Group Blog
 
 
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
18 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
Postcard from La Toscana

The best and most beautiful things in the world cannot be seen or even touched.They must be felt with the heart.
- - Helen Keller - -
สิ่งที่สวยงามที่สุดในโลกนั้น หากจะมองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้ แต่...จะรู้สึกได้จากหัวใจ






แสงแดดย่ามบ่ายส่องสอดผ่านเงากลีบเมฆ ละอองไอฝนระเหยแห้ง สีเขียวชอุ่มของใบไม้แซมด้วยหลากสีสันของดอกไม้ที่ผลิบาน สายลมเย็นเริ่มแผ่วพัดผ่าน ยามเดือนตุลาคมเช่นในช่วงเวลานี้สัญญาณบ่งบอกถึงการใกล้สิ้นสุดของวสันตฤดูที่ชุ่มชื้น และพร้อมกล่าวคำยินดีต้อนรับกับเหมันต์ที่ใกล้จะมาถึงในอีกไม่ช้า


การเดินทางครั้งใหม่ของผมได้เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ผมกับรถคู่ใจวิ่งไปตามถนนเพชรเกษมเพื่อมุ่งไปภาคตะวันตก ไม่นานนักผมก็จะถึงที่หมาย อากาศเริ่มเย็นสบายเพราะฝนเพิ่งหยุดตกได้ไม่นาน ผมปิดแอร์และลดกระจกรถลง เปิดรับอากาศเย็นให้พาดผ่านใบหน้า กลิ่นธรรมชาติสะอาดและ สดใสมากกว่าเครื่องปรับอากาศมากนัก ผมสูดกลิ่นหอมของไอดินที่โชยตามลม สองตาทอดมอง สองข้างทางเริ่มเป็นทิวเขาเขียวขจี ลูกเล็กลูกน้อย สลับกันไปเป็นแนวยาว เมฆลอยต่ำโอบกอดภูเขาราวรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียว ธรรมชาติช่างรังสรรค์สร้างสิ่งที่สวยสดและงดงาม บรรยากาศและสภาพ แวดล้อมนั้น มักมีผลกระทบต่อจิตใจมนุษย์เสมอ อารมณ์เหงาๆแบบปลายฝนต้นหนาวเฉกเช่นเวลานี้ ช่างเป็นห้วงแห่งเวลาที่สุดแสนจะโรแมนติคสำหรับใครหลายๆคนรวมถึงผมด้วย



สถานที่ที่โรแมนติกในโลกนี้มีนับหลายร้อยแห่ง บางคนอาจนึกถึงสวิทเซอร์แลนด์ดินแดนที่สุดแสนจะสวยงามหรือบางคนบ่นคิดถึงนครปารีสในคืนที่ สุดสวีทกับหวานใจ หรืออีกหลายคนไม่ต้องไปไกลแค่อำเภอปายใกล้ๆก็พอ แต่สำหรับผมแล้วสถานที่ที่โรแมนติกนั้นไม่ว่าใกล้หรือไกล สุดแสนจะสวย งามเพียงใด ก็จะไม่สมบรูณ์ หากขาดคนรักนั้นเคียงข้างไปด้วย

















src='//i1003.photobucket.com/albums/af158/oattao6969/ktc/007.jpg'>



























แต่มุมหนึ่งในโลกใบนี้มีเมืองโรแมนติกเล็กๆเมืองหนึ่ง ที่ผมอยากจะแนะนำให้คุณรู้จัก ดินแดนแห่งนี้เป็นที่ราบลุ่มห้อมล้อมด้วยเชิงเขา มีวิถีชนบทที่สมบรูณ์แบบไร้การปรุงแต่ง ชาวบ้านใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและเต็มเปี่ยมไปด้วยความอัธยาศัยไมตรีอันดีเยี่ยม


เมืองที่ว่านี้ชื่อว่า ทอสคานา (Toscana) ถ้าเรียกตามชาวอิตาเลี่ยน หรือ ในภาษาละตินเรียกว่า ทัสเซีย (Tuscia) แต่ที่คุ้นหูกันหน่อยก็คือ ทัสคานี (Tuscany) ตามสำเนียงที่ชาวอังกฤษ เมืองนี้มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ2หมื่นกว่าตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศอิตาลี มีเมืองฟลอเรนซ์ เป็นเมืองหลวง และมีผู้คนอาศัยอยู่ 3ล้านกว่าคน เมืองนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ศิลปะเพราะต้นกำเนิดของศิลปะยุคเรเนอซองค์และเป็นถิ่น กำเนิดของศิลปินชื่อดังอีกหลายคน และสุดท้ายเป็นเมืองที่ที่สุดของคำว่าโรแมนติคอย่างสมบรูณ์ เพราะอุดมไปด้วยสถาปัตยกรรม วรรณกรรม ดนตรี ศิลปะ ปรัชญาและธรรมชาติอันงดงาม


