เพื่อนขอนแก่น พาท่องอิสาน  ตอนที่ 1  อิสาน เป็นภาคที่ฉันไปเที่ยวค่อนข้างน้อยครั้ง  สาเหตุที่ไปเที่ยวครั้งนี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจเท่าไรนัก เป็นเพราะ พี่เจ๋ ซื้อทัวร์ไว้ แต่ยังขาดสมาชิกอีกประมาณ 4-5 คน เลยโทรมาชวนไปเพิ่มให้ครบ ฉันก็ไปชวน วัชร์ไปอีกคน  ก็เหลืออีกประมาณ 4 คน เขาก็หวังว่า คนจัดทัวร์จะหาลูกค้า มาให้ครบตามจำนวน คือ 8-9   คน ได้รถตู้ 1 คัน ก็สามารถออกทัวร์ได้ แต่พอถึงใกล้วัน ที่จะไป คนจัดทัวร์ก็ยังไม่สามารถหาคนมาเพิ่มได้  จึงต้องล้มเลิกไป  แต่วัชร์อยากไปเที่ยวอิสาน จึงเสนอว่า ให้พี่เจ๋ นำรถไปโดยลุงสมเป็นคนขับ  แล้วไปหา เอก ที่ขอนแก่น ซึ่งเคยเอ่ยปาก ชวนไปเที่ยวขอนแก่นและจะเป็นมัคคุเทศก์พาเที่ยวอิสานให้ทั่วเลย  แต่ปรากฏว่า พี่เจ๋ บอกว่าไม่สะดวก  เราเลยเปลี่ยนแผนใหม่  เมื่อไม่อยากเอารถไป (เราหารเฉลี่ยนะ ไม่ได้ให้เขาออกค่าน้ำมัน) เราไปรถทัวร์ลงที่ขอนแก่น  เอก มีรถกระบะ แค้ป นั่งได้ 5 คน  แต่พี่เจ๋ ก็ยังยืนยันว่า เขาไม่สะดวก  ทำให้ วัชร์ เสียความรู้สึก เพราะพี่เจ๋ เป็นคนชวน  ทำให้เกิดความอยากเที่ยว แต่กลับตอบว่า ไม่สะดวก  ฉันเองก็เสียความรู้สึก ทำไมเขาตอบว่า ไม่สะดวก แปลก ๆ ดีเหมือนกัน  เนาะ  วัชร์เลยชวนฉันไปหา  เอก เพียงสองคน เพื่อเที่ยวให้สะใจ  ซึ่งเราต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น เพราะคนน้อย ค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีตัวหารเฉลี่ยไงล่ะ  แต่เราสองคน ก็ไม่ได้ เดือดร้อนอะไร  เพราะเราก็พอมี พอใช้ และพอเที่ยวได้อยู่แล้ว ห้าห้า  วันที่ 21 ธันวาคม  59 เป็นวันที่เรานัดกันกับ เอก ว่า จะไปขอนแก่น  เอกบอกว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะมารับพวกเราที่สถานีรถทัวร์ เอง  ไม่ต้องกลัวหลง  เออ! ค่อยยังชั่วเนาะ คนกรุงเข้าบ้านนอก  ห้าห้า  ครั้งนี้  ลูกชาย วัชร์ ไม่ได้ไปส่งถึงที่ท่ารถทัวร์  วัชร์แวะมารับฉันที่บ้านและลูกชายเขา พาเรามาถึงแถว ๆ กรมศุลฯ ซึ่งพอมีรถแท็กซี่  ฟ้ายังไม่แจ้งนัก  (มารับ 6 โมง เช้า)  โชคดี พอลงรถ  มีแท็กซี่มาส่งคนลงบริเวณนั้น  เราเลยไม่ต้องรอรถ   กั๊ก ลูกชายวัชร์  ช่วยหิ้วกระเป๋า ขึ้นรถแท็กซี่เรียบร้อยแล้ว  จึงขับรถของเขาไปทำงาน  รถแท็กซี่พาพวกเราไปถึงสถานีรถกำแพงเพชร 2 ยังไม่ถึง 7 โมงเลย  รถทัวร์ คือ นครชัยแอร์  กำหนดออก 8 โมงเช้า  นำตั๋วที่เราจองไว้ ให้เขาดู กลัวจะผิดเที่ยวรถ  ห้าห้า   ตามประสาคน ไม่เคยขึ้นรถทัวร์นานมาก ๆ  น่าจะตั้งแต่ ตอนนั่งรถทัวร์ไปกับ น้องศรายุธ (น้องเส็ง) เพื่อไปเด่นชัย งานแต่งของพี่เล็ก  แล้วก็ไม่เคยนั่งไปไหนอีกเลย เมื่อถึงเวลา  รถออก  เอก โทรเข้ามือถือฉัน ถามว่า ถึงไหน  ฉันบอกว่า  ขึ้นบนรถทัวร์แล้ว  กำลังจะออกเดินทางไปขอนแก่นแล้ว  คงกลัวว่า เราจะเบี้ยวไม่เป็นจริง  เดี๋ยวจะไปรับเก้อ  ห้าห้า โธ่ !  ใครจะทำอย่างนั้นได้  เสียผู้ใหญ่แย่เลย น่ะซี  ถึงจะเป็นผู้หญิง 2 คน ก็ไม่กลัวอะไรหรอก เมืองไทยของเราเองนี่นา เนอะ  เมื่อถึงเวลารถออก  พนักงานบนรถ  อธิบาย กฎระเบียบ ให้คาดเข็มขัดเพื่อความปลอดภัย  แล้วแจกน้ำและอาหารขบเคี้ยว ขนมปังให้ทานบนรถ  ฉันกับวัชร์  ใหม่ ๆ ก็นั่งคุยกันไป  รถของบริษัทนี้ ดีมากทีเดียว  ที่นั่งกว้างพอสมควร มีที่วางเท้าให้ด้วย  มีที่ให้ใส่ขวดน้ำ  มีที่ยื่นออกมาเพื่อให้วางกล่องข้าวที่เขาแจกให้ทานกลางวัน ระหว่างทาง  มีการเปลี่ยนคนขับด้วย  คือ ไม่ให้ขับมือเดียวโดยตลอด เพราะหนทางไกล  ขับคนเดียวก็อันตรายเหมือนกัน เผื่อคนขับง่วง เมื่อยล้าไป ก็อาจจะพาผู้โดยสารไปพบกับอุบัติเหตุได้ คุยไปคุยมา เริ่มง่วง ต่างคนต่างนั่งหลับ  แอร์เย็น ๆ ก็หลับสบายไป จนถึงเที่ยง เขามาแจก อาหารกล่อง  พวกเราก็ตื่นขึ้นมาทานมื้อเที่ยงกัน  อาหารเป็นอะไร  ฉันจำไม่ได้เสียแล้ว แต่รสชาติก็โอเค พอทานได้ดี  มีการรับผู้โดยสาร ระหว่างทางที่ไปอยู่ 2-3 จุด ผู้โดยสารลง ระหว่างทางอยู่ 2-3 จุดเช่นกัน  ส่วนเราสบาย ไม่ต้องห่วง เพราะเอกบอกว่า ให้นั่งไปถึงปลายทาง คือ ที่สถานี 3  เอกจะไปรับที่สถานี นี้  ประมาณ บ่าย 3  พวกเราก็มาถึงเมืองขอนแก่น สถานี 3   ลงจากรถ  ได้กระเป๋าจากใต้ท้องรถแล้ว  เราก็ลากไปยังลานกว้างที่ผู้โดยสารนั่งรอรถ  สอดส่ายสายตาหา เอก   เอ้า!  เอก มายืนรอพวกเราอยู่แล้ว  ยิ้มเผล่มาเลย  ดีใจได้เจอ เพื่อนร่วมเที่ยว  ร่วมลุย เมืองจีนมาแล้ว 2  ครั้ง  ร่วมผจญภัยจากทริป คานาสือ ที่ถูกนายพี ทิ้ง ให้พวกเราไปผจญภัยกันเองในเมืองจีน  ห้าห้า  เอก  มาช่วยหิ้วกระเป๋าพวกเราไปขึ้นรถกระบะ ของเขาที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก   มาถึง เอก ไม่ให้เสียเวลาเลย  พาไปเที่ยวที่วัดหนองแวง  เป็นวัดที่สวยมาก มี 9 ชั้น  ติดกับบึงแก่นนคร  พวกเราไปกราบไหว้พระ และเดินชมแต่ละชั้น ฉันขึ้นบันได ครบ 9 ชั้น   เรามาทราบประวัติ ความเป็นมาของ วัด หนองแวง สักเล็กน้อย เพื่อเป็นความรู้ประกอบการเล่าเรื่อง ค่ะ  เที่ยววัด พระธาตุ หนองแวง  วัด พระธาตุหนองแวง  แต่เดิม  มีชื่อว่า วัดเหนือ   สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2332 สร้างพร้อม ๆ  กับวัด กลางและ วัดธาตุ   วัดพระธาตุหนองแวงตั้งอยู่ที่ ถนนกลางเมือง  ริมบึงแก่นนคร อ.