ทำไม จึงต้องการให้ลูกผู้ชายบวชพระ ปีนี้ ฉันถึอว่า เป็นปีที่ฉันโชคดี ที่มีโอกาสไปร่วมงานบวช ได้ไปเห็นประเพณีการบวช ถึง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เป็นงานบวชลูกชายของลูกศิษย์ ที่แม่ของเขาพามาขอขมาลาบวช ครั้งที่ 2 เป็นงานที่ลูกศิษย์ซึ่งเป็นบรรพชิตมานานมากพอสมควร ได้มาขอให้เป็นสะพานบุญ หาเจ้าภาพให้กับผู้ที่ต้องการบวชพระ บวชเณร แต่ขาดปัจจัยในการบวช ซึ่งฉันคิดว่า การเป็นเจ้าภาพงานบวชเช่นนี้ เป็นกุศลแก่ผู้เป็นเจ้าภาพอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสาวโสดอย่างฉัน ซึ่งไม่มีลูกชายมาบวชให้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสรวงสวรรค์ (ตามความเชื่อ) อิอิ การได้เป็นเจ้าภาพร่วมกันในงานบวชหมู่ ภาคฤดูร้อนเช่นนี้ จึงถือว่า ได้บุญได้กุศลมากทีเดียวเนอะ ท่านเห็นด้วยไหมคะ ห้าห้า
ก่อนที่ฉันจะเล่าถึงกิจกรรมทั้งสองงาน ก็ขอนำความรู้เกี่ยวกับเรื่องของการบวชมาเล่าสู่การอ่านสักเล็กน้อยนะคะ การที่พ่อแม่ต้องการให้ลูกชายบวชนั้น เป็นความหวังของผู้เป็นพ่อแม่ที่มีลูกเป็นลูกชาย โดยมีความเชื่อที่ถูกปลูกฝังมาแต่โบร่ำโบราณว่า ถ้ามีลูกชาย จะต้องให้เขาบวชก่อนแต่งงาน เพื่อจะได้เกาะชายผ้าเหลืองของลูกชายขึ้นสวรรค์ (เป็นความเชื่อที่ดูแล้ว แปลก ๆ ดีเนอะ คนโสด คนไม่มีลูกชายบวชให้เลยอดขึ้นสวรรค์เหรอ อิอิ) แต่ฉันเห็นด้วยกับ ความหมายและจุดประสงค์ของการบวช ที่ว่า การบวชนั้น คือ การออกจากความสุขทุกอย่างที่เราเคยได้รับและคิดว่าเป็นความสุข เช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ เงินทอง ซึ่งคนที่จะตัดสินใจบวช จะต้องตัดสินใจละทิ้งสิ่งเหล่านี้ให้ได้ การบวช จึงเป็นการออกจากสิ่งเดิม ๆ ที่เราเป็นอยู่ เพื่อเริ่มต้นศึกษาสิ่งใหม่ (พระธรรม คำสอน การรู้จักลด ละ เลิก สิ่งที่เป็นกิเลส ตัณหา ที่จะนำไปสู่ความทุกข์ ) สิ่งใหม่เหล่านี้ คือ การได้สัมผัสชีวิตที่จำกัดมากมาย ให้มีกิริยามารยาท การสำรวม การอยู่ การกิน การรักษาศีลตามบทบัญญัติการบวชเรียน ถ้าผู้บวชยังไม่สามารถตัดสินใจละจากสิ่งเดิม ๆ ที่เคยดำรงชีวิตอยู่ได้ บวชแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์ เพราะไม่ได้สิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต สรุปก็คือ การบวช คือ การชำระจิตใจของตนเองให้สะอาด เรียนรู้หลักธรรมที่จะนำไปสู่ความสงบสุขของชีวิตหลังจากที่ได้บวชเรียนไปแล้วได้มากขึ้นกว่าเดิม (เพราะมีโอกาสได้ศึกษาพระธรรมอย่างเต็มที่ ) ดังนั้น สิ่งใหม่ ๆ ที่เราได้จากการบวช ย่อมนำพาชีวิตของเราให้ดีงามไปพร้อม ๆ กัน ฉันคิดว่า การบวช ควรมีจุดมุ่งหมายเช่นนี้ ความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ เรื่องของการบวช มี อยู่ 2 คำที่น่าสนใจ และจะได้นำไปใช้ได้ถูกต้อง คือ คำว่า "บรรพชา" เราจะใช้กับ การบวชสามเณร คำว่า "อุปสมบท" เราจะใช้กับการบวชพระ ซึ่งต้องมีอายุ 20 ปี ขึ้นไป ต่อไป ฉันจะเล่าเรื่อง งานบวชลูกชายของลูกศิษย์ ซึ่งจัดงานบวชที่วัดยาง ก๋วยมารับฉันตั้งแต่ 6.30 น. เพราะเขาจะมีพิธีโกนผมเวลา 7.00 น. เมื่อไปถึงงาน ลูกศิษย์ คือ ติ๊ก ตุ้ม ดีใจ มาสวัสดี ญาติของเขา ที่เคยรู้จักฉันก็มาสวัสดีฉันทุกคน เมื่อถึงเวลา แล้ว พ่อแม่ของ นาค ก็เริ่มขลิบปอยผม เป็น คู่แรก แล้วตามด้วยฉัน ซึ่งถือว่า เป็นครูของหลานศิษย์ ตอย (เขาเคยมาเรียนพิเศษกับฉันหลายปี) ฉันก็ได้รับเชิญให้ไปขลิบผมของตอยด้วย แล้วตามด้วยคนอื่น ๆ มาดูภาพ ค่ะ หลังจากที่ ขลิบผมของผู้จะเตรียมบวชแล้ว ก็มีการสระผมให้ผู้บวชก่อนที่จะให้พระมาโกนผม โกนคิ้ว ซึ่งพ่อแม่ของผู้บวช จะสระผมให้ลูกชาย ค่ะ
หลังจากที่ได้สระผมให้ผู้บวชแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ พระรูปหนึ่งซึ่งคงได้รับมอบหมายหน้าที่ ก็มาโกนผม โกนคิ้ว หลังจากโกนเสร็จแล้ว ก็มีการอาบน้ำให้ผู้บวชอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะให้ผู้บวชไปใส่ชุดนาค สีขาวบริสุทธิ์
มีการถ่ายรูปกับลูกศิษย์ พ่อแม่ ของผู้บวช และตอยผู้บวช มาชมภาพ ค่ะ ต่อจากนี้ ผู้บวชก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดนาค การแห่นาคของวัดยาง แปลกไปจากที่ฉันเคยไปเห็นมา คือ ปกติ นาคจะนั่งม้า ขี่คอเพื่อน ขี่ช้าง แต่ที่นี่ เขาให้นาคนั่งรถลาก มีแม่นั่งไปด้วย ส่วนพ่อเดินตามรถที่นาคนั่งอยู่ พวกเราก็เดินตามรถกันไป เพื่อเดินเวียนรอบโบสถ์ 3 รอบก่อนจะเข้าโบสถ์เพื่อทำพิธีบวชต่อไป มีการให้กลองยาวนำขบวน มีแขกที่มาตามขบวนร่ายรำไป พร้อมกับโห่ร้องอย่างสนุกสนาน มาดูภาพประกอบ ค่ะ
เมื่อการเวียนรอบโบสถ์ครบ 3 รอบแล้ว นาคก็เข้าโบสถ์เพื่อทำพิธีบวชพระต่อไป ตามภาพที่ฉันรวบรวมมา ค่ะ
หลังจากพิธีบวชพระในโบสถ์เรียบร้อยแล้ว ก็มีการเลี้ยงพระเพลด้วยโต๊ะจีน โดยทางวัดมีบริการรับทำโต๊ะจีนด้วย เลี้ยงพระ เลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน ตามประเพณี อิอิ
เมื่อการรับประทานอาหารเที่ยงแล้ว ก็เป็นเวลาที่ต้องอำลาเจ้าภาพ โดยเฉพาะฉัน ตอนเย็น ยังต้องไปต่ออีกงาน คืองานที่ทิพย์มาจากอเมริกา โดยเพ็ญจะมารับไปฉลองกันที่ ร้านบึงใหญ่ ก่อนกลับพวกเราก็ถ่ายรูปหมู่กันเป็นที่ระลึก ค่ะ งานบวชงานที่ 2 ดังที่เกริ่นความแต่ข้างต้นว่า ลูกศิษย์ คือ พระตู่ ซึ่งได้บวชเป็นพระมานานสิบกว่าปี มาขอให้ฉันช่วยเป็นสะพานบุญหาเจ้าภาพให้แก่เด็กและผู้ใหญ่ที่ต้องการบวชแต่ขาดปัจจัยในการบวช ฉันยินดีปรีดาอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสช่วยงานด้านศาสนาพุทธครั้งนี้ ก่อนอื่นก็นึกถึงเพื่อนสนิทบางแสน 2 คน คือเยาว์กับจ๋า ชวนเขามาเป็นเจ้าภาพร่วมกับฉัน บวชเณร 1 รูป 1,500 บาท