Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
11 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

ฉันนี่แหละSinglemom บทที่ 6 นอกใจ










บทที่6 นอกใจ



ตอนบ่ายฉันมีประชุมอีกแล้ววันนี้ทุกคนหน้าตากระตือรือร้น เพราะเป็นวันสรุปผลงาน ฉันไม่สนใจเท่าไหร่เพราะฉันตั้งหน้าตั้งตาลุ้นตำแหน่งคุณเมษอยู่ ฉันเลยเตรียมพร้อมทุกวัน เรียกได้ว่าพร้อมเสมอ แถมฉันยังเป็นคนขี้โม้ ช่างจินตนาการต่อให้ถือกระดาษแผ่นเดียว ไปยืนหน้าห้องประชุม ฉันก็โม้ได้จนเที่ยงเลยล่ะ


วันนี้ คุณเมษขอให้ ยายแอนนี่ออกไปสรุปผลงานปีที่ผ่านมาของแผนกเสื้อผ้าผู้ชายที่เจ้าหล่อนดูแลอยู่ อ้อ มิน่าฉันเห็นคุณเธอ แว่บๆเมื่อเช้าแต่งหน้าซะหนา ฉันยังนึกค่อนในใจว่าสงสัยจะมีซิลิโคนเบสแบบขวดปั๊มอยู่ที่บ้าน


“เริ่มได้เลยค่ะ แอนนี่”
คุณเมษที่นั่งอยู่หัวโต๊ะยาวรูปโค้งเปิดการประชุมแบบง่ายๆ ทุกคนละมือจากของว่างแล้วเงียบ มองเจ้าหล่อน ที่ลุกขึ้นยืนอย่างเงอะงะ ทั้งๆที่ทำงานที่นี่มาพอๆกับฉันแต่แอนนี่ก็ยังเขินอายทุกรอบตอนพรีเซ็นต์งาน เพราะจากเสียงผู้คนรอบข้าง ที่บอกว่าฉันซึ่งเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งกับเธอ บุคลิกดีกว่า(มาก มากๆๆ)เธอเลยพยายามปรับปรุงตัว สู้ฉันก็ไม่ได้ ถึงใครๆบอกว่าฉันแสนจะร้ายจะหยิ่ง ฉันก็ยังหยิ่งเหมือนเดิม ใครจะทำไมยะ


วันนี้แอนนี่ใส่สูท ต๊าย ดูดีขึ้นนะยะ ถึงตรงกระดุมเม็ดที่สองจะตึงไปหน่อย สงสัยต้องขยับที่ ดันนั่งตรงกันข้าม เดี๋ยวมันดีดใส่ตาฉันเข้า แอนนี่ลุกขึ้น พยายามเดินอย่างมาดมั่นไปหน้าห้องแต่ด้วยรองเท้าส้นสูงที่ปรกติเจ้าหล่อนไม่ค่อยใส่ เลยดูเซไปมานิดๆเหมือนลูกยีราฟ(อ้วนๆ)ที่เพิ่งคลอด


“สวัสดีค่ะ ผู้จัดการแผนกจัดซื้อ และเพื่อนร่วมงานทุกคน” หล่อนเริ่มเวิ่นเว้อ ฉันพยายามระงับใจ ไม่หาวหรือหมุนเก้าอี้เล่น สายตาหล่อนกวาดไปทั่วห้องประชุม ไปสะดุดที่หน้าพี่ธัญญ์ หัวหน้าแผนกดิสเพลย์นิดนึง แล้วหน้าก็แดงพอๆกับแสงจากปากกาเลเซอร์ หล่อนก้มดูเอกสารอย่างเงอะงะ


“ดิฉันจะสรุปผลงานประจำปีของฝ่ายเสื้อผ้า ผู้ชายนะคะ...” โอ๊ย น่าเบื่อจัง ฉันเริ่มกวาดตามองนั่นมองนี่ แต่ก็ยังเงี่ยหูฟัง ฉันยากรู้แค่ยอดขายรวมๆว่ามากน้อยกว่าฉันขนาดไหน ส่วนการแนะนำตัวอะไรแบบนี้ เหมือนเด็กกำลังจะรายงานหน้าชั้นเลย ขี้เกียจฟังชะมัด



