Group Blog
 
 
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
29 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

ฉันนี่แหละSinglemom บทที่ 2 งาน เพื่อนและ คู่แข่ง









งาน เพื่อนและ คู่แข่ง


ฉันถึงที่ทำงานเช้ากว่าปกติมาก
ชนิดที่ รปภ.ถึงกับขยี้ตาเลยทีเดียว ขึ้นลิฟท์ แล้วเปิดประตูกระจกเดินผ่านโต๊ะที่จัดเรียงชิดกัน
คั่นไว้ด้วน
partition เก้าอี้ที่เป็นแถวยาวหลายตัวโดนเสื้อกันหนาวคลุมไว้
เป็นพรืด เหมือนว่ากลัวเก้าอี้มันจะหนาวงั้นแหละ ฉันเดินไปจนเกือบสุดห้อง หยุดที่โต๊ะคู่
หน้าห้องที่เขียนไว้ว่า ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ฉันมองบานประตูกระจก ที่มีฝ้ากั้นไว้ครึ่งหนึ่งด้วยความอยากเข้าไป
แต่ก็ต้องนั่งแหมะลงบนเก้าอี้หน้าห้อง ที่โต๊ะมีรูปของฉัน ที่ดูดีกว่าตัวจริงสามเท่า
(แม้ว่าตัวจริงฉันก็แสนจะดูดีอยู่แล้วนะยะ ) ชื่อตำแหน่งเขียนว่า
Acct. Manager ซึ่งแปลว่า
คนที่พยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็น
Manager คนต่อไป ฉฉ เชิดหน้า
เหมือนว่ามีหลายสายตาจ้องมองอยู่ (ทั้งที่ยังไม่มีใครมา)
ถอดเสื้อไหมพรมตัวนอกออก
บรรจงพับครึ่งตัวแล้วพาดไว้บนพนักอย่างมีรสนิยม
(ฉันเคยอ่านในหนังสือวิธีทำตัวให้ดูดีน่ะ ว่าทำแบบนี้แล้วจะดูดี๊ ดูดี)


แล้วคนดูดีอย่างฉัน อยู่ๆก็รู้สึกชื้นๆที่กางเกงใน
โอย มาแล้วนี่นา ประจำเดือนที่รอคอย ฉันรีบเดินพรวดพราดเข้าห้องน้ำ
ลืมมาดดูดีเสียหมด เปิดชั้นในออกดู พรึ่บ ใช่ไหม
????



แต่



ยังคงว่างเปล่า โอยๆ แค่อุปทานเองไปเอง


กลับมานั่งที่โต๊ะ แอบเข้าweb เปิดดู กำลัง search คำถาม พอเริ่มพิมพ์


จะท้องไห…. ฉันพิมค้างอยู่กลางประโยค เพราะอากู๋แสดงผลข้างล่างว่า



มีผลการค้นหา คำว่า จะท้องไหม 5 ล้านกว่าครั้ง


จะท้องรึเปล่า 17 ล้าน


จะท้องหรือเปล่า
ห้าล้านห้า



เยี่ยม


นี่ฉันซื่อบื้อแค่ไหนนะ ที่ต้องหาคำตอบเรื่องนี้
ตอนอายุสามสิบ แถมอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ของห้างสรรพสินค้าใหญ่



ฉันว่าทุกคนที่ search หาคำตอบ ก็อยากจะให้คนมาตอบสนับสนุนว่า
ไม่ท้องหรอกค่า ถ้าคนอยากท้องจริงๆ
ก็คงแจ้นไปโรงพยาบาลแล้วสิ ฝากครรภ์ ซื้อรถเข็น
จินตนาการถึง กลิ่นแป้ง เสียงร้อง และอ้วกเด็ก


ฉันคิดไปเรื่อยเปื่อย ซักพักก็รู้สึกเหมือนห้องมืดลงกะทันหัน
ฉันเงยหน้าขึ้น รีบกดย่อหน้าจอลงโดยอัตโนมัติ เมื่อแอนนี่พาน้ำหนักเกือบร้อย
บังหลอดไฟจนห้องมืดลงเหมือนมีสุริยุปราคา หล่อนนั่ง ลงบนเก้าอี้ ที่ส่งเสียงออดแอด
เหมือนกำลังเจ็บปวดที่โดนทับ


