สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
เมนูอาหารจานเดียวในวันนี้เกิดจากการเห็นภาพข้าวผัดปลาทูย่าง ในนิตยสาร meal me vol.12 ค่ะ แต่ที่บ้านมีปลาทูทอดเหลือจากวันก่อน ส่วนวัตถุดิบอื่นๆมีในตู้เย็นอยู่แล้วไม่ต้องซื้อหาเพิ่ม จึงได้ออกมาเป็นเมนูนี้ค่ะ
ข้าวผัดปลาทูทอด
อีกเหตุผลที่ทำเมนูข้าวผัดคือ จะได้รับประทานกับมะนาวที่คุณพ่อปลูกที่บ้านเชียงใหม่ มะนาวพันธุ์นี้เปลือกอาจหนากว่ามะนาวแป้นเล็กน้อย แต่ผลโต น้ำเยอะ และที่ชอบพิเศษคือไม่มีเมล็ดค่ะ
ส่วนผสม
ปลาทูทอด 2 ตัว ข้าวกล้องหุงสุก ไข่ไก่ 2 ฟอง แครอท พริกหวานสีเหลือง กระเทียม หอมหัวใหญ่ ต้นหอม ซีอิ๊วขาว ผงปรุงรสเห็ดหอม เกลือ พริกไทย น้ำมันพืช มะนาวและผักชี
วิธีทำ
1. เลาะก้างปลาทูทอดออก
ล้างและหั่นผักต่างๆเตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันพืชในกระทะ พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมสับลงไป
ตามด้วยแครอท และหอมหัวใหญ่
หลังจากผัดแครอทและหอมหัวใหญ่สักพัก ใส่พริกหวานสีเหลือง
3. ใส่เนื้อปลาทูเลาะก้างแล้วลงไป
ตามด้วยไข่ไก่
ผัดสักครู่ จากนั้นใส่ข้าวกล้องหุงสุก ความที่ จขบ.ผสมข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่ และงาดำคั่วป่นก่อนหุง ทำให้ข้าวที่บ้านจะออกมาเป็นสีนี้ค่ะ
4. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ผงปรุงรสเห็ดหอม และเกลือป่นเล็กน้อย ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน ท้ายสุดโรยต้นหอมซอยค่ะ
หั่นมะนาวที่พ่อปลูกใส่จาน
ตักข้าวผัดปลาทูทอดใส่พิมพ์ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยอีกครั้ง
ข้าวผัดปลาทูทอด
จากปลาทูทอดที่เหลือ เปลี่ยนเป็นอาหารจานง่ายอีกเมนู ที่สำคัญได้รับประทานกับมะนาวเปรี้ยวๆ ถูกใจจริงๆค่ะ
ท้ายบล๊อกวันนี้ พูดถึงมะนาวจากเชียงใหม่แล้ว ทำให้นึกถึงการเดินทางไปเชียงใหม่ครั้งที่ผ่านมาค่ะ ก่อนเดินทาง จขบ.ไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่ชั้นหนังสือเห็นหน้าปกหนังสือเล่มหนึ่งสะดุดตาด้วยภาพการ์ตูนสีสันน่ารัก อ่านคำนำ สารบัญ และคำโปรยปกหลังทราบว่าเป็นการรวมเล่มจากเรื่องเล่าเป็นตอนๆ จากนิตยสาร Tango ของแอร์โฮสเตสสาวชาวไทยที่ไปใช้ชีวิตในตะวันออกกลาง
เป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงของหญิงสาว ที่ไม่ท้อถอยในการทำตามความฝัน เริ่มต้นได้ทำงานสายการบินในประเทศกระทั่งก้าวไกลจนถึงเครื่องบินพระที่นั่ง ของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งประเทศเศรษฐีน้ำมัน
