เหรียญอีกด้านที่ขาดหาย
(เจดีย์หมู่ฐานเดียว วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามหรือวัดโพธิ์)
ศาสนา เป็นดั่งเสมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมนุษย์โลกมานับหลายพันปี แม้ว่ากาลเวลาจะส่งผลให้โลกเปลี่ยนแปลง หรือ เจริญก้าวหน้าไปเพียงใดแล้วก็ตาม แต่ศาสนาก็ยังคงมีอิทธิต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์อยู่ทุกยุคทุกสมัย ด้วยเหตุที่ว่าศาสนามุ่งสอนให้มนุษย์มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แยกแยะถึงความดี ความชั่วได้แม้กระทั่งก่อให้เกิด ประเพณีวัฒนธรรม และ ความเชื่อต่างๆซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ล้วน แต่เป็นเครื่องปลูกฝั่งให้มนุษย์โลกเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
แม้ศาสนาจะมีด้วยกันอยู่แตกต่างหลากหลายแต่อันที่จริงแล้วจุดมุ่งหมายสำคัญของแต่ล่ะศาสนานั้น ก็คือ มุ่งหมายที่จะสอนให้มนุษย์เรากระทำแต่ความดี ละเว้นสิ่งที่ชั่วร้ายนั้นเอง ซึ่งหากคนเราสามารถที่จะเข้าใจหลักสำคัญในข้อนี้ได้แล้วนั้นจุดประสงค์ อันยิ่งใหญ่ของศาสนาก็คงจะบรรลุผลอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้วการที่จะสั่งสอนให้มนุษย์ทุกคนเข้าใจ หรือ ปฏิบัติตามนั้นก็เป็นสิ่งที่อยากเต็มที่สำหรับมนุษย์บางจำพวก ดังจะเห็นได้จากบางกลุ่มคนที่พยายามนำเรื่องคำสอนของศาสนามาบิดเบือน หรือ พยายามชักจูงให้หลงประเด็นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน จะดีแค่ไหนกันหากจะนำสิ่งที่มีค่าเช่นศาสนามากระทำเช่นนี้ หากแม้จะยึดถือศาสนาตนเป็นดั่งศูนย์กลางของโลก อันที่จริงแล้ว ศาสนาก็มิได้ปลูกฝั่งความคิดเช่นนั้นแก่ผู้นับถือแต่อย่างใด ครั้นกลับจะสอนให้ผู้นับถือศาสนาของตน เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับศาสนาอื่นอย่างสันติสุขเสียมากกว่า
ดังปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ผู้ที่พยายามชักจูงให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศไทยมีความแตกแยกต่อศาสนาอื่นหรือแม้กระทั่งประเทศชาติเอง ก็คงเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดแจ้งว่า มนุษย์เรามักนำความเชื่อที่คนเรามีต่อศาสนามาใช้เป็นเครื่องแสวงหาประโยชน์ เพราะอย่างไรเสียคนเราทุกคนก็ย่อมที่จะรัก และ หวงแหนในศาสนาของตนแทบทั้งนั้น จนทำให้คนหลายกลุ่มต้องตกเป็นเหยื่อของคนที่ไม่ดีไปมาก แต่ถ้าลองใช้ปัญญาไตร่ตรองให้ดีในจุดนี้แล้ว ก็จะค้นพบความจริงได้ว่าคนกลุ่มดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อต้องการให้เกิดแตกแยกของคนในสังคมเท่านั้นมิได้เข้าใจหรือตระหนักในคำสอนของศาสนาอิสลามเสียเลยดังที่ได้กล่าวอ้างมา เพราะถ้าหากเข้าใจในคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างถ่องแท้แล้วนั้น ก็จะทราบได้ดีว่าศาสนาอิสลามมุ่งสอนให้กระทำแต่ความดี รักสันติ และ ความสงบสุขเพื่อให้มนุษย์โลกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขนั้นเอง มิใช่ก่อความวุ่นวายดังกลุ่มคนจำพวกนี้กระทำเรื่อยมา ซึ่งการกระทำเหล่านี้นอกจากจะไม่ได้ทำเพื่อศาสนาของตนเองแล้วยังสร้างความมั่วหมอง และ บิดเบือนต่อคำสอนของศาสนาไปเสียอีก