เมือง จังหวัด ขอนแก่น  ภายในวัด มีพระมหาธาตุแก่นนคร หรือ พระธาตุเก้าชั้น  ฐานสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 50 เมตร  เรือนยอดเจดีย์จำลองแบบจากพระธาตุขามแก่น  จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี  และมังคลานุสรณ์  200 ปี เมืองขอนแก่น  ความสูงขององค์พระธาตุ  80เมตร  มีพระจุลธาตุ 4 องค์ตั้งอยู่ 4 มุม  มีกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียร ล้อมรอบ  เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี ผสมผสานศิลปะอินโดจีน ซึ่งเป็นลักษณะแบบชาวอีสานตากแห  วัดพระธาตุหนองแวง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-18.00 น. ลักษณะที่ตั้งของวัดพระธาตุหนองแวง  เป็นลักษณะ 6 เหลี่ยม มีหมู่บ้านล้อมรอบ 3 ด้าน และมีบึงแก่นนคร อยู่ทางทิศตะวันออก  เคยได้รางวัล เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ปี 2524 และเป็นวัดพัฒนาดีเด่น ปี 2526 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง เมื่อ ปี พ.ศ. 2527 9 ชั้น มีสิ่งที่สามารถไปชมได้ ขอเล่าย่อ ๆ ดังนี้ ค่ะ  ชั้นที่ 1 เป็นหอประชุม  มีพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า ส่วน      อุรังคธาตุ  (ส่วนอก) และพระธาตุของเหล่าสาวก ประมาณ 100  องค์  ชั้นที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ ของชาวอีสาน  มีเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีตที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน ชั้นที่ 3 เป็นหอพิพิธภัณฑ์  บานประตู หน้าต่าง แกะสลักสวยงาม   ชั้นที่ 4  เป็นหอปริยัติธรรม มีพิพิธภัณฑ์ของเก่า  ภาพวาด งดงาม ชั้นที่ 5 เป็นหอปริยัติธรรม ที่มีบริขารของหลวงปู่พระครูปลัดบุษบา     สุมโน  อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 6 ชั้นที่ 6 เป็นหออุปัชฌายาจารย์  บานประตูหน้าต่าง แกะสลัก เรื่องราวของพระเวสสันดร ชั้นที่ 7 เป็นหอพระอรหันต์สาวก บานประตู หน้าต่างแกะสลักเรื่องพระ   เตมีย์ใบ้ ชั้นที่ 8  เป็นหอพระธรรมเป็นที่รวบรวมพระธรรม พระคัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนา พระไตรปิฎก  บานประตู หน้าต่างแกะสลักรูปพระพรหม 16  ชั้น ชั้นที่ 9 เป็นหอพระพุทธ  ตรงกลางเป็นบุษบก เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ต่อไปจะเป็นภาพของวัดพระธาตุ หนองแวว  ทั้งภายในและภายนอกมาให้ท่านผู้อ่านชื่นชม ค่ะ  เป็นบันไดที่ให้เราขึ้นไปชมแต่ละชั้นของวัดค่ะ  ศิลปะที่งดงามตามซุ้มประตู  หน้าต่างของวัดพระธาตุหนองแวง กราบพระบรมธาตุ ค่ะ  กราบพระแล้ว ถ่ายรูปคู่กัน ค่ะ  บันได หน้าวัดที่จะเข้าไปชมวัดพระธาตุหนองแวง  ถ่ายกับป้ายยืนยันว่าเป็นวัดพระธาตุหนองแวง  อิอิ  เที่ยววัดพระธาตุ หนองแวง  แล้ว เอก จะพาไปชม งานการจัดพันธุ์ไม้ถวายพ่อหลวง แต่ไปถึงกลางทาง  รถติดมากเหลือเกิน อาจเป็นเพราะเป็นเวลาเลิกงานและคนจะไปชมงาน เอก จึงเปลี่ยนใจ กลับรถ หันกลับ ขับรถไปที่มหาวิทยาลัย ขอนแก่น ไปที่พักของน้องหมัย  เพื่อรับหมัยไปยังบ้านนา  ซึ่งคืนนี้ เราจะพักที่บ้านนาของ เอก ที่นี่  หมัย เตรียมอาหารเลี้ยง พวกเราเย็นนี้ด้วย มีปลาเผา  แหนมเนือง  ตำถั่ว ผลไม้ ก็มีพุทรา ข้าวโพด ต้ม  จากบ้านพักของหมัยเดินทางไปถึงบ้านนาของหมัยและเอก เป็นระยะทางที่ไกลไม่น้อย  ใช้เวลาน่าประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง หนทางที่เข้าไปยังที่พักของ เอกและหมัย สองข้างทาง เป็นไร่ข้าวโพด  ไร่อ้อย  ถนนที่เข้าไปยังที่นาและบ้านของเขา  ค่อนข้างแคบ ถ้าฝนตก ถนนคงแฉะ และลื่น ต้องเป็นรถกระบะ  จะลุยได้ดี  ถ้าเป็นรถเก๋ง ก็คงแย่ พังง่ายแน่นอนเลย  บ้านของเอก ปลูกเป็นใต้ถุนสูง มีสองห้องนอน  ห้องแรก  เป็นห้องของเอกและหมัย  อีกห้องน่าจะเป็นห้องไว้รับแขก เวลามีคนมาเที่ยว  เป็นบรรยากาศคนกรุงอย่างฉันไม่ค่อยได้พบเห็น ได้บรรยากาศอีกบรรยากาศหนึ่ง  เป็นบรรยากาศบ้านไร่ บ้านนา  เป็นธรรมชาติของชาวชนบทจริงๆ  ที่ชาวกรุงอย่างฉันแทบจะไม่เคยได้สัมผัสเลย  น่าตื่นเต้นดีเหมือนกัน ที่รอบ ๆ บ้าน ปลูกใต้ถุนสูง   มีหมาใหญ่  3 ตัว หมาเล็ก ๆ ที่ เอก เพิ่งได้มาจากเพื่อน อีก 2 ตัว กำลังซนทีเดียว ตัวหนึ่งอ้วน  อีกตัวผอม  ขนไม่ค่อยปุย