หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้นำเรื่องราวของนายวิเชียร สุจริต อายุ ๖๒ ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ที่ยอมเสียสละเวลาและโอกาสหน้าที่การงานลงมาดูแล คุณยายทองสุก ขันทอง หญิงชราวัย ๘๐ ปี ที่ไม่ใช่แม่ของตัวเองด้วยความสงสารและเต็มใจ ทั้งคอยป้อนน้ำป้อนข้าว หุงหาอาหาร ซักผ้าและอาบน้ำ เช็ดอุจจาระและปัสสาวะให้ หลังล้มป่วยด้วยโรคชราและปัญหาสุขภาพจากการหกล้มกระดูกสันหลังยุบ ไตถูกตัดออก ๑ ข้าง แถมตายังบอดอีก ๑ ดวง ต้องให้อาหารทางสายยาง ไม่สามารถเดินและช่วยเหลือตัวเองได้มานานกว่า ๔ ปี และอาศัยอยู่ภายในกระท่อมบ้านไม้เก่า ๆ หลังเล็ก เลขที่ ๓๐ ม.๓ บ.กันจาน ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ในที่ดินของเพื่อนบ้าน ขณะที่ลูกชายวัย ๖๐ ปี มีสติไม่สมประกอบและไม่สามารถดูแลยายทองสุกได้เลย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

   เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามการให้ความช่วยเหลือ พบว่า ยอดเงินในบัญชีธนาคารออมสินของคุณยายทองสุก ที่ผู้ใจบุญจากทั่วประเทศที่โอนเงินมาช่วยเหลือ มีจำนวนถึง ๔๘,๔๓๒ บาท แล้ว ซึ่งยอดเงินจำนวนดังกล่าวจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับคุณยายทองสุก และนายวิเชียร ได้บ้าง ซึ่งทั้งคู่ต่างรู้สึกปลาบปลื้มใจและขอขอบคุณผู้ใจบุญจากทั่วประเทศที่มีน้ำใจช่วยเหลือมาในครั้งนี้

   อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวในครั้งนี้ ก็ได้พบกับภาพประทับใจ ที่นายวิเชียรต้องอุ้มคุณยายทองสุกขึ้นรถจักรยานยนต์ก่อนจะนำสายรัดกระเป๋ามารัดตัวคุณยายพาดเกาะไว้กับตัวเอง แล้วพาโรงพยาบาลปราสาท ซึ่งมีระยะทางกว่า ๓ กิโลเมตร เพื่อให้แพทย์ตรวจอาการและสุขภาพรวมทั้งทำแผลให้คุณยาย ก่อนจะซ้อนรถจักรยานยนต์กลับมาบ้านในลักษณะเดิม โดยต้องพาคุณยายทองสุก ไปโรงพยาบาลเดือนละ ๔-๕ ครั้งตามที่หมอนัด

   ทั้งนี้ นายวิเชียร กล่าวว่า เมื่อประมาณ ๗ ปีที่ผ่านมา ตนเองมีอาชีพเป็นนักเขียนหนังสืออิสระ และเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย ได้ลงพื้นที่มาทำคดีคนถูกรถชนในพื้นที่ อ.ปราสาท และได้ลงพื้นที่บ้านกันดารเพื่อหาข้อมูลจึงพบกับคุณยายทองสุกเดินผ่านมา เนื่องจากตาพร่ามัวจากโรคต้อกระจกทั้ง ๒ ข้าง และเดินไม่ค่อยจะตรงทาง ตนจึงอาสาเดินไปส่งคุณยายถึงบ้าน จนทราบเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ หลังจากนั้นนาน ๆ ครั้งจึงได้แวะมาเยี่ยมเยียนคุณยายที แล้วพาไปผ่าตัดต้อกระจกตาด้านซ้ายที่ โรงพยาบาลศิริราช จนสายตาดีขึ้นและมองเห็น ส่วนตาด้านขวาบอดสนิทแล้ว ตนเองเป็นผู้อออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และได้ซื้อโทรศัพท์มือถือให้คุณยายใช้ เวลามีปัญหาให้โทรไปบอก หลังจากนั้นเมื่อประมาณ ๔ ปีที่ผ่านมา คุณยายได้หกล้มและได้โทรศัพท์ไปหาตน จึงทราบว่า กระดูกสันหลังยุบ นั่งและเดินไม่ได้ ต้องให้อาหารทางสายยาง ทานข้าวทางปากไม่ได้เลยจะอาเจียน ต้องนอนรักษาตัวถึง ๔๐ วัน ก่อนนำกลับมาบ้าน ส่วนลูกชายยายก็ดูแลตัวเองไม่ได้ สติปัญหาไม่สมประกอบ ด้วยความสงสาร และพบว่า คุณยายเป็นคนดี มีความขยันอดทนและมีสติปัญญาดี แต่ขาดโอกาส จึงตัดสินใจอยู่ดูแลกระทั่งทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่พ่อแท้ ๆ ของตนเองก็ล้มป่วยอยู่บ้าน ใน กทม. แต่มีพี่น้องดูแลอยู่

