คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
กุมภาพันธ์ 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
space
space
9 กุมภาพันธ์ 2560
space
space
space

ชวนไปเที่ยว เนินช้างศึก น้ำตก จ๊อกกระดิ่ง และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ค่ะ ตอนที่ 2




 ชวนไปเที่ยว  เนินช้างศึก  น้ำตก จ๊อกกระดิ่ง  และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ค่ะ (ตอนที่ 2) 

บล็อกที่แล้ว ฉันพาเที่ยว ปิล็อก ตลาดอีต่อง ตามด้วยความสวยงามของชายแดนไทย-พม่า
วันนี้ วันที่ 15 มกราคม ตื่นเช้าหน่อย เพราะพวกเรามีกิจกรรมใส่บาตรพระที่มาบิณฑบาตที่ตลาด อีต่อง
พวกเรา ร่วมทำกิจกรรมใส่บาตรด้วยจิตใจที่ผ่องใส ชาวพุทธเรา การใส่บาตร ถือเป็นกิจวัตรประจำวัน
ที่ทำกันอยู่แล้ว ยิ่งมีโอกาสมาร่วมทำกิจกรรมนี้ พร้อมหน้าพร้อมตากับลูกศิษย์ ก็ยิ่งรู้สึกอิ่มบุญมากยิ่งขึ้น
พระที่มาเดินบิณฑบาต มีจำนวนน้อยจัง มีเพียง 2 รูป และมีเณรอีก 2 รูป ด้วยเป็น 4 รูปเท่านั้น 
ฉันเตรียมของใส่บาตรมา 3 ชุด โดยเยาว์ขอร่วมทำบุญใส่บาตรด้วย และพี่นพรัตน์ พี่ข้างบ้านฝากมาทำบุญ
ใส่ซองอีก 3 ซอง ก็กลายเป็น 6 ครั้ง ดังนั้น บางรูป จึงได้ใส่ 2 ครั้ง ก็อธิษฐานแทนพี่นพรัตน์
และ เยาว์เพื่อนรักที่อยู่ปัตตานี ซึ่งโอกาสใส่บาตรมีน้อยมากให้เขามีสุขภาพ แข็งแรง ๆ 
มาชมภาพที่พวกเราใส่บาตรกัน ค่ะ โดยมีหนึ่ง ช่วยเก็บภาพแห่งความทรงจำ อิ่มบุญกันครั้งนี้ ค่ะ 









หลังจากใส่บาตรพระเณร เสร็จแล้ว พวกเราก็ไปที่ร้าน ซึ่งเป็นเจ้าของที่พักที่พวกเรามาพัก
มีอาหารเช้าให้ผู้ที่มาพักโฮมสเตย์เขาด้วย เป็นข้าวต้มเครื่องไก่ มีปาท่องโก๋ อีก มีกาแฟ โอวัลติ
นิด ชงโอวัลตินเผื่อฉัน 1 ถ้วย ทานข้าวต้ม พร้อม ปาท่องโก๋ ใครที่จะทานพิเศษ เช่น ไข่กระทะ 
ก็จ่ายเงินเพิ่มเอง มาชมรูปพวกเราทานอาหารมื้อเช้า ค่ะ 



ทานอาหารเสร็จแล้ว พวกเราก็เดินชมตลาด ร้านค้า หาซื้อของฝากเป็นขนมของพม่า ชานม ของพม่า ปลาหัวยุ่ง
เดินเที่ยวและถ่ายกับป้ายต่าง ๆ ในตลาด อีต่อง อีกรอบจ้ะ มาชม ภาพสวย ๆ ในวันนี้ ค่ะ 


ถ่ายกับป้ายเชิญชวนก่อนกลับค่ะ 



ไม่ได้ซื้อป้ายเขียนชื่อตัวเองฝากไว้ที่ราวนี้ หรอกจ้ะ แต่อยากถ่ายรูปไว้ให้รู้ว่า อีต่อง ก็ทันสมัยเรื่องนี้ นะ อิอิ