แต่เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน  มาถึง ก็มือค่ำแล้ว น่าจะเกือบทุ่มได้แล้ว  พวกเราก็เตรียมจาน เทอาหารสำเร็จรูป  เพียงแต่ล้างผัก ผลไม้  ทานปลาเผา  แหนมเนืองกับผัก  ที่นี่ เอก เขาเก่ง เดินไฟในบ้านเอง  แต่ก็ไม่ได้สว่างไสวมากนัก บรรยากาศสลัว ๆ ก็โรแมนติคดี  เสียดาย วัชร์ถ่ายรูปไว้แล้ว ไม่รู้หายไปไหน เลยไม่มีรูปมาให้ชม  ทานอาหารมื้อเย็นอิ่มหนำสำราญแล้ว เอก กับ วัชร์ก๊งเบียร์กันสนุกสนาน ส่วนฉันดื่มไม่เป็น กินอาหารมื้อเย็น อิ่มตื้อไปเลย คืนนี้  หมัยจัดการกางมุ้งให้พวกเรานอน  ฉันไม่ได้นอนมุ้งมาน่าจะ 50 กว่าปีแล้ว  มานอนมุ้งอีกครั้ง ก็รู้สึกตื่นเต้นดีเหมือนกันนะเนี่ย  การอาบน้ำ ก็ยังดีที่มีห้องหับให้อาบ ไม่ใช่อาบน้ำกลางแจ้ง ห้าห้า  น้ำในตุ่ม เย็นมาก ถึงจะรองอาบจากก๊อกน้ำ ก็ยังเย็นยะเยือกเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม มาขอนแก่น ครั้งนี้ อากาศไม่ได้หนาวอะไรเลย เย็น ๆ อย่างเดียว เสื้อผ้าที่นำมา ใส่แล้วร้อนเลยแหละ ห้าห้า  รุ่งเช้า วันที่ 22  ธ.ค. 59   เช้านี้ ตื่นเอา 6 โมงเช้า  ออกมาชมพระอาทิตย์ขึ้น  หมัย นึ่งข้าวเหนียวเอาไว้แล้ว มีกล้วยปิ้ง ชา กาแฟ  มีขนมเปี๊ยะ  ฉันดื่มชา  ทานข้าวเหนียวกับน้ำพริกปลาทู  กล้วยปิ้ง เป็นอาหารมื้อเช้า  มาชมบรรยากาศตอนเช้ากัน  ค่ะ  อาหารมื้อเช้า ค่ะ    รอบ ๆ บ้านอันร่มรื่นของ เอกและหมัย ตัวบน ชื่อเฉาก๊วย  สองตัวล่าง เป็นลูกหมาที่เพิ่งได้มา  เจ้าตัวเล็ก มองตาละห้อย ขอกิน จ้ะ  เอก ขับรถไปส่งหม้ยที่ ม.ขอยแก่น  หมัยเป็นพยาบาลที่ ม.ขอยแก่นจ้ะ พวกเรา ช่วยกันล้างถ้วยล้างชาม ที่ทานกันตั้งแต่เมื่อคืน  เสร็จแล้ว ก็อาบน้ำอาบท่า เตรียมออกเดินทาง เพราะ เอก จะพาเที่ยวอีสานในหลาย ๆจังหวัด  ประมาณ 8.45 น. เอก ก็ช่วยกันหิ้วกระเป๋าขึ้นรถกระบะไป เตรียมพาพวกเราไปท่องอีสาน  เมื่อคืน ได้โทรคุยกับน้อง วิหค ที่อยู่หนองบัวลำพู  นัดแนะว่า จะไปเยี่ยมเขาที่โรงเรียนที่เขาสอน  วิหค เป็นเพื่อนในเฟส ซึ่งถูกอัธยาศัยกัน  ก็เลยอยากไปพบเจอกัน เขาเป็นครูสอนหนังสือเหมือนฉัน  เช้านี้ ประมาณ 8.45 น. โทรมาหาฉัน  ถามว่า เราจะไปถึงที่โรงเรียนเขากี่โมง  เอก บอกว่า  น่าจะประมาณ เที่ยง ๆ  จะเดินทางไปถึง หนองบัวลำพู  ฉันตอบและนัดแนะกับ น้อง วิหค ตามนั้น  แห่งแรกที่ เอก พาพวกเราไปเที่ยวคือ เที่ยวที่วัดพระพุทธบาทภูพานคำ  วัดพระพุทธบาท ภูพานคำ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า วัดพระบาท ภูคำ  เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนไหล่เขา ภูพานคำ อำเภอ อุบลรัตน์  จังหวัด ขอนแก่น  เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท  จำลองในมณฑป   มีพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า  หลวงพ่อใหญ่ สูง 14 เมตร  อยู่บนยอดเขา มีบันไดทางขึ้น  จากลานวัดไปถึงยอดเขา จำนวน 1049 ขั้น บางแห่งบอกว่า  1040 ขั้น หรือจะขับรถขึ้นไปก็ได้ ความเป็นมาของประวัติวัด พระพุทธบาท ภูพานคำ  เล่ากันว่า  ในปี พ.ศ. 2492  พระอาจารย์บุญ ปัญญาวุทโฒ  พร้อมพระภิกษุ 4 รูป ได้มาธุดงค์  บำเพ็ญเพียร  ผ่านมาแถวไหล่เขาแห่งนี้  ได้พบบ่อน้ำ เห็นมีน้ำไหลซึมออกมาตลอดเวลา  จึงให้พระภิกษุ ที่มาด้วย  ช่วยกันขุดดินและขจัดใบไม้ที่ทับถมอยู่ ปากบ่อ  แล้วพิจารณาบ่อน้ำ   มีลักษณะคล้ายรอยเท้ามนุษย์ แต่ว่ามีขนาดใหญ่กว่า   จึงเชื่อว่า จะเป็นรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า  ประชาชนในละแวกนั้นทราบข่าวนี้ เกิดความศรัทธา  เดินทางมากราบไหว้  จัดพิธีสมโภชฉลองรอยพระพุทธบาท  และเกิดปฏิหาริย์  มีแสงสว่างไสว  บริเวณรอบพระพุทธบาท  ตามต้นไม้ ในเวลากลางคืนถึง 7 คืน  จึงได้หายไป  ยิ่งทำให้ เกิดความศรัทธาถือเป็นมงคลอย่างยิ่ง  กำนัล นิล  จึงได้ถวายที่ดินเพื่อสร้างวัดให้ถาวรในพระศาสนาต่อไป  เนื้อที่วัดมีประมาณ  200 ไร่  ได้รับการอนุญาตในการสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2492 หลวงพ่อขาวหรือหลวงพ่อ ภูพานคำ   เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร  สีขาว สร้างปี พ.