เหลือแหล่

   ภาพยนตร์ : เหลือแหล่
   ชื่อภาษาอังกฤษ : Lear lae
   ประเภท : Comedy
   ผู้กำกับ : บำเรอ ผ่องอินทรีย์, พิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา
   แสดงนำ : ต้น-ณัฐวัตร ดีวงกิจ, ซาย-หทัยชนก สวนศรี, โย่ง เชิญยิ้ม, โน้ต เชิญยิ้ม
   เรทภาพยนตร์ : ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ดูทั่วไป
   เข้าฉาย : 15 กันยายน 2554

เงาเล่าเรื่อง

   เรื่องเริ่มต้นจากกลุ่มชายหนุ่มนักดนตรีกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมี เหลือแหล่ (ต้น-ณัฐวัตร ดีวงกิจ) เชลโล่ เร็กเก้ และ โจอี้ ทั้งสี่คนหลงใหลและคลั่งไคล้ในเพลงสกาเป็นอย่างมาก และหวังไว้ว่าวงจะโด่งดังระดับประเทศ แต่สุดท้ายวงก็แตก ทั้งสี่คนมีหนี้สินติดตัว จากการค้างค่าเช่าบ้าน จึงตัดสินใจไปเล่นดนตรีเปิดหมวกกัน ทำให้ทั้งหมดได้เจอกับ ลุงดม ซึ่งชื่นชอบเพลงที่พวกเขาเล่นอย่างมาก แต่ก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น ทำให้ลุงดมต้องนอนโรงพยาบาล เหลือแหล่จึงอาสาที่จะไปบอกญาติของลุงดมที่อยู่ต่างจังหวัดให้ แต่ระหว่างทางเกิดความผิดพลาดทำให้หลงเข้าไปหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านนี้ มีสองนักเพลงพื้นบ้านผู้ยิ่งใหญ่ คือ ครูเฟื่อง (โย่ง เชิญยิ้ม) แห่งบ้านสิงห์เหนือ และ ครูดำเกิง (โน้ต เชิญยิ้ม) แห่งบ้านเสือใต้ ทั้งสองคู่อริที่ไม่ลงรอยกัน ทั้งสองบ้านจะประชันกันแต่ยังหาลูกศิษย์ไม่ได้ ที่นี่เองเหลือแหล่และเพื่อนจำต้องยอมร้องเพลงให้ฝ่ายครูเฟื่อง และทำให้ได้พบกับ ฟ้าใส (ซาย-หทัยชนก สวนศรี) หลังจากเหลือแหล่ได้ลองสัมผัสกับเพลงพื้นบ้าน รวมถึง บรรยากาศแบบสบาย ๆ ในหมู่บ้าน ก็ทำให้เหลือแหล่ เริ่มเปลี่ยนใจ และหันมาชอบเพลงพื้นบ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในระหว่างนั้น ความสัมพันธ์ของเหลือแหล่และฟ้าใสก็ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
   สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสามารถเอาชนะการประชันระหว่าง 2 บ้านและความรักจากสาว ๆ ในหมู่บ้านได้หรือไม่ต้องติดตามต่อไป





เล่าเรื่องจากเงา



   เหลือแหล่ ภาพยนตร์ไทยที่มีเนื้อหาไทย ๆ บทเพลงไทย ๆ นำเสนอในรูปแบบตลกเฮฮาตามประสา โน้ต เชิญยิ้ม และ โย่งเชิญยิ้ม



   เรื่องราวสนุกสนานตามประสาไทยแท้เริ่มต้นเมื่อ เหลือแหล่ และเพื่อน ๆ ที่คลั่งไคล้เพลงสกาต้องไปเล่นดนตรีเปิดหมวกหาเงินเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ทำให้ได้เจอกับ ลุงดม ซึ่งชื่นชอบเพลงที่พวกเขาเล่นอย่างมาก แต่ก็ดันเป็นลมให้ต้องหามส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ด้วยความใจดีของเหลือแหล่ เขาและเพื่อนจึงอาสาไปบอกญาติของลุงดมที่ต่างจังหวัด แต่ดันพลัดหลงไปพบกับ ครูเฟื่อง และ ครูดำเกิง นักเพลงพื้นบ้านผู้ยิ่งใหญ่ และได้ฝึกหัดร้องเพลงพื้นบ้านกับครูทั้งสอง



   เป็นภาพยนตร์ที่ดูสนุก เฮฮา แต่ได้สาระเรื่องหนึ่งที่น่าไปชมค่ะ โดยเฉพาะกลอนเพลงพื้นบ้านเป็นศิลปะไทยแท้ที่ใกล้จะจางหายไปกับกาลเวลาเต็มที และถ้าวันนั้นมาถึงต้องนับว่าน่าเสียดายไม่น้อยเลยค่ะ



   ในด้านมุขตลกของเรื่องต้องยอมรับว่าบางมุขก็ฝืดค่ะ ไม่ใช่ไม่ฮานะคะ แต่มันฮาแบบฝืด ๆ ในแง่ของความเป็นจริง ก็เรื่องบางเรื่องมันไม่น่าขำนี่คะ มันน่าส่ายหน้าเสียละมากกว่า ต้องชื่นชมนักแสดงล่ะค่ะ ว่าฝีมือการแสดงดีทำให้มันขำได้ขนาดนี้



   ที่สำคัญ... คือการเลือกนักแสดงที่มีฝีมือและน้ำเสียงดีจริง ๆ มาขับขานบทเพลงให้ไพเราะ เสียงร้องของ เอิร์น เดอะสตาร์ กังวานใสน่าฟังเชียวล่ะค่ะ



   อีกประโยคทำให้จำฝังใจเลยก็คือฉากที่สาว ๆ บ้านครูเฟื่องขอสัญญาจากหนุ่ม ๆ ที่หลงทางพำนักบ้านครูเพลงว่า...

   ' ไม่ว่าจะเกิดอะไร สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทิ้งเพลงพื้นบ้าน '

   อยากรู้ว่าหนุ่ม ๆ ตอบว่าอย่างไรต้องไปชมค่ะ หวานเย็นไม่เฉลยหรอก ก็... อยากให้ไปอุดหนุนภาพยนตร์ไทย ฝีมือคนไทยที่ภาคภูมิใจนำเสนอความเป็นไทยนี่คะ




ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก Majorcineplex.Com นะคะ

Create Date : 30 กันยายน 2554		2 comments
Last Update : 30 กันยายน 2554 12:22:07 น.
Counter : 2543 Pageviews.
Share Tweet