แอนนี่เริ่มฉายภาพจากจอ สองสามแผ่น ฉันเฝ้านึกไปถึงเจ้าอุปกรณ์ตรวจครรภ์ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ฉันจะตรวจที่นี่เลยดีไหมนะหรือกลับไปตรวจที่บ้านดี ถึงวันนี้ประจำเดือนก็ไม่มาครบเดือนแล้ว ฉันยังไม่มีอาการอะไรเลย กินอิ่ม นอนหลับ ฉันอาจจะวิตกกังวลไปเองมากกว่า
ก็ฉันเห็นในหนังเวลามีใครท้อง นั่งๆอยู่ก็จะเอามือปิดปาก ส่ายหน้า วิ่งไปเข้าห้องน้ำ แล้วทำท่าแหวะๆๆ แบบนั้น ฉันไม่เห็นเป็นอะรซักหน่อย บางทีฉันอาจจะคิดมากไปเองเหมือนเรื่อง....


“วันจันทร์หน้าเดี๋ยวเราจะให้มุ่ยมาสรุปผลการทำงานของแผนกเสื้อผ้าผู้หญิงนะคะ” ฉันหันหน้าไปทางเจ้าของเสียง คือ คุณเมษหัวหน้าฉัน ฉันรีบทำเหมือนว่าตั้งใจฟังอยู่ตลอดทันที ส่งยิ้มพิมพ์ใจแบบที่เอาไว้ยิ้มกับหัวหน้าโดยเฉพาะไปให้ พร้อมกับตอบเสียงหวาน


“ค่ะ คุณเมษ”ฉันเผื่อแผ่ยิ้มไปทั่วห้องประชุม อะไรเนี่ย เค้าประชุมจบแล้วเหรอสรุปยายแอนนี่มียอดขาย นำฉันอยู่เท่าไหร่ล่ะ ฉันลุกขึ้นตามคนอื่น แย่ล่ะสิแล้วฉันจะไปแอบรู้ได้ยังไงเนี่ย


“แสนนึง”พี่ซิมเดินผ่านฉันไปและกระซิบบอก
ฉันทำตาซึ้งใส่ด้วยความขอบคุณ ส่วนพี่ซิมทำหน้าเหมือนเหม็นอะไรซักอย่าง (อาจจะเป็นกลิ่นสาบชะนี)


"ทีหลังตั้งใจหน่อยนะยะหล่อน"พี่ซิมบ่น ค้อนฉันแล้วเดินลิ่วๆตามคุณธัญญ์ไป



แสนบาทต่อเดือนไม่มากไม่น้อย ฉันติดอยู่แค่ร้านสุดท้าย ฉันพลิกแฟ้มดู ร้านคุณญาดานี่แหละ เสื้อผ้าสาวอ้วนโธ่ ฉันดูยังไง ก็ไม่เห็นจะสวย ยอดขาย แค่เดือนละสามหมื่น ฉันกะจะไม่เอาตั้งแต่แรกแต่คุณเมษบอกว่าน่าจะลองให้โอกาสเค้าดู ฉันกดลิฟท์ลงจากออฟฟิศ ลงไปดูหน้าร้านเสียให้เต็มตาทันทีที่ฉันเข้าไปเดินหมุน อยู่ในร้าน พนักงานขาย ที่ตัวใหญ่กว่าฉันซักสามเท่าก็เอ่ยปากต้อนรับ


“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ ลองก่อนได้นะคะ” เธอมองหุ่นฉัน แล้วหันชะงัก ฉันไปมองเสื้อผ้าที่แขวนไว้ แหม ให้ลองเหรอ
ฉันสวมหัวแล้วมันคงร่วงลงพื้นไปเลย ใหญ่ขนาดนี้ แขวนยังไงก็ไม่สวย
ดูรุ่ยร่ายไปหมด


“มุ่ยเป็นฝ่ายจัดซื้อของห้างค่ะ” ฉันเฉลย


“อ้อ ค่ะ ให้หนูติดต่อคุณญาดาให้ไหมคะ” “หนู” ตัวใหญ่พูดเบาๆ
ดูเธอเกรงใจฉันขึ้นมาทันที


“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวมุ่ยติดต่อคุณญาดาเอง
แค่จะมาดูพื้นที่หน่อยน่ะค่ะ
” ฉันเดินโฉบไปมาด้วยมาดนิ่งๆ
พนักงานก็ดีอยู่หรอก อย่างน้อยก็ตั้งอกตั้งใจ แต่เสื้อผ้านี่ไม่ไหว ใครเป็นคนคิดนะ
ว่าเสื้อไซด์ใหญ่ต้องมีระบาย โบว์อันโตๆ พวกนี้ ยิ่งใส่ยิ่งอ้วน


