Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
28 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
เล็กๆกับเรื่องราวลาว(หลวงพระบาง)

ผมไปหลวงพระบางมาครับ หลังจากเคยจะไปถึงทีนึงเมื่อเกือบๆ ๗ ปีที่แล้วแต่ครั้งนั้นก็ไปได้แค่วังเวียงเท่านั้นเอง(ถ้าอยากรู้ว่าทำไมต้องตามไปอ่านในบล๊อค ชื่อ ไปไม่ถึงหลวงพระบางเอาครับ (ซิ กดตรงนี้เลยเด้อ)แต่ครั้งนี้หมายมั่นปั้นมือไว้ไม่ให้พลาด ตระเตรียมข้อมูลเอาไว้แบบรวกๆแต่เรื่องกำหนดกะเกณฑ์เวลาไปเที่ยวนี่ซิมันค่อนข้างวุ่นวายพอสมควรสำหรับพนักงานกินเงินเดือนแบบผมกว่าจะจัดเบียดให้มันลงตัวใช้เวลานานพอดู งานนี้ผมพูดกรอกหูตัวผมเองไว้บ่อยๆว่า "เมตซ์นี้ถ้าไม่มีใครไปด้วยน่ะตรูได้คนเดียวก็ได้ฟร่ะ" (ทั้งๆทีไปเที่ยวคนเดียวก็ออกจะบ่อย)แต่จนแล้วจนรอดมีเพื่อนร่วมคณะไปกันตั้งหลายคน












หลังจากกลับครั้งนี้ผมมานั่งนึกเสียดายโอกาสว่าคราวที่แล้วทำไมไม่ไปอีกหน่อยก็ถึงหลวงพระบางแล้ว ผมว่าเมื่อ ๗ ปีก่อน (ผมไม่แน่ใจว่าเมื่อ๗ ปีที่แล้วมีสนามบินที่หลวงพระบางหรือยังแต่ที่แน่ๆหลังจากูยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกไม่กี่ปี) อะไรๆ ต่างน่าจะแตกต่างกว่าปัจจุบันนี้แต่ก็อาจจะไม่มากมายเท่าไหร่นัก เพราะว่าเป็นเมืองที่ถูกดูแลจัดระเบียบตีกรอบเป็นอย่างดีพอสมควรตามแบบฉบับของยูเนสโก ปัจจุบันนี้เท่าที่ผมเห็นก็คงจะมีแค่การจัดทำทางเท้าใหม่ภายในตัวเมืองเก่าเกือบทั้งหมดก็เท่านั้นที่เป็นสิ่งแปลกปลอมรุกคืบเข้ามาในเมืองเก่าหนาแน่นตัววัฒนธรรมแบบนี้ แต่รูปแบบทางเท้าก็ออกแบบไม่ให้รู้สึกขัดตาแต่อย่างใด แต่ใช่ว่าจะเป็นแค่ทางเท้าอย่างเดียวเลยทีเดียวก็เห็นจะไม่ถูก ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ลองย้อนนึกดูดีๆจะเห็นสิ่งแปลกปลอมทางวัฒนธรรมปะปนอยู่ด้วย หากนึกไม่ออกผมจะบอกให้.....ก็ตึกรามบ้านช่องยุคล่าอาณานิคมหรือที่นิยมเรียกตึกรามบ้านช่องแบบนี้ว่า โคโลเนียล สไตล์ ไงหล่ะครับ มันอาจจะเป็นความสะเทือนใจของคนยุคก่อนแต่กลับเป็นความภูมิใจของคนยุคนี้ไปซ่ะแล้ว บ้านเรือนวัดวาอารามศิลปะล้านช้างที่หลวงพระบางถูกขนาบด้วยธรรมชาติ แม่น้ำโขงและแม่น้ำคานแต่ภายในกลับถูกห้อมล้อม ปะปนและแซรกซึมด้วยศิลปะวัฒนธรรมโลกตะวันตก













