... ^^ Welcome to suvilajamsai's world ^^...
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
Chapter 1


คุณเชื่อไหมว่ามีออฟฟิศบางแห่งที่พนักงานชายมีธรรมเนียมปฏิบัติตลกๆ อย่างเช่น การแบ่งผู้หญิงออกเป็นสามกลุ่มตั้งแต่วันที่พวกเธอเริ่มเข้าทำงานเป็นวันแรก

กลุ่มแรก คือสาวสวยเกรดเอผู้มีความงามเจิดจรัส อันนี้คงไม่ต้องบรรยายมากนะครับว่าความสวยของพวกเธอน่าจะประมาณไหน ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ เอาเป็นว่าแค่สาวๆ ในกลุ่มนี้ก้าวเข้ามาในอาณารัศมี บริเวณนั้นก็จะสว่างไสวดุจมีแสงออร่าเรืองรองเปล่งประกายออกมา และสายตาทุกคู่ของหนุ่มๆ ก็จะเหลียวขวับไปมองทันที นั่นล่ะคือคำจำกัดความของสาวๆ ในกลุ่มนี้ ...แต่น่าเสียดายนะครับที่สาวสวยเลิศที่เราพอจะจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้ได้มีแค่ 5% ของจำนวนประชากรหญิงทั้งหมดของบริษัทเท่านั้นเอง

กลุ่มที่สอง หรือเรียกสั้นๆ ว่าบีคลาส ได้แก่สาวน้อยรูปร่างหน้าตาพอใช้ได้ แต่สามารถหาได้ทั่วไปตามถนนหนทาง ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ หรือไม่ก็รถไฟฟ้านั่นล่ะ สาวกลุ่มนี้มีประชากรจำนวนมากถึงมากที่สุดของบริษัท คือราวๆ 85% เลยทีเดียว ซึ่งกลุ่มนี้เรายังสามารถจำแนกแยกย่อยออกเป็นบีบวก บีธรรมดา จนถึงบีลบได้อีก

ส่วนกลุ่มสุดท้าย... ค่อนข้างน่าสงสารนะครับ เพราะเป็นสาวลักษณะที่ไม่มีทางผ่านเกณฑ์ของประกวดเวทีไหนๆ เป็นอันขาด แต่จะให้ติดเอฟก็คงจะไม่สุภาพกับพวกเธอมากเกินไปหน่อย เอาเป็นว่าสาวน้อย (หรือสาวเหลือน้อย) ในกลุ่มนี้เป็นหญิงสาวที่เรียกได้ว่าไม่เข้าตากรรมการอย่างแรงเลยก็แล้วกัน

เล่าได้ละเอียดขนาดนี้ พวกคุณคงเดาได้แล้วสินะว่าออฟฟิศที่ว่าน่ะคือออฟฟิศที่ผมทำงานอยู่นั่นเอง


สวัสดีครับ... กระผมนายเมฆินทร์ หรือนายเมฆเจ้าเก่าจาก Once Upon A Time...เมื่อหัวใจได้พบรักนั่นเอง ยังจำกันได้อยู่หรือเปล่าครับ คร้าบบบบบ... ใช่แล้ว อีตาพ่อหมอดูไพ่ป๊อกแม่นๆ นั่นล่ะครับ ผมเอง

ว่าแล้วก็ขอรายงานความคืบหน้านิดนึง ตอนนี้ผมกลับมาจากอังกฤษแล้วนะครับ กลับมาได้ราวๆ สองปีแล้ว พูดถึงแล้วก็น่าตกใจนะครับที่เวลาผ่านไปรวดเร็วราวกับติดปีกบิน เหมือนกับว่าช่วงเวลาที่ผมเรียนไปทำงานอยู่ที่ร้านอาหารของน้าน้อยไปเพิ่งผ่านมาเมื่อเร็วๆ นี้เอง เผลอแป๊บเดียว ผมก็เรียนจบ กลับเมืองไทยมาทำงานได้สองปีกว่าแล้ว แถมเมื่อปลายปีที่แล้วผมยังได้รับการโปรโมทเล็กๆ ในแผนกแล้วด้วยนะครับ เก่งใช่ม้า แหม...เรื่องงานเนี่ยไม่อยากจะคุย เห็นแบบนี้ผมก็เป็นนักการตลาดที่ฝีมือไม่ใช่ย่อยคนหนึ่งเหมือนกันนะครับ

แต่ถ้าถามถึงเรื่องหัวใจ... เอ่อ ก็คนมันมุ่งมั่นในงาน รักความก้าวหน้า จะเอาเวลาที่ไหนไปหาแฟนล่ะครับ

เฮ้ย... อย่าเพิ่งมองผมแปลกๆ อย่างนั้นดิ ผมน่ะแมนแท้ๆ ร้อยเปอร์เซนต์นะครับ แล้วก็ไม่ได้เป็นพวกบ้างานจนไม่สนใจสาวๆ ด้วย อย่าเพิ่งคิดอย่างนั้น และ... ไม่ช่าย ผมไม่ได้ปลูกไร่แห้วตลอดศกสักหน่อย ไอ้ที่ผิดหวังครั้งก่อนก็แค่ครั้งเดียว ไม่อยากจะคุยว่าเห็นแบบนี้แต่ผมก็มีคนมาแอบปลื้มไม่น้อยเหมือนกันน้า แต่ก็....จะพูดว่าไงดีล่ะ ผมออกจะเลือกมากสักหน่อย ...แหม แฟนทั้งคนนะครับ ไม่ใช่คนนั่งข้างๆ บนรถไฟฟ้า จะไม่เลือกเลยได้ยังไง และที่สำคัญ ผมก็มีสาวที่แอบปิ๊งอยู่เหมือนน้า

ลองทายซิ…ว่าคนที่ผมปิ๊งจัดอยู่ในกลุ่มสาวประเภทไหน

แน่ะ…แค่คิดถึงเธอก็เดินมาพอดี เหมือนกับรู้เลยว่าผมกำลังอยากเห็นหน้าใจจะขาด หรือไม่แน่นะ เธออาจจะกำลังสนใจผมอยู่เหมือนกันก็ได้ เพราะเธอเดินมาทางนี้แล้ว...