แต่ผมไม่เคยไปอิตาลี จะไปรู้ดีขนาดนั้นได้อย่างไร นั้น...มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่


เพราะสถานที่ที่เป็นจุดหมายปลายทางของผมคราวนี้สามารถทดแทนดินแดน Toscana ได้อย่างสมบรูณ์แบบ สถานที่ว่านั้นตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านผาปก หมู่ บ้านเล็กๆในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี หมู่บ้านที่มีสภาพภูมิอากาศที่สุดแสนสบายในฤดูร้อน และค่อนข้างหนาวเย็นในฤดูหนาว อีกทั้งยังมีหมอก บางๆในตอนเช้า มีแนวทิวเขาสีเขียวที่เรียงตัวสลับซับซ้อนกันอย่างสวยงาม มิหนำซ้ำชาวบ้านส่วนใหญ่ยังเลี้ยงชีพด้วยเกษตรกรรมและปศุสัตว์ ทุกอย่างชั่งดูคล้ายคลึงกับภูมิประเทศของแคว้น Toscana ในอิตาลีเสียเหลือเกิน



















ด้วยเหตุและปัจจัยข้างต้น จึงเป็นต้นเรื่องและที่มาของ La Toscana Resort ซึ่งผู้บริหารรีสอร์ทได้นำเอา เอกลักษณ์ทางด้านสถาปัตยกรรมแบบชนบท ของอิตาลีมาเป็นแนวความคิดหลักในการออกแบบ รีสอร์ทได้ถูกจำลองวาดภาพวางผังไว้ให้เป็นหมู่บ้านเล็กๆในชนบทของแคว้น Toscana บ้านพักแต่ละหลังจึงถูกสร้างให้ซ่อนตัวอยู่โดยมีเนินเขาเตี้ยๆล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าเพื่อสร้างบรรยากาศความเป็นส่วนตัว และเพื่อไม่ให้ผู้มาพักอาศัยหนาแน่นจนเกินไป จึงกำหนดจำนวนห้องพักไว้แค่เพียง19ห้องเท่านั้น ซึ่งก็เพียงพอแล้วสำหรับหมู่บ้านเล็กๆแต่อบอุ่นแห่งนี้


ภาพของบ้านพักแต่ละหลังนั้นถูกออกแบบตามกิจกรรมของผู้พักอาศัยในชุมชน เช่น บ้านของคนทำสวนดอกไม้ก็จะชื่อบ้าน Fiore ( ฟิโอเร่ )ที่แปลว่า ดอกไม้ซึ่งจะมีสวนดอกไม้อยู่ร่ายล้อมรอบบ้าน ส่วนบ้านของชาวไร่ปลูกผักก็จะชื่อบ้าน Veggie(เวจจี้)มีลานโล่งหน้าบ้านและแปลงพืชผักสีเขียว บ้าน ของชาวสวนผลไม้ก็ชื่อแบบน่ารักว่า Citrus (ซิตรัส)มีต้นส้มต้นเล็กขึ้นอยู่เต็มหน้าบ้าน ส่วนบ้านคนทำฟาร์มก็เรียกว่าบ้าน Fattoria(แฟตโตเรีย) แล้ว บ้านของกวีก็คือบ้าน Poeta(โพเอ็ตต้า) และยังมีอีกหลายหลังที่ผมไม่ได้กล่าวถึง


เมื่อมีจำนวนบ้านพักไม่มากนักทำให้มีพื้นที่สีเขียวกว้างขวางระหว่างบ้านพักแต่ละหลัง พื้นที่นั้นทำให้ผู้ที่มาพักได้ทำกิจกรรมต่างๆมากมายในแบบ ฉบับของชาวToscanian เช่น การให้อาหารสัตว์หรือจะปิกนิก ปารตี้บาบีคิวหรือดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่สนามหญ้าหน้าบ้านหรือดาดฟ้า พอค่ำลงอีก นิดจะปูเสื่อนอนดูดาวก็ได้ตามแต่ละสไตล์ของตนเอง






















มีสาส์นแนะนำตัวของรีสอร์ทตอนหนึ่งจากทั้งหมด กล่าวไว้อย่างน่ารักว่า..........



