เราต้องไปรับผ้าไตรตามจำนวนว่า เราเป็นตัวแทนในการถวายพระไตร
ที่เจ้าภาพร่วมไม่ได้มาร่วมงาน ถวายเป็นสิบ ๆ รูป ค่ะ
พระตู่ พระลูกศิษย์มาต้อนรับเรา และพวกเราก็ไปรับอาหารจากโรงทาน
มาถวายท่านและพวกเราก็ทานด้วยเป็นอาหารเช้าไป
หลังจากที่พระ เณร บวชใหม่ รับผ้าไตรเรียบร้อยแล้ว ก็มีพิธีบวชใน
โบสถ์ โบสถ์วัดบวรนิเวศค่อนข้างเล็ก พวกเจ้าภาพต้องอยู่ด้านนอก
เมื่อสมควรแก่เวลาแล้ว พระลูกศิษย์ก็ต้องไปดูแล พระ เณร ของท่าน
เราสองคนจึงกราบลาท่านไปตามวิถีของฆราวาส อิอิ
ออกจากที่วัด ก็ไปเดินชม บางลำภู สักพัก แต่ไม่ได้อะไร รุ่งเลยชวนไป
ดิโอสยาม ไปฟังเพลงที่คนจะร้อง เสียเงินคนละ 20 บาท
พวกเราไปฟังเฉย ๆและสั่งยำวุ้นเส้นมานั่งทานกัน สักชั่วโมงได้ ก็ไป
เดินช้อปปิ้ง ได้เสื้อลูกไม้ 1 ตัว แพงมาก ตั้ง 1,700 บาท
ต่อกันตั้งนาน ลดได้แค่นี้ จนป่านนี้ ยังแขวนอยู่ในตู้เลย ไม่ได้ใส่ไปไหน
ได้เสื้อราคมแพงแล้ว
ก็ไปนั่งทานขนมหวาน เจ้าอร่อยของที่นี่ ฉันทานแกงบวดเผือก ทานกันคนละชาม
กลับมาถึงบ้านประมาณ 16.00 น. ต้องขอบใจ ลูกศิษย์ รุ่งที่พาไป
ทำบุญด้วยทุกปี ขอให้ชีวิตเจริญ ๆ นะจ๊ะ
วันที่ 6 เมษายน อ้อยนัดเจอกันที่ เทอร์มินอล 21 เพื่อทานข้าวและ
คุยกันเรื่องไปเที่ยวประเทศไอซแลนด์
ส่วนใหญ่กินกันมากกว่า เพราะยังไม่เห็นโปรแกรม ที่หมอเตี้ยจัด อ้อย
ก้อย ก็เปลี่ยนไปจองตั๋วการบินไทย
เพื่อเป็นเพื่อนของเตี้ยอีกสองคน กลายเป็นบินไม่พร้อมกัน เฮ้อ! ดู
วุ่นวายตั้งแต่ยังไม่ได้ไป
เตี้ยมาสายเหมือนเดิม พวกเราสั่งขนมเค้ก มากินรอ และคุยกันไปก่อน
อาหารเบาผ่านไปแล้ว ได้เวลาอันสมควร ก็ไปต่ออาหารหนักกันอีก
วันที่ 9 เมษายน กลุ่ม ธาตุทอง 2 ส นัดพบปะสังสรรค์และรดน้ำดำหัว
เนื่องในวันสงกรานต์ที่จะถึง
โดยจัดงานขึ้นก่อนวันสงกรานต์ ซึ่งน่าจะสะดวก เพราะวันหยุดยาว
ทุกคนก็อยากอยู่กับครอบครัวและมีโปรแกรมเที่ยว
เรื่องการจัดงานครั้งนี้ ฉันได้เขียนรายละเอียดไว้ ตามลิ้งค์ ต่อไปนี้ ค่ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=21-04-2017&group=5&gblog=46
เพื่อน ๆ ชาวบล็อกที่ยังไม่ได้อ่าน สามารถ ไปอ่านได้ตามลิ้งค์นี้ ค่ะ แต่
เพื่อเตือนความทรงจำเลยนำรูปของงานมาให้ชมเล็กน้อย
งานรดน้ำดำหัว ของลูกศิษย์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย (ก่อน) อันแสดง
ถึงความกตัญญูของพวกลูกศิษย์ และสืบทอดประพณีอันดีงาม