ถ่ายกับป้ายแนะนำทางหน่อย 






อีกทิวทัศน์หนึ่งบริเวณรอบ ๆ อีต่อง 






ที่นี่ ก็มีตู้ไปรษณีย์ ให้ส่งจดหมาย นะ

รถสองแถวของ อีต่อง มีเวลาออก สองเวลา ใน 1 วัน คือ รอบ 6.30 น. และ 7.30 น.
เลย ถ่ายรูปมาดูไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ 



ต้อมและศิษย์สะใภ้ และอาภัสรา จ้ะ





ถ่ายกับหนุ่ม (หุ่น)ที่อยู่หน้าร้านขายเสื้อผ้า ค่ะ อย่าคิดมากนะ อิอิ


หลังจากอิ่มข้าว เดินเที่ยวรอบ ๆ ตลาดอีต่องแล้ว เราก็กลับที่พัก เตรียมขนของไปรวมไว้
ที่พักที่ติดกับตลาดอีกหลังหนึ่ง ชุมนุมกันที่นี่ เวลา 9.00น. นิดช่วยหิ้วกระเป๋าฉันเดินออกจากซอยเล็ก ๆ 
เพื่อเดินไปที่บ้านพักอีกหลัง พวกผู้ชายเริ่มช่วยกันทยอยของที่นำมาเพื่อไปขึ้นรถที่จอด
อยู่นอกตลาด โดยเฉพาะ เบียร์ที่เหลืออีกหลายลัง อิอิ มาชมภาพหน่อยค่ะ คนขยัน อิอิ



คนขนเบียร์  อิอิ
หลังจากขนของขึ้นรถที่ตนเองมาแล้ว ขณะที่รอพร้อม ๆกัน  ต้อมก็เดินมาหาฉัน 
พร้อมกับของฝากวันครู (พรุ่งนี้ 16 วันครู) มาไหว้ครู และกล่าวอำนวยพร ด้วยความเคารพ 
ฉันรับมอบของด้วยความปลื้มใจที่เขาคิดถึงฉันในวันครูด้วย ได้กล่าวขอบใจเขาและอวยพรให้เขา
มีความสุข ความเจริญในชีวิตตลอดไป เขายังมีของฝากเพื่อน ๆ ด้วย แต่ไม่ทราบว่า ครบทุกคนหรือเปล่า






ก่อนขึ้นรถ พวกเรา มีการถ่ายรูปหมู่กันด้วย มาชม ค่ะ 






จุดมุ่งหมายของการเที่ยวต่อไป ก็คือ เนินช้างศึก ซึ่งไม่ไกลจาก ตลาดอีต่องมากนัก
เป็นจุดชมวิว ที่มองมาเห็นตลาด อีต่องได้ในมุมกว้าง เรามาทราบประวัติของ เนินช้างศึก ค่ะ 

เนินช้างศึก เป็นขุดชมวิวบนยอดเขาในเขตพรมแดน ไทย-พม่า ชมวิวได้รอบตัว 360 องศา
ถ้าในฤดูหนาว จะมีหมอกลงคลุมยอดเขาสูง มีความสวยงาม เนินช้างศึก เป็นฐานปฏิบัติการ
ของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) ตั้งอยู่ในเส้นพรมแดนไทย-พม่า
อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1053 เมตร เห็นทิวทัศน์ทั้งฝั่งไทยและฝั่งพม่า ฝั่งไทยจะเห็นจุดชมวิว
เนินเสาธงและหมู่บ้านอีต่องอยู่ในหุบเขาข้างล่าง  บริเวณลานช้างศึก นักท่องเที่ยวมากางเต๊นท์ได้
ไม่มีบ้านพักให้เช่า  ไม่มีร้านอาหารหรือสิ่งอำนวยความสะดวก พวกเรามาถึงที่ลานช้างศึก 
แดดกำลังแผดเผาแรงกล้ามากทีเดียว ทุกคนก็เริ่มเก็บความงามของลานช้างศึก
รูปอนุสรณ์สถาน พลเอกตะวัน  เรืองศรี  เรามาชมรูปทิวทัศน์บนเนินช้างศึกกัน ค่ะ 























