I won't live 100 years but I will live 100%
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
3 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
..ไปปายมา..เศร้า..แต่ก็เข้าใจ

ปายที่เคยเห็นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว กับปายในวันนี้ เหมือนหนังคนละม้วน
โตเร็ว เกะเกะ กระโดกกระเดก
แทบไม่หลงเหลือภาพของเมืองปายเงียบๆ ซื่อๆที่เคยรู้จัก
อืม..เป็นธรรมดาของเมืองท่องเที่ยวที่มาแรง

ออกไปนอกเมือง ยังพอได้เห็นธรรมชาติ ทุ่งนา ที่เงียบสงบ
แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไร เพราะเห็นมีรีสอร์ทหนึ่ง สร้างกลางทุ่งนา
ใหญ่โตมโหฬารมาก มองไกลๆ เหมือนค่ายรบ

เพื่อนที่ตั้งรกรากที่นั่นเล่าว่า รีสอร์ทนี้จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากสนามบิน
ให้กินอยู่ท่องเที่ยวทำกิจกรรมอยู่ในนั้นครบวงจร แล้วก็ส่งกลับ
โห..ใจคอไม่กระจายรายได้ให้ชาวบ้านเลยเนอะ




Create Date : 03 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2550 23:11:35 น. 20 comments
Counter : 1275 Pageviews.

 
วันที่ไปถึง เป็นวันที่ชาวเมืองปายเค้าจัดขบวนแห่จองพารา

"จองพารา" เป็นภาษาไทยใหญ่แปลว่า "ปราสาทพระ" การบูชาจองพารา จัดขึ้นตามความเชื่อเรื่องการรับเสด็จพระพุธเจ้ากลับมายังโลกมนุษย์ หลังจากที่ได้เสด็จขึ้นไปเทศนาโปรดพระมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

เทศกาลนี้จัดขึ้น ระหว่าง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ถึงวัน แรม 8 ค่ำ เดือน 11

ชาวบ้านจะตกแต่งปราสาทอย่างงดงามด้วยกระดาษสา ไม้ไผ่สาน มีอาหารแห้ง ผลไม้ใส่ไว้ในปราสาท และแห่ไปรอบเมือง



โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:20:01 น.  

 


นำขบวรด้วยระบำนกยูง การแสดงลือชื่อของชาวไทยใหญ่


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:23:21 น.  

 


วงมโหฬี ฆ้องหรือฉาบไม่รู้ มีเป็นราวเลย ต้องใช้คนแบก
วันนั้นมีหลายวงมาก ครึกครื้นดี


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:25:33 น.  

 


เพราะปายเป็นเมืองภูเขา เลยเชิดแพะภูเขาแทนการเชิดสิงโต


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:28:55 น.  

 
ชาวเมืองใส่ชุดไทยใหญ่งดงาม ขบวนนี้มีคนหาบอาหารแห้ง อาหารสด หวานคาวด้วย ดูเหมือนจะเป็นกลุ่มแม่บ้าน



โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:32:30 น.  

 


เด็กนักเรียนแห่โคม สีสวยดี น่าจะทำกันเอง


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:34:22 น.  

 


เริ่มตั้งขบวนตั้งแต่ห้าโมงเย็ฯ กว่าจะถึงหน้าอำเภแก็ทุ่มหนึ่ง หนูทั้งหิว ทั้งปวดฉี่ แต่ก็หน้าที่บังคับ ไม่อาจลงจากรถ
เป้นนางงามต้องอดทนลูก ฝึกเอาไว้


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:36:14 น.  

 




โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:38:43 น.  

 


หลังตะวันตกดิน ค่อยเห็นสีสันจากดวงไฟในโคม


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:40:50 น.  

 


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:42:14 น.  

