เมื่อเขาควาย
มาแทงใจฉัน ตอน 2 (ตุ้ม ปกากะญอ)
ผมจำได้ว่าเป็นเดือนนั้นมันคือ..เดือนมีนาคม ผมยืนอยู่หน้าวิทยาลัยเพาะช่าง ในชุดนักศึกษา ปวช. ปี 2
เนื้อตัวมอมแมมไปด้วยสีและเศษปูนปาสเตอร์ ทุก ๆ วันผมจะต้องมาขึ้นรถกลับบ้านตรงหน้าร้านสมใจ ตรงตลาดพาหุรัต ผ่านไปหนึ่งปีแล้วครับกับชีวิตนักเรียนศิลปะ อากาศยามเย็นวันนั้นกำลังอุ่นสบาย บ่งบอกว่าเป็นช่วงปลายฤดูหนาว ลมพัดสบาย ๆ ปนกับไอร้อนที่ระบายออกมาจากผิวถนน
ผู้คนขวักไขว่ไปมา เพื่อมารอรถสายที่ตัวเองหวังจะให้มันพาไปสู่จุดหมาย
มันเป็นบรรยากาศที่ครึกครื้นดี ผมรอรถอยู่ประมาณ 20 นาที ไม่ใช่เพราะรถสาย 82 ก. ไม่มีหรอกนะ แต่มันแน่น...แน่นซะจน เด็กวัยรุ่นตัวเท่าลูกหมา..อย่างผมยังเบียดเสียดขึ้นไปไม่ได้ เลยทนยืนรอจนกว่าผู้คนจะซาลง แต่ใจนึงก็ยังไม่อยากกลับบ้านเร็วอยู่แล้ว กลัวที่ต้องไปเจอกับ..คุณพี่นักเลงช่างกล..ที่ดักรออยู่กลางทาง
ชั่วโมงนั้น..เสียงล้อรถบดถนนผ่านหน้าผมไป คันแล้วคันเล่า จนผมชินกับเสียงมัน และแล้วร้านเทปแผงลอยข้าง ๆ ร้านสมใจก็
อัดเสียงเพลงจังหวะลูกทุ่ง ๆ ออกมาเพลงนึง มันเป็นจังหวะที่สนุกเร้าใจ โจ๊ะ ๆ หน่อย
เสียงกลองที่ดังกระหึ่มแข่งกับเสียงผู้คนที่จอแจ ผมพยายามฟังว่ามันคือเพลงอะไร พอเสียงกีต้าร์ผ่านจนจบ เสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ก็ดังขึ้น อ้า..............
ดวงตาของฉันมันมืดมิด แต่ชีวิตฉันยังไม่มืดลง เสียงคุ้น ๆ คาราบาวนี่หว่า
หนุกดี ๆ ๆ มีเสียง overdrive ตอน โซโล่ด้วย มีพัฒนาการ..ว้อยเฮ้ย ! แปลกหู ๆ ๆ ผมรำพึงรำพันพร้อมกับจ่ำเท้าพรวด ๆ ไปแผงเทปทันที มองหาตลับเทปที่เค้าเปิดซึ่งส่วนมากตามแผงเทป สมัยก่อนเวลาเค้าเปิดเพลงโชว์ตัวอย่างให้ฟัง
เค้าจะเอาตลับเทปไปวางโชว์ไว้ที่เครื่องเล่นเทป ( ยี่ห้อบ้านหม้อ )
..เห็นแล้ว..ผมเห็นแล้ว..ปกสีแดงจ้า !ฉ่ำลูกนัยน์ตามาก ๆ แต่ที่น่าสนใจคือ มีรูปเขาควายเป็นสง่าอยู่บนปกสีแดง ๆ ที่แทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากตัวหนังสือสีดำไม่กี่ตัว
ขณะที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับการสังเกตปกเทปอยู่ เสียงเพลงที่ดังเข้ามาสาดกระแทกโสต และปลิดเอาความคิดเก่า ๆ ที่วางไว้ให้ คาราบาวชุด 1 กะ ชุด 2 ออกไปจากหัวทันที มันเป็นเพลงที่ไลน์ปิคกิ้งกีต้าร์มาก่อน..ด้วยการเล่นแบบโฟลค และเสียงประสานที่กลืนกันมา
มาสะเทือนอารมณ์ อีกทีตอนกลองกับเบส เข้ามาตอกย้ำจังหวะให้กระชับขึ้น เสียงเครื่องบินถล่มฟ้า เสียงชาวนาเหือดหาย อย่ารอช้าอีกเลย มือผมล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงตัวเก่งที่พร้อมจะขาดได้ทุกเมื่อ ควานหาเงินที่เหลืออยู่
บนรถเมล์เที่ยว 6 โมงครึ่งวันนั้น ผมโชคดีที่..มีที่นั่งเป็นของตัวเอง..เพราะฝูงชนเบาบางลงไปพร้อมกับแสงแดด ในเป้ทหารใบเก่ามีเทปคาราบาว ชุดวณิพกนอนรอการฟังอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ผมเสียดายมาก ที่ถ่านไฟฉาย..มันดันมาด่วนหมดไปพร้อมกับการเปิดเพลงฟังเมื่อช่วงบ่าย ไม่งั้นผมจะเปิดเพลงวณิพกบนรถเมล์เที่ยวนี้ฟังไปตลอดทางเล้ย...อุตส่าห์ยืมเครื่องเล่นมาจากไอ้วิทย์มาแท้ ๆ แต่เจ้ากรรมผมดันลืม..ลืมยืมตังค์มันมาซื้อถ่านด้วย ( ปัจจุบันนี้ไอ้วิทย์มันรวยเป็นเสี่ยไปแระ..55 )
กลับไปบ้านคืนนั้นผมก็ฝันว่า เพลงวณิพก ที่มันกำลังดังกระหึ่มอยู่ในใจผมตอนนี้เนี่ย
.มันจะต้องถูกเปิดดังกระหึ่มไปตามผับ และ ดิสโก้เทคทั่วประเทศไทยแน่นอนคอยดูสิ ..เชื่อผมเถ้อฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
++++ ขอบคุณบทความน่าจดจำ พี่ตุ้ม สุดเลิฟของน้องนะคะ ++++
Create Date : 09 ธันวาคม 2550 |
|
4 comments |
Last Update : 11 ธันวาคม 2550 23:19:03 น. |
Counter : 1103 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: exx IP: 124.121.159.132 10 ธันวาคม 2550 10:56:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ขุนสะแอง.แวะมาเยี่ยมครับ.เอาของมาฝาก IP: 203.118.73.134 11 ธันวาคม 2550 20:24:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้อง... IP: 124.122.155.168 11 ธันวาคม 2550 21:57:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้ากุ้ง IP: 10.82.1.118, 10.80.253.226, 203.155.29.220 24 มกราคม 2554 13:49:07 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สมุทรปราการ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เหมือนสายลมผ่านไป ในท้องทุ่ง............... เหมือนน้ำค้างย่ำรุ่ง อุทาหรณ์................ ว่าสัญญาสายัณห์ ตะวันรอน.......... พอตื่นนอนก็ไร้เงา พวกเจ้านาย........
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|