ศ. 2514-2518 หน้าตักกว้าง 18  เมตร สูง 40 เมตร ประดิษฐานอยู่บนไหล่เขา ภูพานคำ  ภายใต้ฐานเป็นที่สักการบูชา และเก็บกักน้ำฝน  เรามาชมภาพ ที่ฉันถ่ายมาฝาก จ้ะ  ถ่ายกับป้าย พระพุทธบาท ภูพานคำ บันไดที่จะเดินขึ้นไปไหว้หลวงพ่อขาว  แต่พวกเราไม่ได้ขึ้นไป หลวงพ่อขาว หรือ หลวงพ่อ ภูพานคำ  ออกจากวัดนี้แล้ว  เอก ก็พาพวกเราไปเที่ยวที่ เขื่อน อุบลรัตน์ เป็นเขื่อนที่สวยงาม อยู่ในจังหวัดขอนแก่น ฉันถ่ายรูปมาให้ชมหลายภาพอยู่ ค่ะ มาชม ค่ะ   ถ่ายกับป้ายเขื่อน อิอิ เบื้องหลังเป็นน้ำที่เขื่อนกั้นไว้ ดูกว้างใหญ่ไพศาลมาก ค่ะ  มุมสวยอีกมุมหนึ่งของเขื่อนอุบลรัตน์  ทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนอุบลรัตน์   จากเขื่อนอุบลรัตน์  เอกขับรถเลียบลำน้ำโขงมุ่งไปที่ จังหวัดหนองบัวลำพู  ระหว่างทาง  ก็โทรศัพท์ติดต่อ ถามทางที่จะไปโรงเรียนที่ น้องวิหค สอนอยู่  และในที่สุดก็หาโรงเรียนของน้องพบ น้องวิหค สั่งอาหารที่ร้านประจำของเขา  โดยสั่งล่วงหน้า  เป็นร้านอาหารใกล้โรงเรียนที่สอน มาครั้งนี้  ได้แนะนำแฟนให้รู้จักด้วย  น่าจะแต่งงานกันแล้ว ฉันก็ไม่กล้าไปถามอะไรมากนัก  เพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัว  ถ้าเขาไม่เล่า เราก็ไม่ควรไปถามซอกแซก ซึ่งไม่ใช่เป็นสิ่งสมควร พวกเราพบหน้ากันครั้งแรก ก็ดีใจกัน  กอดกันเล็กน้อย  แล้วก็ไปที่ร้านอาหาร โดยน้องกับแฟน ขับรถนำหน้าไปยังร้านอาหาร ที่เจ้าของร้านเตรียมอาหารที่วิหคสั่งเอาไว้แล้ว  มาถึงก็ทานได้เลย อิอิ วิหค น่ารักมาก หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส  แสดงความเป็นกันเอง ให้ความเคารพอ่อนน้อมเหมือนกัน ที่เคยคุยกันทางโทรศัพท์  ร่าเริง พูดเก่ง  ต้อนรับอย่างดี เหมือนเพื่อนที่สนิทกันมานาน  น่าประทับใจ รายการอาหารที่วิหคสั่งเลี้ยงต้อนรับ ค่ะ  ถ่ายรูปหมู่ที่หน้าร้านอาหาร ค่ะ  หลังทานอาหารเสร็จแล้ว  วิหคพาข้ามถนนไปซื้อกล้วยหอมให้ 1 หวี และซื้อกล้วยกวนให้ฉัน อีก 1 ห่อด้วย  เพื่อทานระหว่างการเดินทาง  ใจดี  น่ารักจังเลย น้องวิหค ของฉัน มากรุงเทพฯ  ต้องพาเธอไปทานข้าวตอบแทนบ้าง แต่ก็ยากเย็น  งานเขามากมาย ลงมากรุงเทพฯ ไม่เคยนัดเจอกันได้เลย  หลังจากนั้น พวกเราก็อำลาน้อง วิหค  เดินทางต่อไป จากหนองบัวลำพู ก็เข้า จังหวัดเลย ไปที่ เชียงคาน ช่วงบ่ายมาก น่าจะบ่ายสองบ่ายสามแล้ว อากาศร้อนมาก ๆ เอก พาพวกเราขับรถไปตามถนน ในบริเวณคนเดิน ซึ่งมีร้านค้าต่าง ๆ  ขายของมากมาย  ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายเสื้อผ้ามากที่สุด  แต่ตอนนี้ไม่มีคนเดินชมหรอก  เพราะอากาศร้อนมาก ๆ  เขาจะมาเดินชมกันในตอนกลางคืน ร้านเสื้อผ้า  มากมาย เสื้อผ้าและของที่ระลึก  ถนนหนทางที่เชียงคาน ถนนที่ผ่าน มีร้านทำมะพร้าวแก้ว  เราแวะดูวิธีการทำมะพร้าวแก้ว และซื้อมะพร้าวแก้วเพื่อเป็นของฝาก มีสองแบบ แบบ มะพร้าวแก่ แข็งหน่อย ราคาถูกกว่า มะพร้าวแก้วที่ทำจากมะพร้าวอ่อน  จำไม่ได้ว่า ราคากิโลละเท่าไหร่  น่าจะสองสามร้อย  ฉันน่าจะซื้ออย่างละ ครึ่งโล ถ้าจำไม่ผิด  แล้วให้จัดเป็นถุงเล็ก ถุงละ 2 ขีด เป็นของฝากจากเชียงคาน   จากที่นี่  เอก พาไปเที่ยว แก่งคุดคู้   มีร้านค้าขายของมากมาย ทั้งเสื้อผ้า  ของกิน  ของใช้  ของที่ระลึก  เราไปถ่ายรูปกับป้ายแก่งด้วย   หลังแท่งแก่งคุดคู้  ก็คือ แก่งน้ำ ไม่ค่อยมีน้ำอะไรมากนัก  ทิวทัศน์สวยงามของแก่งคุดคู้  ถนนหนทางที่แก่ง คุดคู้   ร้านค้าต่าง ๆ เรียงรายเป็นแถว   หลังจากที่ถ่ายรูปกับแก่งคุดคู้แล้ว  เราก็เดินชมร้านค้าต่าง ๆ ได้เสื้อสกรีนคำว่า เชียงคาน คนละ 1 ตัว วัชร์ ซี้อเหมือนกัน  นอกจากนี้ เห็น เอก เขาซื้อเขียงรูปร่างแปลกดี  คือเขียงแบ่งเป็น สองส่วน  ส่วนหนึ่งใช้หั่นของ  อีกครึ่งหนึ่งขุดเป็นหลุม เมื่อหั่นของเสร็จก็ปาดของที่หั่นลงหลุมนั้นเลย ราคาก็แพงไม่น้อยนะ  เกือบสองร้อยบาทเชียว  เอก บอกว่า เขาเคยซื้อไปใช้แล้ว ใช้ดี เลยซื้ออีก จากนั้น พวกเราก็ดินทางต่อไป  โดย เอกขับรถเลียบไปตามลำน้ำโขงไปเรื่อย ๆ ผ่านตรงไหน เห็นว่าสวย  เขาก็จอดรถให้ฉันกับวัชร์  ไปเก็บภาพเหล่านั้น  ฉันกับวัชร์ ก็ผลัดกันถ่ายรูปกันไป  ทิวทัศน์ทางที่ผ่านเลียบลำโขง มาถึงจังหวัดหนองคาย   เราเข้าตัวเมือง ของจังหวัดหนองคาย   เอก  ขับรถ  เพื่อหาที่พัก ที่ติดกับริมโขง เราพักที่ อ. สังคม มาชมที่พักของเรา ค่ะ คืนละ 700 บาท  ชื่อที่พักว่า เรือนแวนดา หลังจากที่นำกระเป๋าเข้าที่พักแล้ว  ตอนนั้นน่าจะประมาณทุ่มแล้ว  เอก เอารถออกไปหาร้านอาหาร ได้ร้านข้าวต้มไม่ไกลจากที่พักนัก  เป็นอาหารกับข้าวตามสั่ง  เราสั่ง ผัดผักบุ้ง ยำผักกาดดอง  ไข่เจียมใส่พริก (อร่อยดี)  ชื่อว่า ร้านเป็นหนึ่ง  พวกเราทานข้าวต้มกันคนละ 2 ชาม อิ่มตื้อเลย  คืนนี้  พวกเราเข้านอนกัน ตามปรกติ  คือ มีละครให้ดู  ดูจบก็อาบน้ำ นอนหลับสบาย พรุ่งนี้ เราต้องตื่นแต่เช้ามาก ๆ เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ วัดผาตากเสื้อ โปรดติดตามการท่องอิสาน ตอนที่ 2 ต่อค่ะ    Create Date : 07 มิถุนายน 2560 19 comments Last Update : 12 มิถุนายน 2560 10:02:34 น. Counter : 2100 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณกะว่าก๋า, คุณกิ่งฟ้า, คุณmambymam, คุณสองแผ่นดิน, คุณเรียวรุ้ง, คุณlovereason, คุณtoor36, คุณSai Eeuu, คุณชีริว, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณnewyorknurse, คุณKavanich96, คุณภาวิดา คนบ้านป่า

