เที่ยวเมืองพระเจ้าตาก เมืองตาก เป็นจังหวัดหนึ่งของภาคเหนือตอนล่าง แต่บางแห่งก็จัดว่า เป็นจังหวัดของภาคตะวันตก ที่มีอาณาบริเวณติดกับดินแดนประเทศพม่า มีสะพานข้ามแม่น้ำเมยไปฝั่งพม่าได้ คำขวัญประจำจังหวัด ตาก คือ ธรรมชาติน่ายล ภูมิพลเขื่อนใหญ่ พระเจ้าตากเกรียงไกร เมืองไม้และป่างาม การมาเที่ยว เมือง พระเจ้าตาก ครั้งนี้ เพราะทิพย์ ลูกศิษย์ มาจากอเมริกาและต้องการไปเยี่ยมญาติที่เมืองนี้ตามคำร้องขอของแม่ จึงชวนฉันไปเที่ยวกับเขาด้วย โดยให้หลาน คือ สิน เป็นคนขับรถไปให้ วันที่ 6 เมษายน 59 เพ็ญและทิพย์ ขับรถมารับฉันตั้งแต่ ตีห้าครึ่ง เพื่อไปต่อรถของสิน หลานของทิพย์ แถว ๆ กิ่งแก้ว (คงใช่ จำไม่แม่น) เพ็ญไม่ได้ไปด้วย เพราะรถไม่พอนั่ง จากนั้น รถก็ขับออกไปด้วยความชำนาญการขับของสิน รถเรามี 5 คน คือ สิน ภรรยา ของสิน และพี่ชายอีกคนของทิพย์ ฉันและทิพย์ รวม 5 คน แวะทานข้าวเช้า ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ฉันทานก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก คนอื่น ๆ ทานข้าว ทิพย์เป็นคนจ่ายทั้งหมด ทานเสร็จ ก็เริ่มออกเดินทางต่อไป แวะเข้าห้องน้ำบ้าง ตามแต่ใครจะปวด ก็แวะให้เข้าตามปั๊มน้ำมัน ผ่านจังหวัดต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็เข้าสู่จังหวัดตาก เมืองแห่งประวัติศาสตร์ มีอยู่ช่วงหนึ่ง ถนน เป็นทางโค้ง ยาวมาก หลายร้อยโค้ง บางช่วงหักโค้งสั้น ทำให้เวียนหัวได้เหมือนกัน ในที่สุด เราก็มาถึงที่พัก ซึ่ง สินได้จองไว้ 3 ห้อง ห้องพักที่นี่ เหมือนตึกแถวที่มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ชั้น 2-3 เป็นห้องพัก น่าจะมีประมาณ ไม่เกิน 30 ห้อง ภายในห้องมี ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น หม้อไฟฟ้าต้มน้ำร้อน ไดส์เป่าผม ห้องน้ำ มีสบู่ก้อนเล็ก ๆ ซองยาสระผม ซัลซิล 2 ซอง ดูแล้ว ก็สมกับราคา ห้องละ 450 บาทต่อคืน (แต่เขารู้จักกัน เลยเหลือ 400บาท) มาสำรวจดูห้องตามภาพที่ฉันถ่ายมาฝากค่ะ เป็นไงบ้างคะ ใช้ได้นะคะ มีไวไฟ ให้ใช้ด้วยนะ มีโทรทัศน์ มีน้ำอุ่นให้อาบอีก แอร์ ก็เย็นฉ่ำ ค่ะ จากนั้น เราก็ขับรถออกจากที่พัก ตอนนั้น ก็น่าจะเกือบบ่ายโมงแล้ว ไปร้านอาหาร ชื่อร้านกระเพาะปลาน้ำแดง (คงดัง อาหารชนิดนี้ อิอิ) ร้านนี้อยู่ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำเมยไปฝั่งพม่า พวกเรา หาที่จอดรถได้แล้ว ก็เริ่มเก็บภาพบริเวณนี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัด ตาก มาดูภาพกันค่ะ
ถ่ายรูปบริเวณแถวนี้แล้ว เราก็ไปทานอาหารที่ร้าน ซึ่งสินบอกว่า เป็นร้านที่ดัง ของที่นี่ คนในร้าน ก็มีมากนะถึงจะบ่ายแล้วก็ตาม บริกรในร้าน เป็นสาวพม่าทั้งร้านเลย มาดูอาหารที่พวกเราทานดีกว่า