 
ถ่ายรูปนี้ แล้วก็เก็บกล้อง เพราะขบวนมาถึงย่านที่ที่จอแจที่สุดของเมืองปาย ของกินดกดื่น มี มีขนมเบื้องด้วย นั่งกินขนมเบื้องก่อนแล้วกัน แล้วค่อยตามไปสมทบกับเพื่อนๆ ที่อยู่หน้าขบวน หุ หุ





โดย: ทากลูกหมู วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:57:47 น.  

 


ไม่ใชแต่หัวหิน ที่ปายก็มีแจ๊ซฟังนะ ทุกคืนวันอาทิตย์ ที่
Pai River Coner มีวงแจ๊ซมาเล่นด้วย เพลิดเพลินเชียวแหละ อาหารที่นี่ไม่แพงและอร่อย เป็นรีสอร์ทที่เห็นวิวน้ำปายที่สวยมาก บรรยากาศร่มรื่น สงบ ผ่อนคลาย

หลังจากออกมาเดินช็อปปิ้ง มีแต่คน คน คน เต็มถนน กลับเข้าไปนั่งพักเหนื่อยที่ร้านอาหาร เหมือนคนละโลกเลย


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:05:03 น.  

 


วันนั้น มีสาวเมืองกรุง ทำเนียนแต่ไทยใหญ่ไปร่วมขบวนกะเค้าด้วย เลยถ่ายรูปใว้เป็นที่ระลึก


โดย: ทากลูกหมู วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:07:30 น.  

 
ใช่คะ...เมืองปายในวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จำได้ว่าเมื่อสิบปีที่แล้ว ไม่มีที่พักผุดขึ้นมามากมาย ไม่มีร้านอาหารเยอะแยะแบบนี้ ไม่มีผับบาร์ .... มีแต่ธรรมชาติล้วน ๆ
กลับไปเมื่อไม่นานมานี้ จำหน้าตาสาวน้อยเมืองปายแทบไม่ได้ เธอเปลี่ยนเป็นสาวน้อยเมืองกรุงไปซะแล้ว คิดถึงหน้าตากลิ่นอายเมืองปายเมื่อก่อนเก่าจังเลย


โดย: ละอ่อนเจียงใหม่เมื่ออดีตกาลนานมาแล้ว IP: 89.2.159.34 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:5:25:24 น.  

 
เท่าที่เห็น นอกจากต่าชาติ คนที่ไปท่องเที่ยวปายส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยหนุ่มสาว ที่อยากท่องเที่ยวในบรรยากาศที่ล่ำลือกันว่าโรแมนติก

เจ้าของกิจการส่วนใหญ่ที่เข้าไปค้าขายที่ปาย ส่วนใหญ่เป็นของนายทุนเงินหนาต่างถิ่น

เพื่อนเล่าว่าเดิมชาวบ้านมีรายได้จากมีมอเตอไซด์ให้เช่าวันละร้อย โดยกู้เงินมาซื้อ มีกันคนละคันสองคัน เป็นรายได้เสริม

อยู่มาไม่นาน มีนายทุนมาเปิดร้านรถให้เช่าเป็นร้านใหญ่โต ลงมอเตอร์ไซด์ทีละหลายร้อยคัน กดราคาลงมาที่ 80 บาทต่อวัน ชาวบ้านเดิมร้องจ๊ากเลย จะไปแข่งอะรได้กะนายทุน

คนต่างถิ่นที่ไปหากินที่ปายจนร่ำรวย บางเจ้าไม่น่ารักเลย แทนที่จะสร้างความประทับใจ กลับทำลายความน่ารักของปายให้มัวหมอง

ช่วงที่ไปปาย เรากะเพื่อนๆ ชวนกันไปกินกาแฟที่ร้านดังกลางเมือง เพราะเห็นตามเวปถ่ายรุปมาสวยมาก กาแฟ ขนมน่ากิน

แค่นาทีแรกที่เหยียบย่างเข้าไปในร้าน กำลังมองหาที่นั่ง
เจ้าของก็ส่งเสียงบอกว่าอย่ายืนบังหน้าร้าน จะเข้าก็เข้ามาตอนนั้นราวเก้าโมงเช้า ไม่มีลูกค้ากลุ่มอื่นเลยบนถนน