ว๊าววววเจิท ตามาลัดเลาะตามอาจารย์ค่ะ สวยงามทุกภาพค่ะ   โดย: อุ้มสี 9 มิถุนายน 2560 23:48:06 น.

ขอบคุณที่แบ่งปัน   โดย: Kavanich96 10 มิถุนายน 2560 4:19:43 น.

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์ วัดทางอิสานผมเองก็ยังไม่เคยไปเลยครับ แต่ชอบศิลปะทางอิสาน ผมว่ามีความคล้ายกันกับทางเหนือหลายอย่าง รวมทั้งวัฒนธรรมอาหารด้วยครับ โหวตครับอาจารย์   โดย: กะว่าก๋า 10 มิถุนายน 2560 6:13:04 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์ อนุโมทนาบุญครับอาจารย์ ผมไม่ได้ตักบาตรมานานมากแล้วครับ 555 แต่ทำบุญทำทาน ยังทำสม่ำเสมอครับ พี่หมิงชอบเล่นอะไรแผลงๆ ฮาๆครับ บางทีเดินๆมาก็ล้มตัวลงนอนกับพื้น แกล้งตาย เท่านี้น้องก็ฮาแล้วครับ 5555 ขอบคุณอาจารย์ด้วยครับ ช่วยตรวจทานคำผิด ผมเขียนด้วย _๊ มาตลอดเลยครับ   โดย: กะว่าก๋า 10 มิถุนายน 2560 10:55:06 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog Gorjai Writer Movie Blog ดู Blog อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น สวัสดีค่ะอาจารย์ ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับคะแนนโหวตให้กำลังใจค่ะ ตามมาชมวัดทางอิสานสวยมากนะคะ อาจารย์โชคดีจังเลยนะคะมีเพื่อนเที่ยวไม่เหงาได้เจอสิ่งสวยๆงามๆสบายตาแถมได้บุญด้วยค่ะ กิ่งโหวตให้นะคะ ไว้กิ่งจะลองถามเพื่อนๆดูนะคะว่าเจ้าของสวนอิทรผาลัมนั้นใช่คนเดียวกะเพื่อนอาจารย์หรือเปล่า ถ้ามาลำปางยินดีพาเที่ยวค่ะ อิอิ มีความสุขยามบ่ายค่ะ   โดย: กิ่งฟ้า 10 มิถุนายน 2560 14:08:57 น.

