Mens Uno Magzine (China)

มิถุนา 2007 แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย Paige (ตุ้งแทบจะกระโดดตัวลอยเลย เพราะเธอกลับจากทัวร์มาปั๊บก็แปลให้ปุ๊บ ) RICHIE JEN: CHIVALRY AND GENTLENESS ถ้ามีโหวตเกี่ยวกับ ตัวละครที่ผู้ชายอยากแสดงหล่ะก็ เอี้ยก้วย เล่งฮู้ชง ชอลิ้วเฮียง น่าจะได้อันดับต้นๆ เยิ่นเสียนฉีถือว่าโชคดีมากๆ เพราะ ตัวแสดงที่ผู้ชายหลายคนวาดภาพไว้ เค้าได้เล่นมาหมดแล้ว บางทีอาจจะเป็นเพราะเค้าเล่นหนังฮีโร่มากไป นั่นถึงเป็นเหตุว่าทำไมชีวิตจริงของริชชี่ถึงได้รับจิตวิญญาณมาเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต "ไหล่นี้มีไว้เพื่อแบกรับภาระ กับหน้าที่ความรับผิดชอบ และสามารถที่จะดูแลผู้คนรอบตัวคุณ" นี่เป็นเหมือนกับจอมยุทธในนิยายกำลังภายใน เป็นสิ่งที่เค้าอธิบายถึงตัวเอง และเค้าก็สามารถทำมันได้จริงซะด้วย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม มันถึงไม่สำคัญว่าตัวละครที่เคยแสดงจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะเรามีเหตุผลพอที่จะเชื่อได้ว่า เยิ่นเสียนฉี ในชีวิตจริงของเค้าเองก็เหมือนกำลังเล่นบทของฮีโร่อยู่ ร้องเพลงก็เป็นรูปแบบของการแบ่งปันอย่างหนึ่ง หลายปีที่ผ่านมา ริชชี่ค่อนข้างเก็บตัวเงียบในวงการเพลง ในวันที่คุณไม่สามารถได้ยินเสียงเพลงของเค้า ที่แฟนๆ ทำได้ก็แค่ไปคาราโอเกะ แล้วเลือกเล่นเพลง ‘Sad Pacific’, ‘To Be Free’ และเพลงคลาสสิกอื่นๆ เพื่อย้อนความทรงจำ แต่เดือนพฤษภาคมปีนี้ ในที่สุดริชชี่ก็ออกอัลบั้มใหม่ของเค้า ‘If Life’s goin’ without you’ "คนจัดทำอัลบั้มกับผมคุยกันเกี่ยวกับอัลบั้มนี้มานานมาก พวกเราเชื่อว่าด้วยอายุและประสบการณ์ของผมแล้ว เราควรจะปรับแต่งทิศทางของเพลงและเปลี่ยนสไตล์ที่ผมเคยเป็นมา อย่างเช่น เพลงที่เด็กเกินไปรึเอนเตอร์เทนเกินไปก็ไม่เหมาะกับผมอีกแล้ว แต่ไม่ว่ายังไง ภาษิตของผมในการร้องเพลงก็ยังเหมือนเดิม นั่นคือ สร้างอารมณ์ให้คนที่ได้ฟังเพลงเกิดความประทับใจ สิ่งเดียวที่เปลี่ยนคือองค์ประกอบในการนำเสนอนิดหน่อย เหมือนกับการเต้น จะมีเสต็ปเยอะหรือน้อยมันก็เหมือนกัน และมันก็มีเป็นล้านวิธีที่จะนำเสนอสไตล์และการเคลื่อนไหวในแต่ละแบบ" นอกจากจะมีเพื่อนดีอย่าง เถาจิงหยิง ที่ช่วยทำอัลบั้มแล้ว สิ่งที่ทำให้ริชชี่ตื่นเต้นมากในครั้งนี้ก็คือเพลงที่ถูกเลือกเหมาะกับหนังและโฆษณาหลายเพลง "ที่จริงแล้วผมไม่ได้เลือกเพลงที่จะเป็นหนังรึโฆษณาอย่างรอบคอบนัก