แอนนี่ทำหน้าแบบ
ฉันไม่ละลาบละล้วงหรอกนะว่าเธอทำอะไรอยู่ แต่สายตามองแว่บที่หน้าจอฉันอย่างรวดเร็ว
ฉันเปิดหน้าจอหน้าเป็นข่าวภาคเช้าไปแล้ว ดูมืออาชีพมาก สนใจข่าวสารบ้านเมือง



“มาแต่เช้าเชียวนะ
มุ่ย ไม่น่าเชื่อ
”



หล่อนเริ่มพ่น “ กินอะไรมายัง เราซื้อ ปาท่องโก๋มา กินด้วยกันไหม”



ฉันมองปาท่องโก๋ที่นอนมันแววอยู่ในถุงพลาสติกใบเล็กอย่างสยอง


ไม่ล่ะ เชิญเหอะ เดี๋ยวอ้วนตายพอดี
(อันนี้คิดในใจ) แต่ปากตอบไปว่า
“กินมาแล้ว แอนกินเหอะ


”


ฉันเมินหน้ามาอ่าน
เอ้อ ข่าว ในหน้าจอต่อ ปล่อยให้ ยายแอนคาปาท่องโก๋ เข้าปากไป


เฮ่อ สงสารปาท่องโก๋


แอนนเป็น Acct.
Mannerger
เหมือนฉัน ซึ่งแปลว่า
มีคนที่จะทำทุกทางให้ได้เป็น
Manager คนต่อไปถึงสองคน ไม่ยุติธรรมเลย ฉันกะแอนนี่
นั่งโต๊ะติดกันมาสองปีแล้ว


ปีแรกๆ
เราดีต่อกันมาก และออกไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันบ่อยๆ เมื่อก่อนฉันไม่เคยเห็นว่า
หุ่นทรมานเก้าอี้ของเธอขวางตา เราแลกเปลี่ยนเครื่องสำอาง
และเครื่องประดับกันอย่างสนุกสนาน


จนเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เมื่อ เราทั้งคู่ได้รู้ข่าวลับๆมาว่า คุณเมษ
เมเนอเจอร์คนปัจจุบันกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
ทำให้เรารู้ได้โดยอัตโนมัติว่า คุณเมษกำลังอยู่ระหว่างตัดสินใจว่า เราคนใดคนหนึ่งจะได้เข้าไปนั่งในห้องทำงานส่วนตัวนั่นแทนเธอ
ความสัมพันธ์ของเราก็สั่นคลอนทันที
แรกๆก็ไม่เท่าไหร่ แต่พอคนแซวเราหนาหูเข้า
เราก็ห่างกันโดยอัตโนมัติ


คนที่เชียร์แอนนี่
ก็บอกว่าเธอมีศักยภาพ มนุษย์สัมพันธ์ดี มีอารมณ์ขัน เสียแต่น้ำหนักร่วมร้อยของเธอเป็นตัวถ่วงให้บุคลิกดูไม่เหมาะกับ
ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเท่าไหร่


ส่วนฉัน
คนที่เชียร์ฉัน ก็เห็นว่าฉันสวยปิ๊ง เป็น ผจก.ขั้นมาก็ออกจะเชิดหน้าชูตาแผนกอยู่
แต่นิสัยเสียของฉันน่ะ คือหยิ่ง ขี้ประชด แสนงอน


โอ๊ย ไม่รู้ เอาที่ไหนมาว่าฉัน นี่มันนิสัยคนสวย
คนสวยๆที่ไหนเค้าก็นิสัยแบบนี้ทั้งแหละย่ะ



