่ที่ตรงนี้
- เป็นเลนส์ที่ให้สีและโทนของภาพออกมาหวาน แต่จะหวานคนละแบบกับ Minolta หวานชนิดกินกันไม่ลง
- โบเก้กลมเมื่อเปิดรูรับแสงกว้างสุด และจะให้ฉากหลังวนบนเซนเซอร์ขนาดใหญ่ ไม่ถึงขนาดวนหมุนติ้วแบบ Helios เรียกว่าวนนิดๆ
- ถ่ายขาวดำได้สวยสมกับตามธรรมชาติของเลนส์ SingleCoat แม้จะมีแฟลรรบกวนแต่พอจะควบคุมได้ไม่ยากเย็นนัก
- F แรกไม่ฟุ้ง เรียกว่าพึ่งพากันได้ตั้งแต่ F แรกเลยทีเดียว

ข้อเสีย
- ความคมของมันนี่แหละครับ ถ่ายภาพบุคคลแนะนำอย่าเปิดเกิน 2.8 เราเตือนคุณแล้วโดนแบบด่าอย่ามาโทษผมนะครับ อิอิ
- ระวังเรื่องการเก็บเลนส์เพราะท้ายชอบยื่น เจอมาสองระยะท้ายยื่นทั้งสองระยะเลย

สรุป เลนส์ Mamiya Sekor เมื่อหลายคนได้ยินชื่อนี้มักจะนึกถึงความคมที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาก่อน แต่จริงๆแล้วสีสันทีไ่ด้จากเลนส์นี้ไม่ธรรมดาเลย หวานเอาเรื่อง แต่หากเทียบกับ Minolta มันก็หวานคนละแบบชนิดกินกันไม่ลงแล้วแต่ล่ะครับว่าใครชอบแบบไหน หากเปรียบ Minolta เป็นบิงซู Mamiya เองก็คงไม่ต่างจากอมยิ้มจิ้มน้ำตาลบ๊วย [ชักหิว] แม้ว่าจะผลิตโบเก้ออกมาสู้ตัว 55 1.4 ค่ายเดียวกันไม่ได้ แต่เท่าที่ได้ลองโบเก้ก็ทำได้ไม่เลว เรียกว่าเป็นเลนส์ที่ครบเครื่องอีกตัวนึงเลยก็ว่าได้

หวังว่าข้อมูลส่วนนี้คงจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังสนใจเลนส์ตัวนี้อยู่ ขอบคุณมากครับที่อ่านกันมาจนถึงตรงนี้ ลากันเท่านี้ สวัสดีครับ

*ขอขอบคุณโกเผ่า เขจรเวหาศน์ ผู้ร่วมทดสอบเลนส์และให้คำปรึกษาที่ดีเสมอมา


[อย่าลืมกด Like&Share Page Hudlenklong และกด Subscribe Youtube ด้วยนะครับ ]
========================================================
Facebook: ***
Subscribe Youtube: ***
Main Blog:





Create Date : 06 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2560 23:14:56 น. 0 comments
Counter : 4659 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

takkub
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




就算千里万里
一路千难万险
吾心坚定不移
向前不愿放弃.

jiu suan qian li wan li แม้หนทางจะยาวไกลเป็นหมื่นพันลี้
yi lu qian nan wan xian หรือจะมีขวากหนามภัยพาลใดๆ
wu xin jian ding bu yi ใจข้ายังยืนหยัดไม่เปลี่ยนไป
xiang qian bu yuan fang qi และจะไม่มีวันยอมเลิกรา

ไว้เตือนสติตัวเอง
จงระวังความคิด เพราะมันจะกลายเป็นคำพูด
จงระวังคำพูด เพราะมันจะกลายเป็นการกระทำ
จงระวังการกระทำ เพราะมันจะกลายเป็นเป็นอุปนิสัย
จงระวังอุปนิสัย เพราะมันจะกลายเป็นโชคชะตา




Friends' blogs
[Add takkub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.