“เฮ้ย ไอ้เมฆ มองอะไรอยู่”

วัตถุเนื้อนุ่มแต่หนักถูกเหวี่ยงตุ้บลงมาบนหัวผมอย่างแรงก่อนที่ผมจะทันได้ตั้งตัว เสียงดังเป็นฟ้าผ่าอย่างนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก…

“เจ็บนะเว้ย ไอ้แน้ท”

“เออ ก็ตั้งใจจะตีให้เจ็บ ไม่งั้นจะตีทำไมให้เสียมือล่ะ”

เจ้าของกระเป๋าถือพิฆาตรับหน้าตาเฉยเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร กลับภูมิใจเสียอีกที่ได้ประทุษร้ายร่างกายผม

“เจ๊โหด” ผมด่าเบาๆ ...อย่างที่บอกว่าสุดสวยที่ผมหมายปองกำลังเดินตรงมาทางนี้พอดี จะให้ผมแสดงกิริยาที่ทำกับไอ้แน้ทเป็นปกติให้เธอเห็นได้ยังไงล่ะครับ คนเรามันต้องรักษาภาพลักษณ์กันบ้าง ผมจึงได้แต่กัดฟันกรอดๆ ด่ามันเบาๆ ถึงแม้ว่าใจจริงจะอยากหักคอมันจิ้มน้ำพริกแทบตาย “นึกว่ามีแฟนแล้วนิสัยจะดีขึ้น หนอย…พี่เรนไม่เคยอบรมสั่งสอนแกเลยหรือไงวะว่าอย่ามาเที่ยวระรานคนอื่นเขาแบบนี้”

“เฮ้ยๆ อย่ามาก้าวร้าวแฟนคนอื่นเขานะเว้ย” ไอ้แน้ทแยกเขี้ยวกลับ “ทีฉันยังไม่เคยวิจารณ์สักคำเลยนะ ที่แกไม่เจียมกะลาหัวอยากจะเด็ดดอกฟ้าประจำออฟฟิศอย่างยัยพายเนี่ย”

“เฮ้ย เบาๆ นี่ใจคอแกกะจะประกาศให้เขารู้กันทั้งบริษัทเลยหรือไงวะ”

ผมแทบจะคว้าตัวมันมาอุดปากเพราะ 'เป้าหมาย' เดินใกล้เข้ามาทุกที แต่ไม่ดี...ตอนนี้ผมอยู่ในร้านอาหารใกล้ๆ บริษัท มีเพื่อนๆ ที่รู้จักกันดีอยู่เพียบ ถ้ามีใครเข้าใจผิด คิดว่าผมกับไอ้แน้ทเป็นกิ๊กกันขึ้นมาจะยุ่งไปกันใหญ่ ....ไม่ใช่ว่ากลัวพี่เรนจะมาหักคอหรืออะไรหรอกนะครับ แต่กลัวเรทติ้งของตัวเองจะตกซะมากกว่า แถมน้องพายสุดสวยจะเข้าใจผิดด้วยเนี่ย อันนี้เรื่องใหญ่ จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอันขาด

“โอ๊ยยยย ยังกะตอนนี้คนเขาจะไม่รู้งั้นแหละ แกเล่นมองน้องเขาซะตาปรอย หวานเชื่อมตั้งแต่เดินเข้ามาในรัศมีห้าร้อยเมตรแบบนี้”

“แกอย่ามาเวอร์น่าไอ้แน้ท”

“เฮ้อ ไอ้เมฆเอ๊ย จะบอกอะไรให้นะ” ไอ้แน้ทลงเสียงฟ้าผ่าของมันลงเป็นเสียงกระซิบ “แกคิดว่าทำไมฉันถึงรีบเข้ามาทักแกแบบนี้หา แค่อยากจะแกล้งแกให้ได้อายเล่นต่อหน้ายัยพายเหรอ ฉันไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะโว้ย ฉันตั้งใจจะช่วยแกปิดบังความจริงต่างหาก เพราะตอนนี้เขาเม้าท์กันไปทั่วบริษัทแล้วนะว่าแกคิดอะไรๆ กับยัยพายน่ะ“

“อ่า... แล้วมันดีหรือไม่ดีวะ” ผมถามเพราะอยากรู้ว่าข่าวมันออกมาในแนวเจ้าชายกับเจ้าหญิงที่สมกันดีราวกับกิ่งทองใบหยก หรือดอกฟ้ากับหมาวัด หมามองเครื่องบิน ฯลฯ แต่ไอ้แน้ทกลับนั่งลงตรงข้ามผม เปิดเมนูออกดูอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่สนใจที่จะตอบคำถามเลย

“ฉันว่าแกอย่ารู้เลยว่ะ ...เออนี่ แกว่าระหว่างสลัดแซลมอนกับลาบแซลมอน พีซจะชอบกินอะไร”

“เฮ้ย ไอ้แน้ท อย่าโยกโย้น่า บอกมาเดี๋ยวนี้ เขาพูดกันว่าไง”

ถึงคำตอบจะออกมาเป็นอย่างหลังแต่ผมก็ยังอยากรู้อยู่ดี ...อย่างว่าแหละ คนเราย่อมอยากเช็คเรทติ้งตัวเองบ้าง ถึงมันจะออกมาไม่ดียังไง แต่นักการตลาดอย่างผมย่อมรู้สึกท้าทายที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเป็นธรรมดา

แต่ท่าทางผมจะไม่ได้รู้ความจริงแฮะ เพราะเสียงหวานๆ ดังขึ้นจากข้างโต๊ะพอดี

“ฮั่นแน่พี่แน้ท เห็นบอกว่าวันนี้มีนัดกินข้าวกลางวันกับเพื่อนสมัยอังกฤษแล้วผลุบออกมาเลย พายก็นึกว่านัดกับพี่เรนซะอีกถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น ที่แท้ก็นัดกับพี่เมฆนี่เอง”

...พี่เมฆ เมื่อกี้เธอบอกว่าแน้ทมีนัดกับ 'พี่เมฆ' เรอะ

เธอรู้จักชื่อผมด้วย โว้ว อะเมซซิ่งจริงๆ ตั้งแต่ทำงานที่นี่มาเป็นปีๆ ผมเพิ่งเคยคุยกับเธอแค่สองครั้งเท่านั้นเอง แต่เธอกลับจำชื่อผมได้ นี่แสดงว่าผมก็อยู่ในสายตาของเธอเหมือนกันสินะ ย้าฮู้!

ผมเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มหวานให้สาวสวยซึ่งเธอก็ยิ้มตอบ ...ช่างเป็นรอยยิ้มที่แสนสวย แสนหวาน จับตาจับใจราวกับเทพธิดาน้อยๆ เฮ้อ... เมื่อไรน้าที่รอยยิ้มสวยๆ นี้จะเป็นของผมเพียงคนเดียว

ผมกำลังจะขยับริมฝีปากที่ฉีกกว้างเป็นคำว่าสวัสดีครับ แต่สาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามดันขัดขึ้นเสียก่อน
“โอ๊ยยยย น้องพาย ถ้าพี่นัดกับไอ...พี่เมฆเนี่ย พี่ไม่ขอแยกตัวมาหรอกจ้า พี่กับอะ...พี่เมฆเนี่ยเล่นหัวกันมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองมากขนาดนั้นหรอก”

ผมมัวแต่ส่งสายตาพิฆาตใส่ไอ้แน้ทจนเกือบหันกลับมายิ้มหวาน พยักหน้ารับกับน้องพายแทบไม่ทัน
หนอย... ต่อหน้าน้องพายจะเรียกผมให้มันดีๆ หน่อยก็ไม่ได้ ดีนะที่มันไม่หลุดคำว่าไอ้ออกมาเต็มๆ ไม่งั้นผมจะหาทางแก้เผ็ดมันคืนจริงๆ ด้วย!

“ถ้าอย่างนั้นพายไม่รบกวนแล้วดีกว่าค่ะ พี่ๆ จะได้คุยกันตามสบาย”

“จ้า แล้วยังไงพรุ่งนี้ค่อยไปกินข้าวกันนะ พี่จะพาไปร้านเสต๊กเจ้าอร่อยตามสัญญา”

ไอ้แน้ทโบกมือลาน้องพายที่ส่งยิ้มหวานให้ เจ้าของรอยยิ้มสวยยังมีน้ำใจเผื่อแผ่ความน่ารักของเธอมายังผมด้วย ทำเอาผมเกือบยกมือขึ้นโบกไหวๆ ตามหัวใจที่ล่องลอยไปกับนางฟ้าผู้แสนสวย ถ้าเท้าหนักๆ ในรองเท้าส้นสูงที่อยู่ใต้โต๊ะจะไม่แผลงฤทธิ์ใส่น่องผมเข้าเสียก่อน

“เจ็บนะเว้ยไอ้แน้ท สังวรณ์เอาไว้หน่อยดิว่าเดี๋ยวนี้แกใส่รองเท้าส้นสูงแล้ว ไม่ใช่ผ้าใบเหมือนเมื่อก่อน จะประทุษร้ายใครก็ให้มันยั้งๆ หน่อย หรือไม่เคยมีใครบอกวะว่าเท้าแกหนักยังกับก็อซซิล่า”

เมื่อลับตาสาวสวยสุดปิ๊งก็ไม่จำเป็นต้องสร้างภาพกันล่ะ ผมสามารถด่ามันได้ตามอัธยาศัย ...เฮ้อ ค่อยหายอึดอัดหน่อย การตกอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถเถียงไอ้แน้ทได้มันอัดอั้นตันใจแค่ไหนคุณคงไม่รู้หรอก

แต่ 'แน้ทซิล่า' กลับไม่สน ไม่แม้จะจะใช้ฝีเท้าหนักๆ ประทุษร้ายผมอีกอย่างที่คิด... มันมองหน้าผมนิ่งแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ขืนไม่ทำแบบนั้น หัวใจทุกห้องจนถึงตับไตไส้พุงแกมีกี่ขดใครๆ เขาก็รู้หมด รู้ตัวมั้ยวะไอ้เมฆว่าแกมองยัยพายตาเยิ้มมมมมมมขนาดไหน ฉันอยากให้แกเห็นตัวเองเมื่อกี้จริงๆ ตาแกหวานเชื่อมจนแทบจะไหลลงมาเป็นรูปสระอิอยู่แล้ว”

“แต่เขาก็ไม่มีท่าทีรังเกียจนะ เมื่อกี้แกก็ได้ยิน ชื่อฉันเขาก็จำได้”

“นั่นคงเป็นเพราะฉันนินทาแกให้เขาฟังเยอะต่างหากล่ะ แต่ละอย่างดีๆ ทั้งน้าน หึๆ”

“อะไรนะ!”

ผมแทบจะกระโจนข้ามโต๊ะไปเค้นคอมัน ถ้าพี่เรนกับพีซและไรน์ไม่ปรากฏตัวขึ้นเสียก่อนราวกับระฆังบอกเวลาหมดยก

“เอ้า แยกย้ายจ้าแยกย้าย กลับมุมของตัวเองได้แล้ว กรรมการมาแล้วจ้า”

พีซส่งเสียงใสๆ มาห้ามทัพแล้วนั่งลงข้างผมเพื่อให้พี่เรนนั่งข้างๆ แน้ทที่เปลี่ยนท่าทีเป็นผู้หญิงขึ้นมาได้อย่างฉับพลันราวกับจิ้งจกเปลี่ยนสีเมื่อคนรักของตัวเองปรากฏตัว

...หนอย ทีงี้ล่ะทำตัวหญิงจนน่าถีบ หมั่นไส้จริงเว้ย

เอ้อ ขอออกตัวนิดนึง อาการหมั่นไส้นี่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผมยังมีใจให้ไอ้แน้ทหรืออาลัยอาวรณ์อะไรมันหรอกนะครับ เวลาก็ผ่านไปตั้งสองสามปีแล้ว ผมทิ้งความรู้สึกที่มีต่อมันลงแม่น้ำเทมส์ตั้งแต่วันที่บินออกจากอังกฤษแล้วล่ะ ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะได้เจอมันอีกบ่อยๆ จนกระทั่งวันที่มันเข้ามาทำงานที่เดียวกันนั่นแหละ ผมถึงได้รู้ตัวว่าคงยังไม่สิ้นเวรสิ้นกรรมกับมันง่ายๆ

“สองคนนี้นี่นะ กี่ปีๆ ก็ไม่เคยญาติดีกันได้สักที อุตส่าห์ใจตรงกันถึงขนาดได้งานที่เดียวกันแท้ๆ”

“ขอเถอะครับพี่เรน อย่าพูดอะไรที่มันชวนสยองขนาดนั้น ผมกลัวฟ้าผ่า” ผมรีบโต้กลับทันควันด้วยสีหน้าสยดสยองจนถูกคนถูกพาดพิงปากระดาษเช็ดปาก (ที่ยังไม่ได้ใช้) ใส่แทบจะในทันทีที่พูดจบเหมือนกัน