   "ถ้ากลับไปดูแลพ่อ คุณยายคงต้องตาย ไม่รู้จะทำอย่างไร ผมไม่มีรายได้อะไรมากมาย แต่ก็ต้องดูแลกระทั่งแกตายจากไป คนอื่นก็คงคิดเหมือนกัน ถึงเขาไม่ใช่แม่ของผม แต่ก็รักเหมือนแม่คนหนึ่ง ส่วนแม่ของผมเสียตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่มีโอกาสได้ดูแล หากใครต้องการช่วยเหลือคุณยายก็ยินดี จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้ท่าน ทั้งค่าอาหารทางสายยางวันละ ๑๐๐ บาท แพมเพิร์สต่าง ๆ วันละ ๓-๔ ชิ้น น้ำผลไม้ต่าง ๆ ร่วมวันละกว่า ๒๐๐ บาท ผมต้องรับภาระทั้งหมด ได้เพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ ๘๐๐ บาทมาช่วยบรรเทา" นายวิเชียรกล่าวและว่า เต็มใจที่จะดูแลต่อไป ส่วนสามีคุณยายก็ทิ้งไปไม่เคยมาดูแล ลูกสาวอีกคนก็เสียชีวิตแล้ว หลังนำที่ดินที่คุณยายอยู่ไปจำนำจนถูกยึดและขออาศัยเจ้าของที่อยู่จนถึงปัจจุบัน ขณะที่ตัวนายวิเชียรเอง สุขภาพก็ไม่ค่อยดีเช่นกัน ไหล่หลุดจากการถูกรถจักรยานยนต์ชน และอุบัติเหตุรถยนต์ชนซี่โครงหักเมื่อหลายปีก่อน

   ทั้งนี้ นายวิเชียรกล่าวเนื่องในวันแม่แห่งชาติว่า ตนขอฝากความหวังให้ไว้กับพวกเด็ก ๆ ที่ชอบทิ้งให้พ่อแม่ ปู่ยาตายายไว้ลำพัง บางคนก็ไม่เคยมาดูแลว่าท่านเป็นอยู่อย่างไร แม้แต่เงินทองก็ไม่ส่งมาให้ ท่านต้องการความรักจากลูกหลาน ให้มาเยี่ยมท่านบ้าง ท่านยังรออยู่ แม้จะไม่มีอะไรมาให้ท่าน แค่ท่านได้เห็นหน้าลูกหลานพ่อแม่เราก็ดีใจแล้ว เราควรจะมีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ชีวิตจะได้เจริญก้าวหน้า

   ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายวิเชียร ยังต้องการรถจักรยานยนต์ ๓ ล้อพ่วง เพื่อช่วยในการนำตัวคุณยายไปโรงพยาบาลได้อย่างสะดวก เพราะแนวโน้มในอนาคต คุณยายอาจจะไม่สามารถนั่งซ้อนรถไปโรงพยาบาลได้แล้ว และต้องบรรทุกโดยให้คุณยายนอน หากผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือคุณยายทองสุก เพิ่มเติม สามารถติดต่อนายวิเชียร ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๗-๐๗๔๔๘๘๐ หรือสามารถบริจาคเงินช่วยเหลือได้ที่ บัญชีธนาคารออมสิน สาขา อ.ปราสาท ชื่อบัญชี นางทองสุก ขันทอง หมายเลขบัญชี ๐๕๓๖ - ๙๐๘๙ - ๙๑๗ - ๓

 

ขอขอบคุณรายละเอียดและภาพข่าวจาก มติชนออนไลน์ นะคะ

Create Date : 12 สิงหาคม 2556
Last Update : 12 สิงหาคม 2556 21:09:42 น.		7 comments
Counter : 1493 Pageviews.
Share Tweet