Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ข้อสอบและธงคำตอบเนติบัณฑิต กลุ่มกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ภาคหนึ่ง สมัย ๖๒












ข้อมูล : //www.thaijustice.com
เพลง : รุ่งอรุณ (ชัยภัค ภัทรจินดา)



ข้อ ๑. นายฟ้าซื้อที่ดินมาโดยทราบดีว่ามีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้ นายฟ้าจึงขอเปิดทางจำเป็นผ่านที่ดินของนายเมฆซึ่งเป็นทางที่สะดวกที่สุดและก่อให้เกิดความเสียหายแก่ที่ดินล้อมอยู่น้อยที่สุด แต่นายเมฆไม่ยินยอม โดยอ้างว่าการขอใช้ทางจำเป็นของนายฟ้าเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตเพราะนายฟ้าซื้อที่ดินมาโดยทราบเป็นอย่างดีว่าตกอยู่ในที่ล้อมของที่ดินแปลงอื่นจนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะ ทั้งนายฟ้ามิได้เสนอใช้ค่าทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดเหตุที่มีทางเป็นดังกล่าวผ่านที่ดินของนายเมฆด้วย
ให้วินิจฉัยว่า ข้ออ้างของนายเมฆฟังขึ้นหรือไม่


ธงคำตอบ
การขอทางจำเป็นผ่านที่ดินซึ่งล้อมอยู่ไปสู่ทางสาธารณะนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๔๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติให้มุ่งพิจารณาถึงสภาพของที่ดินนั้นว่าจะต้องถูกที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงทางสาธารณะได้เป็นสำคัญ เจ้าของที่ดินแปลงนั้นจึงมีสิทธิจะผ่านที่ดินซึ่งล้อมอยู่ออกไปสู่ทางสาธารณะได้ โดยมิได้กำหนดเงื่อนไขว่าผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกล้อมจะต้องได้ที่ดินมาโดยสุจริต กล่าวคือต้องไม่รู้มาก่อนว่าที่ดินที่ตนได้มาถูกที่ดินแปลงอื่นล้อมจนไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ แต่หากรู้มาก่อน ถือว่าไม่สุจริตไม่มีสิทธิผ่านที่ดินแปลงที่ล้อมอยู่ออกสู่ทางสาธารณะได้ แต่อย่างใด ดังนั้น แม้จะฟังว่านายฟ้าซื้อที่ดินมาโดยรู้อยู่แล้วว่ามีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่จนไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะได้ ก็ไม่ทำให้สิทธิของนายฟ้าที่จะผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ออกสู่ทางสาธารณะหมดไป เพราะสิทธิของนายฟ้าดังกล่าวเป็นสิทธิที่กฎหมายบัญญัติให้ไว้ เมื่อที่ดินของนายเมฆเป็นที่ดินที่ล้อมที่ดินของนายฟ้า นายฟ้าย่อมมีสิทธิเปิดทางจำเป็นผ่านที่ดินของนายเมฆออกสู่ทางสาธารณะได้ ซึ่งหากนายเมฆได้รับความเสียหายจากการเปิดทางจำเป็นในที่ดินของตน นายเมฆก็มีสิทธิเรียกร้องค่าทดแทนเป็นค่าเสียหายได้ตามมาตรา ๑๓๔๙ วรรคสี่ การใช้สิทธิของนายฟ้าตามกฎหมายดังกล่าวจึงไม่อาจถือว่าเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต (คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๑๐๓/๒๕๔๗)

แม้นายฟ้าซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินซึ่งตกอยู่ในที่ล้อมจะมีทั้งสิทธิที่จะผ่านที่ดินของนายเมฆที่ล้อมอยู่ออกสู่ทางสาธารณะและมีหน้าที่ต้องใช้ค่าทดแทนให้แก่นายเมฆก็ตามแต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๔๙ วรรคสี่ ก็ไม่ได้บังคับให้ปฏิบัติหน้าที่เสียก่อนแล้วจึงใช้สิทธิได้ นายฟ้าจึงขอเปิดทางจำเป็นได้โดยไม่ต้องเสนอค่าทดแทนให้แก่นายเมฆก่อน (คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๔๑/๒๔๙๑)

ข้ออ้างของนายเมฆจึงฟังไม่ขึ้น





ข้อ ๒. นายมั่นตกลงซื้อที่ดิน ๑ ไร่จากนายหมาย เป็นเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท โดยในวันดังกล่าวนายมั่นได้มอบเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ให้แก่นายหมาย เพื่อเป็นประกันว่าจะทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินดังกล่าว และในวันที่ทำสัญญานายมั่นได้มอบเงินให้แก่นายหมายอีก ๓๐๐,๐๐๐ บาท และตกลงว่าจะชำระเงินค่าที่ดินที่เหลืออีก ๖๐๐,๐๐๐ บาท แก่นายหมายในวันโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งจะถึงกำหนดในอีก ๖ เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ในสัญญาจะซื้อขายที่ดินยังกำหนดว่า หากนายหมายไม่อาจขายที่ดินแก่นายมั่นได้เพราะความผิดของนายหมายไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ นายหมายจะต้องชำระค่าปรับให้แก่นายมั่นเป็นเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ปรากฏว่าก่อนถึงวันครบกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินประมาณ ๑ เดือน กรุงเทพมหานครได้เวนคืนที่ดินของนายหมายแปลงที่จะขายให้นายมั่นทั้งหมด เนื่องจากเป็นเส้นทางผ่านของโครงการรถไฟฟ้าที่จะมีการก่อสร้างขึ้น ต่อมาเมื่อถึงวันโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนายหมายไม่อาจโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่นายมั่นได้ นายมั่นจึงเรียกร้องให้นายหมายคืนเงินทั้งหมดที่ได้รับไป พร้อมทั้งชำระค่าปรับ ๒๐๐,๐๐๐ บาท จากเหตุที่นายหมายไม่อาจขายที่ดินให้แก่ตนได้
ให้วินิจฉัยว่า นายหมายต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมชำระค่าปรับให้แก่นายมั่นหรือไม่