“ บ้านที่สร้างจากก้อนอิฐที่เราใช้ดินจากหมู่บ้านมาขึ้นรูปเอง ไม้จากบ้านเก่าของชาวบ้านถูกนำมาขัดเกลาใหม่ เพื่อสร้างสรรค์เป็นงานเฟอร์นิเจอร์ สไตล์ยุโรป งานเหล็กดัดที่อ่อนช้อย งานเย็บปักถักร้อยเป็นปลอกหมอนที่แสนสวยและผ้าม่านคลาสสิค รวมถึงสวนและงานภูมิสถาปัตย์ ล้วนเกิด จากหยาดเหงื่อแรงงกายของคนในหมู่บ้านทั้งสิ้น น่าอัศจรรย์ที่หมู่บ้านที่มีสมาชิกอยู่ไม่ถึง 700 คน จะเต็มไปด้วยช่างฝีมือแขนงต่างๆ ทั้งช่างปูน ช่าง ไม้ ช่างเหล็กดัด ช่างเปาแก้ว เหล่าแม่บ้านท่มีพรสวรค์ด้านเย็บปักถักร้อย “


และยังกล่าวต่อสั้นๆก่อนจบอีกว่า “เราเลือกที่จะเป็นมือสมัครเล่นในการทำรีสอร์ท ที่ไม่ใช่ช่างก่อสร้างจากกรุงเทพ“ เป็นการทำธุรกิจด้วยหัวใจ เป็น บทสรุปที่น่าชื่นชมและน่าปรบมือให้เป็นอย่างยิ่ง


สิ่งละอันพันละน้อยของรีสอร์ทเล็กๆแห่งนี้ นั้นให้ได้เกินกว่าสิ่งที่ผมคาดหวังไว้ว่าที่บูติกรีสอร์ทเล็กๆควรพึ่งจะมี พนักงานทุกคนนั้นเป็นชาวบ้านใน อำเภอสวนผึ้งซึ่งไม่ได้จบจากโรงเรียนการโรงแรมที่ไหน แต่ทุกคนนั้นก็พยายามทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มความสามารถ ถึงบางครั้งจะยังดูเก้ๆกังๆ แต่กระนั้นกลับทำผมได้เห็น รอยยิ้มขวยเขินที่ออกมาจากหัวใจ ซึ่งก็เป็นเสน่ห์ที่หาไม่ได้จากรีสอร์ทไหนหรือแม้แต่โรงแรมระดับ5ดาว


นอกเหนือจากสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการด้วยความเอาใจใส่เป็นห่วงเป็นใย ความอบอุ่นอันปี่ยมไปด้วยความอัธยาศัยไมตรีแล้ว ที่นี่ยัง ดูแลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรวมถึงเป็นเพื่อนพึ่งพิงของชุมชนในละแวกใกล้เคียงอีกด้วย


เสียงเพลงคลาสสิกดังแผ่วเบาลอยคลอมาพร้อมกับสายลมยามเช้า ม่านหมอกสีจางๆปกคลุมไปทั่วบริเวณ กลิ่นหอมของดอกไม้ผสมลมหนาวพัดโชย มาแต่ไกล ห้วงเวลาแห่งความสุขของคนเรานั้น มันมักผ่านไปเร็วเสมอ 3ทิวา2ราตรีหมดเวลาแล้วสำหรับหมู่บ้านเล็กๆที่แสนอบอุ่นและโรแมนติกแห่งนี้



















กาแฟแก้วแรกของวันสุดท้ายจากถ้วยเซลมิคสีขาวลวดลายใบไม้แบบคลาสสิค ผมนั่งจิบกาแฟอุ่นๆอยู่บนระเบียงชั้นสองของที่ล๊อบปี้ สองตามองผ่าน ชายคา มองเห็นทัศนียภาพบรรยากาศรวมของรีสอร์ททั้งหมด หลังคาบ้านหลังเล็กซ่อนตัวหลบมุมอยู่ตามเนินเขาเตี้ยๆ พุ่มไม้แบ่งอาณาเขตบ้านพัก เป็นสัดส่วน เห็นตากล้องมือโปรและคู่รักเดินหามุมสวยๆถ่ายรูปสำหรับงานวิวาห์ หญิงสาวมาในชุดลูกไม้สีขาวยาวพร้อมผ้าคลุมผม ชายหนุ่มใส่ชุดทัก ซิโดสีขาวเช่นกัน สีหน้าทั้งคู่ยิ้มแย้มแจ่มใส โพสท่าถ่ายรูปกันหลายอริยาบท ชายหนุ่มแอบหอมแก้มหญิงสาว ดูท่าทางหญิงสาวขวยเขินเล็กน้อยแต่ก็ หยอกล้อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุข


ผมว่าการเลือกสถานที่ที่โรแมนติกซักที่สำหรับบอกรักว่ายากแล้ว แต่การกล่าวคำว่า “ รัก ” นั้นยากยิ่งกว่าเป็นหลายเท่า คำง่ายๆแต่ความหมายลึกซึ้ง เอื้อนเอ่ยแต่ละครั้งปานหมดลมหายใจ ผมนึกคิดพลางเปิดกระเป๋าใบเก่าหยิบโปสการ์ดที่ทำเองใบสุดท้ายออกมา บรรจงเขียนถ้อยคำสั้นๆง่ายๆที่ว่า นั้นลงไปอย่างใจจดจ่อ แล้วนำไปหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ที่หน้ารีสอร์ท



ผมค่อยๆขับรถออกจาก La Toscana Resort อย่างไม่เร่งรีบ กดปุ่มลดกระจกรถลง อากาศเย็นยามเช้าด้านนอกแทรกเข้ามา กลิ่นหอมของธรรมชาติ คละคลุ้งอยู่ภายในรถ ผมสูดอากาศที่แสนสดชื่นเข้าเก็บเต็มทั้งสองปอดปานว่าจะหาไม่ได้แล้วจากที่ไหน ที่เหลือก็อยากเก็บมันเอาใส่กระปุกไว้ เอาไปให้ใครซักซักคนที่ผมเขียนโปสการ์ดถึง



--- ฤดูหนาวย่างก้าวใกล้มาถึงในอีกไม่ช้า แล้วปีนี้คุณมีสถานที่ที่บอกรักแล้วหรือยัง ---




Create Date : 18 ตุลาคม 2553
Last Update : 30 มกราคม 2557 10:18:45 น. 5 comments
Counter : 1121 Pageviews.

 
สวยจังเลยค่ะ
ถ้ารูปพวกนี้เป็นโปสการ์ดจริง ๆคงสวยมาก


โดย: มิลเม วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:7:48:42 น.  

 
ถ่ายภาพสวยมากค่ะ


โดย: ข้าวเหนียว~หมูแดง วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:9:24:13 น.  

 
ทำไมพี่ทำออกมาได้สวยมากๆอะอันนี้ชมจากใจจิงๆนะพี่เปนดีไซเนอร์ที่เก่งมากอีกคนและการเก็บรายละเอียดของการถ่ายรูปต่างๆอะเก็บได้สวยมากๆๆๆๆๆ (โครตเก่งเลย)


โดย: กุ้ยๆๆๆ IP: 61.90.104.170 วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:21:17:49 น.  

 
ขอบคุณ..แต่ที่จริงแล้วสถานที่เค้าสวยมากต่างหาก


โดย: >>> (oattao ) วันที่: 26 ตุลาคม 2553 เวลา:13:04:51 น.  

 
สวยมากเลยค่ะ

อยากไปเหมือนกันนะเนี่ย...

ถ่ายภาพสวยเกินจริงมั้ยคะเนี่ย...เหมือนเห็นในหนังสือสวยดี

พอไปดูของจริง ธรรมดา...



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:21:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tellerTao
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บุคคลธรรมผู้เสียภาษีภงด.พอว่างจากงานก็หาเรื่องเที่ยวไม่ว่างก็ยังหาเรื่องเที่ยว ชอบ บ่นๆ เขียนๆวาดๆ ถ่ายรูป ไปเรื่อยแก้เบื่อ เอาอะไรดีไม่ได้ซักอย่าง...ชีวิต
ถ้านึกอยากฝากข้อความ เขียน บ่น ก่น ด่า ถึงผมหล่ะก็กดที่นี่ตรงนี้ ส่วนบล๊อคที่เขียนล่าสุดอยากรู้ก็คลิ๊กตรงนี้โล๊ด และถ้าอยากดูอัลบั้มสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆแบบสะใจ คลิ๊กตรงนี้เด้อครั้บ <
Friends' blogs
[Add tellerTao's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.