Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 

~*~*~* เหตุผลผิดๆในการคิดมีคนรัก....และรักอย่างไรให้เป็น *~*~*~

 

ช่วงนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับรุ่นน้องหลายคนบ่อยๆ
ทั้งคนที่กำลังอยากจะมีคนรัก คนที่กำลังมีคนรักอยู่แล้ว
หรือแม้กระทั่งคนที่กำลังอยู่ในช่วงเลิกรากับคนรัก
สมัยก่อนเคยได้ไปร่วมกิจกรรมสัมนาของพี่โจ (มณฑาณี ตันติสุข)
พี่โจได้เขียนถึงเหตุผลของการคิดมีคนรักไว้แบบผิดๆ ไว้ 7 ข้อ
ไว้ในหนังสือ ผู้หญิงฉลาดรัก ที่น่าสนใจมากๆ คือ

1. ถูกกดดันด้วยอายุหรือครอบครัว
2. เพราะเหงา หรืออยากมีคนรักมาก
3. รู้สึกผิด
4. เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดเรื่องตัวเอง
5. เพื่อจะได้ไม่ต้องโต และรับผิดชอบตัวเอง
6. เพื่อเติมเต็มชีวิตที่ว่างเปล่า ไม่มีเป้าหมายของตนเอง
7. เพื่อจะได้มีความสัมพันธ์รักอย่างถูกต้อง

7 ข้อนี้ถ้าเราเอามาจัดหมวดหมู่ด้วยความคิดของเราเองล้วน ๆ
อาจจะไม่ตรงใจ หรือความต้องการของใครก็เป็นไปได้นะ
เราพบว่ามีอยู่เพียง 2 หัวข้อใหญ่ๆ สำหรับเหตุผลหลักๆ
เกี่ยวกับเหตุผลของความคิดนี้ก็คือ

1. เรายึดความคิดของคนอื่น หรือให้สังคมเป็นตัวกำหนด
เส้นทางการเดินชีวิตของเราเองเป็นหลัก คือข้อ 1
คล้ายๆ การหลงเข้าไปอยู่ในโลกของความคิด
หรือคิดแบบที่คนอื่นคิดกัน บางคนคิดไปว่า
เราเกิดมาเพื่อมาพบเจอคนที่เรารักแล้วจึงจะมีความสุข
ถึงแม้บางทีคนที่เรารักจะสร้างแต่ความทุกข์ใจ
ให้เรามากกว่าความสุขก็ตามที

บางคนคิดว่ามีคนรักเร็วๆ เพราะคิดตามแบบสังคมเสียมากกว่า
อาจถูกกดดันด้วยอายุและครอบครัว คือ พ่อแม่พูดกรอกหูทุกวัน
อายุก็ปูนนี้แล้ว เมื่อไหร่จะมีคนรักเสียที
จะได้แต่งงานมีลูกเร็วๆ เหมือนบ้านโน้น

2. เรายึดตัวเราเป็นที่ตั้งของความคิดทั้งมวล ในการตัดสินใจ
คล้ายๆ การหลงเข้าไปโลกของความคิดของเราเอง
เส้นทางการเดินชีวิต คือข้อ 2, 3, 4, 5, 6 ,7

เพราะเราเหงาคิดแบบข้อที่ 2 คือมีคนรักไว้แก้เหงา
ไปไหนมาไหนต้องมีคนรักเดินตาม กลับบ้านไม่ถูก
หรือไปไหนลำพังไม่เป็น ถ้าไม่มีคนรักร่วมเดินทางไปด้วย

รู้สึกผิดแบบข้อที่ 3 ถ้าคนที่เรารักเป็นคนดีในตอนเริ่มรักกันใหม่ๆ
แต่ออกอาการน่าเบื่อ หรืออาจถึงขั้นไม่น่าคบหาร่วมทางเดินกันได้อีก
แต่เอ๊ะ!!...คบกันมาตั้งนานหลายปีดีดัก
เลิกไปแล้วคนรักจะเสียใจไหมหน๊อ
เอาหล่ะ.. คบๆ ไปเถอะ ทนๆ กันไป
แถมสงสารเค้าจังเลย ถ้าจะต้องบอกเลิกกัน

หรืออาจคิดและรู้สึกแบบข้อที่ 4 ,5, 6, 7 คือ
เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดเรื่องของตัวเอง
เพราะเวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับคนรัก
ต้องคอยเป็นห่วงว่าจะอยู่ดีมีสุขไหม
เราจะได้ไม่ต้องโต เพราะมีคนรักคอยดูแลเอาใจใส่
และ มีที่พึ่งพาอาศัยทางใจแล้ว
มีแฟนแล้วจะได้เติมเต็มความว่างเปล่าให้กับชีวิต
จะได้สร้างโน้นสร้างนี่ร่วมกัน
เป้าหมายของตัวเราจะได้สัมฤทธิ์ผล
แล้วจะได้มีความสัมพันธ์รักอย่างถูกต้องเสียที