ธงคำตอบ
เงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ที่นายมั่นมอบไว้ให้แก่นายหมายก่อนวันทำสัญญาจะซื้อขายเป็นเงินมัดจำ เนื่องจากเป็นเงินที่ให้ไว้แก่นายหมายแล้วในขณะเข้าทำสัญญาเพื่อเป็นหลักฐานว่าสัญญานั้นได้ทำกันขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๗๗ (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ ๓๓๐๑/๒๕๔๗) ส่วนอีก ๓๐๐,๐๐๐ บาท นั้นไม่ใช่มัดจำ เพราะเป็นเงินที่ให้ไว้เพื่อการชำระหนี้ค่าที่ดินบางส่วน

สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินเป็นสัญญาต่างตอบแทน โดยมีวัตถุประสงค์ในการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามจำนวนเนื้อที่ที่จะซื้อสำหรับนายมั่น และการรับชำระค่าที่ดินตามจำนวนที่ตกลงกันสำหรับนายหมาย เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏก่อนวันโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามสัญญาว่าที่ดินที่จะซื้อขายทั้งหมดอยู่ในเขตเวนคืนซึ่งทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตกเป็นพ้นวิสัยเพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซี่งเกิดขึ้นภายหลังที่ได้ก่อหนี้และนายหมายลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๑๙ วรรคหนึ่ง กรณีจึงถือได้ว่าการชำระหนี้ตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินตกเป็นพ้นวิสัยเพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ได้ตามมาตรา ๓๗๒ วรรคหนึ่ง ซึ่งนายหมายลูกหนี้ก็หามีสิทธิรับชำระหนี้ตอบแทนไม่ และกรณีไม่ต้องด้วยมาตรา ๓๗๘ (๒) นายหมายจึงต้องคืนเงินมัดจำ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท และเงินค่าที่ดินจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ที่ได้รับไปแล้วให้แก่นายมั่น แต่นายมั่นไม่อาจเรียกค่าปรับจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท จากนายหมายได้เพราะการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยโดยเหตุที่นายหมายไม่ต้องรับผิดชอบ (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ ๘๙/๒๕๓๖ และ ๙๒๔๑/๒๕๓๙)





ข้อ ๓.นางสาพาเด็กหญิงเขียวบุตรสาวซึ่งอยู่ในรถเข็นเด็กไปเที่ยวเดินเล่นในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ขณะที่เดินอยู่นั้น นายแดงได้แหย่สุนัขพันธุ์ร็อทไวเลอร์ของเด็กชายเหลือง ซึ่งบิดามารดาปล่อยให้พามาเดินเล่นโดยไม่มีตะกร้อครอบปาก สุนัขของเด็กชายเหลืองมีนิสัยดุร้ายโมโหง่ายและตัวใหญ่ เมื่อถูกนายแดงแหย่จึงโกรธเห่าเสียงดังและกระชากสายจูงหลุดจากมือเด็กชายเหลืองวิ่งไล่ตามจะกัดนายแดง นายแดงวิ่งผ่านไปทางที่นางสาเข็นรถเด็กหญิงเขียวอยู่ สุนัขดังกล่าววิ่งไล่ตามมาพบเด็กหญิงเขียวจึงกัดเด็กหญิงเขียวจนถึงแก่ความตาย ส่วนนางสาตกใจสิ้นสติล้มลงแขนหัก ต้องพักจากหน้าที่การงานเป็นเวลาหนึ่งเดือน นายแดงวิ่งตกท่อระบายน้ำในส่วนสาธารณะนั้นซึ่งบำรุงรักษาไม่เพียงพอขาหักรักษาตัวหนึ่งเดือนเช่นกัน
ให้วินิจฉัยว่า นางสา และนายแดงจะเรียกค่าสินไหมทดแทนจากใครได้บ้าง


ธงคำตอบ
กรณีสุนัขกัดเด็กหญิงเขียวถึงแก่ความตาย และทำให้นางสาตกใจสิ้นสติล้มลงแขนหัก เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะสัตว์ เด็กชายเหลืองผู้เป็นเจ้าของสัตว์ แม้จะเป็นผู้เยาว์ก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่เด็กหญิงเขียวและนางสา เพราะตนมิได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยง การรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์ และในพฤติการณ์ที่พาสุนัขของตนมาเดินเล่นในสวนสาธารณะโดยมิได้สวมตะกร้อครอบปาก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๓ ประกอบมาตรา ๔๒๙ และบิดามารดาของเด็กชายเหลืองต้องร่วมรับผิดกับบุตรผู้เยาว์ตามมาตรา ๔๒๙ นายสาจึงสามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนจากเด็กชายเหลืองและบิดามารดาของเด็กชายเหลืองได้

ส่วนการที่นายแดงตกท่อระบายน้ำขาหักนั้น นายแดงอาจเรียกค่าสินไหมทดแทนจากกรุงเทพมหานครในฐานะผู้ครองและเจ้าของสิ่งปลูกสร้างคือท่อระบายน้ำในสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานครซึ่งบำรุงรักษาไม่เพียงพอได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๔ นายแดงได้รับอันตรายแก่กายเนื่องจากวิ่งตกท่อระบายน้ำเพราะเหตุกลัวสุนัข จึงอาจฟ้องเด็กชายเหลืองและบิดามารดาของเด็กชายเหลืองได้ ส่วนค่าสินไหมทดแทนต้องดูพฤติการณ์เป็นประมาณว่าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะฝ่ายนายแดงหรือเด็กชายเหลืองเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไร ตามมาตรา ๔๔๒ ประกอบมาตรา ๒๒๓