“ต๊าย โทษทีนะ หลุดมือน่ะ”

สีหน้าที่แกล้งทำเป็นอินโนเซนท์ของมันทำให้ต่อมหมั่นไส้ของผมทำงานอีกครั้ง แต่พอเห็นพี่เรนส่งสายตาปรามแล้วมันทำท่าขัดใจแต่จำยอมก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

...เออแฮะ ถึงมันจะไม่เคยเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนแต่อย่างน้อยก็ยังเกรงใจแฟนล่ะ

ลองคิดดูเล่นๆ สมมติว่าถ้าผมกับไอ้แน้ทคบกันเป็นแฟนกันจริงๆ สงสัยคงได้เป็นคู่กัดที่แง่งๆ ใส่กันตลอดปีตลอดชาติแหง ผมคงปราบคนเฮี้ยวๆ อย่างมันไม่อยู่พอๆ กับที่มันคงรำคาญผู้ชายปากปีจออย่างผมจนทนไม่ไหวเหมือนกัน การที่ทุกอย่างลงเอยแบบนี้ก็ดีแล้ว ผู้ชายอย่างผมคงไม่เหมาะกับผู้หญิงเถียงคำไม่ตกฟาก มีดีแค่หน้าตากับความจริงใจ (จนเกินพิกัด) อย่างมันหรอก ผู้หญิงสไตล์ที่เหมาะกับผม น่าจะเป็นผู้หญิงที่สวย น่ารัก อ่อนหวาน ขี้เล่น ขี้อ้อน ติดจะอ่อนแอ ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ต้องการการปกป้องดูแลและเอาใจใส่มากกว่า ...หรือพูดง่ายๆ ผู้หญิงแบบที่น้องพายเป็นนั่นแหละ เพอร์เฟ็กต์สำหรับผมเลย

“พีซ โทรถามหน่อยดีมั้ยครับว่าไรน์อยู่ไหนแล้ว จะให้รอสั่งอาหารไหมเพราะพี่คงอยู่นานไม่ได้ เดี๋ยวมีประชุมกับลูกค้าตอนบ่ายสาม”

“ลูกค้า... คงไม่ใช่คุณอั้มหรอกนะ”

ไอ้แน้ทพูดเสียงไต่ขึ้นจมูกแบบที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ท่าทางจะหึงอยู่เหมือนกันแฮะ ตลกดี ไม่นึกว่าจะได้เห็นมันในโหมดนี้ ...แต่ก็ว่าไม่ได้หรอกนะ เพราะตอนนี้พี่เรนกลายเป็นหนุ่มนักบริหารไฟแรงของบริษัทไอทีที่หุ้นกันทำกับเพื่อนสมัยเรียนปริญญาตรีสองสามคน ถึงจะไม่ใช่บริษัทใหญ่อะไร แต่ด้วยคุณภาพของเนื้องานและสไตล์การทำงานที่เป็นมืออาชีพ เน้นบริการหลังการขายแบบทุกระดับประทับใจก็ทำให้ลูกค้าของบริษัทต่างพากันชอบใจและบอกต่อ ลำพังชอบบริษัท ชอบผลงานคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ลูกค้าสาวๆ ส่วนใหญ่มักจะหลงเสน่ห์หุ้นส่วนบริษัทรูปหล่อเข้าด้วยนี่สิ ไอ้แน้ทเลยมีเรื่องให้ฉุนบ่อยๆ ผมยังเคยแหย่ให้มันหายเครียดว่าอยากมีแฟนหล่อ เฟรนลี่ ใจดี ยิ้มง่าย แถมยังทำงานเก่งอย่างพี่เรนก็ต้องทนเอาหน่อยล่ะนะ ประชากรชายที่ดีขนาดนั้นไม่ได้หากันได้ง่ายๆ เท่าที่หลุดมาถึงมือมันได้ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว ถ้าจะมีใครขอยืมบ้างเป็นบางครั้งบางคราวก็น่าจะหยวน ยอมแบ่งๆ กันไป ผลที่ได้คือเกือบถูกฆ่าหมกกระโปรงรถแล้วเข็นทิ้งลงแม่น้ำเพื่ออำพรางศพ

ความจริงแล้วผมก็แค่หาเรื่องแหย่สนุกๆ ไปอย่างนั้นเพราะคิดว่าอย่างมันคงแค่โมโหนิดหน่อย ไม่นึกว่าจะคิดมากเอาจริงๆ จนกระทั่งได้ยินมันถามขึ้นมาแบบนี้

“ไม่ใช่หรอก รายนี้เป็นลูกค้าใหม่น่ะ ...เป็นผู้ชาย ดังนั้นไม่ต้องคิดมากนะ”

พี่เรนรีบเสริมประโยคหลังทันทีที่เห็นแววตาของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่ 'คนคิดมาก' กลับทำเป็นไก๋ ไม่ยอมรับเสียอย่างนั้น

“ใครคิดมากกันไม่เห็นมีสักหน่อย อย่ามากล่าวหา แค่ถามดูเฉยๆ เพราะแวะไปที่ออฟฟิศทีไรเห็นคุณอั้มมานั่งรอดูงานที่ปรับแก้ทุกที เลยคิดว่าขยันประชุมกันทุกวันซะอีก”

ก่อนที่ไอ้แน้ทจะทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมาคุ พีซก็รีบจัดแจงสงบสถานการณ์ด้วยการพูดขึ้นลอยๆ

“ไรน์ส่งอีเมล์มาบอกว่าสั่งอาหารกันได้เลย สั่งเผื่อด้วยเพราะใกล้จะถึงแล้ว”

ว่าแล้วเธอก็พิมพ์ตอบกลับเร็วจี๋ด้วยเครื่องมือสื่อสารสุดทันสมัย ...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แต่วันเวลาเพียงไม่กี่ปีได้เปลี่ยนสาวน้อยที่ใสซื่อหน่อมแน้มจนน่าทึ่งให้กลายเป็นผู้หญิงที่สวยสง่า สมกับเป็นคุณหนูลูกสาวคนเดียวของเจ้าของบริษัทจิลเวอรี่ แม้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ เธอจะยังสดใสบ้องแบ๊วไม่ต่างไปจากเมื่อก่อน แต่ผมเคยเห็นพีซคุยกับลูกค้าในงานอีเวนท์ที่เธอจัดและเชิญผมไปด้วย บอกได้เลยว่าเธอวางตัวได้ดีทีเดียว