2 หัวข้อใหญ่ๆ สำหรับเหตุผลหลักๆ ที่เราคิดว่าหากเหลือวิสัยจริงๆ
อาจจะเป็นกรรมแต่ปางใดก็ตาม
จะเป็นกรรมในชาติที่แล้วหรืออย่างไร
ให้ต้องมาพบเจอกันกับคนรัก หรือเป็นกรรมในชาตินี้ก็ตามแต่
ที่ยังไง้ ยังไง ก็ต้องมีความรัก แบบที่หนีอย่างไร ก็หนีกันไม่พ้น
ต้องเจ๊อะเจอกันแน่ๆ พูดง่ายๆ ว่าต้องมีคนรักเป็นแน่แท้
ก็ขอให้เราได้เข้าใจความรักตามหนทางที่ควรจะเป็น
ขอให้รักอย่างมีสติ รักอย่างมีเหตุผล ไม่กระทำการใดๆ
ที่จะทำให้ตัวเราและคนรักต้องเป็นทุกข์เพราะความรัก
โดยรักษาศีล 5 เป็นเครื่องคุ้มกันตัวเรา
ไม่ให้ละเมิดล่วงเกินเบียดเบียนใคร

อย่ารักแบบครอบครอง
ต้องการให้ได้ดั่งใจเรา ที่มักจะตามมาด้วยความทุกข์เสมอ
เพราะเจือด้วยกิเลสภายในใจเราเป็นที่ตั้ง โดยคิดเค้าข้างตัวเองไว้ก่อน
ความรักแบบนี้มักพึ่งพาสิ่งภายนอก มักให้คนอื่นชักนำ ชีวิตของเรา
ให้ไปในทิศทางที่เราวาดฝันไว้ ถ้าหากคนที่เรารักนั้น
ไม่สามารถทำตามความต้องการให้ตรงใจเราได้
เราก็มักจะเป็นทุกข์ เสียใจ ผิดหวังในคนรัก
และกล่าวโทษความรักว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์นั่นเอง

แต่ให้รักแบบไม่ต้องการครอบครอง
คือ รักแบบเมตตาซึ่งกันและกัน
เข้าใจและยอมรับว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างที่เค้าเป็น
ไม่ได้ไปคิดจะเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขความคิดของคนรัก
ให้ได้ดั่งใจเรา หากคนรักไม่ได้ทำในสิ่งที่เราต้องการได้
เราก็พร้อมยอมรับมันอย่างเข้าใจ
ไม่รู้สึกเสียใจ เป็นทุกข์ไปกับความรักนี้
รักแบบนี้จึงเป็นรักที่เกื้อกูลให้อีกฝ่ายมีความสุขอย่างแท้จริง
รักโดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทนใดๆ จากคนที่เรารักนั้น

แล้วรักที่ไม่หวังสิ่งใดตอบแทนนั้น มีจริงหรือ ?
มีรักแบบนั้นอยู่จริงๆ นั่นคือรักที่พ่อแม่มีให้แก่ลูก
เป็นรักที่ไม่เรียกร้องสิ่งใดตอบแทนเลย

รักอย่างเมตตาให้พวกเราได้พ้นทุกข์
พระพุทธองค์มีเมตตาออกบวช จนพบทางสายกลาง
และทรงบรรลุแจ้งในอริยสัจจ์

แล้วทรงเสียสละเวลาตลอดพระชนม์นั้น
เพื่อเผยแผ่ศาสนาพุทธนั่นเอง
ที่เราคิดว่าเป็นรักที่ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนอย่างแท้จริง

สุดท้ายแล้วต้องถามใจของเราเองว่า…
เราพร้อมจะมีความรัก และเข้าใจมันได้มากเพียงไร
เพราะเมื่อถึงเวลาที่ความรักเกิดขึ้นกับใจเราจริงๆ
เราจะรักอย่างไรไม่ให้ตัวเรานั้นเป็นทุกข์ มันก็รวมความลงที่ว่า

รักแบบที่จะไม่เป็นทุกข์เพราะ “รัก” นั่นแหละ
ถึงจะเรียกได้ว่า “รักเป็น”





 

Create Date : 25 สิงหาคม 2551
5 comments
Last Update : 31 กรกฎาคม 2556 10:46:59 น.
Counter : 1289 Pageviews.

 

ได้แค่รักก็พอค่ะ

 

โดย: Ta Pling 25 สิงหาคม 2551 20:21:51 น.  

 

รู้ว่ารักง่ะ....อย่างอื่นไม่รู้แล่ว

 

โดย: นางฟ้าอรชร 25 สิงหาคม 2551 21:30:56 น.  

 

แวะมาค่ะ
เราเองชอบ พี่โจ มณฑานี แล้วก็ชอบทุกๆแนวคิดของพี่เค้าค่ะ
ชอบที่พี่โจบอกว่า
"รักตัวเองให้ได้ก่อนที่จะไปรักคนอื่น"
"อย่ารักคนอื่อนเพราะต้องการให้เค้ามาเติมเต็ม"

ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ

*เราใช้โปรแกรมไฟร์ฟิกแล้ว พิมคอมเม้นท์ให้ จขบ ไม่ได้เลยต้องมาใช้ เอกพลอยเล่อแทน เลยไม่ได้ลอกอินค่ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=golden-girl นี่บล๊อคเราค่ะ

 

โดย: อิเชยผู้เลอโฉม http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=golden-girl IP: 124.122.200.201 25 สิงหาคม 2551 22:53:28 น.  

 

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ คุณอิเชยผู้เลอโฉม

 

โดย: taheart 26 สิงหาคม 2551 8:53:46 น.  

 

รักค่ะ รักแบบเพื่อน รักแบบเพื่อน รักแบบเพื่อน

 

โดย: Ann IP: 72.66.29.79 18 ธันวาคม 2553 5:21:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


taheart
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add taheart's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.