เพื่อนทั้งสองแสดงความยินดีที่ฉันชวนเขาร่วมเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ทำให้ฉันพลอยอิ่มใจที่เพื่อนรักพอใจและขอบใจที่ฉันบอกบุญเขาไปครั้งนี้ ฉันก็ลายน์ไปบอกเพื่อนที่เคยไปเที่ยวด้วยกัน คือ วัชรี ก็ยินดีร่วมด้วย ครอบครัวของเขา บวชเณร 1 รูป ส่วนเพื่อนเที่ยวอีกสองคน เขาบอกว่า เขาไม่ร่วมด้วย ก็ไม่ชวนอีก ส่วนทิพย์ ซึ่งยังอยู่อเมริกา ก็มีจิตศรัทธา บวชเณร 1 รูป และบริจาคน้ำปานะอีก 1,000บาท โดยให้ฉันจ่ายไปก่อน เขาจะมาจ่ายเงินคืนฉันตอนเขากลับมาเมืองไทย เพื่อนของนิล เป็นเจ้าภาพเณร อีก 1 รูป (นิล น่ารักมาก ถึงตัวเองเป็นมุสลิมทำกิจกรรมนี้ไม่ได้ แต่ก็ช่วยประชาสัมพันธ์ให้เพื่อนร่วมงาน) ส่วน 5 สหายแห่ง 6/2 คือ โก๊ะ แหม่มเล็ก แหม่มใหญ่ สมจิตรและจันทร์ทิพย์ ก็ร่วมกันเป็นเจ้าภาพเณร 1 รูปเช่นกัน มีพี่นพรัตน์ (เพื่อนบ้าน)อีก ร่วมเป็นเจ้าภาพอีก 1 รูป ส่วนภา เป็นเจ้าภาพบวชพระ 1 รูป 5,000 บาท ต่อมา พระตู่บอกว่า ยังขาดเจ้าภาพเณรและพระอีก 2-3 รูป ซึ่งยากจนมากแต่ต้องการจะบวช แต่ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ คงต้องใช้เงินทางวัดช่วย ให้ฉันช่วยถามไถ่ว่า ยังมีใครต้องการทำบุญเป็นเจ้าภาพ เดชะบุญของเด็กที่จะได้บวชกระมัง พอฉันโทรคุยกับ เล็ก (สถิดา) เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เล็กเป็นเจ้าภาพ พระและเณร อย่างละ 1 รูป เป็นเงิน 6,500 บาท เป็นอันว่า ปัญหานี้ก็หมดไป สรุปว่า ฉันก็ได้เป็นสะพานบวชหาเจ้าภาพบวชเณรได้ 7 รูป บวชพระ อีก 2 รูป น้ำปานะอีก 1,000 บาท อ้อ พนักงานทางธนาคารฝากทำบุญอีก 100 บาท วันที่ 1 เมษายน เป็นวันที่เริ่มพิธีบวชพระและเณร โดยทางวัดของพระตู่ เดินทางมาบวชที่วัดบวรนิเวศน์ พร้อมกับพระ เณร ที่อยู่กรุงเทพฯ แล้วจึงพากันไปศึกษาพระธรรมที่วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร จังหวัดสุรินทร์ ทั้งหมด วันนี้ รุ่ง (วรามาศ) ขับรถพาอ้อย (พรรณิภา) ลูกสาว มารับฉันที่บ้าน พี่นพรัตน์ขอไปด้วยอีก 1 คน รวมกัน 5 คนพอดี 1คันรถ พวกเรามาถึงวัดเลยเวลานัดที่พระตู่นัดไว้ 7.00 น. เรามาสายไปน่าจะเกือบครึ่งชั่วโมง พระตู่เลยนำอาหารไปให้โยมแม่ที่บ้านก่อน กว่าจะกลับอีกครั้งก็ประมาณ 8.30 น.มั้ง พวกเราไปที่โรงทาน เพื่อหาอาหารทานกันก่อน ได้ข้าวคลุกกะปิ คนละกล่อง ที่วัดวันนี้ คนมาทำบุญและเป็นเจ้าภาพ พระ เณร มากมาย มีโต๊ะตั้งให้คนที่มาทำบุญด้วย ชมภาพ ค่ะ
ประชาชน ที่เป็นเจ้าภาพ ก็เข้าไปถวายผ้าไตร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลจัด พระ เณร มารับผ้าไตร รวมทั้งพวกเราด้วย พอพระตู่มาแล้ว ได้พาพวกเราไปรับผ้าไตร และไปถวายอีกรอบ ค่ะ เลยได้ถวายผ้าไตรแทนเจ้าภาพที่ฝากฉันถวายให้ มาชมภาพพวกเราค่ะ