“ทำไมไรน์ถึงไม่มาพร้อมกันล่ะพีซ ทำงานด้วยกันไม่ใช่เหรอ”

ผมถามเพราะจำได้ว่าตั้งแต่วันที่บินกลับมาถึงเมืองไทย พีซก็แนะนำไรน์ที่กลับมาพร้อมกันให้คุณพ่อคุณแม่ของเธอรู้จักในฐานะคนพิเศษ ผลคือคุณพ่อมองดูหน่วยก้านแล้วชอบไรน์เลยในทันที ส่วนคุณแม่ยังไม่ค่อยชอบใจเท่าไรเพราะคิดว่าพีซน่าจะเหมาะกับผู้ชายที่สูง หน้าตาดี มาดเท่กว่านี้ (ไม่แน่ว่าถ้าคุณแม่เห็นพี่เทมส์อาจจะอยากขอเปลี่ยนตัว อิอิ) แต่เมื่อเห็นอุปนิสัยและความจริงใจของไรน์ที่แสดงออกอย่างสม่ำเสมอ คุณแม่ก็พลอยยอมรับไปในที่สุด และถึงกับวางตัวให้มาช่วยสืบทอดกิจการร่วมกับพีซในอนาคต

“อ๋อ พอดีวันนี้พีซเอาเข็มกลัดคอลเล็คชั่นใหม่มาถ่ายลงนิตยสารแล้วก็ให้สัมภาษณ์น่ะ ส่วนไรน์ติดทำราคาอยู่ที่ออฟฟิศเลยแยกกันมา”

“แหมๆ เดี๋ยวนี้ดังใหญ่แล้วนะ กลายเป็นเซเล็บไปแล้ว ถึงว่าล่ะรัศมีจับเชียว”

“ดังที่ไหนกัน ก็เหมือนเดิม ...แน้ทนั่นแหละ เดี๋ยวนี้กลายเป็นสาวออฟฟิศเต็มตัวแล้วนะ สวยเชียว”

“พอๆ เลิกดีกว่า มัวแต่โยนดอกไม้ใส่กัน เดี๋ยวไม่ได้สั่งอาหารกันพอดี”

คนถูกชมรีบเปิดเมนูแล้วซ่อนหน้าลงไปในนั้น ...ไม่ว่าจะยังไงแน้ทก็ยังเป็นแน้ทที่ไม่ค่อยชอบและไม่เคยชินกับการถูกชมว่า ‘สวย’ สักที ทั้งๆ ที่ออกจะเป็นผู้หญิงหน้าตาดี ...แต่เอาเถอะครับ ผมก็พอเข้าใจอะนะ ถ้าคุณเจอก็อซซิล่าสาวแล้วชมว่ามันสวย มันก็คงไม่ดีใจและพ่นไฟใส่คุณอยู่ดี

หลังจากสั่งอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ไรน์ก็มาถึงร้านพอดีราวกับรู้คิวและไม่ลืมขอโทษขอโพยที่มาสายหลังจากนั่งลงข้างๆ พีซ ซึ่งพวกเราก็คงจะไม่ว่าอะไรร๊อก ถ้าไรน์จะไม่พูดต่อว่า

“เออ เมื่อกี้ตอนจอดรถเสร็จเดินผ่านรถเข็นขายผลไม้ข้างหน้าเห็นน้องผู้หญิงคนนึงสวยเช้งเลย ได้ยินเพื่อนเขาเรียกว่าพาย ไม่รู้อยู่บริษัทนายหรือเปล่า”

เปรี๊ยะ!

สายตาพิฆาตสามคู่จ้องไปที่ไรน์ทันทีโดยไม่ต้องนัดหมาย สำหรับพีซมันแน่อยู่แล้ว ผู้หญิงที่ไหนได้ยินแฟนพูดแบบนี้ต่อหน้าแล้วไม่เคืองก็คงแปลกล่ะ ส่วนผม... ต้องเขม่นมันสิ น้องพายน่ะผมจองแล้วนะครับ (โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าเจ้าตัวเขาอนุญาตให้จองหรือเปล่า) อยู่ดีๆ จะให้ผู้ชายต่างถิ่น (ถึงจะมีแฟนแล้วก็เถอะ) มาชื่นชมได้ยังไง ในฐานะเจ้าถิ่นผมต้องหวงก้างไว้ก่อน แต่ไอ้แน้ทเนี่ยสิ อะไรของมันหว่า ปกติมันก็ขี้โวยวายเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วันนี้ดูมันหงุดงิ้ด...หงุดหงิดชอบกล

“ไรน์ จะถามอะไรช่วยมองข้างๆ ก่อนนะว่าใครนั่งอยู่”

“เฮ้ย อะไร ก็แค่ถามเฉยๆ เห็นเขาสวยยังกะดารา ใครที่เดินผ่านก็หันไปมองเลยถามดู ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย... พีซไม่โกรธนะค้าบ”

“อย่าให้มากกว่านี้ละกัน”

ผมแอบขำไรน์ที่ทำหน้าแปลกๆ เมื่อโดนพีซขู่ เพราะอย่างที่รู้กันว่าพีซเป็นสาวหวาน สดใส ใจดี เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าพีซก็มีโหมดขู่นิ่มๆ แต่เอาจริงแบบนี้ด้วย

“ใช่ ไม่งั้นนายตายแน่ไรน์”

พี่เรนแซว แต่ดูจากสีหน้าแล้วไม่ได้แซวไรน์หรอก แซวคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ซะมากกว่า...
อ้อ! ผมเพิ่งจะนึกได้เดี๋ยวนี้เองว่าไอ้แน้ทมันไม่ได้เพิ่งจะมีอาการแปลกๆ แค่วันนี้หรอก มันก็อาการเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงมาสักพักแล้ว ซึ่งสาเหตุก็น่าจะมาจากลูกค้าสาวๆ ของพี่เรนนั่นเอง แล้วเมื่อกี้มันก็คงจะฉุนแทนพีซตามประสาแม่เสือสาวขี้หึง

ถึงแม้ไอ้แน้ทจะเป็นเพื่อนที่น่าหมั่นไส้ แต่ผมก็ยอมรับว่ามันเป็นเพื่อนที่ดี (มั้ง) คนหนึ่ง เลยเบนหัวข้อสนทนาเพื่อให้มันหายเครียด