แก๊งค์ ธาตุทอง 2 ส ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ จ้ะ
รูปหมู่อีก 1 รูป ให้เห็นหน้ากันเต็ม ๆ และครบองค์ อิอิ
วันที่ 10 เมษายน เช้านี้ เอ๋ พาครูจีนมาที่บ้านฉัน เขามาเยี่ยมฉันและ
มาธุระ อยากให้ฉันช่วยติดต่อโรงเรียนเพื่อให้ครูจีน
คนนี้มาฝึกงานที่โรงเรียนเรา เพื่อช่วยในเรื่องของการจัดกิจกรรม
เกี่ยวกับภาษาจีน โดยไม่คิดเรื่องค่าจ้าง
ฉันรับปากจะติดต่อทางฝ่ายวิชาการให้ คือ ต้องให้ อึ่ง ไปคุยและ
ขออนุญาต ผอ. ก่อนว่า เขาพอใจไหม
ถ้าเป็นฉัน ก็ไม่เห็นต้องคิดมาก เพราะว่า เขามาช่วยเพื่อหาประสบการณ์
ไม่ได้คิดค่าแรงอะไรสักหน่อย
อย่างมากเราก็มีน้ำใจหาข้าวหาปลาเลี้ยงมื้อกลางวันสักมื้อ ก็ไม่ได้
สิ้นเปลืองอะไรเลยเนาะ แต่ก็ต้องแล้วแต่
ผู้บริหารโรงเรียน ฉันเกษียณแล้ว ก็ไม่อยากไปแนะนำอะไร หรือ พูด
อะไรมากนัก มันก็ไม่ค่อยดีที่จะไปยุ่งงานของเขา
เอ๋ และครูจีนมาเยี่ยมที่บ้าน
ของฝากจาก เอ๋ ค่ะ
วันนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ที่น่าบันทึกไว้ด้วย ฮ้ง ลูกศิษย์ภาคค่ำ ซึ่งบ้าน
ติดกับบ้านฉัน พี่น้องเขาทุกคน ก็รู้จักฉัน
และให้ความเคารพฉัน มีเรื่องเดือดร้อน ก็มักจะมาปรึกษาฉัน ฮ้ง พี่สาว
คนโตเขา เป็นลูกศิษย์ ตอนนี้ป่วย
เป็นมะเร็งปอด ขั้นสุดท้าย เสียเงินรักษาจากโรงพยาบาลเอกชนหลาย
ล้านแล้ว เล็ก น้องสาวของเขา
เลยมาปรึกษาฉัน อยากให้ฉันช่วยพี่สาวเขาเข้า ร.พ. ของรัฐ ใช้สิทธิ์
ประกันสังคม เพราะราคาค่าห้อง ค่ายา
ของ ร.พ. เอกชน ก็เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ (เขารู้ว่า ฉันมีลูกศิษย์เป็น
พยาบาลอยู่ที่ ร.พ.เลิดสิน )
เขาอยากได้ห้อง ร.พ.ของรัฐ จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งค่ายา
ก็สามารถเบิกประกันสังคมได้
ฉันก็เห็นใจ แต่แม่เขาก็ไม่อยากให้ลูกเข้ารักษา ร.พ. ของรัฐ กลัวจะ
ไม่เก่งเท่าเอกชน โธ่เอ้ย หมอเอกชน
ก็มาจากหมอของรัฐบาล นั่นแหละ แต่เมื่อขอความช่วยเหลือมา ฉันก็
เห็นใจ ฉันจึงส่งข้อความถึงน้องหมอโอ๊ค
ซึ่งเป็นหมอที่รักษาไทรอยด์ของฉันมาตั้งแต่ ปี 41 เป็นหมอที่รักษามะเร็งด้วย และเป็นหมอที่มี
ความเมตตา ใจดี กับคนไข้มาก ๆ น้องหมอเคยบอกฉันไว้ว่า ถ้ามีปัญหาอะไรที่เขาพอจะช่วยได้ ก็ให้บอกเขาได้
ฉันจึงนำเรื่องของ ฮ้งเล่าให้น้องหมอทราบตามที่ เล็ก ต้องการ น้องหมอ น่ารักมาก อ่านแล้ว