หลังจากที่ได้ชื่นชม ลานช้างศึก จุดมุ่งหมายต่อไปของพวกเรา ก็คือ น้ำตก จ๊อกกระดิ่ง 
ก่อนจะเดินทางไปชม น้ำตก จ๊อกกระดิ่ง เรามารู้ ความเป็นมาของน้ำตก จ๊อกกระดิ่ง ค่ะ 

น้ำตก จ๊อกกระดิ่ง  เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามโดดเด่น แปลกตา อยู่ท่ามกลางหุบเขา
เป็นน้ำตกชั้นเดียว  มีสายน้ำพวยพุ่งลงมาจากช่องเขาหน้าผาสูงประมาณ 30 เมตร 
ตกลงมายังแอ่งน้ำสีมรกตขนาดใหญ่เบื้องล่าง  ซึ่งเป็นลานหินกรวด  มีลักษณะลาดกว้าง
เหมือนหาดทรายท่ามกลางหุบเขา  เหมาะแก่การเล่นน้ำ น้ำใสเย็นฉ่ำ สามารถเล่นน้ำได้
โดยไม่อันตราย  สามารถเล่นน้ำได้ตลอดปี แต่หินกรวดที่อยู่ในแอ่งน้ำ
เดินเท้าเปล่า เจ็บเท้ามากทีเดียว
ชื่อของน้ำตกแห่งนี้  คือ คำว่า จ๊อกกระดิ่ง  มาจากภาษาพม่า คือ คำว่า "ก๊อกกะด่าน" และกลายเสียง
มาเป็น  "จ๊อกกระดิ่ง" คำว่า "จ๊อก หรือ ก๊อก" แปลว่า "หิน"  คำว่า " กะด่าน" แปลว่า "น้ำตก" 
ตัวน้ำตกตั้งอยู่ที่ หมู่บ้าน อีปู่ หมู่ 1 ต.ปิล็อก  อ.ทองผาภูมิ

น้ำตก จ๊อกกระดิ่ง ต้องซื้อบัตรเข้าไปชมน้ำตก คนละ 40 บาท ซึ่งสามารถใช้บัตรนี้
เข้าไปชม อุทยาน ทองผาภูมิ ด้วย แต่เราไม่มีเวลาพอที่จะไปเที่ยวที่นั่น (คนอายุ 60 ปีขึ้นไปไม่ต้องจ่าย)

เมื่อ พวกเรามาถึงที่นี่แล้ว ก็ใช้เงินกองกลางซื้อบัตรเข้าไปเพื่อชมน้ำตก ก่อนจะถึงตัวน้ำตก
พวกเราต้องเดินเข้าไปตัวน้ำตก เป็นระยะทางยาวน่าจะเป็นกิโลได้นะ พวกเราเดินไปก็ถ่ายรูปกันไป
เรามาดูรูปพวกเราและความงามของน้ำตา "จ๊อกกระดิ่ง" ค่ะ 






ระหว่างทางที่เดินไป มีสะพานไม้ตรงจุดใกล้น้ำตกแล้ว

























ก่อนกลับ พวกเราก็ถ่ายรูปหมู่กันอีกรอบ อิอิ

น่าเสียดายที่พวกเราไม่มีเวลาลงเล่นน้ำ ได้แต่เดินลุยน้ำ กรวด หินในน้ำ ก็ทำให้เจ็บเท้าน่าดูเลย
ฉันก็ลงลุยน้ำสักพัก ไม่ไหวแล้ว เจ็บเท้ามาก เลยขึ้นจากน้ำ ได้รูปที่น้ำตก 3-4 รูปไว้เป็นที่ระลึก

จากน้ำตก พวกเราเดินทางต่อไป ระหว่างทาง เจอป้าย และผ่านอุทยาน ทองผาภูมิ 
โชเฟอร์ เยี่ยม ใจดี จอดรถให้พวกเราลงไปถ่ายรูปกับป้ายต่าง ๆ เท่านั้น ไม่มีเวลาเข้าไป
ชม อุทยาน ทองผาภูมิจ้ะ 