“ถึงสาวๆ จะว่ายังไงแต่เรายอมรับว่านายตาถึงว่ะไรน์ เพราะน้องพายคนสวยๆ ที่แกเห็นเมื่อกี้คืออนาคตแฟนฉันเอง”

“เฮ้ย จริงง่ะ” ไรน์ตอบกลับทันควันด้วยน้ำเสียงแสดงความไม่เชื่อถือ... ให้มันได้อย่างนั้นสิ ถึงจะคิดว่าผมโม้ก็ช่วยเก็บๆ อาการหน่อยไม่ได้เหรอ ไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจกันบ้างเล้ย

“ก็น่าจะเป็นจริงได้ (มั้ง) ถ้าใครบางคนที่ซี้กับน้องเขาจะยอมช่วยอะนะ”

ผมเริ่มสร้างวิมานในอากาศ... แต่ไหนแต่ไรมาผมไม่กล้าวิ่งเข้าหาน้องพายก่อนเพราะกลัวจะดูเหมือนพวกหูดำและน้องพายอาจจะตั้งป้อมรังเกียจ แต่ถ้าใครบางคนที่สนิทสนมกับเธอสามารถชักนำให้ผมเข้าไปใกล้เธอได้แบบเนียนๆ บางทีนางฟ้าของผมอาจไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อมอย่างที่คิด...

“มีด้วยเรอะ? ใครอ่ะ”

“คงจะเป็นคนอื่นมั้งไอ้แน้ท ทั้งโต๊ะนี้มีแกคนเดียวนั่นแหละที่รู้จักสนิทสนมกับยัยพาย ...ก่อนแยกกันฉันได้ยินนะเว้ยที่แกสัญญิงสัญญาจะพาเขาไปกินเสต็กเจ้าอร่อยอะไรนั่นน่ะ อะไรว้า เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแท้ๆ ทำไมไม่เคยบอกว่าสนิทกับน้องพายถึงขนาดไปกินข้าวกลางวันด้วยกันทุกวัน”

“แค่บางทีไม่ใช่ทุกวัน และ...ทำไมฉันต้องรายงานแกด้วยวะว่าวันไหนฉันไปกินข้าวกับใคร”

“อ้าว ก็เพื่อนต้องช่วยเพื่อน เพื่อนจีบใครก็ต้องช่วยเปิดโอกาสให้เขาด้วยสิวะ อย่ามัวแต่กั๊กอยู่เลย แกไม่เห็นเหรอว่าทั้งโต๊ะนี้มีฉันคนเดียวที่ไม่มีแฟน”

“เออนั่นสิแน้ท สงสารเมฆเขาออกน้า... ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงพีซว่าแน้ทช่วยเขาหน่อยไม่ดีเหรอ ถ้าน้องพายเขาไม่ได้ชอบเมฆจริงๆ ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา ก็ให้คบเป็นเพื่อนกันไปก็ได้”

ผมแทบจะทำตาวิ้งๆ ใส่พีซถ้าไม่เกรงใจไรน์...พีซช่างเป็นนางฟ้าที่แสนดีเหลือเกิน ...ตรงข้ามกับนางมารร้ายอย่างแน้ทโดยสิ้นเชิง

“ไม่! ทำไมฉันต้องช่วยแกด้วยวะไอ้เมฆ บอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าที่ฉันไม่บอกแกมาก่อนเพราะฉันไม่ได้คิดจะช่วยแนะนำให้แกรู้จักยัยพายหรืออะไรทั้งสิ้น และนอกจากจะไม่ช่วย ฉันจะขัดขวางแกให้ถึงที่สุดเลยคอยดู”

“เฮ้ย”

“และขอบอกว่าฉันเอาจริง”

เพล้ง!

สายตามุ่งมั่นและท้าทายของมันทำเอาวิมานในอากาศของผมแหลกสลายกลายเป็นจุลไปภายในบัดดล เส้นทางที่ควรจะโรยด้วยกลีบกุหลาบทำท่าจะกลายเป็นถนนแห่งหนามกุหลาบซะแล้ว
และ 'หนาม' ที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากหนามตำใจที่เคยทำให้หัวใจผมเจ็บปวดมาก่อนในอดีต และทำท่าจะจองเวรไม่เลิกรา ราวกับผมติดหนี้แค้นมันมาห้าร้อยชาติ

“ทำไมวะ ฉันไม่เข้าใจ”

“แค่นี้ยังไม่รู้อีกเรอะ ดอกฟ้าขนาดนั้น เขาสมควรได้คนที่ดีกว่าแก หรือแกจะเถียงว่าไม่จริง”

ถึงแม้ว่ามันน่าจะเป็นความจริง แต่ได้ยินแบบนี้ผมก็จุกแอ้กแทบลงไปกองไปเหมือนกัน ราวกับถูกไอ้แน้ทเอาปืนลมมายิงเข้าตรงลิ้นปี่ในระยะเผาขนยังไงยังงั้น

แต่จะให้ผมยอมแพ้เรอะ เหอะๆ ไม่มีทางซะหรอก ถึงไอ้แน้ทจะไม่ยอมช่วยและตั้งใจที่จะตามขัดขวางตามที่บอก แต่ผมก็จะไม่ย่อท้อ ดูอย่างไรน์ซิ ไม่เห็นต้องหล่อต้องเลิศอะไร แต่ก็ทำให้พีซเลือกโดยไม่เหลียวแลใคร ทั้งๆ ที่รอบตัวพีซมีทั้งพี่เทมส์ พี่เรน และซูเปอร์ไวเซอร์หนุ่มหล่อที่มีภาษีีกว่าไรน์ตั้งเป็นกอง

ถ้าไรน์ทำได้ เมฆก็ต้องทำได้สิน่า ....งานนี้ผมจะต้องคว้าหัวใจของนางสาววรินรำไพมาครองให้ได้เลย ขอเอาเกียรติของพ่อหมอเมฆเป็นประกัน!



(จบบทที่ 1)



Create Date : 01 กรกฎาคม 2552
Last Update : 1 กรกฎาคม 2552 1:15:23 น. 25 comments
Counter : 1527 Pageviews.

