การทำขนมเค้ก เรื่อง การทำขนมเค้ก ส่วนผสมหลักที่ใช้ในการทำเค้ก : 1. แป้งสาลี แป้งสาลีที่ใช้ในการทำเค้กควรมีปริมาณโปรตีนประมาณ 7-9% มีสีขาวละเอียดและได้ผ่านการฟอกด้วยคลอรีนมาแล้วทำให้แป้งมีคุณสมบัติในการดูดน้ำมากขึ้น เป็นตัวที่ให้โครงสร้างกับเนื้อเค้กและเป็นตัวช่วยรวมส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากันได้ดี 2. เนย หรือไขมันมีหน้าที่ในการจับอากาศไว้ในระหว่างการตีเนยทำให้เค้กออ่นนุ่มมีความชุ่มชื้นและรสชาติดี เนยสดจะทำให้เค้กมีกลิ่นและรสชาติที่ดีที่สุดแต่เค้กจะมีปริมาณน้อย ,เนื้อเค้กหยาบ ดังนั้นจึงนิยมใช้เนยสดและเนยขาวอย่างละครึ่งเพื่อให้เค้กมีรสชาติที่ดีได้ปริมาณมาก 3. ไข่ไก่ ช่วยทำให้เกิดโครงสร้าง ,กลิ่น ,รส และทำให้เค้กขึ้นฟู เนื่องจากการเก็บอากาศไว้ในไข่ในระหว่างการตีให้ความชุ่มชื่นกับเค้กและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ 4. น้ำตาลทราย เป็นตัวที่ทำให้เค้กมีรสหวานและทำให้เค้กนุ่ม เพราะน้ำตาลทรายมีผลทำให้โปรตีนในแป้งอ่อนตัวช่วยทำให้เค้กมีอายุการเก็บไว้ยาวนานขึ้นและทำให้เค้กมีผิวสีสวย น้ำตาลที่เหมาะสำหรับในการทำเค้กควรเป็นน้ำตาลทรายเม็ดละเอียด เพื่อจะได้ละลายหมดในระหว่างการผสม 5. เกลือป่น เป็นตัวให้รสชาติความเค็มแก่เค้ก และช่วยเน้นรสชาติของส่วนผสมอื่น ๆ ให้ดีขึ้น และมีผลต่การเกิดโครงสร้างของเค้กด้วย 6. นมผง ช่วยให้เกิดโครงสร้างและความมันแก่เค้ก ,ทำให้เค้กแห้ง ในขณะเดียวกันยังทำให้เค้กมีกลิ่นและรสชาติดีขึ้น 7. สิ่งที่ช่วยให้ขึ้นฟู เช่น ผงฟู ,เบคกิ้งโซดา ช่วยในการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระหว่างการอบ ทำให้เค้กขึ้นฟูมีปริมาตรมาก 8. ของเหลว อาจอยู่ในรูปของน้ำนม ,น้ำหรือไข่ก็ได้ มีหน้าที่หลายอย่างในการทำเค้ก เช่น ละลายน้ำตาลทรายทำให้กลูเต็นเกิดขึ้นทำให้เกิดปฏิกิริยาของผงฟู ช่วยให้โครางสร้างของเค้กอ่อนนุ่ม 9. กลิ่นรสและเครื่องเทศ ช่วยทำให้เค้กมีกลิ่นที่ดีขึ้นตามต้องการ และทำให้เกิดกลิ่นและรสเฉพาะอย่าง ควรใส่ปริมาณที่พอเหมาะ เพราะถ้าใส่ในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้เค้กมีกลิ่นฉุนจนทีให้รับประทานไม่ได้ เราจะเริ่มกันด้วยคววามรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเค้กว่าเค้กมีกี่ประเภทอะไรบ้าง ,มีความแตกต่างกันอย่างไร ,มีกรรมวิธีการทำในแต่ละชนิดอย่างไร