ข้อ ๔.นายหมื่นทำหนังสือสัญญาให้นายแสนเช่าตึกแถวมีกำหนด ๖ ปี แต่มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ กำหนดชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน ทุกวันสิ้นเดือน สัญญาเช่ามีข้อความว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาเช่าแล้ว ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าต่อไปอีก ๓ ปี ตามเงื่อนไขประเพณีที่ได้กระทำกันในวันทำสัญญานี้ ก่อนครบกำหนดการเช่าในปีที่ ๖ นายแสนมีหนังสือถึงนายหมื่นขอทำสัญญาเช่าต่ออีก ๓ ปี ตามข้อตกลง แต่นายหมื่นไม่ยินยอมให้เช่าต่อ เมื่อครบกำหนด ๖ ปี นายหมื่นได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าต่อนายแสน ขอให้นายแสนออกจากตึกแถวที่เช่าภายใน ๑๕ วัน
ให้วินิจฉัยว่า นายแสนมีสิทธิอยู่ในตึกแถวที่เช่าต่ออีก ๓ ปี ตามข้อตกลงหรือไม่ และการบอกเลิกสัญญาเช่าของนายหมื่นชอบหรือไม่


ธงคำตอบ
ข้อตกลงตามหนังสือสัญญาเช่าที่ว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาเช่าแล้ว ผู้ให้เช่ายินยอมให้เช่าต่อไปอีก ๓ ปี ตามเงื่อนไขและประเพณีที่ได้กระทำกันในวันทำสัญญานี้ ถือว่าเป็นคำมั่นว่าจะให้เช่าที่นายหมื่นให้ไว้แก่นายแสน (คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๙๒๕/๒๕๑๗) ซึ่งนายแสนจะต้องแสดงความจำนงขอปฏิบัติตามคำมั่นก่อนครบกำหนดอายุสัญญาเช่า (คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๗๐/๒๕๐๖) สัญญาเช่าตึกแถวระหว่างนายหมื่นและนายแสนมีกำหนดเวลา ๖ ปี แต่มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้เพียง ๓ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๓๘ กำหนดเวลาเช่าที่ดินจาก ๓ ปี จึงไม่มีผลบังคับกันต่อไป คำมั่นของนายหมื่นที่ให้แก่นายแสนไว้ตามสัญญาเช่าจึงสิ้นผลบังคับไปด้วย จึงไม่มีคำมั่นของนายหมื่นที่จะให้นายแสนสนองต่อไปอีก ไม่มีสัญญาเช่าเกิดขึ้น(คำพิพากษาฎีกาที่ ๕๖๓/๒๕๔๐) นายแสนจึงไม่มีสิทธิอยู่ในตึกแถวที่เช่าต่ออีก ๓ ปีตามข้อตกลง

การที่นายแสนอยู่ในตึกแถวที่เช่าต่อมาหลังจากครบ ๓ ปีแล้วโดยนายหมื่นไม่ทักท้วง จึงต้องถือว่าเป็นการเช่าต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๗๐ ซึ่งนายหมื่นจะบอกเลิกสัญญาเช่าเสียเมื่อใดก็ได้ แต่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนตามวิธีที่กำหนดไว้ในมาตรา ๕๖๖ กล่าวคือนายหมื่นจะบอกเลิกการเช่าได้ขณะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่า แต่ต้องบอกกล่าวแก่นายแสนให้รู้ตัวก่อนชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งเป็นอย่างน้อยตามมาตรา ๕๖๖ หนังสือสัญญาเช่าระหว่างนายหมื่นและนายแสนกำหนดชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน นายหมื่นบอกเลิกสัญญาให้นายแสนย้ายออกจากตึกแถวที่เช่าใน ๑๕ วัน การบอกเลิกสัญญาของนายหมื่นจึงไม่ชอบ (คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๑๙๖/๒๕๔๕)





ข้อ ๕. เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๑ นายกุ้งทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) สาขาบางซื่อ ในวงเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท มีนางหอยเข้าทำสัญญาค้ำประกันโดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ครั้นวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๔๕ นายกุ้งและนายปูทำสัญญากู้ยืมเงินจากธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) สาขาบางรัก ๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท มีนายปูและนางปลาจดทะเบียนจำนองที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๒๒ เป็นประกันการชำระหนี้วงเงินจำนอง ๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยมีข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนองเกี่ยวกับการประกันหนี้เพียงว่า การจำนองนี้เป็นประกันหนี้สินและภาระผูกพันทุกประเภททุกอย่างที่มีต่อผู้รับจำนองแล้วในเวลานี้และที่จะมีขึ้นต่อไปในภายหน้า และในวันเดียวกันนั้นเอง นายกุ้งได้นำเงินไปชำระเฉพาะดอกเบี้ยเบิกเงินเกินบัญชีแก่ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) สาขาบางซื่อ และต่อมาในวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๒ นายกุ้งและนายปูได้นำเงินไปชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินแก่ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) สาขาบางรัก จนครบถ้วนแล้ว นายปูและนางปลาจึงขอให้ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๒๒ แต่เนื่องจากนายกุ้งยังเป็นหนี้เบิกเงินเกินบัญชีแก่ ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) สาขาบางซื่อ ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) จึงปฏิเสธ โดยอ้างว่า นายปูและนางปลาต้องผูกพันรับผิดในหนี้นี้ตามข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนองดังกล่าวด้วย
(ก) ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) จะฟ้องเรียกให้นายกุ้งและนางหอยชำระหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีได้หรือไม่เพียงใด
(ข) นายปูและนางปลาจะเรียกให้ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๒๒ ได้หรือไม่