หลังจากซื้อมาทำให้ได้อ่านเรื่องราวหลากรส หลายอารมณ์ ด้วยสำนวนการเขียนที่อ่านสนุก พลอยทำให้การเดินทางไป-กลับ เชียงใหม่-กรุงเทพฯของ จขบ.ครั้งนี้ เพลิดเพลินเหมือนมีเพื่อนเดินทาง อ่านๆไปก็พักสายตา เงยหน้าชมวิวข้างทางเป็นระยะๆ รู้สึกราวกับว่าระยะเวลาในการเดินทางสั้นลง
เนื้อหาแต่ละตอนเช่น การโกอินเตอร์ไปอยู่เมืองแขก ฝึกให้เป็นแอร์ฯ มรสุมชีวิต ไต่บันไดเมฆ ย้ายบ้าน วังลอยฟ้า ล่าเงินดอลล์ พระราชา และอื่นๆ ล้วนอ่านสนุก โดยเฉพาะตอนที่ จขบ.สนใจเป็นพิเศษเห็นจะเป็นเรืื่องอาหารการกินค่ะ
ผู้เขียนหรือเพื่อนๆเรียกชื่อว่า จี้ช เล่าถึงการทำอาหารไทยที่บ้านพัก แล้วเชิญเพื่อนร่วมงานมาปาร์ตี้ที่บ้านในวันว่าง โดยทำอาหารตั้งแต่ข้าวต้มเครื่อง ข้าวต้มกุ้ย ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ผัดซีอิ๊ว และอาหารต้ม ผัด แกง ทอด เป็นที่ถูกอกถูกใจเพื่อนฝรั่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษ
นอกจากเล่าถึงอาหารทำที่บ้านแล้ว ผู้เขียนยังถ่ายทอดประสบการณ์ถึงอาหารที่ทำงาน หรือบนเครื่องบินวีไอพีด้วยค่ะ ความที่ผู้โดยสารอาจเป็นเจ้าผู้ครองนคร เจ้าชาย เจ้าหญิง คณะรัฐมนตรี ผู้ติดตาม เลขา นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ นักข่าว บอดี้การ์ด หมอ หรือพยาบาล อาหารที่สั่งขึ้นเครื่องจึงต้องหลากหลายสำหรับผู้โดยสารหลายเชื้อชาติและสัญชาตินะคะ บางครั้งอาจเป็นสเต็กเนื้อสันอย่างดี กุ้งมังกรอบเนย เนื้อแกะนิวซีแลนด์ อาหารทะเลจากเมดิเตอร์เรเนียน
แต่อ่านแล้วประทับใจคือ คราใดที่ผู้เขียนได้ทำตำแหน่งเพอร์เซอร์หรือตำแหน่งหัวหน้าไฟลท์ ก็จะสั่งต้มยำซุปของไทยขึ้นเครื่องค่ะ นับเป็นการแนะนำอาหารไทยให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก แถมได้รับความนิยมกระทั่งเสิร์ฟหมดในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย
ในตอนอาหารการกินนี้มีเรื่องราวที่เกิดการเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Tom Yam Soup ที่อ่านแล้วเรียกรอยยิ้มได้อีกด้วยค่ะ
หนังสือเล่มนี้นับเป็นอีกเล่มที่อ่านเพลินค่ะ ได้เห็นการใช้ชีวิต ความมุ่งมั่น ความมานะพยายาม การปรับตัวของผู้เขียน ได้เห็นฉากประเทศแถบตะวันออกกลาง ได้รู้เรื่องราวแปลกๆใหม่ๆ
แม้ฉากชีวิตนางฟ้าได้ปิดแล้ว แต่ตัวหนังสือที่ถ่ายทอดจากความทรงจำยังคงอยู่ ขอบคุณเพื่อนร่วมทางของ จขบ.ในครั้งนี้
ชีวิตนางฟ้า
ผู้เขียน จิรพรรณ พุ่มแก้ว สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 310 หน้า ราคา 290 บาท
ขอบคุณทุกท่านที่แวะชมนะคะ ขอบคุณคุณป้าเก๋าและคุณพีชสำหรับของแต่งบล๊อก พบกันใหม่บล๊อกหน้าค่ะ
|