"" ความเป็นเมืองมรดกโลกของหลวงพระบางไม่ใช่เพราะรูปแบบอาคารบ้านเรือนที่ฝรั่งทิ้งไว้ให้ แต่มีความลุ่มลึกของชีวิตชีวา ถ้าเรารักษาสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรมไว้ได้ และหลวงพระบางก็ไม่ใช่แค่เมืองหลวงเก่าของลาวแต่เป็นเมืองของภูมิภาคนี้ "" คำกล่าวข้างต้นนี้เป็นของอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์โบราณคดีและวัฒนธรรมคนสำคัญของไทยกล่าว"" ผมก๊อบปี้ข้อความส่วนหนึ่งมาจากเวบไซน์ของ นิตยสารศิลปวัฒนธรรม













หลวงพระบางทุกวันนี้สำหรับผมแล้วผมว่ากำลังลงตัวกับเมืองที่มีการท่องเที่ยวเติบโตเร็วขนาดนี้ คนที่นี่ปรับตัวเข้ากับความเจริญเติบโตทางสังคมอย่างช้าๆไม่ได้รับวัฒนธรรมต่างชาติอย่างไม่ได้ลืมหูลืมตา
มีคืนนึงผมกำลังเดินไปที่ตลาดกลางคืนแถวๆวัดใหม่ผมได้เดินผ่านกลุ่มวัยรุ่นแกงค์ซิ่งมอเตอร์ไซด์นั่งจับกลุ่มพูดคุยกันแถวๆสี่แยกไปรณีย์ดูแล้วไม่แตกต่างจากเด็กแว๋นบ้านเราทั้งท่าท่างและการแต่งตัว แต่พอมาตอนเช้าผมออกมาตักบาตร ก็เจออีกครั้งนึงกับกลุ่มวัยรุ่นเดิมเมือคืนแต่วันนี้นั่งบนเสื่อเตรียมตัวตักบาตรกระติบข้าวเหนียวพร้อมอยู่ด้านหน้า ในกลุ่มวัยรุ่นนั้นยังพูดหยอกล้อกันเหมือนเดิม ผมคิดไม่ออกเลยว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ที่บ้านเราหรือเปล่า














คนเมืองหลวงพระบางบางส่วนเท่าที่ผมสังเกตุลักษณะคล้ายกับคนไทยทางภาคเหนือของเราเหมือนกัน ไม่ว่าผิวสี ตา และจมูกและที่แน่ชัดคนลาวที่หลวงพระบางแตกต่างจากคนลาวที่เวียงจันทร์อย่างเห็นได้ชัด ถ้าใครไปลองสังเกตุดู อาจจะเป็นเพราะว่าตามหน้าประวัติศาสตร์ที่แสดงความพัวพันฉันพี่น้องกับไทยมาแทบทุกยุคสมัยไม่ว่า ตั้งแต่สุโขทัย อยุธยา และดินแดนแทบล้านนาของเรา เช่นใน รัชสมัย พระเจ้าอู่ทอง ท่านได้แต่งเครื่องราชบรรณาการถวายแด่พระเจ้าฟ้างุ้ม กล่าวถึงการเป็นพี่เป็นน้องกันมาตั้งแต่สมัยขุนบรม และในช่วงรัชสมัย สมเด็จพระรามาธิบดีที่๒ เมืองเชียงใหม่ได้ส่งพระราชธิดามาถวายต่อมาเรียกพระนางหอสูง และหลังจากนั้นเมืองเชียงใหม่อัญเชิญเจ้าเชษฐวังโสพระราชโอรสอันเกิดจากพระนางหอสูงขึ้นเป็นกษัตริย์เชียงใหม่ ก็มีอยู่บ้างในบางหน้าประวัติศาสตร์ที่ทางไทยเราเองทำตัวเป็นพี่ใหญ่เที่ยวรุกรานแต่ถึงอย่างไรความสัมพันธ์ก็ยังตัดกันไม่ขาด











ผมเคยอ่านหนังสือของ อ.สิทธา เลิศไพบูลย์ศิริ มีบางบทท่านได้พูดคุยกับนักศึกษาลาวแลกเปลี่ยนที่มหาลัยธรรมศาสตร์ ผมอ่านแล้วมันสะท้อนความรู้สึกในในผมจริงๆผมเลยตัดบางตอนมาให้อ่านกัน