ก็ตอบกลับมาว่า น้องหมอยินดีรับเป็นเจ้าของไข้ แต่ขอให้เอาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษามาให้เขาดูก่อน
จะได้รักษากันต่อเนื่องได้ วันนี้ฉันจึงพา เล็ก ไปพบ น้องหมอ เพื่อนำเอกสารการรักษาไปให้ดูและให้น้องหมอคุย
กับเล็กน้องสาวของฮ้ง ซึ่งตอนนี้ยังอยูที่ ร.พ. ปิยการุณย์ อยู่ น้องหมอ พลิกดูประวัติการรักษา แล้วก็
วินิจฉัยว่า ที่จริง ตรวจเจอก้อนเล็ก ๆ ที่ขั้วปอดตั้งแต่ปี 54 ทำไมปล่อยเวลาล่วงเลยไป จนเกิดอาการกำเริบ
ในปี 58 เฮ้อ! คงประมาท คิดว่า คงไม่ใช่เนื้อร้าย น้องหมอนั่งคุยและอธิบายให้ฉันกับเล็ก ฟังอย่างละเอียดว่า
เป็นมากขั้นสุดท้ายแล้ว ก็คงต้องรักษาตามอาการ น้องหมอรับเป็นเจ้าของไข้ให้ ให้เตรียมบัตรประชาชน
ของคนไข้ น้องหมอจะดำเนินเรื่อง ประกันสังคมให้ ฉันซาบซึ้งในความน่ารักของ น้องหมอมาก
เป็นหมอที่ให้ความช่วยเหลือคนไข้เสมอ เล็ก ก็ซาบซึ่ง ชื่นชมและขอบคุณน้องหมอ ขอบคุณฉันที่ติดต่อ
และพามาหา น้องหมอ ในครั้งนี้
ขากลับ ก็เย็นสี่โมงกว่าแล้ว เล็กเลยชวนไปทานข้าวหน้าเป็ดร้านประจักษ์ เราทานข้าวหน้าเป็ดคนละจาน
วันที่ 12 เมษายน วันนี้ ชุติมา ส่งชุดลองจอง เสื้อ ผ้าพันคอ ถุงเท้า
เพื่อให้ฉันเตรียมตัวใส่เมื่อไปเที่ยว
ที่ประเทศไอซแลนด์ ซึ่งอากาศหนาวมาก ๆ ชุติมา อยู่ญี่ปุ่น เลือกซื้อ
ได้ดีและได้ของดี ยังฝากยา
แก้กรนมาให้แฟนของ สงวนศรี อีกด้วย
แผ่นรองเท้า กันความชื้นและหนาวเย็น
เสื้อลองจอน ที่ชุ ส่งมาให้จากญี่ปุ่น
กางเกงลองจอน คู่กับเสื้อ
ถุงเท้า ถุงมือกันหนาว ครบชุดเลย ขอบใจ ชุติมา เป็นอย่างมาก นะ
วันที่ 14 เมษายน เช้านี้ ตื่นขึ้นมา พบข้าวหลาม 2 กระบอกแขวนอยู่
ที่หน้าประตู ฉันรู้เลย เป็นของเอก แน่นอน อิอิ
สาย ๆ เอกก็แวะมาหาที่บ้านอีกรอบ เลยได้ถ่ายรูปร่วมกัน อิอิ
วันนี้ยังมี รุ่ง คุณลูกสาวนุ้งนิ้ง มาหา และพาไปทานข้าวกันร้านอาหาร
ในเทอร์มินอล 21 อีก วันนี้ดีจัง ไม่เหงาเลย
ถ่ายรูปให้เห็นป้าย เทอร์มินอล 21 เลย
มุมสวยในห้าง
อีกมุมหนึ่งของห้าง
อาหารหลากหลายอย่าง อิ่มแปล้ เลย
ให้พนักงานที่ร้านช่วยถ่ายรูปคู่ให้ ค่ะ
เสร็จจากอาหารคาว เราก็ต่อด้วยอาหารหวาน ไอศกรีมเซเวนเซ่น
รุ่งแถมมะม่วงที่ซื้อจากแถวบ้านเขามาให้อีก 2 ผล
วันที่ 15 เมษายน วันนี้เอกมารับฉันไปที่ร้านของ ยำ ซึ่งเพิ่งเปิดเป็น
ร้านอาหารตามสั่ง เพื่อน ๆ ของเขา