จุดหมายปลายทางของการเที่ยวของเรา ก็คือ เขื่อน วชิราลงกรณ์จ้ะ เป็นเขื่อนที่ มีอ่างเก็บน้ำ
ที่กว้างใหญ่มากทีเดียว สีน้ำมองไปเมื่อต้องแสงแดดยามเที่ยง ดูแวววาวระยิบระยับดังดวงดาว
แถวนี้ มีลิงมากมาย ไต่ขึ้นป้ายชื่อของเขื่อนวชิราลงกรณ์ ดูพวกมันไม่ได้กลัวนักท่องเที่ยวเลย
มาดูพวกเราได้ถ่ายรูปไว้เป็นระลึก ค่ะ  









ออกจากที่เขื่อนวชิราลงกรณ์แล้ว  เที่ยงกว่า ๆ เข้าไปแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปทานข้าวมื้อเที่ยง
ที่ร้านเดิม คือ ร้านแปดริ้ว เหมือนตอนขามา  แต่เป็นการทานเพื่อรองท้องไปก่อน เพราะเราจะไป
ทานมื้อใหญ่ เป็นมื้อส่งท้ายของทริปนี้ ที่ร้าน ลมทะเล ฉันจึงต้องเป็นผู้กระซิบบอกอีกโต๊ะหนึ่งว่า 
ให้สั่งอาหารสัก 5 อย่าง ก็พอ จะเหลือเงินไปทานมื้อใหญ่และอร่อย ๆ บรรยากาศดี ที่ร้าน ลมทะเล
ซึ่งอยู่สมุทรสาคร ร้านนี้ น่าจะเป็นการแนะนำของ ผัน เพราะบ้านเขาอยู่ที่สมุทรสาคร
ย่อมต้องรู้ว่า อาหารแถวนี้ ร้านไหนอร่อย มีอาหารที่ขึ้นชื่อว่า อร่อย มีอะไรบ้าง นั่นเอง  
เนื่องจากเป็นร้านเดิม ที่เราทานมาแล้ว รูู้ว่า อะไรอร่อย ที่ร้านแปดริ้ว ส่วนใหญ่เราก็สั่งอาหาร
เดิม ๆ ที่เคยทานกันน่ะ เช่น ทอดมันปลากราย เป็นต้น  เราจึงไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมื้อนี้ไว้
หลังจากอิ่มข้าวกันแล้ว ก็ออกรถขับตามกันไป และแวะร้านซื้อของฝาก  ชื่อร้านอะไร ฉันจำไม่ได้
ส่วนใหญ่ก็เป็นของกิน เช่น ขนม หม้อแกง ขนมชั้น ฝอยทองกรอบ วุ้นมะพร้าว ขนมขบเคี้ยว
ฉันก็ซื้อมาประมาณเกือบ สามร้อยบาทเหมือนกัน ของแต่ละอย่าง ขึ้นราคามากพอสมควร
หลังจากที่แวะร้านอาหารร้านนี้แล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าตรงไปยังสมุทรสาคร ร้าน ลมทะเล
ช่วงที่เดินทางกลับนี้ รถติดเป็นช่วง ๆ แต่รถคันที่นำหน้าไปก่อนไม่เจอกันตอนแวะซื้อของฝาก 
คือ รถของต้อม น่าจะมุ่งหน้าไปที่ร้าน ลมทะเลเลย หกโมงกว่าแล้ว รถตู้คันเรายังไปไม่ถึง
ฉันจึงลองโทรเข้ามือถือของต้อม ถามกันว่า ไปถึงไหนกันแล้ว เพราะคันของต้อมออกนำหน้าไปก่อนพวกเรา
ปรากฏ ว่า ต้อมใกล้จะถึงร้าน ลมทะเล แล้ว ถามพวกเราถึงไหน ถ้าเขาไปถึงแล้ว 
จะจองโต๊ะไว้ก่อนเลย และเลือกอาหารรอไว้ พวกเราไปถึงจะได้ทานกันได้เลย ไม่ต้องรอ 
เป็นความคิดที่ดี เพราะตอนนี้จะทุ่มแล้ว ทุกคนคงรู้สึกท้องจะร้องเสียแล้ว ต้อมบอกว่า เมื่อถึงร้านแล้ว
จะโทรมาบอกฉันอีกที่ 