ฉันพลิกดูราคาชุดกระโปรงลายเหมือนผ้าปูโต๊ะในละครย้อนยุคตัวหนึ่ง ตายยยย คนเราต้องซื้อผ้าปูโต๊ะมีแขนด้วยราคาเท่านี้เลยเหรอ มิน่าๆ
ฉันคิดไปถึงแบรนด์อื่นๆที่เสนอตัวเข้ามาขอพื้นที่นี้ร้านนี้ตกอันดับมาสามเดือนแล้ว ฉันต้องเอาออกก่อนจะพาฉันตกอับไปด้วย เดี๋ยวฉันต้องเรียกคุณญาดามาเฉ่งเสียหน่อยแล้ว


คุณญาดาไม่รับสายฉัน ไม่เป็นไร ฉันมีนัดประชุมกับคุณญาดาอีกทีในอีกสามสัปดาห์
ตอนนี้ก็โทรติดต่อแบรนด์อื่นไว้เลยแล้วกัน


หา คิดว่าฉันใจร้ายเหรอ คนสวยๆน่ะ ทำอะไรก็ดูดีย่ะ


เข็มนาฬิกาผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่สุดท้ายก็เลิกงาน ฉันโทรหาพี่ทะเล ปิดเครื่องอีกละ ฉันพยายามไม่หัวเสียอาจจะประชุมอยู่ก็ได้ฉันเลยส่งข้อความไปว่าไม่ต้องมารับ เดี๋ยวเจอกันที่คอนโดเลย ฉันจะเตรียมอาหารให้ไม่ต้องแวะซื้ออะไร แล้วรีบกลับบ้านเตรียมอาหารสิ้นคิดเพียงอย่างเดียวที่ฉันทำเป็น คือสปาเก็ตตี้ซอสครีม ใส่แฮม เห็นไหมดูดี ไม่เลอะ ไม่ต้องหั่นผักหมักหมู ทุกอย่างซื้อได้ที่ท็อปส์


ฉันนี่นะ ทำไมทั้งสวยทั้งฉลาดทั้งเก่งแบบนี้ก็ไม่รู้ กะว่าถ้าพี่ทะเลมาช้า ฉันจะแอบแว่บไปปล้ำกะเจ้าที่ตรวจครรภ์ใหม่


แต่หนึ่งทุ่มครึ่ง พอฉันเตรียมอาหารเสร็จพี่ทะเลก็เปิดประตูคอนโดเข้ามาพอดี เฮ่อ หล่อสม่ำเสมอดีจริงๆฉันรีบเข้าห้องน้ำไปเช็คความสวย แล้วออกมาเสริฟอาหาร


“หิวรึยังคะ เอาเบียร์ไหม มุ่ยแช่เย็นไว้แล้ว” ฉันฉอเลาะ ด้วยมาดของสาวเชียร์เบียร์


“พี่ทานมาแล้วนิดหน่อย เดี๋ยวอีกซักพักนะคะ” พี่ทะเลขยับเน็คไทน์ ส่วนสาวเชียร์เบียร์หน้าหงิกทันที


“อ้าว เหรอคะ พี่ทะเลไม่ได้รับข้อความมุ่ยเหรอคะ”


“ได้ค่ะ แต่พี่หิวมากเลยทานที่บ้านมานิดนึง ตอนนี้ยังอิ่มอยู่ ขอย่อยแป๊บนึง เดี๋ยวก็มาทานฝีมือมุ่ยต่อไงคะ ขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”


ฮึ่ม แต่ฉันหิวนะยะ จะโทรมาบอกก่อนซักนิดก็ไม่ได้ ฉันเริ่มระแวงขึ้นมาอีกทันที ฉันนั่งรอ จนพี่ทะเลอาบน้ำเสร็จ เราถึงเริ่มทานข้าวกัน วันนี้พี่ทะเลก็อาสาล้างจานอีก แถมบอกให้ฉันไปอาบน้ำ
จะได้มานั่งจิบอะไรเย็นๆที่ระเบียงกัน แหมฟังดูดีที่สุด ฉันก็เลยเดินไปอาบน้ำอย่างว่าง่าย