พระธาตุหนองแวง เคยได้ยินชื่อมาบ้างค่ะ เพิ่งเห็นเต็มตาวันนี้สวยงามมากๆค่ะ ครูเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระธาตุอย่างละเอียดเลยค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย เขื่อนอุบลรัตน์ก็สวย หนูเคยไปเมื่อหลายปีมากแล้วค่ะ จัดเป็นเขื่อนที่ใหญ่อีกเขื่อนนึงเลยนะคะ อากาศบริเวณนั้นก็ดีด้วย แก่งคุดคู้ทิวทัศน์สวยจังเลยค่ะ อยากจะไปนั่งเล่นริมน้ำจังคงเย็นสบายดี เห็นเมนูอาหารบนโต๊ะ กับมะพร้าวแก้วแล้วน้ำลายหก อยากกินซะงั้นค่ะ อิอิ วันนี้ชมภาพเพลินมากค่ะ ไว้รอเที่ยวต่อตอนสองค่ะ อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog   โดย: mambymam 10 มิถุนายน 2560 21:52:34 น.

สวัสดีดึกๆครับ อาจารย์สุ มาเที่ยวอิสานด้วยคนครับ ภาคอิสานผมไปเที่ยวน้อยมากครับ พระธาตุวัดหนองแวง ขอนแก่น เคยไปไหว้มาแล้วครับ แล้วผ่านไปคำชะโนด อุดรธานี พักหนองคาย   โดย: สองแผ่นดิน 10 มิถุนายน 2560 22:48:54 น.