ในทางกลับกัน มันหลังจากที่ผมอัดเพลงจบแล้วต่างหากถึงได้พบว่าเพลงนี้มันน่าจะเหมาะกันดีกับโฆษณานั้น และเพลงนั้นน่าจะเหมาะกับหนังเรื่องนี้ ระหว่างที่อัดเพลง ผมจะจินตนาการถึงภาพของเพลงๆ นั้น และบางคราวมันก็เข้ากันได้ดีกับหนังหรือโฆษณา ไอ้เรื่องบังเอิญอย่างนี้มันเกิดขึ้นได้ยากกว่าถูกล๊อตเตอรี่ซะอีก – มันเป็นรูปแบบในการดึงดูดอย่างนึง" ไม่ว่าจะบังเอิญหรือไม่ โฆษณาก็เป็นตัวช่วยผลักดันที่ดี และแน่นอนว่าช่วยเพิ่มยอดขายให้อัลบั้มด้วย เพลงในแทร็กแรก 'Zhu Xian, Wo Hui Lai' เหมาะกับโฆษณาของเกมส์ออนไลน์ ใน MV ริชชี่เล่นเป็นตัวละครเอกของเกมส์ และด้วยประสบการณ์ในการเล่นบทจอมยุทธ เค้าจึงเล่นได้อย่างง่ายดาย ในอาชีพนักร้องของริชชี่ เค้าเคยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มาครั้งนึง กับเพลง 'Heart Too Soft' ซึ่งเป็นเหมือนเพลงประจำตัวไปแล้ว จนถึงวันนี้ก็ยังยากที่จะข้ามไปได้ ริชชี่พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ในอาชีพเค้า ผู้ช่วยที่มีค่าที่สุดคือคนแต่งเพลง,เสี่ยวฉง "ในการร้องเพลง ต้องเริ่มต้นด้วยการมีพรสวรรค์ (ในการร้องเพลง) บวกกับการฝึกซ้อมที่เพียงพอที่ทำให้เสียงของคนคนนึงเพราะขึ้น แต่ทักษะและพื้นฐานการร้องเพลงก็เป็นแค่ขั้นเริ่มต้น ทักษะในการแสดงอารมณ์และทำให้มันเกี่ยวโยงกันนั้นสำคัญที่สุด ไม่เพียงแต่ในอาชีพนักร้องของผมที่เสี่ยวฉงช่วยไว้เยอะ แต่ในชีวิตของผม พี่เค้าก็ให้ความรักและแรงสนับสนุนมาตลอด สอนให้ผมได้เรียนรู้และได้คิด ทำให้ผมไม่ลำพองในความสำเร็จมากเกินไป และไม่หลงทาง ทุกๆ อย่างมาจากจิตใจ ร้องเพลงก็เหมือนกัน คุณต้องร้องจากใจเพื่อที่จะสามารถสั่นคลอนคนอื่นได้" มันจริงที่เพลงของริชชี่เป็นที่นิยม องค์ประกอบใหญ่ๆ คือเพื่อมวลชน แต่บางที อาจเป็นเพราะมันมากไปสำหรับมวลชน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามาถดึงดูดพอที่จะได้รับรางวัลใหญ่ๆ ที่ไต้หวันได้ "ในวงการเพลงนั้น จริงๆ แล้วผมอยากจะสร้างสะพานสื่อสารไปยังหัวใจของแฟนๆ มากกว่า สำหรับผม การร้องเพลงก็เป็นเหมือนรูปแบบของการแบ่งปัน พูดถึงรางวัล ใครๆ ก็อยากได้ ผมเคยคิด ว่าทำไมผมถึงไม่ได้รางวัลเลย แม้ว่ายอดขายจะดีมาก บางที เพลงของผมอาจจะเอื่อยเกินไป มากไปสำหรับคนอื่น เลยไม่ได้ไปขึ้นแท่นกับเค้า แต่ถ้าให้เลือกระหว่างความต้องการสำหรับความเป็นศิลปินและสำหรับผู้คน