ปรกติ ฉันใช้เวลาอาบน้ำแทบจะพอๆกับการความยาวของข่าวภาคค่ำ กว่าจะ ชมโฉมตัวเองเสร็จ หมักผม ขัดหน้า มาร์คหน้า ขัดเซลลูไลท์ ขัดเท้าทาครีมสำหรับหน้า ทาครีมที่หน้าอกให้เต่งตึง ทาครีมที่รักแร้ให้ขาวทาครีมที่ข้อศอก เข่า ฉันทำแบบนี้เกือบทุกวันแหละ
ฉันเลยแปลกใจมากที่ออกมาแล้วพี่ทะเลยังคงล้างจาน สองสามใบอยู่


“ยังไม่เสร็จเหรอคะ”
ฉันเดินมาดู


“เสร็จพอดีเลยค่ะ”พี่ทะเลคว่ำจานใบสุดท้าย ฉันเหลือบมองนาฬิกา ห้าสิบนาที ต๊ายป่านนี้จานถลอกหมดแล้วมั้ง ทำอะไรอยู่นะ


“นานจัง”


“พี่ก็เก็บโต๊ะด้วยนี่คะ”พี่ทะเลทำเสียงขุ่น แต่พอรู้สึกตัว ก็รีบเปลี่ยนเรื่อง


“มุ่ยดื่มอะไรดีคะ”
แล้วโทรศัพท์พี่ทะลเก็สั่น มันวางอยู่บนโต๊ะทานข้าว เสียงเลยดังเป็นพิเศษ
ฉันจ้องหน้าพี่ทะเล
“มุ่ยหยิบให้นะคะ”


พี่ทะเลชะงักนิดหน่อยก่อนเปลี่ยนสีหน้าเป็นท้าทาย “เอาสิคะ”


ฉันเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สายเรียกเข้าคือ mom ฉันถอนหายใจ
ฉันระแวงมากไปจริงๆแหละ


“แม่อีกแล้ว เดี๋ยวพี่โทรกลับดีกว่า” ว่าแล้วพี่ทะเลก็ซุกโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเดินไปเปิดตู้เย็นฉันเลยเลิกกังวล ออกไปนั่งคุย ดูดาวกับพี่ทะเล ฉันกำลังเอาหัวซบไหล่พี่ทะเล ตอนที่โทรศัพท์ในกระเป๋าพี่ทะเลสั่นอีกหน พี่ทะเลยกขึ้นมาดู


“พี่ลืมโทรกลับแม่เลยค่ะมุ่ย
เดี๋ยวพี่ขอตัวแป๊บนะคะ
”


“ค่ะ”ฉันยิ้มหวาน” ออกมาช่วยหยิบน้ำเปล่ามาให้มุ่ยด้วยนะคะ” ฉันมองดาว
เอนตัวลงบนเก้าอี้ แล้วหลับตา แหม นอนตรงนี้เลยได้ไหมนะ ไม่นานพี่ทะเลก็เปิดประตูพรวดออกมา
เล่นเอาฉันสะดุ้ง


“มุ่ยคะ พี่ต้องรีบกลับบ้าน แม่ไม่สบายค่ะ” พี่ทะเลพูดรัวเร็วหน้าตื่น


“เหรอคะ” ฉันพลอยตกใจไปด้วย
“มุ่ยไปด้วยนะคะ จะได้ช่วยกัน”
ฉันรีบเดินกลับเข้าไปในห้องนอน เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า


“ไม่เป็นไรค่ะ”
พี่ทะเลจับมือฉันไว้
“พี่ไปก่อนดีกว่า เร็วกว่า” แหม ปกติฉันเปลี่ยนชุดแบบรีบๆแค่ครึ่งชม.เอง
พี่ทะเลคงกลัวแม่เป็นอะไรไปก่อนฉันจะเลือกชุดเสร็จ


“ก็ได้ค่ะ แล้วโทรบอกมุ่ยด้วยนะคะ”


“ค่ะ พี่อาจจะโทรมาพรุ่งนี้เลยนะคะ
วันนี้ที่บ้านอาจจะวุ่นๆ
” พี่ทะเล รีบเปิดตู้เสื้อผ้า
เปลี่ยนจากกางเกงขาสั้น เป็นกางเกงยีนส์อย่างรวดเร็ว จุ๊บแก้มฉันเบาๆ
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ นอนซะเถอะ”
คว้ำกุญแจรถแล้วรีบพุ่งออกประตูไป