จะไปอุดหนุนร้านของ ยำ นัดกันครั้งนี้ มี เอก หงุ่น เอ้ เท่านั้น ส่วน
เจ้าเกด หายไปจากวงการเพื่อน
แม้แต่ฉัน ก็ไม่ได้ติดต่อมา คงมีกิจการส่วนตัว จนหาเวลาแม้แต่คุยกัน
ในเฟสในลายน์ไม่ได้ เพื่อนเขาว่าเช่นนั้น อิอิ
เอก กับศิษย์สะใภ้ หงุ่นกันศิษย์เขย เอ้
อาหารที่เราสั่งร้านของ ยำ รสชาติก็พอทานได้ ไม่ถึงกับอร่อยมาก
สภาพอาหารใกล้หมดแล้ว ถ่ายรูปกลุ่มอีกครั้ง ค่ะ
เย็นนี้ อยู่กันดึกไม่ได้ เพราะเอก ต้องมาส่งฉัน และกลับเมืองชลบุรี
เราออกจากร้านของยำ น่าจะ ประมาณ 1 ทุ่ม
วันที่ 16 เมษายน วันนี้เป็นอีกวันหนึ่ง ที่ได้รับคำเชิญจาก ลูกศิษย์
ม.1 รุ่นแรก ที่เขาจัดพิธีรดน้ำดำหัว
ฉันเพิ่งไปร่วมงาน เป็นครั้งแรก รุ่นนี้ ฉันสอนอยู่เพียง 3 ห้อง และจาก
กันไปนานมาก จึงไม่ค่อย
คุ้นหน้าคุ้นตากันมากนัก แต่ปีนี้ พวกเขาก็มีน้ำใจเชิญฉันด้วย ซึ่งพวกเขา
เคยจัดกันมาแล้ว แต่ไม่ได้จัดใหญ่โตเท่าครั้งนี้
เรื่องการจัดงานครั้งนี้ ฉันได้เขียนถึงพวกเขา ไว้และนำไปเผยแพร่
ความดี ความกตัญญูของพวกเขา ตามลิ้งค์ นี้ ค่ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=24-04-2017&group=5&gblog=47
ต่อไป ฉันขอเก็บรูปในงานมาเป็นตัวอย่าง ให้ชมเล็กน้อย ค่ะ
ถ่ายรูปหมู่ลูกศิษย์และครูที่ได้รับเชิญ
พิธีรดน้ำดำหัวครู อาจารย์ ของลูกศิษย์ ม.1 รุ่นแรก
พิธีกร ให้ลูกศิษย์ทุกคนเล่าประวัติความเป็นมาของตนเองให้ครูทราบ
รดน้ำดำหัวกัน ค่ะ
วันที่ 17 เมษายน วันนี้ เล็ก สงวนศรี มารับยา ที่ ชุติมา ฝากมาให้
เล็ก นำข้าวสารมาฝาก 1 ถุง และมีกับข้าวเจ อีก 1 ถุง
ช่วงบ่าย ๆ ชู มาจากพิษณุโลก ได้นำมะม่วงไร่เขามาฝาก และมี
กล้วยตากมาอีก 2 กล่อง
มะม่วงเขียวเสวยและกล้วยตาก ของฝากจาก ชู ลูกศิษย์ ค่ะ
18 เมษายน วันนี้ เป็นวันที่ฉันนัดกับน้องหมอโอ๊ค เพื่อพาฮ้งไปคุย
กับน้องหมอ เพื่ออธิบายวิธีการรักษา
น้องหมอ นัดให้เราไปที่แผนกอายุรศาสตร์ประมาณ บ่ายสอง วันนี้
พี่นพรัตน แม่ของฮ้ง น้องสาว
พร้อมกับหลิว ซึ่งมาช่วยขับรถ แห่กันมา เพื่อฟังคำอธิบายของ น้องหมอ
น้องของฮ้ง ซักหมอ ด้วยคำพูด
ที่ไม่ค่อยน่าฟังนัก ส่วนฮ้ง ซึ่งนอนเปลอยู่ ค่อนข้างอ่อนเพลีย ก็ได้
ถามหมอถึงอาการของตน
ซึ่งหมอที่ปิยการุณย์ที่รักษาอยู่ไม่ได้อธิบายถึงข้อข้องใจของเขา ดูฮ้ง
พอใจคำอธิบายของน้องหมอมากอยู่
และเซ็นยินยอมให้หมอเป็นผู้รักษาเขา น้องหมอน่ารักมาก ยืนคุย ยืน