ธงคำตอบ
(ก) การที่นายกุ้งนำเงินไปชำระดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) สาขาบางซื่อ เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๔๕ มีผลให้หนี้ดอกเบี้ยส่วนที่ชำระไประงับลง ส่วนหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีที่เหลือนั้น นายกุ้งลูกหนี้ชั้นต้นและนางหอยผู้ค้ำประกันยังคงต้องรับผิดในต้นเงินที่เหลือพร้อมดอกเบี้ยจากต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๔๕ เป็นต้นไป ดังนั้น ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) จึงฟ้องเรียกให้นายกุ้งและนางหอยชำระหนี้จำนวนดังกล่าวได้

(ข) แม้การจำนองอาจเป็นประกันหนี้ที่มีอยู่แล้วหรือหนี้ในอนาคตได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๐๗ ประกอบมาตรา ๖๘๑ แต่การจำนองที่ดินประกันหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินเกิดขึ้นหลังจากที่นายกุ้งทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี และเป็นประกันในวงเงินเท่ากับจำนวนเงินตามสัญญาก็ยืมเงิน โดยที่สัญญาจำนองนี้ไม่มีข้อความตอนใดที่แสดงให้เห็นว่าสัญญาจำนองที่กระทำกันภายหลังนี้เกี่ยวข้องกับหนี้ที่นายกุ้งมีอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ทั้งหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินนั้นมีลักษณะที่แยกต่างหากจากหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กันข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนองจึงมิอาจตีความให้รวมถึงหนี้คนละประเภทและคนละสาขากัน เมื่อนายกุ้งและนายปูได้นำเงินไปชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินแก่ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) สาขาบางรัก จนครบถ้วนอันทำให้หนี้ประธานระงับสิ้นไปแล้ว หนี้ตามสัญญาจำนองซึ่งเป็นหนี้อุปกรณ์ จึงระงับไปด้วย ตามมาตรา ๗๔๔ (๑) นายปูและนางปลาย่อมเรียกให้ธนาคารกรุงสยาม จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินได้ (คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๒๓/๒๕๔๘)





ข้อ ๖. นายมั่นได้รับเช็คชำระหนี้จากการขายสินค้ารวม ๒ ฉบับ ฉบับแรกเป็นเช็คผู้ถือ ฉบับที่สองระบุชื่อนายมั่นเป็นผู้รับเงินและขีดฆ่าคำว่า “หรือผู้ถือ” นายมั่นทำเช็คทั้งสองฉบับตกหาย นายคงเก็บเช็คได้ นำเช็คฉบับแรกไปชำระหนี้เงินยืมให้แก่นายทอง ส่วนเช็คฉบับที่สองนายคงได้ปลอมลายมือชื่อนายมั่นสลักหลังเช็คนำไปแลกเงินสดจากนายนาก นายทองและนายนากต่างรับเช็คไว้โดยสุจริตและมิได้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ต่อมานายมั่นทราบว่าเช็คที่ตนทำตกหายอยู่ที่นายทองและนายนาก จึงทวงถามบุคคลทั้งสองให้คืนเช็คให้
ให้วินิจฉัยว่า นายทองและนายนากจะต้องคืนเช็คให้แก่นายมั่นหรือไม่


ธงคำตอบ
เช็คฉบับแรก แม้นายมั่นต้องปราศจากเช็คไปจากครอบครองเนื่องจากทำเช็คตกหาย แต่นายทองได้รับเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือมาโดยสุจริตและมิได้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ถือว่าเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย นายทองจึงหาจำต้องสละเช็คนั้นไม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๐๕ วรรคสาม นายทองจึงไม่ต้องคืนเช็คให้แก่นายมั่น

เช็คฉบับที่สอง ลายมือชื่อนายมั่นผู้สลักหลังเช็คเป็นลายมือปลอม การสลักหลังนั้นจึงเป็นอันใช้ไม่ได้เลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๐๘ ถือเสมือนหนึ่งว่านายมั่นไม่เคยสลักหลังเช็คนั้นเลย นายนากได้รับเช็คมาจากการสลักหลังปลอม จึงเป็นการได้มาด้วยการสลักหลังที่ขาดสาย แม้จะรับโอนเช็คมาโดยสุจริต และมิได้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงตามมาตรา ๙๐๕ วรรคสองก็ตามก็ถือไม่ได้ว่านายนากเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายเพราะบทบัญญัติตามมาตรา ๙๐๕ ต้องอยู่ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา ๑๐๐๘ (คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๒๗๔/๒๕๓๔) นายนากจะอ้างอิงแสวงสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อยึดหน่วงเช็คไว้ ไม่อาจจะทำได้เป็นอันขาดตามมาตรา ๑๐๐๘ นายนากจึงต้องคืนเช็คให้แก่นายมั่น บันทึกการเข้า





ข้อ ๗. บริษัท สามสหาย จำกัด มีทุนจดทะเบียน ๓,๐๐๐,๐๐๐บาท แบ่งทุนเป็นหุ้นจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ หุ้น มูลค่าจดทะเบียนหุ้นละ ๑๐ บาท มี นายหนึ่ง นายสอง และนายสาม เป็นกรรมการ ต่อมาบริษัทต้องการปรับโครงสร้างการบริหารและขยายกิจการของบริษัทให้ใหญ่ขึ้น ประธานกรรมการจึงเรียกประชุมคณะกรรมการและคณะกรรมการได้มีมติเป็นเอกฉันท์แต่งตั้งนายสี่เป็นกรรมการเพิ่มเติม นอกจากนั้นคณะกรรมการได้จัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นและที่ประชุมผู้ถือหุ้น ได้มีมติพิเศษให้เพิ่มทุนของบริษัทจากเดิม ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เป็น ๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ หุ้น ขายให้แก่นายสี่ในราคาหุ้นละ ๑๐ บาท
ให้วินิจฉัยว่า (ก) การแต่งตั้งนายสี่เป็นกรรมการเพิ่มเติมดังกล่าวกระทำได้หรือไม่