เราลองมาดูกันนะคะว่าเค้กที่พบในตลาดเบเกอรี่ทั่วไปมีอระไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น เค้กเนยสด เค้กทอฟฟี่ ,แยมโรล ,เค้กใบเตยหรือเค้กอื่น ๆ อีกมากมายโดยส่วนใหญ่แล้วก็จะมาจากพื้นฐานไม่กี่ชนิดแต่แตกลูกออกหลานไปมายมายเท่านั้นเอง ความหมายของคำว่า "เค้ก" คืออะไร เค้ก คือผลิตภัณฑ์ขนมอบที่ทำจากแป้งลาลี ,น้ำตาลทราย ,เกลือป่น ,ผงฟู ,นม ,ไขมัน ,ไข่ไก่และกลิ่นรส ส่วนผสมเหล่านี้เมื่อนำมาผสมเข้าด้วยกันแล้วก็จะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะฟู ,เบา ,มีรสชาติหอมมันน่ารับประทาน ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ในการทำเค้ก ประเภทของเค้ก : ถ้าเราแบ่งตามกรรมวิธีในการทำ เราจะสามารถแบ่งเค้กได้ 3 ประเภทคือ 1. เค้กเนย เค้กประเภทนี้จะมีปริมาณของไขมันในส่วนผสมค่อนข้างสูง การทำเค้กประเภทนี้จะเริ่มจากการตีเนยกับน้ำตาลให้ขึ้นฟูจนมีลักษณะเป็นครีมจึงใส่ไข่ไก่และแป้งและส่วนผสมอื่น ๆ การขึ้นฟูของเค้กชนิดนี้จะเกิดขึ้นระหว่างการตีเนยกับน้ำตาลทรายโดยที่ไขมันจะจับอากาศในระหว่างที่ตีและในช่วงการตี ,และในช่วงการใส่ไข่อีกครั้งอากาศจะขยายตัว เค้กประเภทนี้ควรจะใช้น้ำตาลทรายเม็ดเล็ก หรือน้ำตาลทรายป่นถ้าใช้น้ำตาลเม็ดใหญ่เกินไปน้ำตาลทรายจะละลายช้า ทำให้เค้กที่อบออกมามีเนื้อหยาบและมีน้ำตาลทรายอยู่เป็นเม็ดบนหน้าของเค้ก 1.1 การทำเค้กประเภทนี้ถือว่าเป็นเค้กที่ทำยากชนิดหนึ่ง ถ้าต้องการให้เค้กที่ทำออกมามีคุณภาพดีจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อุณหภูมิของเนยที่ใช้ในการทำ ถ้าใช้เนยสดล้วนในการทำอุณหภูมิของเนยจะมีผลต่อคุณภาพของเค้กเป็นอย่างมากถ้าเนยที่ใช้ทำเหลวไม่อยู่ตัว จะทำให้ระหว่างการตีเนยกับน้ำตาลทรายเก็บอากาศได้ไม่ดีเท่าที่ควร เค้กที่ทำออกมาจะมีปริมาตรเล็กและอาจเป็นไตได้ 1.2 คุณภาพของไข่และอุณหภูมิของไข่มีผลต่อการทำเค้กวิธีนี้เหมือนกัน กล่าวคือถ้าใช้ไข่ไก่ที่แช่เย็นจะช่วยทำให้การตีเป็นครีมของเนยได้ดียิ่งขี้น ทำให้สามารถเก็บฟองอากาศได้ดี ปริมาณของไข่ไก่ที่ใส่ลงไปในสูตรควรใช้ไข่ไก่ที่มีขนาดกลาง คือ ประมาณฟองละ 50 กรัม ไม่ควรใช้ไข่ไก่ฟองใหญ่เพราะจะทำให้ปริมาณของเหลวในส่วนผสมมากเกินไปซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เค้กเป็นไตได้ 1.3 หลังจากที่ใส่ไข่ไก่เรียบร้อยแล้วเราจะใส่แป้งสลับกับนม