อธิบายให้ครอบครัวนี้ซักถาม
และอธิบาย คำถามของพวกญาติ ๆ เขา ทุกคำถาม เป็นเวลาน่าจะ
ประมาณ 3 ชั่วโมงได้ น้องหมอฉันช่างน่ารักจริง ๆ
วันนี้ ฮ้ง ขอกลับบ้านก่อน เพราะเพิ่งออกจากโรงพยาบาล หมอสั่งยา
และทำใบนัดให้มาตรวจทำ MRI
หลังจากหาหมอเรียบร้อยแล้ว รอยาแล้ว ก็แวะไปทานอาหารมื้อเย็น
ที่ร้านแสนยอดก่อนจะกลับบ้าน
วันที่ 24 เมษายน วันนี้ พี่โตโทรมาจากเด่นชัยแต่เช้า ยังไม่สองโมง
เช้าเลย ทำเอาฉันแปลกใจ แต่ก็ดีใจ
ที่แกโทรหา แกบอกไม่มีอะไรหรอก เหงา ๆ อยู่ ก็เลยโทรมาหาคุย
กับฉัน ฉันเชื่อนะ ตั้งแต่พี่ใหญ่ถึงแก่กรรม
พี่ใหญ่ซึ่งเป็นน้องชายคนโตที่อยู่กับแกที่เด่นชัย และหวังฝากผีฝากไข้
ถึงแก่กรรมไป แกก็เศร้าโศกเสียใจมาก
แกเล่าว่า แกอยากไปกราบพระบรมศพพ่อหลวง ก็ไม่มีใครจะพาแกไป
ฉันเลยว่า ทำไมไม่บอกน้อง ๆ ให้พาไปล่ะ
แกเล่าว่า แกได้บอกแล้ว แต่น้อง ๆ แต่ละคน ไม่มีใครรับปากแกเลย ต่างก็พากันไปกับครอบครัวของตัวเอง
เฮ้อ! ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อไป ที่จริงมีลูกหลาน
มากมาย ผลัดกันเข็นรถเข็นไม่ลำบากเลย
แกก็บอกว่า ช่างมันเถอะ ทุกคนคงมีภาระครอบครัว จะไปว่าเขาก็ไม่ได้
28 เมษายน วันนี้ นัดกับสุรีย์ ไปทำดอกไม้จันทน์ เพื่อถวายพ่อหลวง
ได้โทรไปชวนอ้อย อ้อยก็ตกลงไปด้วย
โดยก้อยมีรถรับเขาไปด้วย ส่วนฉันขึ้นรถไฟฟ้าไปลงสถานีปุณณวิถี
สุรีย์รอรับฉันที่บันไดเลื่อน
แล้วเราสองคนก็ต่อรถตุ๊ก ๆ ไปที่วัดธรรมมงคล ซึ่งทางที่จะไปถึง
วัดธรรมมงคล ลึกมากพอสมควร
สุรีย์ พาไปไหว้พระ ชมบริเวณวัด สุรีย์มาเป็นโยมอุปัฏฐากที่วัดนี้ด้วย
เลยรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดี
มีคนมาช่วยทำดอกไม้จันทน์มากพอสมควร เพราะที่วัดนี้ มีโรงเรียน
สารพัดช่างมาสอนประชาชนด้วย
ทำดอกไม้จันทน์สำเร็จเป็นดอกแล้ว ก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
อีกภาพหนึ่งของงานทำดอกไม้จันทน์ครั้งนี้
กลุ่มเพื่อนที่ทำดอกไม้จันทน์ด้วยกัน
สุรีย์ พาไปกราบพระพุทธรูปที่โบสถ์
พระพุทธรูปอีกแห่งหนึ่งของวัดธรรมมงคล ค่ะ
ช่วงเที่ยงพวกเราพักเที่ยง สุรีย์พาไปทานข้าวที่ร้านภายในวัด เป็นอาหาร
ตามสั่ง ดูเหมือนก้อยเป็นคนจ่ายมั้ง
ทานข้าวเที่ยงแล้ว ก็ไปทำดอกไม้จันทน์ต่อ วันนี้ฉันทำได้หลายดอก
เลิกประมาณบ่ายสอง
ก้อยมาส่งฉันและสุรีย์ที่โลตัสอ่อนนุช สุรีย์เดินกลับบ้านเพราะใกล้กัน