(ข) การเพิ่มทุนของบริษัท และขายให้แก่นายสี่ในราคาหุ้นละ ๑๐ บาท ดังกล่าวทำได้หรือไม่



ธงคำตอบ
(ก) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๑๕๑ บัญญัติว่า “อันผู้เป็นกรรมการนั้นเฉพาะแต่ที่ประชุมใหญ่เท่านั้นอาจแต่งตั้งหรือถอนได้” และตามมาตรา ๑๑๕๕ คณะกรรมการบริษัทไม่มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการได้ เว้นแต่จะเป็นการแต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนั้น แม้ว่าคณะกรรมการบริษัทจะมีมติเป็นเอกฉันท์แต่งตั้งให้นายสี่เป็นกรรมการเพิ่มเติมก็ตาม แต่ก็เป็นการแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติม ไม่ใช่แต่ตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลงในคณะกรรมการเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ จึงไม่สามารถกระทำได้

(ข) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๒๐ บัญญัติว่า “บริษัทจำกัดอาจเพิ่มทุนของบริษัทขึ้นได้ด้วยออกหุ้นใหม่โดยอาศัยมติพิเศษของที่ประชุมผู้ถือหุ้น” และตามมาตรา ๑๒๒๒ บรรดาหุ้นที่ออกใหม่นั้นต้องเสนอให้แก่ผู้ถือหุ้นทั้งหลายตามส่วนจำนวนหุ้นซึ่งเข้าถืออยู่ ดังนั้น แม้ว่าการเพิ่มทุนของบริษัทกระทำโดยมติพิเศษของที่ประชุมผู้ถือหุ้นก็ตาม แต่หุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวนั้น มติกำหนดให้ขายให้แก่นายสี่ทั้งหมด ซึ่งนายสี่ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นมาก่อนจึงขัดต่อมาตรา ๑๒๒๒ ซึ่งกำหนดให้หุ้นที่ออกใหม่ต้องเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีอยู่ตามส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นเดิมถือหุ้น ดังนั้น มติพิเศษของผู้ถือหุ้นที่กำหนดให้ขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ให้แก่นายสี่จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย การเพิ่มทุนและขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวให้แก่นายสี่ จึงไม่สามารถกระทำได้





ข้อ ๘.นายมิตรและนางชอบเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่จดทะเบียนหย่ากันในเวลาต่อมา เมื่อหย่ากันแล้ว นายมากบิดานอกกฎหมายของนายมิตรซึ่งรับรองนายมิตรเป็นบุตรได้มอบเงินให้แก่นายมิตร ๑๐๐,๐๐๐ บาท หลังจากนั้นนายมิตรก็บวชเป็นพระภิกษุที่วัดแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้นเอง นายมากจดทะเบียนยกที่ดินแปลงหนึ่งให้แก่ พระภิกษุมิตร แล้วพระภิกษุมิตรขายที่ดินไปในราคา ๒๐๐,๐๐๐ บาท เมื่อพระภิกษุมิตรถึงแก่มรณภาพ คงมีนางชอบ นายมาก นายใช้ซึ่งพระภิกษุมิตรจดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญธรรมระหว่างที่ยังเป็นคู่สมรสกับนางชอบ โดยนางชอบไม่รู้ และนายสอนซึ่งได้ฟ้องพระภิกษุมิตรให้รับนายสอนเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายไว้ แต่ศาลพิพากษาว่านายสอนเป็นบุตรภายหลังพระภิกษุมิตรถึงแก่มรณภาพแล้ว กับมีเงินสองจำนวนดังกล่าวเท่านั้น
ให้วินิจฉัยว่า เงินทั้งสองจำนวนดังกล่าวข้างต้นจะตกแก่ผู้ใด เป็นจำนวนเท่าใด


ธงคำตอบ
เงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท เป็นเงินที่พระภิกษุมิตรได้มาก่อนอุปสมบท หาตกเป็นสมบัติของวัดไม่ และเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมของพระภิกษุมิตร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๔ ซึ่งจะตกทอดแก่ผู้ใด เป็นจำนวนเท่าใดนั้น วินิจฉัยได้ดังนี้

นางชอบหย่ากับพระภิกษุมิตรก่อนพระภิกษุมิตรถึงแก่มรณภาพ จึงมิใช่คู่สมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๙ วรรคสอง ไม่มีสิทธิได้รับมรดก

นายมากเป็นบิดานอกกฎหมายของพระภิกษุมิตร จึงมิใช่บิดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๖๒๙ (๒) ไม่มีสิทธิได้รับมรดก

นายใช้ซึ่งพระภิกษุมิตรจดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญธรรมโดยมิได้รับความยินยอมจากนางชอบคู่สมรสก่อนย่อมไม่สมบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๙๘/๒๕ นายใช้จึงมิใช่ผู้สืบสันดานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๗ ไม่มีสิทธิได้รับมรดก (คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๗๒/๒๕๓๗)