น่าจะทุ่มแล้ว ต้อมโทรมาบอกว่า คันของหนึ่งก็มาถึงแล้ว เหลือคันเรา รถตู้ ที่ยังไปไม่ถึง อิอิ

น่าจะประมาณทุ่มได้ รถตู้ก็ไปถึงร้าน ลมทะเล ทุกคนลงจากรถตู้ เดินไปที่ร้านนี้ 
แล้วถามบริกรว่า พวกเรา นั่งกันอยู่มุมไหน เดินเข้าไป เราไม่เห็นบรรยากาศหรอกว่า 
มันสวย หรือไม่สวยอย่างไร เพราะว่ามันสลัว ๆ แต่เห็นมุมถ่ายรูปเป็นชื่อร้านของเขา 
พวกเราก็อดไม่ได้ ถ่ายรูปกับชื่อร้านของเขา มาให้ชมสัก 2-3 รูป ค่ะ  มาชมรูปป้ายชื่อร้าน ค่ะ 





เก็บรูปป้ายชื่อจากหน้าร้านแล้ว พวกเราก็เดินเข้าไป จะเป็นทางเดินเป็นไม้ ไฟก็สลัว ๆ 
เวลาเดินต้องระวังสะดุดเหมือนกัน คนมานั่งทานอาหารก็มากนะ บริเวณที่นั่งทานอาหาร
ก็มีเป็นจุด ๆ น่าจะมาก่อน ก็มีโอกาสเลือกวิวทิวทัศน์ก่อน แต่ว่า ยามมืดค่ำเช่นนี้ มองอะไรก็ไม่เห็นชัดเจน
น่าจะมาช่วงกลางวัน เราจะได้บรรยากาศที่ได้อารมณ์มากกว่านี้นะ 
เขาจัดโต๊ะ ติดกัน เป็น 4 โต๊ะ สั่งอาหารทั้งหมด 4 ชุด มื้อนี้ ให้ทุกคนสั่งเต็มที่ 
เพราะเหลือเงินที่เก็บหลายพัน หลายจากหัก 1500 บาท ไว้ สำหรับเป็นสินน้ำใจให้ คนขับรถ
และน้องที่มาช่วยบริการอีก 2 คน อาหารที่สั่ง ส่วนใหญ่ พวกที่มาก่อน ได้สั่งไว้แล้ว 
เพราะ ผัน รู้ว่า ที่นี่ มีอะไรที่อร่อย นั่นเอง ไฮไลน์ ดูเหมือนจะเป็นปลาทูทอดกรอบ
ยำ ต่าง ๆ อีกอย่างที่ร้านนี้ น่ารักดี ใจกว้าง ยอมให้นำเบียร์ที่เหลือจาก ที่ ตลาด อีต่อง
เข้ามาดื่มได้ด้วยพวกที่มาทีหลัง อยากทานอะไร ก็สั่งเพิ่มเอาอีก ส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มหรอก 
เพราะที่สั่งมา ก็ดูมากมาย ไม่ต่ำกว่า 8-9 อย่างแล้ว เฮฮาปาร์ตี้ ทานกันอย่างเอร็ดอร่อย ประกอบกับความหิว
ด้วย เสียงคุยน้อยลง ห้าห้า รสชาติของอาหาร ก็อร่อยใช้ได้ทีเดียว เก๋และน้องเดียร์ น้องแตงกว่า
ได้เก็บรูปงานกินมื้อเย็นวันนี้มาฝากด้วย ค่ะ 








สามหนุ่มของทริปนี้ ค่ะ 

ทานข้าวไป  คุยกันไป ถ่ายรูปบรรกาศในการทานข้าวไป สนุกสนาน เป็นบรรยากาศ
แห่งมิตรภาพที่ดีต่อกัน  สมาชิกใหม่ที่มาร่วมทริปครั้งนี้ ก็สนิทกลมเกลียวเข้ากันได้ดี 

