|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงไทย?!!
| | | |
ตอนนี้ที่ Sendai อากาศเริ่มเย็นลง (ไม่ใช่ซิหนาวแล้- -!!) ตอนเช้าๆไม่อยากตื่นเลย เมื่ออาทิตย์ก่อนไปสมัครอะรุไบต์(Part time)ที่ร้านเนื้อย่าง(Yakiniku)ใกล้ๆบ้านมา ตอนโทรไปสมัครเจ้าของร้านถามว่าเป็นคนประเทศอะไร ก็บอกเค้าไปว่าเป็นคนไทย เค้าก็เรียกให้ไปสัมภาษณ์เลยเพราร้านอยู่ใกล้บ้านเดินไปแค่ 5นาที ผ่านไปด้วยดี พอวันรุ่งขึ้นมีโทรศัพท์จากร้านมา ก็ดีใจคิดว่าได้งานแน่ๆ แต่ไม่ใช่!!!โทรมาชวนไปกินข้าวกลางวันด้วยเฉยเลย.... ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จริงๆไม่อยากไป ก็โกหกว่ามีนัดกินอาหารไทยกับเพื่อน แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะมีผลต่องานหรือเปล่าหากปฎิเสธไป เค้าก็ถามว่านัดเพื่อนไว้หรือเปล่า เลยตอบว่าไม่ได้นัด ตัดสินไปไปกินข้าวเที่ยงด้วย........ เจ้าของร้านเนื้อย่าง(Yakiniku) เมื่อประมาณ30ปีที่แล้วเค้าเคยไปทำงานที่กรุงเทพฯ เค้าบอกว่าพอคุยกับเราแล้วทำให้คิดถึงกรุงเทพฯขึ้นมา พอไปที่ร้านคิดว่าจะไปกินร้านอื่น แต่ปรากฏว่าแกทำลิ้นย่าง กินที่ร้านแทน ไอ้เราก็มีความรู้สึกเกรงใจมากๆ คือไม่ได้คิดเอ๊ะใจอะไรเลย...........
กินกันไปคุยกันไป คิดว่าแกคงจะคุยเข้าเรื่องงาน แต่!!...ไม่มีเลยมีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ พูดถึงเรื่องชาติที่แล้วชาตินี้ ว่าชาติที่แล้วคงได้ทำบุญร่วมกันมาชาตินี้ก็เลยได้เจอกันอะไรประมาณนี้ ก็งง..!!!... ปกติคนญี่ปุ่นที่เคยรู้จักไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้เลย เริ่มรู้สึกแปลกๆ หลังจากนั้นก็พูดถึงเรื่องท่านั่งพับเพียบว่าเวลาแต่งงานคนไทยถึงทำไมต้องนั่งแบบนั้น เราก็เถียงเค้าว่าเราไม่ได้นั่งพับเพียบนะ ตอนงานแต่งเรานั่งเก้าอี้นะอะไรประมาณนี้ แต่ตาลุงแกก็ยังอธิบายต่อว่าผู้ชายนั่งพับเพียบเพื่อให้ผู้หญิงนั่งขา เหมือนเป็นเบาะรองนั่ง ไอ้เราก็ซื่อบื้อจริงๆ เลย ............!!!นั่งฟังเค้าอธิบายซะยาว (ความจริงเราก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องนั่งอย่างนั้น)แล้วแกก็ขอให้เรานั่ง ไม่แค่ขอ แต่แกยังจับมือดึงแขนให้เรานั่งหันหน้าเข้าหาแก (มันเกินไปเราก็เลยเริ่มระวังตัวมากขึ้น) ตาลุงขอให้นั่งหลับตาเหมือนทำสมาธิ เราก็ยังบ้า...ทำตามที่แกบอกอีก
แกท่องคาถาอะไรสักอย่าง แกบอกว่าถ้ารู้สึกไม่ดีหรือเมื่อยก็ให้บอกนะ แกก็ถามว่ารู้สึกยังไง ก็บอกว่าเรารู้สึกกลัว แกก็บอกว่าไม่มีอะไรหรอกไม่ต้องกลัว (ก็มันกลัวจริงๆอ่ะ) แต่ก็อยากรู้ว่าแกจะทำอะไรต่อ..... ก็นั่งหลับตาเหมือนทำสมาธิตามที่แกบอกสักพักเราก็บอกว่าปวดขาแล้ว ขอหยุดได้ไหม แกบอกว่าอีกแป๊ปหนึ่งนะ ต่อมาอีกประมาณครึ่งนาที ก็บอกว่าไม่ไหวแล้วนะปวดขาจริงๆขอลืมตาแล้วนะ คราวนี้แกก็ยอมo.kลืมตาได้
แล้วแกก็เปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องเพื่อนแก(คนญี่ปุ่น) ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ธานิยะที่สีลม แกบอกว่าเพื่อนแกคนนี้นิสัยดีมากๆ มีแฟนคนไทยทีเดียวสามคน.... (เราก็เอ๊ะ!! นิสัยดีทำไมคบที่ละสามคน) แล้วแกก็ต่อSkype คุยกับเพื่อนแกว่าตอนนี้อยู่กับคนไทยนะแล้วก็ให้เราคุยกับคนไทยที่เป็นแฟนของเพื่อนแก
แกพูดว่าเพื่อนแกสามารถเลี้ยงดูแฟนทั้งสามคนได้ แต่ว่าไม่ได้แต่งงานนะ พอกลับญี่ปุ่นก็จบกันไปไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน..- -!!พอคุยเสร็จเราก็เลยขอกลับบอกว่ามีเรียนจะต้องไปแล้วนะ ตาลุงบอกว่าจะติดต่อไปนะ หลังจากนั้นแกโทรมาแต่ก็ไม่รับโทรศัพท์ของแกอีกเลย.....
คุยให้แฟนฟังเค้าก็บอกว่าไม่ไปทำดีกว่าดูท่าทางไม่น่าไว้ใจดูแกจะเป็นตาเฒ่าหัวงูซะมากกว่าแต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ไปทำงานดีกว่า ทำไมความคิดของแกเกี่ยวกับผู้หญิงไทยทำไมเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกเสียใจลึกๆที่เหมือนเค้าดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงไทย
| |
| | | <
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2552 18:50:18 น. |
Counter : 441 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เด็กโคราช ณ ดูไบ (meephrom ) 24 พฤศจิกายน 2552 20:40:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|