ในขั้นตอนนี้คุณแม่บ้านบางท่านคงจะสงสัยว่าในระหว่างขั้นตอนของการผสมแป้งกับเนยควรทำอย่างไร เพื่อให้เค้กที่ทำออกมามีคุณภาพที่ดีที่สุด จะต้องใส่แป้งจบด้วยนมหรือจบด้วยแป้ง ตามที่ผู้เขียนได้มีประสบการณ์ในการทำเค้กขนิดนี้มามากพอควร ในขั้นตอนของการใส่แป้งจะจบด้วยนมหรือแป้งที่มีค่าเท่ากัน การตะล่อมแป้งจะต้องค่อย ๆ คน ๆ หรือไม่ จริง ๆ แล้วในขั้นตอนนี้เราสามารถคนอย่างไรก็ได้ที่จะให้แป้งเข้ากับเนยได้เร็วที่สุดและดีที่สุด ขอเพียงว่าอย่ากวนแป้งเท่าน้้นเป็นพอเพราะการกวนแป้งจะเป็นการต่อใยของแป้งทำให้เค้กที่ได้มีลักษณะเหนียว ในระหว่างการผสมควรจะผสมแป้งหรือนมให้เข้ากับครีมได้ดีเสียก่อน จึงใส่อีอย่างหนึ่งลงไป เพราะถ้าคุณแม่บ้านใส่นมลงไปในขณะที่ยังผสมครีมกับแป้งยังไม่เข้ากันแป้งก็จะเป็นเม็ดเพราะดูดน้ำจากนมเข้าไป ปัจจุบันขั้นตอนการผสมแป้งส่วนใหญ่แล้วจะใช้เครื่อง ทำให้หมดปัญหาเหล่านี้ลงไป คุณแม่บ้านสามารถใช้เครื่งผสมได้เลยระวังอย่าให้แป้งเป็นเม็ดก็แล้วกัน เพราะจะทำให้เค้กที่อบออกมาจะมีลักษณะเป็นเม็ดแป้งเหมือนกัน 1.4 การควบคุณอุณหภูมิของ ไข่ไก่ ,นมและเนย ถ้าเราสามารถควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้ก็จะทำให้เค้กที่ได้มีคุณภาพดีไม่เป็นไต ผงฟูที่ใส่ลงไปส่วนผสมอาจจะมีบางท่านเข้าใจผิดคิดว่าถ้าใส่ผงฟูมาก ๆ จะทำให้เค้กที่ได้มีขนาดโตฟู ในความเป็นจริงแล้วถ้าใส่ผงฟูในส่วนผสมมากเกินไปจะทำให้เค้กมีเนื้อหยาบและร่วน ดังนั้นการตวงผงฟูควรตวงให้พอดีกับสูตรที่กำหนด หรือเวลาตวงควรใช้มีดปาดให้พอดีกับช้อนตวง เค้กเนยเป็นเค้กที่มีปริมาณไขมันสูงกว่าเค้กอื่น ๆ ดังนั้นการเลือกใช้เนยก็มีผลต่อคุณภาพของเค้ก เนยสดจะเป็นเนยที่ให้กลิ่นและรสดีที่สุดในจำพวกไขมันทุกชนิดแต่มีคุณสมบัติในการเป็นครีมต่ำ ดังนั้นเค้กที่ทำจากเนยสดล้วนจะมีปริมาณน้อยเนื้อเค้กหยาบกว่าเค้กที่ทำด้วยเนยขาวที่มีคุณภาพสูงและมีลักษณะในการเป็นครีมที่ดีกว่าเนยสด ดังนั้นตามร้านเบเกอรี่ทั่วไปจึงนิยมใส่เนยขาวลงไปในส่วนผสมเพื่อช่วยให้เค้กมีลักษณะฟูเบา มีเนื้อละเอียดนุ่ม ปริมาณมาก,แต่ใช้เนยสดเพื่อใช่วยในเรื่องกลิ่นและรสชาติ บทนี้จะเป็นความรู้เกี่ยวกับการอบเค้กเนยว่า มีการอบอย่างไรหรือมีเทคนิคอย่างไร พร้อมทั้งปัญหาที่พบในการทำเค้กเนยว่าขนมที่อบออกมาแล้วมีลักษณะอย่างไร หรือมีปัญหาอย่างไร พร้อมทั้งวิธีแก้ไขในแต่ละขั้นตอน