 
ปาดเหงื่อด้วยความตื่นเต้น ฮา... รู้สึกเหมือนไม่ได้ลงนิยายมานานมากแล้ว แล้วก็ดีใจด้วยที่พลิกฟื้น One Moment In Time กลับมาจนได้ (ขอออร่านี้จงสถิตอยู่ชั่วกาลนาน ฮาาา ) สำหรับตอนที่ 1 นี้ทุกคนคงจะได้รู้จักกับสมาชิกใหม่ของเรื่อง และรับรู้คร่าวๆ แล้วนะคะว่าตัวละครจาก Once Upon A Time เป็นยังไงกันบ้าง ...หลังจากร้างราไปนาน ได้เขียนแล้วรู้สึกสนุกดีค่ะ เพราะตอนนี้ตัวละครก็กลับมาเริ่มต้นชีวิตที่เมืองไทยได้สองสามปีแล้วเหมือนคนเขียนเป๊ะ เลยรู้สึกเหมือนมีประสบการณ์ร่วมกัน

ขอฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ แล้วพบกันตอนที่ 2 ค่ะ


โดย: ...ศุวิลา... วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:27:54 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ


โดย: CrackyDong วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:2:10:25 น.  

 
เคยอ่าน once upon a time แต่นานมากแล้ว เด๋วคงต้องไปคุ้ยเพื่อมารื้อฟื้อซะหน่อย ว่าแต่จะลงได้จบจนมั้ยอะ อย่าลงแล้วค้างๆนะค้า...อยากอ่าน kidnap ต่อจังเลย


โดย: pixie IP: 58.9.77.120 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:3:14:20 น.  

 
คุณ CrackyDong -- ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ

คุณ pixie -- 55 มานั่งนับดูถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่า Once วางแผงไปตั้งเกือบ 2 ปีแล้วเวลาผ่านไปไวจริงๆ
เรื่องนี้น่าจะลงไปเรื่อยๆ จนจบค่า (แต่ช้าหรือเร็วนั่นเป็นอีกเรื่อง แหะๆ) ไม่น่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นแบบตอน Kidnap Love นะคะ เพราะสาเหตุที่เรื่องนั้นสะดุดเกิดจากการที่โน้ตนึกอยากเปลี่ยนพล็อตกะทันหันเมื่อเขียนไปได้ 3 ตอน ทำเอาเนื้อหาส่วนที่เหลือรวนไปหมด เลยจำเป็นต้องหยุดเอาไว้ก่อนเพราะคนเขียนก็ยังตกลงกับตัวเองไม่ได้ว่าจะเอายังไงต่อไป แต่สำหรับเรื่องนี้คิดว่าน่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงค่ะ ^^


โดย: ...ศุวิลา... วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:04:47 น.  

 
พี่โน้ตตตตตต หวัดดีค่ะ ไม่ได้เข้ามาน้านนาน พี่โน้ตแต่งเรื่องใหม่แระ



เดี๋ยวต้องอ่านๆๆๆ ยังไม่ได้อ่านเรยค่ะ



โดดเรียนมาเล่นเน็ตเนี่ย คิกคิก จะแวะเข้ามาบ่อยๆเรยค่ะ


โดย: PamPam IP: 61.19.32.195 วันที่: 2 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:11:09 น.  

 
ดีใจจังพี่โน๊ต ออร่าแรง...
มาเจออย่างจัง พลาดไปตอนบทนำ... ไม่เป็นไรเลี้ยงกลับทัน ฮา...

ตั้งตารออ่านนะคะพี่โน๊ต...

แนะนำ พอดีแล่นเข้าหัวปรื๊ด....

สาวกลุ่มสุดท้าย (แหมดีนะไม่เรียกประเภทสุดท้าย) น่าจะรวมพวกหัวหน้าหญิงที่มาใหม่ด้วยนะคะ ประเภทที่อยากจะเปลี่ยนนโยบายแบบที่ตัวเองถนัด (เอารวมไปด้วยเลนพี่โน๊ต หน้าตาไม่เกี่ยว)

สาธุ...พ่อหมอเมฆมีองค์ ทำได้สำเร็จ





โดย: ColdOut วันที่: 2 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:12:37 น.  

 
อยากรู้ซะแล้วสิว่าแน้ทจะขัดขวางเมฆทำไม

สนุกๆๆ ค่ะพี่โน้ต ^^


โดย: ก้ามปู IP: 124.121.235.31 วันที่: 2 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:38:45 น.  

 
เข้ามาลงชื่อก่อนค่ะ

ยังไม่สามารถชะแว๊บมาอ่านได้

เนื่องจากติดภารกิจ(กองทัพหน้งสือ+การบ้าน)

เอาใจช่วยตอนต่อไปนะคะ


โดย: เดหลี IP: 202.44.135.39 วันที่: 3 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:11:25 น.  

 
ขอให้ ออร่า อยู่คู่กับ โน้ต ตลอดไปนะ


โดย: กุ้งก้ามกราม IP: 10.10.11.205, 203.146.8.124 วันที่: 3 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:53:02 น.  

 
เย้ เย้ พี่โน้ตปั่นตอนต่อของ Once ให้อ่านแล้ว นู๋จะกลับไปอ่าน Once ใหม่อีกครั้ง จะได้ต่อเนื่องกัน

ปล.
ประโยคที่ว่า "ผมแทบจะกระโจนข้ามโต๊ะไปเค้นคอมัน ถ้าพี่เรนกับพีซและไรน์ไม่ปรากฏตัวขึ้นเสียก่อนราวกับระฆังบอกเวลาหมดยก"

ขัดแย้งกับประโยคนี้ "พีซ โทรถามหน่อยดีมั้ยครับว่าไรน์อยู่ไหนแล้ว จะให้รอสั่งอาหารไหมเพราะพี่คงอยู่นานไม่ได้ เดี๋ยวมีประชุมกับลูกค้าตอนบ่ายสาม"

คือไรน์มาแล้วหรือยังไม่มาครับ



โดย: laddaler IP: 125.24.117.238 วันที่: 4 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:09:03 น.  

 
มารออัพเดทค่ะ


โดย: ColdOut วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:23:01 น.  

 
ตัวละครเก่าๆ มาวิ่งเล่นกันให้เพียบเลยอ่า

อ่านไปได้ 1/4 แล้วสารภาพว่างงๆ แบบว่าแก่แล้ว เริ่มจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ไม่มี wrap out ของเก่าแบบย่อๆ หรอ =P

อ่า...มะเป็นไร ขอกลับไปหยิบ Once upon a time มาทบทวนก่อนนะ


โดย: อุรัสยา IP: 125.25.5.39 วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:53:20 น.  