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว ก็น่าจะบ่ายสองไปมากแล้ว ก็ต้องไปเดินเที่ยวตลาดริมเมย เพราะว่า ตลาดจะวายเร็ว ของในตลาดที่ขาย เป็นเสื้อผ้าที่ระลึก เป็นเสื้อยืดเป็นส่วนใหญ่ เครื่องเล่นของเด็ก ซึ่งสินบอกว่า ราคาถูกกว่ากรุงเทพฯค่อนข้างมาก มีของที่ระลึกขาย ฉันได้เสื้อยืด 2 ตัว ทิพย์ซื้อไปฝากเพ็ญ 1 ตัว ฉันซื้อของที่ระลึก ที่ทำเป็น กระถางต้นไม้ ใบเป็นใบหยกเล็ก ๆ น่ารักดี มาดูภาพภายในตลาดริมเมย ค่ะ ฉันถ่ายมาฝากให้ชม
หลังจากเดินชมตลาดริมเมยกันแล้ว สินก็พาพวกเราไปเที่ยววัดไหว้พระ วัดนี้ ก็คือ วัดไทยสามัคคี วัดนี้ จัดสถานที่สวยงามหลาย ๆ มุมทีเดียว เป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเข้าวัด มาไหว้พระและทำบุญด้วย ตั้งแต่หน้าวัดและภายในวัด มีพิพิธภัณฑ์ เก็บสิ่งต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนมาชื่นชม มากมาย ฉันและทิพย์ได้เก็บภาพมุมต่าง ๆ ภายวัดมาฝากท่านผู้อ่านด้วย ค่ะ
หลังจากชื่นชมความงามของวัดและไหว้พระทำบุญกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็กลับมานอนพักที่ห้องนอน เล่นเฟส เล่นลายน์กัน เพื่อรอพี่ชายของทิพย์ (พ่อของสิน) เขาจะแนะนำร้านอาหารมื้อเย็นให้ น่าจะประมาณเกือบทุ่มได้มั้ง พวกเราก็ทยอยกันออกจากที่พัก ไปบ้านของพี่ชายทิพย์ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับที่พักของเรา นั่งรถไปที่สวนอาหารแห่งหนึ่ง ชื่อร้านข้าวเม่า ข้าวฟ่าง เป็นสวนอาหารที่จัดตกแต่งด้วยต้นไม้ มีน้ำพุ น้ำตก ดูสวยสดงดงาม มีการเปิดไฟ บางจุดสลัว ๆ บางจุดสว่างหน่อย แต่น่าเสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปเท่าไรเลย เพราะว่า มันมืด ไม่ค่อยได้เห็นอะไรนัก แต่ต้นไม้ของสวน เป็นไม้ต้นใหญ่ ๆ เยอะมาก พวกเราก็สั่งอาหาร มีทอดมัน ไก่ทอด ต้มแซบเอ็นหมู ผัดโป๊ยเซียน (เท่าที่จำได้นะ ) มาชมบรรยากาศของร้านอาหารและกับข้าวของร้านนี้กัน ค่ะ
หลังจากทานอาหารกันแล้ว ก็กลับที่พัก อาบน้ำ เล่นเฟส เล่นลายน์กันต่อ ดูละครจบ ก็นอนแล้ว เริ่มง่วง เพราะวันนี้ ฉันตื่นตั้งแต่ตีสี่
จบทริป วันที่ 6 เมษายน นะคะ ติดตามทริปวันที่ 7 ต่อค่ะ จะได้ไม่ยาวเกินไป คนอ่านจะได้ไม่เบื่อ อิอิ
Create Date : 13 พฤษภาคม 2559 |
|
21 comments |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2559 22:00:55 น. |
Counter : 1666 Pageviews. |
|
|
|
ร้อนมาก... เขาร้อนมากจริง ๆ
สันนิษฐานว่า ใต้ดินจะเป็นก้อนหินเยอะ อมความร้อนเยอะ ตกตะวัน
คล้อยตำก็คายความร้อนออกมา
แต่พอเห็นห้องพัก แอร์เย็นฉ่ำ ราคาน่าคบมาก.. ชักอยากจะไปค้าง
ที่นั่นบ้าง ส่วนใหญ่ขับ จาก กท..รวดเดียวถึง ชม.ครับ
แต่ริมเมย ยังไม่เคย วันหลังจะไปเที่ยวบ้าง