เค้กเนยเป็นเค้กที่มีปริมาณไขมันในสูตรสูง กรรมวิธีในการทำก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเนื่องจากบ้านเราเป็นประเทศในแถบร้อนจึงมีผลต่ออุณหภูมิของวัตถุดิบในการทำไม่ว่าจะเป็นเนย ,ไข่ไก่ ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการทำเค้กเนยทั้งสิ้น การอบเค้กเนย เค้กที่ผสมเสร็จเรียบร้อยแล้วควรเทใส่พิมพ์ที่ทาไขมันหรือรองกระดาษเรียบร้อยแล้วที่ก้นพิมพ์ โดยเทเค้กลงไปประมาณ ½ หรือ ⅔ ของพิมพ์ แล้วนำเข้าเตาอบทันที เค้กเมื่อผสมเสร็จเรียบร้อยแล้วไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะจะทำให้เกิดปฏิกิริยาของผงฟูในสูตร ยิ่งถ้าวางทิ้งไว้นานจะเกิดปฏิกิริยาของผงฟูกับของเหลวในส่วนผสมผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซทำให้ขนมขึ้นฟูซึ่งจะสูญเสียไปในระหว่างการรอการเข้าอบ ทำให้เซลล์อากาศภายในส่วนผสมหยาบขึ้น อุณหภูมิของเตาอบจะต่างกันไปตามความเข้มข้นของสูตรที่ใช้ขนาดของพิมพ์และความชื้นของส่วนผสมโดยปกติแล้วจะใช้อุณหภูมิในการอบเค้กนี้ประมาณ 325°F - 350°F การอบเค้กนานเกินไป เมื่อเค้กถูกอบนานเกินไปเค้กจะมีเปลือกนอกที่หนาและอุณหภูมิในตู้อบต่ำมากเกินไปจะทำให้เนื้อข้างในของเค้กมีสีไม่ดี เค้กมีลักษณะแห้ง เกิดจากอยู่ในเตาอบนนานเกินไปทำให้ความชื้นถูกขับออกไปมากกว่าปกติ ขณะเดียวกันเปลือกนอกของเค้กจะหนาขึ้นสีของเค้กไม่เข้มไม่น่ารับประทาน การอบเค้กเร็วเกินไป ถ้าอุณหภูมิของตู้อบสูงเกินไป สำหรับชนิดเค้กที่อบแล้วเปลือกนอกของเค้กจะหนาแข็ง ทำให้เค้กเกิดสีเร็วขึ้น ปริมาณของเค้กก็จะเล็กเปลือกนอกของเค้กจะมีสีดำก่อนที่ภายในจะอบสุก เมื่อนำออกจากเตาเค้กก็จะยุบตรงกลางเพราะโครงสร้างของเค้กยังไม่ดีพอ ... พอดีอยากลองหัดทำเค้กหน่ะค่ะก็เลยหาอ่านข้อมูล (เบื้องต้น) เล่น ๆ ตามเน็ต บังเอิญเข้าไปเจอเนื้อหาจากลิงค์ด้านล่างอ่านแล้วได้ความรู้ดีจึงนำมาแบ่งกันค่ะ จากเนื้อหาด้านบนดูเหมือนข้อมูลยังไม่จบสมบูรณ์แต่ก็มีแบบฝึกหัดให้ทำก่อนและหลังอ่านบทความนี้ให้ทดสอบกันด้วย ปุ้มลองทำแบบฝึกหัดเล่น ๆ แล้วก็อ่านจากนั้นก็พิมพ์เก็บไว้ที่บล็อกตัวเองไว้ด้วย ถ้าหากสนใจลองเข้าไปทดสอบกันนะคะ ขอขอบพระคุณ เนื้อหาบทเรียนจาก อาจารย์สุดใจ วงศ์คูณ   Create Date : 24 กันยายน 2555 24 comments Last Update : 9 มีนาคม 2556 3:56:04 น. Counter : 6253 Pageviews. Share Tweet