ด้วยความอยากลองกินขนมอบที่เค้าล่ำลือกัน เลยใจเย็นไม่ถือโกรธกับคำพูดทะแม่งหู หย่อนก้นลงนั่งกินกาแฟกะเพื่อนที่นั่งอยู่ก่อนที่โต๊ะแรกหน้าสุด เราไปกันแปดคน หกคนเข้าร้าน แยกกันไปนั่งสองโตะ ส่วนอีกสองคนสมัครใจนั่งรอนอกร้าน เพราะไม่ประทับใจกับคำต้อนรับ

สักพัก เพื่อนสาวไปเลือกดูแม็กเน็ทติดตู้เย็น ได้อันที่ถูกใจ หล่อนก็เอามาวางไว้ที่โต้ะเรา เพื่อจะได้คิดรวมกะค่ากาแฟ ส่วนตัวหล่อนหายไปเดินดุสินค้าอื่นๆ

ขณะกำลังจิบกาแฟ เจ้าของร้านเดินผ่านโต๊ะเรา แล้วถามว่า " แม็กเน็ทนี่จะซื้อหรือเปล่า หากคิดจะซื้อก็สมควรจ่ายเงินก่อน" เป็นไงล่ะ กาแฟแทบสำลักจากปากเลย เราเลยบอกว่าซื้อแต่จ่ายรวมกะกาแฟ เพราะเห็นอยู่โทนโท่ว่ายังนั่งกินอยู่เลย ไม่ได้หนีไปไหน

ยังไม่พอ นังเพื่อนคนเดิมสั่งกาแฟเย็นรสเข้มข้น ปรากฏว่าเธอได้กาแฟไม่ใส่นมแต่มีถ้วยน้ำเชื่อมาให้ เพราะหล่อนคิดกาแฟเย็นทั่วโลกหน้าตาเหมือนกัน

ก็เลยเดินไปถามที่เคาเตอร์ขอใส่นม ภรรยาเจ้าของร้านบอกว่าถ้าจะให้ใส่นมต้องคิดเงินเพิ่ม มันก็เลยบอกว่า " งั้นไม่เอา" แล้วเดินกลับออกมา

ลับหลังหล่อน เจ้าของร้านผู้ชายก็พูดว่า " ในโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" เพื่อนสองคนที่นั่งรอที่ม้านั่งข้างนอกได้ยินเต็มสองหู เพราะที่ที่มันนั่ง ติดกะเค้าเตอร์และห้องครัว

เป้นไงล่ะ หายอยากกาแฟไปเลยมั้ยนั่น ดีนะที่เราไม่ได้คิดอยากถ่ายรุปร้านนี้เลย ไม่งั้นอาจถูกเรียกเก้บเงินค่าถ่าย

ร้านน่ารักแบบนั้น ตกแต่งสวยงามด้วยงานศิลป์ แต่วาจาของเจ้าของร้านเป็นพิษมาก ความเย่อหยิ่งยะโสอาจมาจากที่ไม่ต้องง้อลูกค้า ก็มีลุกค้าเข้าเต็มร้านทุกวัน เพราะลุกค้าส่วนใหญ่ของเค้าคือ นักท่องเที่ยวที่หมุนเวียนกันมาซื้อบริการไม่ซ้ำหน้า ไม่ต้องพูดจาดีๆ มีน้ำใจก็แห่กันมาเข้าร้าน ยังกะแจกฟรีให้กิน

นี่เป็นเพียงภาพสะท้อนเล็กๆๆ จากเมืองปายวันนี้ น่าชื่นใจมั้ยละนั่น..

หากไม่เป็นเพราะไปเยี่ยมเพื่อนที่ไปอยู่ที่นั่น ก็คงไม่คิดไปปายเลยจริงๆ ให้ดิ้นตาย


โดย: ทากลูกหมู IP: 124.121.25.240 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:41:03 น.  