ผมอยากจะเลือกอย่างหลังมากกว่า" ชีวิต มักจะมีข้อติของตัวมันเอง ตามที่ริชชี่ว่า ถ้าไม่จบชีวิตไปซะก่อน เราก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะไปไหนบ้าง มันเหมือนกับการปีนเขาสูง อาจจะมียอดเขาหลายอันกว่าคุณจะขึ้นไปถึงอันสุดท้าย แต่ก็นั่นแหล่ะ มันไม่ได้หมายความว่าสิ้นสุด บางทีอาจจะยังมีการท้าทายที่มากกว่ารออยู่ข้างหน้า ทิ้งภาพป๊อปสตาร์เพื่อการแสดง นอกจากออกอัลบั้มใหม่แล้ว ริชชี่ยังถ่ายหนังเรื่อง Contract Lover ด้วย ดาราที่ประกบคู่กับเค้าคือ ฟ่านปิงปิง และผู้กับกับชาวฮ่องกงที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี Alfred Cheung มันเป็นหนังตลกเบาสมองผสมบทบู๊อีกนิดหน่อย ผมเล่นเป็นคนใจดี แต่ละเอียดรอบคอบ และทันคน มันดูน่าท้าทายหน่อยๆ ที่จะเล่นบทนี้เมื่อเทียบกับบทคนดีที่เคยเล่นมาก่อน แต่ พูดถึงความท้าทายแล้ว มันยากที่จะไม่เอ่ยถึงการทำงานกับผู้กำกับตู้ฉีฟง ในหนังเรื่อง Breaking News (ปล้นถึงลูกถึงคน) กับ Exiled (โหดกระหน่ำมังกร) ตอนที่ผู้กำกับหม่าเจอผม มันเป็นเพราะเพลงที่ผมร้องให้ผู้ชม (หมายถึงเฮียดังมากเพราะคนชอบเพลงของเฮีย แล้วผู้กำกับก็เลือกเฮียมาลองเล่นเรื่องนี้หน่ะ) และพอผมเล่นเรือง Fly Me to Polaris (ขอเพียง 5 วันให้ฉันรู้หัวใจเธอ ) ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะดังขนาดนั้น หลังจากนั้น ผู้กำกับหลายคนก็มาขอให้ผมเล่นบทคล้ายๆ กัน นอกจากบทธรรมดาๆ แล้ว ใครๆ ก็สงสัยเรื่องฝีมือการแสดงของผม แต่ตู้ฉีฟงมีสายตาที่แหลมคมค้นพบว่าตาของผมสามารถฉายแววร้ายได้ เค้าขอให้ผมเล่นเรื่อง ปล้นถึงลูกถึงคน และทำให้คนดูเกิดความประทับใจมาก แม้ว่ามันจะเป็นบทตัวโกง แต่เทียบกับบทฮีโร่ในหนังกำลังภายในแล้ว ‘Breaking News’ และ ‘Exiled’ ก็สร้างการกล่าวถึงในแง่ดีมากว่า "ผมไม่คิดมากที่จะเล่นบทตัวโกง ที่จริงแล้วในหนังส่วนใหญ่ พวกตัวร้ายจะมีคาแร็กเตอร์มากกว่า มีตื้นลึกหนาบางและสีสันมากกว่า พวกเค้าเสียสละตัวเองในหนังและกลายเป็นฮีโร่ หลักๆ ก็คืออย่าทำให้คนเกลียดคุณมากเกินไป และพยายามทำให้คุณได้รับแรงเชียร์จากผู้ชม" หลังจากถ่ายหนังมาหลายเรื่อง ผู้กำกับคนไหนที่ริชชี่อยากจะร่วมงานด้วยบ้างในอนาคตนะ? "ที่จริงผมมีความความสัมพันธ์อันดีกับผู้กำกับ Zhang Yang และ Cha Zhang-Ke แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่พวกเค้าเลือกนักแสดง เค้าจะไม่คิดถึงผม