“ว่าไง ไปไหนกันมาวันหยุด” พี่ธัญญ์ ฝ่ายDisplay
เดินโฉบมา ยายแอนนี่ หน้าแดงแป๊ด
ส่งผลให้ปาท่องโก๋ดูเป็นสีชมพูเรืองรองไปด้วยทันที ก็แอนนี่แอบชอบพี่ธัญญ์อยู่ ยายคนนี้อ่านง่ายยังกับหนังสือนิทาน ฉันยักไหล่พองาม แล้วบอกว่า


“มุ่ยไม่ได้ไปไหนพิเศษ
ไปทานข้าวกับแฟน
”


“แอนนี่ล่ะ”


“เอ้อ ไป จตุจักร ค่ะ
แอนไปเดินเล่น ไปคนเดียว
”
ต๊าย รีบออกตัวล้อฟรี ว่ายังโสด ร้ายนะยะเธอ
“พี่ธัญญ์ ไปไหนมาบ้างคะ”


ฟังถึงตอนนี้
ฉันก็แสนจะเลี่ยนโดยไม่ต้องรอให้ปาท่องโก๋อมน้ำมัน ฉันลุกเดินทำทีถือกระเป๋าไปเติมเครื่องสำอาง
ปล่อยนางอายกับนายไม่รู้อะไรเลยเค้าคุยกันต่อไป คนเริ่มมากันเกือบเต็มห้อง
ผู้ชายแทบทุกคนอดมองฉันไม่ได้ ทั้งเหลือบมอง จ้องมอง อ้าปากมอง แต่ฉันชินแล้วล่ะ
เหมือนลูกหมามองปลากระป๋องที่อยู่ในกล่องนิรภัย ไม่ได้แอ้มเสียล่ะ



วันนี้ฉันมีนัดประชุมแค่ช่วงเช้า ฉันรับผิดชอบดูแลส่วนพื้นที่ขายของเสื้อผ้าผู้หญิงทั้งหมด
ฉันต้องคอยดูให้ยอดขายมันพรุ่งพรวด ถึงเป้า ทะลุได้ยิ่งดี พอร้านไหนเริ่มยอดตก
ฉันก็ต้องเรียกมาฉะ เอ๊ย เรียกมาคุย


วันนี้ถึงคิว คุณญาดา เจ้าของ Brand
Pussy Cat
ฉันจับตาเจ๊คนนี้มานานละ
หล่อนขายเสื้อผ้าคนอ้วน สาวเจ้าเนื้อ ไซด์ใหญ่ อะไรแบบนั้น ซึ่งในสายตาฉัน
ฉันไม่คิดว่าผู้หญิงเรา ควรจะหาเสื้อมาให้ใหญ่เท่ากับตัว
แต่ควรจะทำตัวให้เล็กพอจะใส่เสื้อผ้าทั่วๆไปได้ต่างหากล่ะ


คุณญาดามองฉัน
เหมือนนักเรียนที่ลืมส่งการบ้านมองครู ฉันปรายตามองแฟ้มยอดขาย
อันที่จริงหน้าที่ของฉัน คือทำให้ยอดขายโดยรวมดีขึ้น ซึ่งฉันทำได้ทั้ง
ตัดร้านที่ขายแย่ออก เอาร้านใหม่เสริม รวมถึงพยายามช่วยร้านที่ขายแย่ให้ดี แต่แหม
อย่างแรกมันง่ายกว่านี่นะ ฉันก็ไม่เห็นด้วยตั้งแต่คุณเมษให้พื้นที่กับคุณญาดา
แต่คุณเมษก็ยืนยันจะให้โอกาสเอง ฉันแอบสืบมาแล้วว่าขาดอีกไม่กี่แสน
ยอดขายของแผนกฉันก็จะแซงของยายแอนนี่แล้ว


“ยอดไม่ค่อยดีเลยนะคะ คุณญาดา” ฉันเริ่ม


“ขอเวลาอีกซักพักนะคะ ญาดากำลังปรับเปลี่ยนเรื่องแบบ
อีกไม่เกินสามเดือน ยอดก็จะดีขึ้น
”


ฉันพยักหน้าแบบเข้าอกเข้าใจ
และพยายามกลั้นหาวอย่างยากเย็น ตาเหลือบไปมองเล็บ
ตายละ ถลอกแล้ว ต้องหาเวลาไปทำเล็บ บ่ายนี้ดีกว่า