ส่วนฉันขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้านไป
29 เมษายน วันนี้ อาท ได้นำเงินค่าโบว์ลิ่งมาให้ 2 ทีม และซื้อขนม
มาฝาก มาพร้อมลูกสาวด้วย
อาทมาเยี่ยมที่บ้าน ค่ะ
ขนมที่อาทซื้อมาฝาก ค่ะ
30 เมษายน วันนี้มีงานสองงานซ้อนกัน คือ เรยา ชวนไปงานเลี้ยง
วันคล้ายวันเกิดของลูกสาว น้องนิว
และ น้องวัชรินทร์ ซึ่งจะไปทานอาหารที่ร้านของลูกสาว คุณครูสุวัฒน์
คือ น้องเปิ้ล นั่นเอง
เรยาให้ฉันไปรอกันที่ โลตัส อ่อนนุช ไม่ได้มารับฉันที่บ้านหรอก เพราะ
นัดน้องวัชรินทร์ ที่นี่ด้วย
ฉันฝาก หนังสือธรรมะฝาก น้องวัชร์ และฝากผ้าพันคอ (น่าจะใช่นะ)
ให้น้องนิว ลูกสาวของเรยา
ถ่ายรูปที่หน้าร้านอาหารก่อนเข้าร้าน ค่ะ
มุมน่ารัก ๆ ให้แขกที่มาทานอาหารถ่ายรูป
อาหารที่สั่งของแต่ละคน ค่ะ
เค้ก เจ้าของวันคล้ายวันเกิด ทั้งสองคน
หลังจากอิ่มข้าว ร้องเพลง เบิร์ดเดย์กันแล้ว ก็ต้องรีบกลับกัน เพราะฉัน
ต้องกลับมาอาบน้้ำแต่งตัว
เพื่อไปงานอิสลามคืนถิ่น อีกงานหนึ่ง ค่ะ
มาถึงบ้านบ่ายสองกว่า ยังมีเวลาพักสักครู่ใหญ่ แล้วจึงไปอาบน้ำ
แต่งตัว เพราะประสิทธิ์
จะขับรถมารับฉันที่บ้าน ประสิทธิ์ไปรับพี่เสริมก่อน แล้วจึงมารับฉัน
นัดไว้ ประมาณ บ่ายสี่โมงเย็น
บรรยากาศของงาน ปีนี้ ไม่ยิ่งใหญ่นัก เพราะปัญหาภายใน และเปลี่ยน
นายกสมาคมนักเรียนเก่า
อีกประการหนึ่ง ยังไม่มี ผอ. มีแต่ รักษาการแทนเท่านั้นเอง เรามาชม
บรรยากาศของงานค่ะ
ดีใจที่ปีนี้ ลูกศิษย์ที่เคยสอนมากันมากมาย
มุมถ่ายรูป ที่ทำไว้ให้ศิษย์เก่ามาถ่ายรูปกัน
ถ่ายรูปหมู่ ลูกศิษย์ที่มาคารวะครูเก่า
พ.ต.ท.อนุสรณ์ ลูกศิษย์ รุ่นแรก ค่ะ
ถ่ายรูปหมู่ กัน กับนิทราเพื่อนรัก ด้วย
ลูกศิษย์มาถ่ายรูปที่โต๊ะอาหาร
รวมรุ่นลูกศิษย์ ที่เคยสอนทั้ง 3 ปีที่อิสลามวิทยาแห่งประเทศไทย ค่ะ
ส่วนรายละเอียดของงานและบรรยากาศของงาน ฉันได้เขียนไว้ตาม
ลิ้งค์ ต่อไปนี้ ค่ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=04-05-2017&group=5&gblog=48
เรื่องราวในชีวิตของฉันในเดือน เมษายน ก็จบลงในวันสุดท้ายของเดือน
เป็นกิจกรรมที่ได้กลับไปเยือนถิ่นเก่าอย่างมีความสุข ค่ะ
โปรดติดตามในเดือน พฤษภาคม ต่อไป นะคะ
ทั่งอิ่มบุญ อิ่มใจ และน่าสนุก
ชมภาพแล้วยิ้มตามค่ะ
พ่อหายดีแล้วค่ะ แต่ยังต้องเฝ้าดูแล
ขอบคุณครูที่แวะชมกล้วยไม้
พรึ่งนี้หนูแวะมาใหม่ค่ะ