Bloggang.com : Mnki : หาโรงเรียนอนุบาล....ยังเจออุปสรรค

หาโรงเรียนอนุบาล....ยังเจออุปสรรค

ย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นได้ไม่เท่าไหร่ เราก็ท้องคนที่สอง สงสัยมาจากไทยแน่ๆเลย....คืนก่อนนั้น ฝันไปอีกว่า มีผู้หญิงใส่ชุดดำและผมสีขาว มวยผมอย่างเรียบร้อย ส่งเด็กหญิงอายุ 2 ขวบ ผมหยิกลอน หน้าตาน่ารัก ..ในฝันเธอชื่อว่า น้องปู มาให้ เราก็รับไว้ แล้วก็ตื่น... จัดการไปหาซื้อที่ตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง ทั้งที่ภาษายังไม่ได้เรื่อง ผลคือ ท้อง จริงๆ... ไปฝากท้องแล้วก็มานั่งคิดว่า เมื่อเราคลอดลูก ไทกิอาจจะเหงาที่ไม่มีใครเล่นด้วยเหมือนเคย แล้วเขาก็โตขึ้นมากแล้ว ก็เลยลองไปติดต่อโรงเรียนอนุบาลดู

ปกติ เราก็จะมองหาอนุบาลใกล้บ้านที่เป็นของรัฐก่อน เพราะค่าเทอมจะถูกมาก และเนื่องจากบ้านเราอยู่เขตนี้ เราจ่ายภาษีบำรุงท้องที่นี้ ดังนั้นเราจึงควรใช้สิทธินั้นเต็มที่เช่นกัน

ระบบ รร.อนุบาลของรัฐบาล ที่ญี่ปุ่นจะคล้ายๆกัน คือ ระดับเนิสลงมา ค่าดูแล/เดือน จะขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้ปกครอง คนที่รายได้น้อยจะจ่ายน้อย คนที่รายได้เยอะจะจ่ายเยอะ ดังนั้นจึงไม่ต้องถามกันเลยว่าใครจ่ายเท่าไหร่ เพราะบางทีก็ไม่เหมือนกัน บางคน 2 หมื่นเยน/เดือน บางคน 3 หมื่นเยน/เดือน บางคน 5 หมื่นเยน/เดือน ส่วนบางคนก็เสียไม่กี่ร้อยเยน/เดือน เนื่องจากแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แล้วกรอกรายละเอียดไปว่า ไม่ได้ทำงาน ( นั่นก็คือ จริงๆแล้ว ก็เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกปกติ เพียงแต่ไม่มีหลักฐานทางกฏหมายเท่านั้นเอง)

แต่ระดับอนุบาลขึ้นไป ค่าเทอมจะถูกมาก เสียเท่ากันหมด ประมาณ 5 พันเยน/เดือนแต่ว่าเลิกเที่ยง ไม่รวมค่ารถรับส่งที่ถูกเช่นกัน แต่ถ้าประสงค์จะฝากถึงเย็น ก็ยังตกแค่เดือนละ 10000 เยน/เดือน เท่านั้น ถูกกว่าเอกชนกว่าครึ่ง

ทั้งนี้ทั้งนั้น เฉลี่ยค่าเรียนแต่ละพื้นที่อาจจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับภาษีและจำนวนประชากรนั้นๆ ดังนั้นการเรียนข้ามเขต จะทำได้ยากมาก เพราะเราไม่ได้เสียภาษีบำรุงพื้นที่นั้นโดยตรง.... เราอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าได้

เช้าวันนั้น เราก็ไปติดต่อโรงเรียนไทกิ ไปกับย่าของไทกิด้วยกันสามคน.... เจอครูผู้ช่วยท่านหนึ่ง หลังจากคุยกัน ครูก็ถามว่าที่บ้านมีใครอยู่บ้าง มีใครทำงาน มีใครไม่ทำงาน ...พอรู้ว่าเราและแม่สามีไม่ได้ทำงาน ครูบอกว่า ก็ว่างสองคน ก็ดูแลเด็กคนละคนไปก็ได้นี่คะ....ได้ฟังแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกแย่เลยค่ะ บอกสามีไม่เอาแล้ว ไปเอกชนก็ได้

เพราะโรงเรียนอนุบาลของรัฐ ในชั้นระดับเนิสนั้น เขาจะให้สิทธิเฉพาะคนที่แม่ออกไปทำงาน ดูแลลูกไม่ได้ก่อน ดังนั้นเราต่างชาติ หางานยังไม่ได้ เราจึงไม่ได้รับสิทธินั้นตามระเบียบ นอกจากว่า...ยังมีที่ว่างเหลืออยู่ ซึ่งยากมาก

ปรึกษาสามี เรื่องการรับส่งและค่าเทอมของเอกชนแล้ว จึงตัดสินใจเอาลูกเข้า้เอกชนทันที....ไปสัมภาษณ์เองคนเดียวเพราะสามีทำงาน และเพราะครูพูดภาษาอังกฤษได้ เราได้เข้าเรียนแน่นอนด้วย

แล้วที่นี่...เราก็ได้พบเพื่อนดีๆ เช่นกัน

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2555

Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2555 12:45:22 น.

0 comments

Counter : 987 Pageviews.