“ นี่ค่ะ ฉันเอาแฟ้มงานออกแบบของเดือนหน้ามาให้ดูด้วย” เธอเริ่มเปิดแฟ้มไปทีละหน้าช้าๆ


ส่วนฉันจินตนาการถึง ร้านใหม่ที่จะเข้ามาเสียบ อืม เลือกเอา แบรนด์จากนอกท่าจะดีนะ
มีมาเสนอหลายรายแล้ว ฉันก็ไม่มีพื้นที่ลงให้เค้า นี่ถ้าตัดร้านของยายญาดานี่ออกไป ทีนี้ละ
ยอดขายฉันก็จะพุ่งเกินหน้ายายแอนนี่
แอนนี่ดูแลส่วนเสื้อผ้าผู้ชายและกีฬา
น่าเบื่อ แต่ก็เหมาะกับเธอดี เย็นนี้พี่ทะเลจะกลับเร็วไหมนะ
ฉันยากจะแวะช็อปเสียหน่อย . ง่วงจังวันนี้ยังไม่ได้กินกาแฟเลย
มัวแต่หาข้อมูลเรื่องท้องไม่ท้อง พอคิดเรื่องท้องฉันก็วิตกขึ้นมาอีก.....


“...นะคะ คุณมุ่ย” คุณญาดาปิดแฟ้ม
พร้อมมองฉันด้วยสายตาเว้าวอนอีกรอบ


“ อ่ะ ค่ะ เอ้อ ค่ะ” ฉันตื่นจากความคิดยาวเหยียด “ ก็มุ่ย จะคุยกับทางผู้ใหญ่ให้นะคะ
แล้วมุ่ยจะนัดคุณญาดามาคุยอีกทีนะคะ
” ฉันตอบไปแบบอัตโนมัติ
แล้วรีบชิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว



เที่ยงพอดี ฉันโฉบไปแผนกDisplay
เจอ คุณธัญญ์ เข้าให้ “มีอะไรให้ช่วยไหม น้องมุ่ย”


ฉันเย้าไปว่า “ มุ่ยมาชวนพี่ธัญญ์ไปทานข้าวค่ะ”


“อ้อ ครับ” พี่ธัญญ์ทำหน้าเหมือนฉันเพิ่งบอกว่าจะแต่งงานด้วย
เล่นเอาฉันขนลุก รีบเฉลยโดยไว ก่อนจะต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง
“มุ่ยมาหาพี่ซิมค่ะ”


“ป่ะ” เจ้าของชื่อ พี่ซิม หรือซิมมี่ที่แกชอบเรียกตัวเอง
พุ่งออกมาจากด้านโต๊ะด้านใน คว้าแขนฉันแล้วก็พาเดินออกมาจากจุดเกิดเหตุทันที พี่ซิมหล่อสุดๆในชุดเนี้ยบ
ที่คนทั้งแผนก
Displayซึ่งต้องทำนู่น ตอกนี่ ยกนั่น ตลอดเวลาเค้าไม่ใส่กัน “เดี๋ยวนะ ขอตบแป้งก่อน”


ลากฉันมาได้ถึงหน้าห้องน้ำ พี่ซิมก็ค้นตลับแป้งออกมาจากกระเป๋า
แล้วเดินนวยนาดเข้าห้องน้ำไป พี่ซิมเป็นเพื่อนสนิทของฉัน
เราถูกชะตากันตั้งแต่วันแรกที่มาสัมภาษณ์งานที่นี่แล้วเจอกัน แกแนะนำตัอย่างไม่อ้อมค้อมว่า
“ชั้นซิมมี่นะ
เป็นเก้ง
”















>




Free TextEditor




 

Create Date : 29 มกราคม 2553
0 comments
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2553 11:55:00 น.
Counter : 317 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ขนมฝรั่งกุฏิจีน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับค่ะ

pk12th

Make it by Pk12th
Friends' blogs
[Add ขนมฝรั่งกุฏิจีน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.