หลังจากที่ถวายผ้าไตรรอบสองเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนั้น ก็จะถึงพิธีบวชหมู่ในพระอุโบสถ โดยมีเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศน์เป็นอุปัชฌาย์ มาชมภาพกันค่ะ
หลังจากพระ เณร เข้าโบสถ์แล้ว พวกเรา ก็นั่งคุยกันอยู่ด้านนอก ไม่มีโอกาสได้เข้าโบสถ์หรอก เพราะว่า ผู้บวชมีมากและโบสถ์ค่อนข้างเล็ก เณรเล็ก ๆ ยังต้องนั่งกันอยู่ด้านนอกโบสถ์ รูปที่ได้มา พระตู่เบียดเข้าไปถ่ายให้ เก็บรูปได้เล็กน้อยเท่านั้น พวกเรานั่งคุยกับพระตู่ลูกศิษย์ อยู่เป็นชั่วโมง จึงได้ลากลับเพราะขณะนั้นประมาณบ่ายโมงแล้ว ท้องพวกเราเริ่มหิวแล้ว อิอิ รุ่งไปเอารถซึ่งจอดอยู่ที่ศาลากรุงเทพฯ เพื่อมารับพวกเราที่รถ (ไม่ไกลจากวัดนัก) แล้วพาไปทานข้าวกลางวันที่ สโมสรทหารเรือซึ่งฉันจำได้ว่า ครั้งหนึ่งเคยมางานแต่งงานของเพื่อนที่อิสลามวิทยาลัยฯคนหนึ่ง ห้องอาหารนี้ เป็นห้องแอร์ ค่อนข้างแคบ ถ้าจะนั่งกว้างและได้ชมวิวติดริมแม่น้ำ ต้องอยู่นอกห้อง ซึ่งตอนนี้ไม่ไหว เพราะอากาศร้อนมาก ๆ พวกเราต้องการห้องแอร์มากกว่าบรรยากาศ อิอิ อาหารที่นี่ ราคาไม่สูงนัก รสชาติอร่อยมากพอควรทีเดียว พวกเราสั่งอาหารกัน คนที่มารับรายการอาหารบอกว่า ต้องรีบหน่อย เพราะครัวจะปิดบ่ายสอง แต่นั่งทานต่อไปได้เรื่อย ๆ มาดูหน้าตาอาหารที่พวกเราสั่งนะ มีเมี่ยงปลา ทอดมัน ผัดฉ่ารวมมิตร เนื้อปูผัดผลกะหรี่ หอยแครง และแกงใบชะมวน ราคาทั้งหมด 1200 กว่าเท่านั้น มาดูภาพ ค่ะ
หลังจาก ที่พวกเราอิ่มข้าวกันแล้ว ก็ออกจากที่นี่ รุ่งพามาที่บางลำพู จอดให้แวะซื้อขนม ฉันได้มันสำปะหลังเชื่อม ดูหน้าตาน่าจะอร่อย และก็อร่อยจริง ๆ ขับรถผ่านร้านขนมปังหน้ากระเทียมแถวท่าพระจันทร์ ก็แวะซื้อกัน พี่นพรัตน์ฝากซื้อ3 กล่อง กล่องละ 40 บาท เผื่อฉัน 1 กล่องด้วย อิอิ แวะปากคลองตลาด ซื้อดอกไม้ มาลัย ราคาถูกกว่าแถวทองหล่อมากเป็นเท่าตัวเลย รุ่งขับรถมาส่งฉันและพี่นพรัตน์ที่บ้าน พร้อมกับอุดหนุนหนังสือที่ฉันเขียนไป 1 ชุด แล้วจึงไปส่งอ้อยและลูก เฮ้อ ! วันนี้ ฉันรู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมบวชพระ และ เณร ครั้งนี้ มีโอกาสได้ถวายผ้าไตร เป็นเจ้าภาพงานบวช ตามด้วยลูกศิษย์ยังพาไปทานข้าวหลังจากงานบวชพระเณรเสร็จสิ้นแล้ว นับเป็นความสุขอีกวันหนึ่งของชีวิตฉัน ขอขอบใจลูกศิษย์ที่มารับไปร่วมกิจกรรมบวชพระบวชเณรและอาหารมื้ออร่อยอีก 1 มื้อ ขอให้ลูกศิษย์ทั้งสอง รุ่ง อ้อยและหลานศิษย์ มีแต่ความสุข ความเจริญในชีวิตตลอดไปจ้ะ สวัสดี ค่ะ
Create Date : 30 เมษายน 2559 |
|
41 comments |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2559 22:35:04 น. |
Counter : 3002 Pageviews. |
|
|
|
เห็นรูปบน ๆ เฮ้ย...วัดยาง ชัด ชัด
เป็นวัดที่โอ๋ชอบพาลูกไปบ่อย ๆ เลยค่ะ
จนคุณป้าตรงดอกไม้ธูปเทียนจำหน้าได้
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ อาจารย์
โหวตเป็นกำลังใจให้ค่า