เมื่อสมควรแก่โอกาสที่จะต้องอำลาจากกัน เนื่องจากเวลาที่ล่วงเลยไปมากพอสมควรแล้ว 
พวกลูกศิษย์ก็มอบหมายให้ฉันทำหน้าที่มอบสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะมอบให้กับน้องเดียร์  น้องแตงกวา
และ น้องเยี่ยม โชเฟอร์ที่มีฝีมือขับรถยอดเยี่ยมในครั้งนี้ ค่ะ ฉันกล่าวขอบใจเขาทั้ง 3 คน ที่ได้ช่วยเหลือ
บริการพวกเราอย่างดี อย่างน่ารัก มีสัมมาคารวะ ต่อผู้หลักผู้ใหญ่เป็นอย่างดี ค่ะ มาชมภาพ ค่ะ 



หลังจากนั้น ก็มีการแบ่งสายเพื่อไปส่งสมาชิกกัน ฉันต้องมารถหนึ่ง เพราะว่า ฉัน เก๋ อยู่แถว
พระราม 4 เหมือนกัน รถหนึ่ง จึงมีฉัน แตงกวา เดียร์ เก๋ ผัน ส่วนอา ก็ไปรถตู้แทนฉัน
เพราะจะไปทางอ่อนนุช จึงต้องขนย้ายกระเป๋าและของที่ซื้อมาไว้ที่รถของหนึ่ง  ส่วนต้อมกับแฟน 
กลับก่อนงานเลิกน่าจะสัก ครึ่งชั่วโมงกว่า เพราะพรุ่งนี้เช้า ต้อมมีงานที่จะต้องทำแต่เช้า
เก๋ ได้กล่าวสรุปเงินที่เหลือครั้งนี้ ได้คืนอีกคนละ ร้อยกว่าบาท แจกคืนทุกคน ยกเว้นต้องเก็บของ
ต้อมกับแฟนไว้ก่อน เพราะกลับไปก่อน พร้อมกับบอกว่า จะแจงรายรับรายจ่ายให้ทราบทีหลัง
แต่ทุกคนบอกไม่ต้องแจงหรอก เชื่อใจ เพราะทริปนี้ ถูกมากแล้ว แถมยังมีเงินเหลือเป็นค่าแท็กซึ่
กลับบ้าน ดูทุกคนต่างพึงพอใจกับการจัดทริปไปเที่ยวครั้งนี้ เป็นอย่างยิ่ง เห็นงานราบรื่นฉันก็ดีใจ
ทุกคนมาไหว้ลาฉัน กอดกันแสดงความรัก การจากลา แล้วก็ขึ้นรถตู้กันไป ซึ่ง เยี่ยมคงไปส่ง
ตามจุดต่าง ๆ ที่พวกเขาได้คุยกันแล้ว ฉันรถคันหนึ่ง ผันมาส่งพวกเราเพื่อให้ผ่านด่าน
ที่จะมีการตรวจแอลกอฮอล์ (ปรากฏว่า ตำรวจยังไม่ได้ตั้งด่าน อิอิ ผันลงกลางทางที่จะสามารถ
ต่อรถเมล์กลับบ้านเขาได้ ร่ำลากันอีกครั้ง จากนั้นหนึ่ง ก็ขับรถเข้ากรุงเทพฯ ไปส่งเก๋
ที่พระราม 4 ก่อนแล้วก็มาส่งฉันที่บ้าน จากนั้น จึงไปส่งสองสาว ลูกศิษย์ของเขาด้วยความรับผิดชอบ
ต้องไปส่งถึงบ้าน หรือที่พัก ไม่ให้ผู้ปกครองของเด็กเป็นห่วงและตำหนิได้ ถือเป็นความรับผิดชอบที่ถูกต้อง

ทริปนี้ ก็ได้จบลงอย่างสวยงาม มีความสุข ฉันเอง ก็มีความสุขอย่างยิ่งที่ได้ไปเที่ยวกับพวกเขา 
ได้เห็นมิตรภาพ ดี ๆ ของพวกเขา ซึ่งก็มีสนิทมาก สนิทน้อย แต่ก็สามัคคีกลมเกลียวกันเป็นอย่างดี
ฉันก็ขอขอบใจ หนึ่ง และลูกศิษย์ทุกคนที่ทำให้ฉันมีความสุขกับทริปดี ๆ เช่นนี้  ก็ได้แต่
ตั้งจิตอธิษฐานให้พวกเขามีความสุข ความเจริญ หน้าที่การงานเจริญ ยิ่ง ๆ ขึ้น สมกับความรัก
ความเคารพของพวกเขาที่มีต่อฉันค่ะ   