เจิมจ้ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันนะคะ   โดย: เนินน้ำ 24 กันยายน 2555 5:43:29 น.

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ อรุณสวัสดิ์นะคะ   โดย: สัญญาลมปาก 24 กันยายน 2555 6:48:32 น.

ขอบคุณคะสำหรับข้อมูลดีๆๆ นะคะ   โดย: Japanese Maple IP: 108.201.74.5 24 กันยายน 2555 9:37:44 น.

มีคำแนะนำดี ๆ มาแนะนำด้วย ขอบคุณมาก ๆ ค่า   โดย: Enjoy with me 24 กันยายน 2555 12:24:45 น.

มาขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ แบบนี้ค่ะ   โดย: Maeboon 24 กันยายน 2555 14:18:52 น.

สวัสดีค่ะน้องปุ้ม ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ แต่..แต่ พี่มีคำถามค่ะ ...เมื่อไหร่จะตัดเจ้าตัวที่มีหน้าอัลมอนด์คาราเมลสีกาแฟแจกอ่ะคะ แฮ่ะๆ   โดย: secreate (secreate ) 24 กันยายน 2555 18:09:32 น.

อรุณสวัสดิ์จากเมืองไทยค่ะ มาอ่านอีกรอบค่ะคุณปุ้ม แล้วก็สงสัยมีคำถามค่ะ คำถามเดียวกับคุณโส่ย +555   โดย: เนินน้ำ 25 กันยายน 2555 7:11:38 น.

สุดยอดเลยคะน้องปุ้ม ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะคะ จะขอเก็บข้อมูลดี ๆ นี้ไว้เพื่อเผยแพร่สำหรับมือใหม่หัดทำ บ่อยครั้งที่มีคนเข้ามาตั้งกระทู้ถามเรื่องราวของเบเกอรี่คะ พี่จัดกระทู้ของน้องวรรณไปให้ คราวนี้ได้ของน้องปุ้มอีกแล้ว เค้กน่ากินมากกกกกกกกกกกกกกกก   โดย: บ่งบ๊ง 25 กันยายน 2555 10:31:16 น.

ขอบคุณข้อมูลดีๆคะ ไม่เค้ยไม่เคยอ่านแบบนี้เลยคะ ทำเค้กแบบมั่วๆตลอดคะ ... แฮะ แฮะ อาศัยประสบการณ์ที่ทำพังเอาคะ ...(อายจัง)   โดย: ตาโตสุดสวย 25 กันยายน 2555 18:58:05 น.

แวะมาส่งเข้านอนนะคะ คืนนี้ฝันดีนะคะ^^ อาศัยประสบการที่ทำพัง 55555555555 เป็นประจำเหมือนกันเลยค่ะ 5555555555   โดย: สัญญาลมปาก 25 กันยายน 2555 21:59:57 น.