นายสอนซึ่งศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นบุตรของพระภิกษุมิตร แม้จะเป็นเวลาภายหลังจากพระภิกษุมิตรถึงแก่มรณภาพแล้วก็ตาม ย่อมถือว่ามีผลตั้งแต่นายสอนเกิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๔๗ และมาตรา ๑๕๕๗ ที่แก้ไขเพิ่มเติม นายสอนจึงเป็นผู้สืบสันดาน ตามมาตรา ๑๖๒๙ (๑) มีสิทธิได้รับมรดกจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท แต่ผู้เดียว

สำหรับเงินจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท นั้น เป็นเงินที่พระภิกษุมิตรได้มาจากการขายที่ดินที่นายมากจดทะเบียนยกให้ในระหว่างเวลาที่อยู่ในสมณเพศ เมื่อพระภิกษุมิตรถึงแก่มรณภาพ เงินจำนวนนี้จึงตกเป็นสมบัติของวัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๒๓ (คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๖๔/๒๕๓๒)





ข้อ ๙. บริษัท ซีฟู้ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศไทยสั่งซื้อสินค้าปลาทูน่าแช่แข็งจากผู้ขายในประเทศอินโดนีเซียจำนวน ๑๐,๐๐๐ กิโลกรัม ราคาซีแอนด์เอฟ ๓๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ (๑,๐๕๐,๐๐๐ บาท ) ผู้ขายจัดส่งสินค้าโดยบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ชนิดมีเครื่องทำความเย็น ๒ ตู้ และเป็นการขนส่งในแบบซีวาย-ซีวาย (CY-CY) โดยมีบริษัท ซีไลน์ จำกัดเป็นผู้ขนส่ง และได้ออกใบตราส่งให้แก่ผู้ขาย ผู้ขายได้สลักหลังและส่งมอบใบตราส่งให้บริษัท ซีฟู้ด จำกัด เมื่อเรือของบริษัท ซีไลน์ จำกัด มาถึงเรื่องของบริษัท พอร์ท จำกัด ผู้ประกอบกิจการท่าเรือ บริษัท พอร์ท จำกัด ได้ยกตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งอยู่ในสภาพดีลงจากเรือและขนไปวางไว้ที่ลานวางตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ และรับตู้คอนเทนเนอร์ไว้เพื่อส่งมอบให้ผู้รับตราส่ง ต่อมาบริษัท ซีฟู้ด จำกัด ได้รับตู้คอนเทนเนอร์ขนไปเปิดที่โรงงาน ปรากฏว่าปลาทูน่าเน่าเสียทั้งหมด เนื่องจากอุณหภูมิในตู้คอนเทนเนอร์ของผู้ขนส่งไม่คงที่ในระหว่างการขนส่งทางทะเล
บริษัท ซีฟู้ด จำกัด เรียกร้องให้ บริษัท ซีไลน์ จำกัด และ บริษัท พอร์ท จำกัด ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าปลาทูน่า เป็นเงิน ๑,๐๕๐,๐๐๐ บาท ค่าระวางเรือ ๑๕๐,๐๐๐ บาท กับค่าธรรมเนียมธนาคาร ๑๐,๐๐๐ บาท และค่าตรวจสอบสินค้า ๔๐,๐๐๐ บาท ซึ่งบริษัท ซีฟู้ด จำกัด ได้ชำระไป แต่บริษัททั้งสองปฏิเสธความผิดรับผิด
ให้วินิจฉัยว่า บริษัท ซีฟู้ด จำกัด จะเรียกร้องค่าเสียหายดังกล่าวจากบริษัท ซีไลน์ จำกัด และบริษัท พอร์ท จำกัด ได้หรือไม่ เพียงใด


ธงคำตอบ
บริษัท ซีฟู้ด จำกัด ได้รับการสลักหลังโอนใบตราส่งจากผู้ขายจึงเป็นผู้รับตราส่งมีสิทธิเรียกร้องให้บริษัท ซีไลน์ จำกัด ผู้ขนส่งรับผิดตามพระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๒๖ และมาตรา ๓๙ และโดยที่ความเสียหายของสินค้าปลาทูน่าเกิดจากอุณหภูมิในตู้คอนเทนเนอร์ของผู้ขนส่งที่ไม่คงที่ ในระหว่างการขนส่งทางทะเล บริษัท ซีไลน์ จำกัด ผู้ขนส่งจึงต้องรับผิดในความเสียหายตามมาตรา ๘ และมาตรา ๓๙ (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ ๔๑/๒๕๔๗) ส่วนบริษัท พอร์ท จำกัดมิได้เป็นคู่สัญญารับขนของทางทะเลกับผู้ส่ง การที่บริษัท พอร์ท จำกัด เจ้าของท่าเรือขนตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ในการขนส่งลงจากเรือและขนไปวางไว้ที่ลานวางตู้สินค้าที่ท่าเรือ กับรับมอบตู้คอนเทนเนอร์จากผู้ขนส่งเพื่อส่งมอบตู้สินค้าให้กับผู้รับตราส่ง เป็นการประกอบกิจการเช่นเดียวกับการดำเนินงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย การดำเนินการของบริษัท พอร์ท จำกัด ถือไม่ได้ว่าได้รับมอบหมายจากผู้ขนส่งให้ทำการขนส่งของตามสัญญารับขนของทางทะเล จึงไม่ใช่ผู้ขนส่งอื่น ไม่ต้องรับผิดต่อบริษัท ซีฟู้ด จำกัด (คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๐๖๙/๒๕๔๓) บริษัท ซีฟู้ด จำกัด ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทพอร์ท จำกัด