 
ในเมืองปายดูไงก็ไม่คลาสสิกอะไรเลย ช่วงไปเยือนปายก็ไม่มีกิจกรรมใดๆของชาวเมืองอย่างที่แม่พลอยนำมาฝากนี้หรอกครับ ลุงไปปายจึงไม่พักในเมือง แต่พักแถวๆชานเมืองแทน หาที่เป็นบังกาโลหลังคาจากของชาวบ้านน่าพักดีครับ มีกาแฟเลี้ยงฟรีอีกด้วย เช้าๆขึ้นมาแวะหาข้าวต้มโบราณกิน หุหุ น้ำซุปราดข้าวสวย ลุงก็ทำเองได้ที่บ้าน จากนั้นก็ตะลอนๆไปรอบๆปาย ชมเขาชมทุ่งไปตามเรื่อง


โดย: เขาพนม วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:11:57 น.  

 
ภาพแรกสวยว่ะ น่าจะใช้เป็นกระท่อมแจกโจทย์ให้ นลล


เจ๊ช่วยเก็บกระทู้ นลล ที่บล็อกโน้นด้วยจิ


โดย: ตามมาใช้ถึงนี่ (ทาสบอย ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:44:35 น.  

 
เอ...ผมกำลังจะไปปายและคิดจะไปที่ร้านดื่มกาแฟที่ว่ามา...จองโรงแรมเรียบร้อย คิดผิดรึเปล่าเนี๊ยะ..อิอิ


โดย: ฮอนด้ากับคาปูปั่น IP: 125.26.29.45 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:04:01 น.  

 
ผมเข้าใจความรู้สึกคุณครับ ผมไปครั้งแรกถนนยังเป็นหินคลุก ตื่นเช้าแทบจะไม่มีอะไรกิน (ขายนักท่องเที่ยว)
แต่ผมว่าแม่ฮ่องสอนน่าใจหายกว่า ไปตอนนั้น ยังไม่มีแสงสีตอนกลางคืนเลยตรับ 6โมงเย็นก็เงียบแล้ว จะมีก็เพิงขายอาหารพื้นเมืองใช้ตะเกียงกระป๋องนม(คงเคยเห็นนะ) สี่แยกไฟแดงมีอยู่แยกเดียว แถมไม่เคยใช้ได้ ตรงตลาดเช้าๆจะเห็นหญิงไทยใหญ่ในชุดประจำชาตินั่งขายของ ที่สำคัญ เชื่อมั๊ยครับ เมื่อ30ปีที่แล้วมีร้านรับซื้อของเก่าแล้ว ตั้งอยู่ก็คงแถวๆข้างร้านใบเฟินส์ ปัจจุบันนี้หายสาบสูญไปแล้วครับ คนเล่นของเก่าไปล่าของเก่าจากร้านนี้กัน โดยเฉพาะเครื่องเงิน และดาบซามูไร ครับ
แล้วตรงถนนหน้าเรือนจำ เชื่อมั๊ยครับ กำแพงเป็นไม้เก่าๆ บางช่วงก็เอนจนจะล้ม บางช่วงไม้ก็ผุพังจนเป็นช่อง ขนาดคนเดินออกมาสบายๆ ผ่านไปยังเห็นนักโทษนั่งตากแดดอยู่เลยครับ


โดย: gdjk IP: 58.9.65.200 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:55:52 น.  

 
เป็นความจริง ละไมเลี่ยงที่จะเจอค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ ทราบเรื่องแล้วก็เศร้า

ว่าแต่ คห. ที่ 19 พอย้อนไปตั้ง 30 ปี ละไมไม่เหลืออารัยแล้วค่ะ ย้อนเยอะจังนะคะ เห่อ เห่อ


โดย: ละไม La maii วันที่: 8 ธันวาคม 2550 เวลา:10:28:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทากลูกหมู
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทากลูกหมู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.