สุลิไซ อินทะสอน ชื่อจริงนามสกุลจริงตามบัตรประจำตัวประชาชน เป็นนักศึกษาภาควิชาภูมิศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ระหว่างสนทนา สุลิไซ สารภาพกับผู้เขียนอย่างตรงไปตรงมาว่า ก่อนที่จะเดินทางไปกรุงเทพ มีจินตนาการที่มีต่อ "คนไทย "(ที่พูดสำเนียงกรุงเทพ) ค่อนข้างติดลบ เช่น คนไทยเห็นแก่ตัว และชอบดูถูกคนอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อ " คนลาว "
เขายังให้การต่ออีกว่า ก่อนหน้าที่จะเข้ามากรุงเทพ เขามีโอกาสได้ข้ามมาเที่ยวที่จ.อุบลราชธานีและมุกดาหารอยู่บ่อยๆ ซึ่งความรู้สึกตอนนั้นค่อนข้างต่างจากการที่เข้ามาในกรุงเทพพอสมควร ที่อุบลเขาไม่รู้สึกแปลกแยกและเป็นคนอื่นกับคนที่นั้น แต่กลับรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกันคือเป็น "ไท " เขามองอีกว่า คนอีกฝากหนึ่งของแม่น้ำโขงพูดภาษาเหมือนกันและมีสำนึกความเป็น "ไทลาว"ที่เหมือนกัน แต่สำหรับที่กรุงเทพแล้ว "ไท" ที่นั้นเป็น "ไทย "อันหมายถึงพลเมืองในกรอบรัฐไทย












สุลิไซ พยายามอธิบายนิยามของคำว่า "ไท" ในความหมายของเขา ทำให้ผู้เขียนเข้าใจว่า คำว่า "ไท" กับ "ลาว" และ "ไทย" นั้นมีความหมายละเอียดอ่อนที่ต่างกันอย่างไร
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เหตุใดมายาคติจึงได้มีภาพอันเจือปนอคติเกียวกับคนไทยแฝงอยู่ มันเป้นภาพของผู้มีอำนาจเหนือผู้อื่น บางทีเลวร้ายถึงขนาดนั้นผู้รุกราน ทีมักจะแฝงตัวอยู่ในชุดคำอธิบายประวัติศาสตร์ลาวบางช่วงบางตอน เช่น การบุกเผาล้างเมืองเวียงจันทร์ โดยอาณาจักรที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในอีกฝากหนึ่งของแม่น้ำโขง นั้นจึงไม่แปลกหากจะมีอคติบางอย่างติดค้างอยู่ลึกๆภายในความรู้สึกนึกคิดของคนลาว


แม้ปัจจุบัน รัฐไทยเองยังมีอิทธิพลเหนือประเทศลาว ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจที่ลาวยังขาดดุลการค้าต่อไทยเสมอมา และการครอบงำทางวัฒนธรรมโดยผ่านสื่อไทยที่ข้ามฝากฝั่งโขงมายังลาวได้อย่าง่ายดาย



ข้ออมูลวิชาการก็หยิบฉวยมาจากหลายที่ ขอบคุณเจ้าของข้อมูลและเนื้อหาข้อความตกหล่นอย่างไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยหล่ะกันครับ ถือว่าเอารูปมาฝากและเล่าลู่กันฟังแลกเปลี่ยนกันชมก็แล้วกัน



เมื่ออ่านจบถ้าคุณมีโอกาสได้ไปลาวอีกครั้งหนึ่ง ลองนึกดูว่าคุณได้เอา อคติ ติดใส่เป้แบกใส่หลังไปด้วยหรือปล่า ถ้าใช่ กองไว้ที่บ้าน แล้วไปอย่างบ้านพี่เมืองน้องกันดีกว่า






จบด้วยรูปเสก็ตวาดเล่นๆระหว่างนั่งรอเพื่อนที่หน้า หอพระบาง


Create Date : 28 สิงหาคม 2550
Last Update : 30 มกราคม 2551 12:16:38 น. 26 comments
Counter : 2177 Pageviews.