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์   โดย: กะว่าก๋า 11 มิถุนายน 2560 6:32:22 น.

สวัสดีค่ะอาจารย์ ดีจังเลยนะคะที่ยังมีคนพื้นที่นำเที่ยว ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ แม้อุปสรรคจะเยอะแต่ในที่สุดก็ได้เที่ยวอีสานสมใจ อาจารย์สุวิมล Travel Blog   โดย: เรียวรุ้ง 11 มิถุนายน 2560 8:09:35 น.

สวัสดีค่ะอาจารย์ โห..อาจารย์ได้หยุดพักมา 9 ปีแล้วนะคะ แต่ดูอาจรย์ยัง แข็งแรงสุขภาพดีดูไม่แก่เลยค่ะ เมื่อไหร่ได้ไปลำปางยินดีพาอาจารย์เที่ยวนะคะ ไปคำชะโนดเมื่อไหร่ขอให้เอาโชคมาฝากบ้างนะคะ อิอิ มีความสุขทั้งวันค่ะ   โดย: กิ่งฟ้า 11 มิถุนายน 2560 12:02:52 น.

สวัสดียามบ่ายในวันหยุดค่ะครู มาชวนครูไปชมดอกแอ๊ปเปิ้ลกันค่ะ หนูเพิ่งอัพบล็อกตะกี๊ จริงๆแล้วตั้งใจจะอัพพรุ่งนี้ แต่ติดธุระช่วงเช้าไปถึงบ่าย เลยอัพวันนี้สะดวกกว่าค่ะ   โดย: mambymam 11 มิถุนายน 2560 12:21:53 น.

สวัสดีค่า อ.สุวิมล มาช้ามากๆค่ะ ได้แต่กดโหวตแต่ไมไ่ด้เข้ามาอ่านค่ะ รอบนี้ตั้งใจมาก >< ไม่เคยไปขอนแก่นค่ะ ทางอีสานเคยไปแค่สองจังหวัด คืออุบลตอนเด็กๆ จำไม่ได้แล้ว กับโคราชก็ไปแป๊บเดียวไม่ได้เที่ยวเลย เห็นในภาพแล้วน่าไปเที่ยวหลายแห่งเลยนะคะ ขอนแก่นเป็นเมืองใหญ่จริงๆค่ะ อยากไปวัดพระธาตุภูคำ อยากไปแก่งคุดคู้ เคยแต่ได้ยินชื่อค่ะ อาหารก็น่าอร่อย อยากกินแบบของพื้นเมืองแต่ละจังหวัดเวลาไปจะได้บรรยากาศ อิอิ เห็นกล้วยปิ้งแล้วนึกถึงหน้าหนาว ชอบมากเลย ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่านำเที่ยวสนุกๆค่า ที่จริงตะพาบรอบนี้กะว่าจะแบ่งปันเรื่องเที่ยวระนอง แล้วก็ขี้เกียจทำรูปค่ะ เลยกลับมาที่หนังสือเหมือนเดิม ขอบคุณมากๆ ค่า เอาไว้ค่อยมาใหม่นะคะ ^^   โดย: lovereason 11 มิถุนายน 2560 14:34:51 น.