พี่โส่ย ,คุณโอ เค้กนี้ตัดไปหลายเดือนแล้วจ้า...จำกันไม่ได้เหรอ ;) เค้กกาแฟ(สูตรเข้มข้นเพราะเลือกชนิดกาแฟที่เข้มจริง ๆ 5 5+)สูตรแม่สลิ่มค่ะ อันที่จริงปุ้มก็เรียนรู้จากบล็อกและก้นครัวนะคะ ชอบหาดูและอ่านจากเพื่อน ๆ ที่ทำและแชร์ประสบการณ์ผิดถูก แล้วก็พยายามทำตามขั้นตอนต้นฉบับก่อน จึงค่อยดัดแปลงตามรสที่เราชอบและถูกปาก บางทีสูตรเดียวกัน ,วัตถุดิบคล้ายกัน,เตาอบก็คนละรุ่น คนทำก็คนละคนประสบการณ์ก็ต่างกัน ,ผลออกมาก็ไม่เหมือนกันแน่นอน แหะ ๆ .... อาหารและขนมในบล็อกนี้จึงเรียนรู้และหัดด้วยตนเองทั้งนั้นแหล่ะค่ะ ทำรับประทานได้ก็เยอะทำเสียก็เยอะเช่นกัน ต้องขอบคุณคุณครูจากบล็อกและจากก้นครัวทุกคนค่ะ :) สวัสดีพี่บี๊ค่ะ :) ..จากบทความด้านบนนี้อาจารย์มีแบบฝึกหัดได้ลองด้วยนะคะ ปุ้มก็เลยพิมพ์ไปอ่านไปมาเก็บไว้ที่บล็อกตัวเองด้วยจะได้สะดวกเวลาอยากอ่าน แต่เสียดายที่บทความยังไม่สมบูรณ์ สวัสดีจ้าพี่ปู คนนี้ก็เก่งอยู่ในแวดวงขนมฝรั่งแต่ไม่ยอมโชว์ อิอิ..เมื่อไหร่เปิดเขียนบล็อกบ้างคะพี่ปู   โดย: pumorg 25 กันยายน 2555 22:42:21 น.

เข้ามาเก็บความรู้มีประโยชน์มาก ๆ ค่ะ ขอบคุณจากใจค่ะ   โดย: Baked by PonG 26 กันยายน 2555 19:36:06 น.

มีประโยชน์มากค่ะ ชอบจังเลย แต่อยากรู้ค่ะว่า ถ้าผงฟูช่วยให้ฟูแล้วทำไมสปองจ์เค้กเราต้องตีให้มันนานๆด้วยคะ ทำไมเราไม่ลัดโดยการใช้ผงฟูคะคุณปุ้ม อยากรู้มานานแระ (ปล คำถามนี้อาจดูโง่สำหรับคนทำเป็น แต่ได้โปรดมีใจเมตตา เพราะว่าวันนี้ไม่รู้ วันหน้าก็จะรู้นะคะ)   โดย: Khunmai studio 27 กันยายน 2555 3:21:18 น.

ขอตอบคุณไหมแบบแม่บ้าน ๆ นะ ประสบการณ์ตรงผิดถูกด้วยตนเองแล้วกันไม่เคยทำขาย แต่ทำแจกและทำทานเองหน่ะค่ะ สำหรับเราเองก็ได้ประโยชน์จากอากู๋นี่แหล่ะค่ะ ^^ ไม่ทราบว่าตีนาน ๆ นี่นานสักกี่นาทีหน่ะค่ะ ..ถ้าเทียบการใช้ระยะเวลาการตีส่วนผสมของชิฟฟอนกับสปอนจ์แล้วคงเกิดจากส่วนผสมของเนยและไขมัน(มังคะ) แต่การจะไปเพิ่มผงฟูหรือสิ่งที่ช่วยให้เค้กขึ้นฟูมันไม่ได้ไปช่วยแก้ปัญหาหรอกนะคะ แต่จะไปเพิ่มปัญหาให้ตัวเค้กซะมากกว่าผลคือตัวเค้กหยาบหรือมีรสชาติไม่ดี อันนี้ก็เดาเอาค่ะ...อย่างที่เกริ่นไว้ค่ะเสียดายที่บทความยังไม่สมบูรณ์.. สำหรับสูตรสปอนจ์ที่ใช้ผงฟู ,สารเสริมหรือใช้น้ำมันแทนเนยก็มีเยอะแยะค่ะ ลองหาสูตรจากก้นครัวก็ได้ทำกันเยอะแล้วก็ประสบผลสำเร็จกันเยอะด้วย แต่ถ้าเจอบทความที่น่าสนใจก็อาจจะเข้ามาเขียน-อัพเดทที่หน้านี้อีกนะคะ -ประหลาดใจกับยอกคลิ๊กเข้ามาอ่านแต่ไม่มีใครตอบคุณไหมเลย!!   โดย: pumorg 27 กันยายน 2555 23:35:02 น.