สำหรับค่าเสียหายที่บริษัท ซีฟู้ด จำกัด เรียกร้องนั้น โดยที่การซื้อขายปลาทูน่าเป็นราคาซีแอนด์เอฟ คือราคาสินค้ารวมค่าระวางเรือ ดังนั้นค่าระวางเรือที่เรียกร้องจึงรวมอยู่ในค่าสินค้าด้วยแล้ว ไม่อาจเรียกร้องค่าเสียหายส่วนนี้ซ้ำอีกได้ ส่วนค่าเสียหายรายการอื่นแม้จะเป็นความเสียหายที่แท้จริงของบริษัท ซีฟู้ด จำกัด แต่เมื่อเป็นการเรียกร้องให้ผู้ขนส่งรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งสินค้าทางทะเล ผู้ขนส่งจึงต้องรับผิดไม่เกินกิโลกรัมละ ๓๐ บาท ตามพระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๕๙ (๑) สินค้าที่เสียหายมีน้ำหนัก ๑๐,๐๐๐ บาท กิโลกรัม คำนวณแล้วเป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท บริษัท ซีฟู้ด จำกัด เรียกร้องค่าเสียหายรวม ๑,๒๕,๐๐๐ บาท เมื่อหักค่าระวางเรือจำนวน ๑๕๐,๐๐๐ บาท คงเหลือค่าเสียหายเป็นเงิน ๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเกินกว่าจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท บริษัท ซีไลน์ จำกัด จึงต้องรับผิดเพียง ๓๐๐,๐๐๐ บาท บริษัท ซีฟู้ด จำกัด มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัท ซีไลน์ จำกัด เป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท (คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๑/๒๕๔๗)





ข้อ ๑๐. นายดำเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงชื่อ “ปวดใจ” และเพลงชื่อ “เย็นทน” ต่อมานายขาวซึ่งประกอบกิจการค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ลงโฆษณาเครื่องเล่นเอ็มพี ๓ ของตนในหนังสือพิมพ์ โดยลงรูปเครื่องเล่นเอ็มพี ๓ ซึ่งปรากฏภาพในหน้าจอของเครื่องเล่นแสดงชื่อเพลง “ปวดใจ” รวมทั้งนายขาวได้นำชื่อเพลง “เย็นทน” ไปยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าพัดลมไฟฟ้าที่นายขาวผลิตออกจำหน่าย
ให้วินิจฉัยว่า การกระทำของนายขาวที่ลงโฆษณาชื่อเพลง “ปวดใจ” เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานดนตรีกรรมของนายดำหรือไม่ และนายทะเบียนจะรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “เย็นทน” ที่ขาวยื่นคำขอจดทะเบียนได้หรือไม่


ธงคำตอบ
นายขาวนำชื่อเพลง “ปวดใจ” มาลงโฆษณาเผยแพร่ต่อสาธารณะชนเท่านั้น แต่มิได้นำทำนองเพลงหรือโน้ตเพลงหรือแผนภูมิเพลงที่ได้แยกและเรียบเรียงเสียงประสานและคำร้องของเพลงดังกล่าวอันเป็นงานดนตรีกรรมมาโฆษณาเผยแพร่ต่อสาธารณชนแต่อย่างใด ลำพังเฉพาะชื่อเพลงมิใช่งานดนตรีกรรมอันมีลิขสิทธิ์ตามความหมายที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔ และมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ การที่นายขาวนำเอาแต่ชื่อเพลงซึ่งมิใช่งานดนตรีกรรมมาโฆษณาเผยแพร่ต่อสาธารณชน จึงไม่ได้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานดนตรีกรรมของนายดำ ตามมาตรา ๒๗ (๒) (คำพิพากษาฎีกา ๘๒๖/๒๕๔๘)

ชื่อเพลง “เย็นทน” ซึ่งเป็นความหมายแสดงว่าให้ความเย็นและทนทาน เมื่อนำมาใช้กับสินค้าพัดลมไฟฟ้า นับว่าเป็นคำที่เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้าชนิดนี้โดยตรง เมื่อไม่ปรากฏว่านายขาวได้จำหน่ายเผยแพร่หรือโฆษณาซึ่งสินค้าพัดลมไฟฟ้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า “เย็นทน” นั้นจนแพร่หลายแล้ว คำว่า “เย็นทน” จึงเป็นคำที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะอันพึงรับจดทะเบียนได้ตามมาตรา ๖ (๑) และมาตรา ๗ วรรคสอง (๒) และวรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.๒๕๓๔ นายทะเบียนจึงไม่สามารถรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “เย็นทน” ที่นายขาวยื่นคำขอจดทะเบียนได้













Create Date : 07 ตุลาคม 2552
Last Update : 7 ตุลาคม 2552 15:34:38 น. 25 comments
Counter : 2403 Pageviews.

 
พี่ก๋าไม่ต้องเรียนแล้วล่ะครับ
เลยอ่านได้แบบตามใจฉันครับ อิอิอิิ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:16:51:02 น.  

 

สวัสดีครับ น้องพู
ขออนุญาตมาเชิญชวนไปอ่าน
เรื่องราวของ พระติสสะเถระ ครับผม

ว่างๆ ขอเรียนเชิญที่บล็อกนะครับ



หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ครับ


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:23:18:35 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องพู










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:7:44:28 น.  

 


โดย: tanjira วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:8:50:32 น.  

 
สวัสดีค่ะ พะพู..

วันนี้มามี้ขอมาแบบ ems ...นะคะ


สวัสดีวันครู ขอให้โชคดี มีความสุข มากหลายเด้อ..ค่ะ
สร้างกริตเตอร์
| .postjung.com">ฟังเพลง | เล่นเกมส์ | ซื้อ-ขาย


โดย: พรหมญาณี วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:11:00:29 น.  

 
สาะ ขอให้นู๋ผ่านด้วยเถิดดด-*-
ขอให้คนอื่นๆผ่านด้วยนะคะ


โดย: ยีนส์ (motoonzaa ) วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:22:17:51 น.  