 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2560
9 comments
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2560 21:52:41 น.
Counter : 2172 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณClose To Heaven, คุณเริงฤดีนะ

 

ขอบคุณเรื่องราวความสนุกความประทับใจในทริปนี้และภาพสวยๆทุกภาพคะ.อจ.สุวิมล👏

 

โดย: vareeporn IP: 110.168.231.250 12 กุมภาพันธ์ 2560 1:44:53 น.  

 



สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

ลูกศิษย์ของอาจารย์น่ารักมากๆเลยครับ
มีเตรียมของขวัญให้ด้วย

วิวบนเนินช้างศึกสวยงามจริงๆครับ

ชอบชื่อน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง
เวลาออกเสียงแล้วน่ารักดีครับ 5555

เป็นอีกทริปที่อิ่มกาย อิ่มใจครับอาจารย์


โหวต Travel Blog ครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 12 กุมภาพันธ์ 2560 6:36:17 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

อาจารย์เดาถูกต้องเลยครับ
ก๋าราณีมาจากศิราณีครับ
ปัญหาแรกๆที่น้องๆในบล็อกถามมา
เป็นคำถามเกี่ยวกับความรักครับ
ผมเลยตั้งชื่อเลียนศิราณี
แล้วก็ใช้มาโดยตลอด
เมื่อก่อนผมตอบคำถามเยอะมากครับ
น่าจะเป็นร้อยสองร้อยคำถามเลยล่ะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 12 กุมภาพันธ์ 2560 16:05:03 น.  

 

มีความสุขมากครับคุณครู และมีโอกาสคงได้ร่วมทริปอีกครับ ช่วงนี้ซุ้มซ้อม เตรียมปั่นจักรยานวัดใจ แข่งกับตัวเองครับ ขึ้นดอยอินทนนท์ครับ ส่วนของให้เพื่อนๆครบทุกท่านครับ ต่างชนิดกัน แต่ครบครับ

 

โดย: ต้อม ธาตุทอง IP: 101.51.110.235 12 กุมภาพันธ์ 2560 19:48:15 น.  

 

สวัสดีค่ะอาจารย์
ตามอาจารย์ไปเที่ยวเมืองกาญฯต่อ เป็นทริปเที่ยวที่ดูสนกสนานตลอดเลยนะคะ
น้ำตกจ๊อกกระดิ่งเป็นน้ำตกที่สมกับชื่อมาก ดูเป็นน้ำตกไม่ใหญ่มาก
เขื่อนวชิราลงกรณ์กาญเคยไปเที่ยวสองครั้ง แต่ก็นานมากแล้วค่ะ
ร้านอาหารบรรยากาศน่านั่งมาก ๆอาหารก็น่ากิน ยิ่งอาหารทะเลชอบค่ะ
จบทริปนี้แล้ว ทริปหน้าเที่ยวไหนต่อค่ะอาจารย์

อาจารย์สุวิมล Travel Blog

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 12 กุมภาพันธ์ 2560 23:24:13 น.  

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 13 กุมภาพันธ์ 2560 2:37:30 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

 

โดย: กะว่าก๋า 13 กุมภาพันธ์ 2560 7:05:13 น.  

 

อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog

เป็นทริปที่ทุกคนดูมีความสุขมากเลยค่ะครู
ท่าโพสต์ถ่ายรูปแต่ละรูป เด็ด ๆ ทั้งนั้นนนน

 

โดย: Close To Heaven 13 กุมภาพันธ์ 2560 15:47:12 น.  

 

เห็นแล้วสนุกสนามตามไปด้วยจริงๆค่ะ อจ/



ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
เหมือนพระจันทร์ Literature Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
The Kop Civil Sports Blog ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog

 

โดย: เริงฤดีนะ 13 กุมภาพันธ์ 2560 15:52:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space