|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
~*~ เ ด็ ก ปู ไ ต่ ~*~
เป็นอีกวันของการทำงานกับชีวิตเดิมๆ อากาศในรถตู้กำลังเย็นสบาย จนคิดว่าจะนั่งหลับตาตามลมหายใจออก เข้า สักระยะ ระหว่างรถกำลังเล่นไปสถานีรถไฟฟ้าอยู่นั้น
เรารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่าง กำลังคืบคลานช้าๆ มาตามแขนข้างซ้าย พร้อมด้วยเสียงประกอบเข้าจังหวะ "ปูไต่ ปูไต่ " ภาพที่เราเห็นขณะกำลังลืมตานั้น เป็นเด็กชายอายุราวๆ 4-5 ขวบ กำลังตั้งหน้าตั้งตาไล่นิ้วเล็กๆ ไปมาตามแขนด้านซ้ายของเราอย่างสนุกสนาน
ข้างๆ เด็กชายตัวน้อย เป็นผู้หญิงวัยกลางคน กำลังดึงมือเด็กชายอีกคน วัยน่าจะใกล้เคียงกับเด็กชาย ที่นั่งข้างๆ เรา แต่คงจะมีอายุมากกว่าเล็กน้อย แค่เด็กคนเดียวไม่พอ นี่มีถึง 2 เธอจึงดูวุ่นวายกับการดูแลเด็กชายอีกคน ที่กำลังซุกซนทำท่าจะปีนป่ายไปทางด้านหน้าคนขับ
เวลานี้เราทำได้แค่ยิ้มฝืนๆ ในสถานที่แคบๆ แบบนี้ ถ้าเราสบัดแขนออกจะดูใจร้ายไปหรือป่าวนะ ? ลองดูสักระยะ เด็กชายตัวน้อยก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดปูไต่เสียที หรือเราจะเล่นปูไต่กับน้องเค้าเสียด้วยเลย แต่เพราะใจมันรู้สึกไม่ชอบใจเสียแล้ว
เราเห็นจิตใจที่หงุดหงิด รำคาญใจ แต่ก็ยังไม่ดับทันทีที่ไปเห็นสภาวะในขณะนั้น เราเลยตัดสินใจหลับตา ทำเป็นไม่สนใจเด็กชายตัวน้อย เพื่อให้เค้าเข้าใจว่าเราจะหลับแล้วนะ พี่จะหลับแล้วนะน้องงงง....
เช้าวันนั้นช่างเป็นการเดินทางที่ยาวนานนน ในความคิดของเราเหลือเกิน ยิ่งเราอยากให้ถึงสถานีรถไฟฟ้าเร็วแค่ไหน เราก็ยิ่งไม่เห็นอาการหลงไปทางความคิดมากเท่านั้น
เอาเป็นว่าเราไม่หายจากความรู้สึกอึดอัด ความรู้สึกทางใจสลับไปมาเวลานั้นคือ หงุดหงิด รำคาญใจ มีกิเลสแทรกโทสะด้วย คือ อยากลงจากรถเร็วๆ อยากให้น้องเค้าหยุดปูไต่เสียที แล้วเราก็ไม่มีปัญญาไปนึกว่าเด็กชายตัวน้อย เป็นเพียงวัตถุก้อนธาตุ ที่ไม่มีผลอะไรกับเราเสียด้วยซิ
เราคงทำใจให้รักเด็กๆ เหมือนนางงามทั่วๆ ไปไม่ได้ เพราะเชื้อในสมองมันบอกเราว่า.....ฉันไม่ได้ร๊ากกเด็ก ยิ่งเด็กซนมากเท่าไหร่ ใจเราก็ยิ่งต่อต้าน เด็กชายที่กำลังซุกซนอยู่ตรงหน้ามากเท่านั้น
รถตู้แล่นมาถึงที่หมายปลายทางสมใจเราเสียที หมดทุกข์หมดโศกเสียทีเรา.... จริงๆ น่าจะพูดว่าหมดทุกข์หมดโทสะเสียทีซิเราT-T
ช่วงที่เดินแยกทางกับเด็กชายตัวน้อยได้สำเร็จแล้ว ในขณะที่เดินนั้นเราเห็นความโปร่งโล่งเบาสบายใจ ไม่รู้สึกอึดอัดใจอีกแล้ว เห็นความทุกข์เป็นเพียงสิ่งที่ผ่านพ้นไป ไม่ได้รู้สึกปรุงแต่งจิตให้นึกถึงการกระทำของเด็กชาย
อีกทั้งใจก็รู้สึกว่าการไม่ได้ดิ้นรนสร้างภาพ เพื่อให้คนอื่นมองว่าเรารักเด็กก็ดีเหมือนกัน จะเป็นการเหนื่อยถึงสองทาง ถ้าต้องสร้างหน้าสวยใสยิ้มว่ารักเด็กหนึ่ง ทำจิตใจให้ดีงามไม่คิดอะไรเลยสอง ก็ในเมื่อใจไม่ได้รู้สึกนิยมชมชอบเด็กแสนซนแบบนั้น
การเห็นโทสะจึงไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเป็นสิ่งเลวร้ายอะไร แล้วเราก็เห็นว่าจิตไม่ได้แทรกแซงความโกรธ ขณะที่เห็นในเวลานั้น
ความโกรธจึงเป็นเพียงสภาวะบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงได้เท่านั้น เกิดได้เสมอหากมีเหตุที่ทำให้เราโกรธ ดับได้เสมอเช่นกันหากเหตุของความโกรธนั้นดับลง
เราสุขใจกับความรู้สึกที่ปรากฎตรงหน้าเวลานี้ เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น เราเพิ่งจะเห็นโทสะอย่างเด่นชัดในใจ ความสุขที่กำลังปรากฎอยู่ตรงหน้า ก็ใช่ว่าจะอยู่ได้ยืนยาวให้เราหลงสุขใจอีกเช่นเดียวกัน
ภาพที่เราเห็นเวลานี้คือ.... เจ้าเด็กปูไต่ ที่เพิ่งพรากจากกันเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา กำลังเดินตรงมานั่งข้างๆ เรา โดยไม่ได้นัดหมายบนรถไฟฟ้าขบวนเดียวกัน
จริง จริง ด้วยหล่ะ!!
อะไร ๆ ก็ล้วนไม่เที่ยง ความสุข หรือความทุกข์ ผ่านมาแล้วก็ผ่านพ้นไป
Create Date : 27 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2556 11:32:00 น. |
|
3 comments
|
Counter : 365 Pageviews. |
|
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:10:58:35 น. |
|
|
|
โดย: taheart วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:12:33:38 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ช่วงนี้บ้านเมืองเครียดเป็นห่วงสุขภาพเพื่อนๆ
เลยเอาวิธีนอนให้หลับสบายมาฝากอิอิ
คลิกได้เยย