 


น้องพูครับ

พี่มาให้กำลังใจนะครับ


โดย: พี่วุฒิ IP: 222.123.246.12 วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:22:34:30 น.  

 

สวัสดีวันศุกร์.. ขอให้มีความสุข สดชื่น แจ่มใส ไร้ทุกข์ สนุกสนาน สำราญใจ โชคดี มีความสุข...ค่ะ


โดย: พรหมญาณี วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:10:33:03 น.  

 


วันนี้อัพบล็อกด้วยกลอนครับ...

กลอนวันนี้อุทิศให้แก่ทุกคนที่รักพ่อ และทุกคนที่เป็นพ่อ

กลอน..."เปลือกไม้" ครับ



โดย: ลุงแว่น วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:19:42:18 น.  

 


วันนี้อัพบล็อกด้วยกลอนครับ...

กลอนวันนี้อุทิศให้แก่ทุกคนที่รักพ่อ และทุกคนที่เป็นพ่อ

กลอน..."เปลือกไม้" ครับ



โดย: ลุงแว่น วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:19:42:19 น.  

 
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ..ยิ้มหวาน..


glitter-graphics.com


โดย: ปลิวตามลม วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:22:52:59 น.  

 
แวะมาเยี่ยมคุณพูนะคะ
ว่างพร้อมกันเมื่อไหร่
คงได้คุยกันบ่อยๆ นะคะ


โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:8:03:25 น.  

 
สวัสดีค่ะ..คุณพู
เป็นอย่างไรบ้าง คงสบายดีนะคะ

อ่านข้อกฎหมายแล้ว... รู้สึกว่าตัวเองเป็นพวกนอกรีตจังค่ะ เหอ... เหอ..


โดย: ร้อยคำ คณาความ วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:12:02:30 น.  

 
หวัดดีจ้าน้องพู








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:7:56:25 น.  

 
พี่พูขา
คิดถึงค่ะ


โดย: medkhanun วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:22:15:01 น.  

 

แวะมาเสิร์ฟกาแฟครับผม
รับซักแก้วนะครับ
...



สดชื่น กับวันทำงานวันแรกครับ


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:12:27:09 น.  

 
ขอบคุณนะครับที่แวะเข้าไปอ่าน

อย่าลืมแวะไปอีกนะครับ

เพลงเพราะจังเลยอ่า


โดย: ศิลป์ใจ วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:16:22:51 น.  

 
ได้ความรู้เยอะแยะเลยค่ะ แวะมาอ่านและมาทักทายนะคะ


โดย: teansri วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:20:57:05 น.  

 


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 13 ตุลาคม 2552 เวลา:1:11:42 น.  

 
สวัสดีครับ ท่าน "นิติมีใจเป็นธรรม"

เช้านี้อากาศสดชื่นดีไหม
เพิ่งมาถึง กทม เหมือนกัน
รู้สึก อากาศกรุงเทพ บึ้งตึง จัง

อยากลับไร่ทวนลมซะแล้วสิ

ทำให้สนุกนะครับ

คิดถึง


โดย: ไนล์ รอยเคียว IP: 124.120.155.202 วันที่: 13 ตุลาคม 2552 เวลา:6:18:59 น.  

 



วันนี้อัพบล็อกเป็นกลอนแนวประชดประชันครับ

จะแทงใจใครบ้างหรือเปล่าหนอ....

"ความสามัคคี"

ถ้าว่างก็ขอเชิญนะครับ...



โดย: ลุงแว่น วันที่: 13 ตุลาคม 2552 เวลา:11:16:35 น.  

 


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 13 ตุลาคม 2552 เวลา:14:31:30 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณพู

กลับจากปฏิบัติธรรมที่ พังงา เอาบุญมาฝากนะคะ



ปล. ครบแล้วนะคะ ทั้งแพ่ง ทั้งอาญา


โดย: พ่อระนาด วันที่: 13 ตุลาคม 2552 เวลา:20:27:39 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องพู









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:7:51:25 น.  

 
สวัสดีค่ะ

แวะมาหา ด้วยลีลาชาวยุทธ มาแบบกระย่องกระแย่ง
ไม่ต้องใช้วิชาตัวเบา เพราะมันเบาด้วยตัวเอง..

หายหน้าไปหลายวัน คิดถึง..นะคะ

ขอให้มีความสุขมาก ๆ มีสุขภาพแข็งแรง...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:14:41:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พธู
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]











มากกว่าได้ยิน



สัมผัสรักจากนี้................................อยู่เสมอ
แม้นห่างไกลจากเธอ........................สุดหล้า
ทุกคืนค่ำละเมอ...............................ใครห่วง
มากกว่ากว้างขอบฟ้า..............โสตได้ยินเสียง

นับเม็ดทรายเกลื่อนพื้น....................รายเรียง
น้อยกว่าคิดถึงเคียง..............................จิตนี้
โครมครืนคลื่นสั่งเสียง.......................ซัดสาด
คล้ายดั่งใครบ่งชี้...................อยากใกล้ชิดกัน

แม้นนับดาวหมดฟ้า...........................รวมกัน
ความห่วงใยจากฉัน.........................กว่าแล้ว
ฟ้ากว้างต่างไกลกัน....................มิห่าง ใจเนอ
เหมือนกอดจากดวงแก้ว..........อุ่นนี้หนาวคลาย

ถ้วนคำนึงน้อมสู่............................เพียงใคร
รอแต่ร่วมสายใย..........................สวาดิพ้อง
ซาบซึ้งกับความนัย...................ตรึงอก นี้เนอ
นานตราบนานจิตน้อง...............ฝากไว้ร่วมฝัน






"Pacta Sunt Servanda-สัญญาต้องเป็นสัญญา"







Friends' blogs
[Add พธู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.