แหะๆ คุณปุ้มคะ คำถามของไหมคงทำให้อึ้งกันน่ะค่ะ ว่าทำไม๊ทำไมไหมถึงยังไม่รู้ อิอิ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวจะลองทำสปองจ์ปราบเซียนดูอีกซักตั้ง มันต้องสำสะเร็จมั่งซักวันล่ะน๊า สู้ๆ ฮึดๆ ^^   โดย: Khunmai studio 28 กันยายน 2555 2:25:22 น.

ไม่เป็นไรจ้าคุณไหม....จากข้อสงสัยเนื้อหารวม ๆ มันมีอยู่ในนี้แล้วแต่ต้องอ่านดี ๆ อิ อิ.. เดี๋ยวต้นเดือนหน้าจะหาเวลาทำเค้กเช่นกันค่ะ อยากกินเค้กมากกกกกก... ปล.ถ้าตัวอักษรเล็กไปก็สามารถปรับซูมตัวอักษรที่หน้าจอของคุณ ๆ เองได้นะคะ   โดย: pumorg 28 กันยายน 2555 2:59:32 น.

ตัดไปแล้วเหรอ ก้อนเนี้ย.. ความจำพี่เลอะเลือนแล้ว พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ในสมองเหลือน้อย อิอิ แถมบางที่รวนด้วย อาหารเช้าแบบที่พี่ทำง่ายสุด ๆ ค่ะน้องปุ้ม เพราะบางทีกินผักสดทุกวันเลยคิดว่า ควรจะเปลี่ยนทำให้มันสุกขึ้นบ้างด้วยแหละ   โดย: Secreate (secreate ) 30 กันยายน 2555 11:43:36 น.

แอบมาตอบคุณไหม (แต่พี่ก็เห็นคุณไหมทำขนมเค้กได้สวยอัพบล็อกไปแล้วน้า) อาจจะหายสงสัยไปแล้ว คือเท่าที่เข้าใจ เค้กสปองจ์พื้นฐานของการขึ้นฟู อยู่ที่ฟองอากาศในไข่เป็นสำคัญ ดังนั้นการตีไข่จนฟูข้น หรือจนได้ ribbon stage จึงสำคัญ แถมบางสูตรไม่มีผงฟูด้วยซ้ำไป ผงฟูที่ใส่ เป็นการช่วยให้ฟองอากาศในไข่คงตัว และทำปฏิกิริยากับของเหลวในส่วนผสม เกิดเป็นกาซที่จะทำให้เกิดช่องโพรงอากาศในขนม คือการฟูนั่นเอง เคยอ่านเจอว่า ในผงฟูมีส่วนผสมของแป้งข้าวโพด ซึ่งเป็นแป้งที่เมื่อเพิ่มลงในเค้กชนิดใดก็ตาม จะทำให้เกิดเท็กซ์เจอร์ที่ค่อนข้างละเอียด นุ่มนวลด้วยค่ะ แฮ่. ยาวเชียว   โดย: Secreate (secreate ) 30 กันยายน 2555 11:51:31 น.