 
โหวววววววววววววว

ภาพสวยมากๆๆๆครับ

ปลายปีผมก็จะไปตั้งใจจะไปตั้งกะชาติที่แล้ว

เหนแล้วอยากเก็บกระเป๋าขึ้นมาเลยอะ

ชอบมากมายครับ


โดย: jantzen วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:13:27:41 น.  

 
มาเกาะปีกเครื่องบินไปด้วยคนค่า

รูปสวยเหมือนเคย ชอบรูปแมวจัง


โดย: ระแนงไม้ วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:14:53:28 น.  

 
น้ำยายไหยเยย อดไป อดไป


โดย: joyfuljoy IP: 58.136.69.174 วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:16:15:50 น.  

 
สวยมากๆเลยครับ
เนื้อหาก็เพียบเลยครับ


โดย: sak (psak28 ) วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:16:26:06 น.  

 
คุณ oattao ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆเลยครับ ทั้งรูปก็สวย สาระก็เพียบ อยากจะไปดูสักเร็วๆนี้เลย

ชอบมากๆครับ


โดย: pompier วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:17:21:42 น.  

 
ภาพสวยมากๆค่ะ

ดูมีชีวิตชีวาและสีสันสดใสมากๆ

ขอบคุณที่ชวนมาดูค่ะ







โดย: ตามใจท่าน วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:19:44:50 น.  

 
อยากทราบค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปลาวคะ...เพราะจะไปเที่ยวช่วงเดือนตุลานี้คะ...ขอบคุณคะ


โดย: นู๋มาลี IP: 125.27.1.56 วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:13:38:33 น.  

 
ไปด้วย ๆๆๆๆ เด๋วเคลียร์ตารางงานให้ได้ก่อน
ต้องไปให้ได้เลย...


โดย: ดอกหญ้าสีน้ำเงิน วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:14:49:55 น.  

 
สวยมากเลยอยากไปจังตอนแรกคิดว่าประเทศลาวไม่ค่อยน่าเที่ยวเท่าไร่แต่ตอนนี้อยากไปจังต้องหาเวลาช่วงปิดเทอมไปให้ได้เลยค่ะ


โดย: gugkik_ac@hotmail.com IP: 210.86.128.50 วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:18:42:26 น.  

 
เต็มอิ่มทั้งรูปภาพ และสาระ เลยครับพี่น้องงงงงงง

ปล. อยากรู้ค่าใช้จ่ายและข้อมูลที่พัก+การเดินทาง(คร่าวๆ) มั่งอ่ะพี่เต๋า


โดย: sa-ma-OUI IP: 124.121.36.214 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:11:16:32 น.  

 
ตกแก่งที่วังเวียงก็สนุกนะ เป็นความประทับใจที่ไม่ลืมเลย


โดย: เพื่อนร่วมก๊วน IP: 222.123.233.210 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:14:35:05 น.  

 
คิดว่าพี่เกือบจะไม่ได้ไป trip นี้สักอีกนะ
ไม่พลาดจิงๆค่ะ กลับมาพร้อมภาพสวยๆ กับเนื้อหาสาระพร้อมสไตล์การเขียนแบบ unique เหมือนเคย
:-)


โดย: rukawa682 IP: 58.8.40.215 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:18:33:22 น.  

 


เด๋วสิ้นปีนี้ ไปแน่นอนจ้า ....

เพราะว่า เมื่อเข้าพรรษา ไปลาวใต้ จำปาสัก

มายังประทับใจ ไม่หายเลย


โดย: โคมารุซัง วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:20:52:41 น.  

 
ถ่ายรูปเก่งจังครับ สวยจัง ถ่ายที่เดียวกันทำไมของผมไม่สวยเท่าเลยอ่า


โดย: lyonheartz (lyonheartz ) วันที่: 11 กันยายน 2550 เวลา:0:10:17 น.  

 
ถ่ายรูปก็สวย จัดอาร์ทก็เก่ง เขียนสาระก็ดี ยกนิ้วให้เลย


โดย: aee_sas วันที่: 11 กันยายน 2550 เวลา:15:10:50 น.  

 
เก็บภาพมาในมุมที่สวยดีจังค่ะ...