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์ หมิงหมิงกินข้าวจุมาก กินเหมือนผู้ใหญ่เลยล่ะครับ บางครั้งก็ฌติมข้าวสองจานครับ 555   โดย: กะว่าก๋า 11 มิถุนายน 2560 15:15:10 น.

ทริปนี้อาจารย์ไปเที่ยวหลายที่เลยนะครับ วัดดูสวยงามดีครับ ดูยิ่งใหญ่ดี เขื่อนมักจะมีมุมสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปเยอะดีครับ ผมไม่ค่อยได้ไปเที่ยวแทบอีสานเท่าไหร่ ตามมาชมบรรยากาศด้วยคนครับ   โดย: คุณต่อ (toor36 ) 11 มิถุนายน 2560 16:06:42 น.

สวัสดีค่ะ อาจารย์สุ ได้เที่ยวแบบนี้ เหมือนได้ชาร์ตแบคให้ตัวเองนะคะ ไปเที่ยวกับคนกันเอง คนรู้ใจนี่ มีความสุขแน่นอนค่ะ ปล ทำให้คิดถึงคุณแม่เลยค่ะ ท่านมีกิจกรรมเหมือนอาจารย์สุเลยค่ะ   โดย: Sai Eeuu 11 มิถุนายน 2560 21:01:01 น.

มาถึงขอนแก่นส่วนใหญ่ไปวัดหนองแวงก่อนเลย เป็นที่เที่ยวที่โดดเด่นและหาเจอง่ายมากครับ อยู่ริมบึงแก่นนครกลางเมืองนั่นแหละ เสียดายตอนผมไปเฉี่ยวแค่หน่อยเดียว ไม่ได้ขึ้นไปชั้นบนๆด้วย ว่าแล้วก็ขอตามขึ้นไปชมกับอาจารย์เลยครับ วันนี้นำเที่ยวโดยอาจารย์สอนภาษาไทย ^^ ชอบหลายๆวัดที่เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมของเก่ามีคุณค่า แต่ทางการยังไม่มีงบพอจะสร้างพิพิธภัณฑ์จริงๆได้ก็พึ่งพาวัดไปก่อน ช่วงปลายธันวา ขอนแก่นก็น่าจะเย็นเอาเรื่องอยู่ แต่หน้าหนาวปีนี้ไม่หนาวเอาซะเลยนะครับ >> วันที่ต้องเป็น 22 ธ.ค. 59 หรือเปล่าครับ? วัดพระพุทธบาทภูพานคำนี่เคยไปตอนสร้างใหม่ๆ บันไดสูงโหดอยู่เหมือนกัน แต่ผมเคยขึ้นไปรอบนึง ไม่น่าจะถึงพันขั้นเลยครับ จากขอนแก่นไปเชียงคาน ไกลอยู่นะเนี่ย จ.เลยผมยังไม่เคยไปเที่ยวเลย หนองคายก็เป็นอีกจังหวัดที่อยากไปเที่ยวเก็บรายละเอียดอีกสักรอบครับ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต Opey Diarist ดู Blog Tui Laksi Travel Blog ดู Blog เนินน้ำ Review Food Blog ดู Blog กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog ข้ามขอบฟ้า Home & Garden Blog ดู Blog สาวไกด์ใจซื่อ Review Food Blog ดู Blog mambymam Home & Garden Blog ดู Blog Gorjai Writer Movie Blog ดู Blog อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น   โดย: ชีริว 11 มิถุนายน 2560 23:03:19 น.

สวัสดีค่ะอาจารย์ ขำอาจารย์ คนกรุงเข้าบ้านนอก กลัวหลงทาง อิอิ จะว่าไปกาญก็ไม่ได้ขึ้นรถทัวร์นานมากแล้ว กลัวหลงเหมือนก้น แหะๆ ขอนแก่นอยู่ใกล้ๆกับบ้านแม่กาญเลยค่ะอาจารย์ห่างแค่ 80 กม. กาญมีเพื่อนอยู่ที่ขอนแก่นหลายคนค่ะ คนอุดรที่ย้ายไปอยู่ไปทำงานที่นั้น วัดหนองแวงกาญเคยไปไหว้พระ แต่ไปช่วงเย็นแล้วเลยไม่ได้เดินดูอะไรมาก บรรยากาศยามเช้า กลิ่นอายของชนบทดูสดชื่นมากค่ะ พระพุทธบาท ภูพานคำก็ไปเที่ยวแล้วค่ะ แต่นานแล้ว บรรยากาศข้างบนดีมาก ไปเที่ยวเกือบหมด ยกเว้นเชียงคานยังไม่เคยไปเที่ยวค่ะ รอชมตอนต่อไปค่ะอาจารย์ อาจารย์สุวิมล Travel Blog   โดย: ข้ามขอบฟ้า 12 มิถุนายน 2560 0:26:03 น.

มาเที่ยวด้วยค่ะ อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog   โดย: newyorknurse IP: 188.165.201.164 12 มิถุนายน 2560 1:09:50 น.

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์   โดย: กะว่าก๋า 12 มิถุนายน 2560 6:35:50 น.