บางทีอาจเป็นเพราะว่าพวกเค้าคิดถึงภาพพจน์ป๊อปสตาร์ของผม ผมหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานด้วยกันกับพวกเค้าในอนาคต" ความรับผิดชอบของผู้ชายอายุ 40 ถึงจะอายุ 40 แต่ริชชี่ก็ยังดูหนุ่มอยู่ ความลับของเค้าคือการรักษาสมดุลในการกินและออกกำลังกาย "ที่จริงแล้วผมเป็นคนขี้เกียจ ผมไม่ชอบทำงานเยอะๆ ภาษิตของผมคือเล่นให้หนักเท่าๆ กับทำงานให้หนัก ปกติแล้วหลักๆ ของผมคือออกกำลังกาย แต่ผมก็ไม่ชอบเล่นยิม กีฬาโปรดของผมคือโต้คลื่น การโต้คลื่นกับการแข่งมอเตอร์ไซด์มันต่างกันนะ การแข่งต้องใช้สมาธิไปกับทุกๆ นาที ทุกวินาที แต่ขณะเดียวก็ต้องใช้การควบคุมมากทีเดียว แต่การโต้คลื่นจะสบายๆ กว่า ผมสามารถสนุกไปกับมันได้และไม่ต้องใส่ใจเรื่องเวลามากนัก" แม้ว่าริชชี่จะสามารถรักษารูปลักษณ์ภายนอกได้เหมือนเมื่อก่อน แต่จิตใจของเค้าก็เปลี่ยนไป โดยเฉพาะเมื่อกลายเป็นพ่อคน "ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตำแหน่งของตัวเองในวงการบันเทิงและสังคมมันหนักขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนเรียกผมจาก เสี่ยวฉี เป็น ฉีเกอ (พี่ฉี) ผมมีหน้าที่ที่ต้องดูแลคนอื่น และไม่สามารถรับงานโดยไม่คิดหน้าคิดหลังได้ ผมต้องการจากตัวเองมากขึ้น เมื่อก่อนนั้น ผมเป็นเพียงแค่ตัวผม เป็นตัวของตัวเอง แข่งมอเตอร์ไซด์ ถ้ามีโอกาสชนะถึงจะเพียงเล็กน้อย ผมจะพุ่งไปทันที แต่ตอนนี้ผมต้องห่วงความปลอดภัยของตัวเองมากขึ้น มันต้องมีโอกาสมากกว่าครึ่งนึงหรือมากกว่านั้นก่อนที่ผมจะพยายามทำ" การดูแลครอบครัวที่อยู่เบื้องหลัง เค้าไม่สามารถเป็นตัวเองเหมือนเมื่อยังโสดได้ โดนเฉพาะคนที่เกิดราศีกรกฎ – เป็นคนที่เห็นครอบครัวสำคัญที่สุด เลือดที่กล้าหาญที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเค้า ริชชี่บอกว่า เค้าไม่ใช่ผู้ชายแสนดีที่สมบูรณ์แบบ แต่เค้าเป็นผู้ชายที่รักความชอบธรรมและมีความรับผิดชอบ การที่สามารถดูแลและปกป้องครอบครัวของเค้าได้แบบนั้น โดยเฉพาะในยุคที่ผู้ชายเริ่มอ่อนแอและเห็นแก่ตัว และการทำงานในวงการที่เต็มไปด้วยการหลอกล่อ คนอย่างเค้าอาจจะไม่ใช่ ของหายาก แต่ หนุ่มแสนดี ก็ยังเป็นคำอธิบายถึง เยิ่นเสียนฉี ได้ดีที่สุด ภาพโดย June จาก HK's Family เพลง Ta Yao Wo, Ta Bu Ai Wo ร้องโดย ริชชี่

Create Date : 18 มิถุนายน 2550		12 comments
Last Update : 22 มิถุนายน 2550 14:21:48 น.
Counter : 982 Pageviews.
Share Tweet