ไทย ลาว บ้านพี่เมืองน้อง อยู่ใกล้กันมานาน หน้าและภาษาก็คล้ายกัน จะแบ่งแยกไปทำไม...ละคนกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นทุกคนหรอกเนอะ....ว่ามะ...

ชอบกุ้ยหลินเมืองลาว สวยดี...อากาศต้องดีแน่ๆ เลย....


โดย: uter วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:19:00:58 น.  

 
ประทับใจบทความและภาพ ครับ....


โดย: โฟล์คเหน่อ วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:22:24:40 น.  

 
ถ่ายรูปสวยมากค่ะ ^__^


โดย: perfect blue IP: 124.120.149.223 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:15:21:28 น.  

 
มีคนเคยชวนไปเที่ยวลาว อั้ยเราก็บอกว่าไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย

พอมาอ่านเรื่องราว และเห็นภาพของลาว หลวงพระบาง ที่นี่ ต้องเปลี่ยนใจค่ะ


โดย: วันวานที่ผ่านมา วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:27:47 น.  

 
บล็อกนี้ ดีจัง
จะแวะมาเรื่อยๆ ครับ


โดย: รูปเงาะเดินสบาย IP: 203.172.88.88 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:15:27:08 น.  

 
โห แหล่ม เลย เพ่ เต๋า.....


โดย: อ้วนน้อย... IP: 124.121.37.126 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:9:24:07 น.  

 
ไปเที่ยวมาเมื่อตอนปีใหม่ที่ผ่านมา อยากไปอีกครับ ชอบและประทับใจมากๆ


โดย: bite25 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:12:27:13 น.  

 
ถ่ายรูปสวยจัง จัดแบบก็ดี อยากไปมั่ง แต่ ญ คนเดียว จะอันตรายมั้ย??? เฮ่อ อยากเป็น ช มั่งจัง จะเที่ยวให้มันนเลย


โดย: ปู IP: 222.123.166.165 วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:22:28:56 น.  

 
มีสาระดีค่ะ อ่านง่าย ภาพสวยมุมมองดี เจ้าของ blog ขยันจังค่ะ


โดย: Neilnuch_T วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:9:47:53 น.  

 
พี่ค่ะ พี่ถ่ายรูปสวยมาก พวกหนูกำลังจะไปลาวประมาณกลางเดือนนี้ เอารถไปเอง แต่ยังไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงบ้าง ไปทางไหน ช่วยแนะนำข้อมูลได้มั้ยคะ จะกรุณามากถ้าพี่ส่งให้ทาง E-mail:plengchompoo@hotmail.com ขอบคุณล่วงหน้านะคะพี่


โดย: plengchompoo IP: 58.8.184.204 วันที่: 31 ตุลาคม 2551 เวลา:2:38:20 น.  

 
มุม สวยมากๆ คัรบ พี่

ถูกใจครับ จนต้องเข้ามาดู ในนี้เลย

นี้ผมตามมาจากลิงค์นี้นะครับ เนี้ย สุดๆ ครับพี่

ขอให้ พี่ได้ รางวัล จาก ทาง KTC นะครับ

ออ ลิงค์ ไปช่วยกันโหวต พี่เค้าครับ

//www.ktc.co.th/ktcworld/2009/travelmastervote/vote.php


โดย: mawer IP: 203.144.144.164 วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:16:54:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tellerTao
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บุคคลธรรมผู้เสียภาษีภงด.พอว่างจากงานก็หาเรื่องเที่ยวไม่ว่างก็ยังหาเรื่องเที่ยว ชอบ บ่นๆ เขียนๆวาดๆ ถ่ายรูป ไปเรื่อยแก้เบื่อ เอาอะไรดีไม่ได้ซักอย่าง...ชีวิต
ถ้านึกอยากฝากข้อความ เขียน บ่น ก่น ด่า ถึงผมหล่ะก็กดที่นี่ตรงนี้ ส่วนบล๊อคที่เขียนล่าสุดอยากรู้ก็คลิ๊กตรงนี้โล๊ด และถ้าอยากดูอัลบั้มสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆแบบสะใจ คลิ๊กตรงนี้เด้อครั้บ <
Friends' blogs
[Add tellerTao's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.