ฉันนึกเป็นห่วงคุณแม่พี่ทะเลขึ้นมาทันทีพี่ทะเลเป็นลูกคนสุดท้อง คุณแม่พี่ทะเลถ้าฉันจำไม่ผิดก็ เจ็ดสิบกว่าเข้าไปแล้ว
พี่สาวพี่ทะเลก็ยุ่งๆอาจจะไม่อยู่บ้าน คุณแม่พี่ทะเลเลยโทรหาพี่ทะเลคนแรกฉันเก็บแก้วและขวดต่างๆเข้ามา ล้างมือ นึกได้ก็คว้ากระเป๋ามารื้อ หยิบเจ้าที่ตรวจครรภ์ออกมา


เอาละฉันอ่านวิธีใช้อย่างละเอียด อีกหนเค้าให้เอาปัสสาวะตอนเช้าแฮะ แต่ไม่เป็นไรมั้ง นี่ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว ตีห้าพระอาทิตย์ก็ขึ้นแล้ว (ขึ้นที่ไหนเหรอ)ตรวจก่อนแค่หกชั่วโมงคงไม่เป็นไร


ที่ตรวจครรภ์คราวนี้เป็นแบบที่ฉันต้องฉี่ใส่ถ้วยแล้วเอาหลอดดูดดูดมาหยดใส่ช่องแหมยังกับเล่นเกมส์ คราวนี้ฉันตั้งใจสุดๆ มีสมาธิเป็นเลิศ ของเหลวไหลลงถ้วยพลาสติกอย่างเหมาะเหม็ง
พอละเค้าเอาแค่สามหยด ฉันบรรจงหยดลงช่องที่กำหนด รอผลสามนาที พลางคิดไปว่า
ไม่น่าเชื่อเลยว่าแผ่นพลาสติกบางๆกับเวลาสามนาทีนี้จะเครื่องตัดสินอนาคตผู้หญิงมาแล้วหลายคน ถ้าผลคือ ท้อง ฉันจะทำยังไงต่อไปนะทั้งที่เริ่มมั่นใจแล้วว่าคงไม่ท้อง ฉันก็อดใจเต้นไม่ได้เวลาผ่านไปแค่หนึ่งนาทีตอนที่ฉันได้ยินเสียงนั้น



ตึ่ดดด ตืดดดดดดด ฉันขมวดคิ้ว เสียงดังอยู่หน้าประตูห้องน้ำ
ฉันชะโงกออกไปดู มันดังออกมาจากตระกร้าผ้าโทรศัพท์พี่ทะเลที่ลืมไว้ในกางเกงนั่นเอง ฉันรื้อกางเกงออกมา หน้าจอขึ้นว่า
mom ตายล่ะ
พี่ทะเลลืมโทรศัพท์ สงสัยคุณแม่อาการหนักขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้ ฉันรีบกดรับ
แล้วก็ได้ยินปลายสายดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะทันได้ ฮัลโหล



“ที่รัก ถึงรึยังอ่ะคะ”



คนพูดคงพูดด้วยเสียงธรรมดาแต่สำหรับฉันมันดังสนั่นเข้าไปถึงใจเหมือนพูดผ่านโทรโข่ง












Free TextEditor




 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2553
5 comments
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2553 11:56:07 น.
Counter : 269 Pageviews.

 

โหย...ถ้าเจอแบบนี้น้ำตาแตกแน่เลย
อ่านแล้วอึ้งตามเลย

 

โดย: darlingtalang 11 กุมภาพันธ์ 2553 14:10:13 น.  

 

อูยยย ประโยคสุดท้ายสุดเจ็บปวด

 

โดย: ลุงจอร์เจีย IP: 221.178.212.42 11 กุมภาพันธ์ 2553 14:23:27 น.  

 

สนุกดีนะคะ :D

 

โดย: Elizabeth Town 11 กุมภาพันธ์ 2553 15:35:03 น.  

 

โอ้ว.....ความลับเปิดเผย

เดาว่า นางเอกท้องแน่เลย

 

โดย: Halimeda Lover 11 กุมภาพันธ์ 2553 17:16:46 น.  

 

หูย มุ่ยน่าสงสารอะค่ะ

 

โดย: พลอย IP: 198.11.27.35 13 กุมภาพันธ์ 2553 5:38:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ขนมฝรั่งกุฏิจีน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับค่ะ

pk12th

Make it by Pk12th
Friends' blogs
[Add ขนมฝรั่งกุฏิจีน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.