สวัสดีคะน้องปุ้ม แอบดีใจมากที่น้องปุ้มแวะไปเยี่ยม พี่จะแจ้งให้ทราบว่า วันก่อนมีคนมาตั้งกระทู้ที่ห้องก้นครัว หัวข้อ มาร่วมสานฝันการเป็นแม่ค้าเบเกอรี่กัน พี่เลยนำกระทู้ดี ๆ นี้ของน้องปุ้มไปแปะไว้ ไว้เป็นความรู้สำหรับมือใหม่หัดทำเค้กคะ หลายคนประทำใจ เข้ามากด like และให้ give ขอบคุณที่นำสิ่งดี ๆ มาฝากนะคะ พูดถึงเรื่องกล้วยเชื่อม ชีวิตนี้ของพี่ สงสัยจะรุ่งมุ่งเป็นเศรษฐีกับการเชื่อมกล้วย อนาคตคงได้เปิดหน้าบ้านขายกล้วยเชื่อมแล้วคะ ทำกล้วยเชื่อมวันเว้นวันเลย ระยะนี้มีแต่คนโทรมาขอให้ทำกล่วยเชื่อมให้ แทนที่จะขอเป็นชีสเค้กเหมือนก่อน ๕๕๕ โทรมาขอให้เชื่อมกล้วยให้ นี่ก็เพิ่งยกลงจากเตาเมื่อสิบนาทีที่ผ่านมาคะ 1 ชั่วโมงเอง แดงได้ใจเลยคะ หม้อนี้จะยกไปให้น้องสาวพี่เองในบ่ายวันนี้คะ ยกหม้อกล้วยเขลอะ ๆ ไปด้วยน้ำเชื่อมเกาะรอบหม้อ กำลังร้อน ๆ เชียวคะ   โดย: บ่งบ๊ง 30 กันยายน 2555 12:32:33 น.

พิมพ์คอมเม้นท์ซ๊ะยืดยาว เหตุไฉนเขาแจ้งว่า ให้เจ้าของบ้านพิจารณาคอมเม้นท์ก่อน เม้นท์บอกเล่าเรื่องราวของกล้วยเชื่อม ที่ชีวิตนี้คงจะเอาดีตรงเป็นแม่ค้าขายกล้วยเชื่อมคะ ผู้คนโทรมาขอให้เชื่อมกล้วยไปให้ แทนที่จะเป็นชีสเค้กแบบที่ก่อนหน้านี้เคยขอๆ กันมา ๕๕๕ มีภารกิจในการเชื่อมกล้วยเกือบจะทุกวันเลย อีกหน่อยคงต้องเปิดหน้าบ้าน ขายกล้วยเชื่อมสารพัดชนิดกล้วย เหอ ๆ นี่ก็เพิ่งยกหม้อนี้ลงจากเตาได้สิบห้านาที มีคำสั่งมาจากน้องสาวให้เชื่อมแล้วให้ม้าเร็วหิ้วไปให้ชิมด้วย อีกแล้วครับท่าน อิอิ พี่ยกหม้อกล้วยเชื่อมที่มีน้ำตาลเกาะเขลอะรอบ ๆ หม้อมาฝากน้องปุ้มด้วยคะ   โดย: บ่งบ๊ง 30 กันยายน 2555 12:37:54 น.

ขอบคุณคุณโส่ยมากมายค่ะ ไหมจะก็อปปี้เก็บไว้อ่านเลย เผื่อวันใดวันหนึ่งอาจใช้อ้างอิงได้ด้วยค่ะ ว่าแต่คุณปุ้มอยู่บ้านป่าวฮะ โนเอลกะแม่ไหมเอา Golden Butter Buns มาฝากค๊าบ   โดย: Khunmai studio 1 ตุลาคม 2555 6:13:19 น.

ได้ความรู้เลย   โดย: chibifachan 2 ตุลาคม 2555 10:23:39 น.

ผ่านวันไหว้พระจันทร์มาแล้ว พี่ปุ้ม ได้ทานขนมไหว้พระจันทร์หรือยังคะ เค้าลดราคาหรือเปล่าเอ่ย...   โดย: ตาโตสุดสวย 2 ตุลาคม 2555 19:01:30 น.

@ ขอบคุณพี่โส่ยสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม @ พี่บี๊ เดี๋ยวต้องทำแน่ ๆ เลยค่ะกล้วยเชื่อมแวะเข้ามาวันนี้เกือบลืมปูนแดงซะแล้วต้องรีบจด ๆ ไว้ก่อน @ คุณแม่โนเอลคนสวยขนมปังน่าทานมาก ๆ เลยก๊าบบ.. @ ก็แล้วทำไมทำหน้าอย่างงั้นหล่ะ.. @ ใช่ ๆ เดี๋ยวต้องรีบไปซื้อ อิ..อิ..   โดย: pumorg 2 ตุลาคม 2555 23:19:08 น.