( รองโต๊ะอิหม่าม ครูโอภาส มิตร์มานะ )
แต่อย่างไรเสียก็ใช่ว่าจะมีแต่ผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์ต่อศาสนาในทางที่เสื่อมเสียเท่านั้น ยังมีผู้ที่เข้าใจในหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม และ นำคำสอนเหล่านั้นมาใช้ในทางที่เป็นคุณแก่สังคมอีกด้วย ดังจะเห็นได้จาก ชุมชนมัสยิดจักรพงษ์ ซึ่งชาวมุสลิมเหล่านี้ล้วนแต่เข้าใจถึงคำสอน และการปฏิบัติตนตามศาสนาได้อย่างถูกต้อง นอกจากนั้นชาวมุสลิมที่ชุมชนแห่งนี้ยังตระหนักดีว่าปัญหาที่เกิดขึ้นยังจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นเรื่องที่มิได้เกี่ยวข้องกับศาสนาแต่อย่างใด เพียงแต่คนบางกลุ่มเท่านั้นที่พยายามนำเรื่องคำสอนของศาสนามาบิดเบือน และ นำมาเกี่ยวข้องเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนนั้นเอง นอกจากนี้การที่ได้เข้ามาสัมผัสยังชุมชนมัสยิดจักรพงษ์ และ ได้พูดคุยกับประธานชุมชนหรือที่ชาวมุสลิมเรียกว่า รองโต๊ะอิหม่าม ในปัจจุบันผู้ดำรงตำแหน่งคือ ครูโอภาส มิตร์มานะ ทำให้ให้ได้ทราบประวัติความเป็นมาว่า ชุมชุนมมัสยิดจักรพงษ์แห่งนี้สร้างขึ้นโดย นายตุ้ม ลอประยูร มาเป็นเวลายาวนานกว่าหลายสิบปี ซึ่งก็อาจส่งผลให้อะไรต่างๆในชุมชนเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนพอสมควร แต่อย่างไรเสียด้วยความที่ศาสนาอิสลามมีความเคร่งครัดอยู่มาก จึงทำให้ ข้อปฏิบัติต่างๆในชุมชนก็ยังคงได้พบเห็นอยู่บ้างนั้นเอง นอกจากนี้ยังได้ทราบอีกว่าก่อนหน้านี้ชุมชนมัสยิดจักพงษ์เคยมีปัญหายาเสพติดเช่นเดียวกับชุมชนอื่นๆ แต่ด้วยความรวมแรงรวมใจของทุกคนในชุมชนจึงทำให้ในที่สุดปัญหายาเสพติดจึงหมดลงไป เป็นการพูดคุยบอกคนในชุมชนกัน แบบพี่น้องให้รู้ถึงโทษของยาเสพติดว่ามันไม่ดียังไงบ้าง
ปัจจุบันภาพที่สามารถพบเห็นได้ก็คงเป็นภาพที่ในเวลาตอนเย็นหลังเลิกเรียนแล้วจะพบเห็นเยาว์ชนหลายๆคนมาร่วมเล่นกีฬากันอยู่บริเวณสนามกีฬา ชุมชนนั้นเอง ซึ่ง ครูโอภาส มิตร์มานะ ยังได้กล่าวเสริมอีกว่าการที่จะแก้ปัญหาต่างๆในชุมชนได้นั้น ต้องเกิดจาดความร่วมมือร่วมใจ และ การมุ่งปฏิบัติด้วยใจจริงจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างลุล่วงนั้นเอง
ภาพของชุมชนมัสยิดจักรพงษ์ก็คงเป็นเหมือนสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาทุกอย่างหากแม้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหาแล้วนั้น แม้จะมีอุปสรรคน้อยใหญ่เพียงใดก็สามารถที่จะฝ่าฟันมันไปได้
หากจะนำศาสนาพุทธ หรือ ศาสนาอิสลามมาเปรียบเป็นดังเหรียญทั้งสองด้าน เหรียญทั้งสองด้านนี้ก็มีคุณค่าเทียบได้ไม่แพ้กัน เพราะหากแม้ขาดด้านใดด้านหนึ่งไปแล้วเหรียญก็ย่อมไม่เป็นเหรียญที่สมบูรณ์ได้อีกต่อไป แล้วจะมีความหมายใดหากเหรียญที่มีอยู่มีเพียงแค่ด้านเดียว เราจะมีความสุขหรือหากแผ่นดินที่เราเกิด ที่เราอยู่ จะต้องแตกแยก แล้วจะดีแค่ไหนหากความสงบสุขจะกลับคืนมา ดังเช่นเหรียญทั้งสองด้านที่จะได้อยู่คู่กันอีกครั้งอย่างสมบูรณ์
Create Date : 21 กันยายน 2550 |
Last Update : 21 กันยายน 2550 21:55:24 น. |
|
5 comments
|
Counter : 655 Pageviews. |
|
|