 
ออร่าแรงนะเนี่ย สู้ๆจ้า


โดย: ชัชชมนต์ IP: 202.93.63.238 วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:32:44 น.  

 
พี่โน๊ตไปตักไอศครีมร่วมแจ่มใสด้วย... รอดูการแต่งหน้าไอศครีมนะคะ


โดย: ColdOut วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:39:34 น.  

 
มาตอบคอมเมนต์แล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้มาแปะตอนที่ 2 เพราะยังปั่นอยู่ ^^''' ออ่ร่ามาทีละนิดๆ ต้องค่อยๆ แตะๆ ไปเรื่อยๆค่ะ แหะๆ

หนู PamPam -- ไม่ได้เจอซะนาน อิอิ หนูโดดเรียนมาอ่าน พี่ก็แอบอู้งานมาตอบจิ๊ดนึงเหมือนกันจ้ะ ^^''' พอกันเลยเรา

น้องตูน -- ไม่เป็นไรจ้า รับรองหนูอ่านทันพี่แปะแน่ ฮ่าๆ พี่มันเป็นพวกหอยทากอะน้า ค่อยๆ กระดึบๆ
เอ่อ... คำขอนั่นเป็นความแค้นส่วนตัวป่าวหว่า อิอิ

น้องก้ามปู -- อิอิ ดีใจ มีคนชมว่าสนุก ^^ ฮี่ๆ เรื่องนี้มีเหตุผลจ้า แต่จะสมเหตุสมผลสักแค่ไหนนั้นต้องรอติดตามชมตอนต่อไป แต่อย่าเอาอะไรกะยัยแน้ทมากเลยเน้อ ยัยนี่น้ำขึ้นน้ำลงเป็นปกติค่ะ

น้องเดหลี -- ไม่ต้องรีบจ้าไม่ต้องรีบ หนูอ่านทันพี่ปั่นตอนต่อไปแน่นอน ฮา...

พี่กุ้ง -- สาธุ สาธุ และสาธุค่ะ - /|\\ - กำลังต้องการเลย ออร่าเนี่ย พักนี้งานมาออร่าไปค่ะ

น้อง laddaler -- ว้ายยยย ขอบคุณค่ะที่ช่วยพี่จับไก่ 5555 อันนี้หลุดค่ะ พี่หลุดจริงๆ คือตอนแรกกะจะเขียนว่ามาพร้อมกัน แต่ไปๆ มาๆ เปลี่ยนใจเพราะอยากให้ไรน์ตามเข้ามาทีหลังมากกว่า ลืมไปว่าเขียนให้มาพร้อมกันไปแล้ว ^^''' เดี๋ยวต้องไปแก้ที่ต้นฉบับด้วย ขอบคุณที่บอกนะคะ ^^

น้องตูน (อีกที) -- รอหน่อยเน้อ... ตอนนี้ออร่าดรอปลงนิดหน่อย ยังไม่จบตอนเลยจ้ะ

เปี๊ยก -- กร๊ากกกก ไม่ได้ทำไว้อะ จริงๆ ควรทำใช่มะ แหะๆ

พี่พล -- ง่า อย่าชมค่ะ เพราะออร่าจะหายไปในบัดดล (จริงๆ มันไม่ค่อยมีอยู่แล้วตะหาก)

น้องตูน -- อิอิ น้องตูนไปปะคะ ถ้าไปเจอกันน้า ^^


ไปทำงานต่อแล้วค่ะ ^^


โดย: ...ศุวิลา... IP: 81.255.154.129 วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:31:33 น.  

 
พี่โน๊ต ไม่ได้ไปค่ะ สงสัยรูปจะหนาวไม่พอ... พี่โตเอารูปมาให้ดูบ้างนะคะ

โอม...ออร่าจงสถิตย์แด่พี่โน๊ต... เดี๋ยวไปประมูลของจากพี่yayoi เอาช้างมาลากพี่โน๊ต ช่วยกันเข็นเรื่องใหม่...


โดย: ColdOut วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:57:24 น.  

 
พี่โน๊ต เค้าเป็นหวัดด้วยแหละ หวั่นใจมากมายว่าจะเป็น ไข้หวัดที่กำลังมาแรงแซงทางโค้ง แต่พอไปตรวจแล้ว เค้าแยกตรวจด้วยแหละค่า

น่ากลัวจัง

ผลสรุป

ไม่ใช่ค่า ดีใจอย่างสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รักษาสุขภาพมากๆๆๆ นะคะ ช่วงนี้คนเป็นหวัดเยอะมากกก


โดย: เดหลี IP: 202.44.135.39 วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:47:28 น.  

 
ตอนต่อไปจะอัพเมื่อไหร่ค้า

อยากอ่านนนนน...ว้อนมาก

(จะสอบอีก 1 อาทิตย์ข้างหน้ายังไม่เจียม -0-)


โดย: ก้ามปู IP: 124.122.248.216 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:16:54 น.  

 
ใจเย็นๆ เน้อหนูๆ (โดยเฉพาะหนูก้ามปู อิอิ) แวบมาบอกว่าพักนี้ภารกิจเยอะจ้า การปั่นเลยไม่ค่อยจะต่อเนื่อง คืบคลานทีละนิดๆ แต่ยังเขียนอยู่น้า... ยังไงก็อ่านหนังสือสอบไปพลางๆ ก่อนนะจ๊ะ

อุ้ย... เจ้าอ้นเริ่มประมูลแล้วเหรอน้องตูน ตายล่ะ ว่าจะเข้าร่วมสักหน่อย เดี๋ยวรีบติดต่อหาอ้นก่อน... ว่าแต่แหม... ช่วยกันดีจังนะยะ ทั้งลากทั้งเข็น...

ดีใจด้วยนะหนูเดหลี ตอนแรกพี่ก็เฉยๆ แต่พักนี้ชักกลัวจ้า เพราะมันก็อันตรายจริงๆ แหละเนอะ (นึกสงสัยว่าทำไมไม่มีมาตรการอะไรออกมาสักทีหว่า ปล่อยให้คนป่วยเพิ่มวันละเป็นร้อยๆ ทุกวัน) ตอนนี้เลยพยายามเลี่ยงที่ที่คนเยอะๆ แล้วก็คอยล้างมือและพกเจลล้างมือเหมือนกัน แต่หน้ากากยังไม่ใส่เพราะพี่ไม่ชอบหายใจผ่านหน้ากาก มันอึดอัด
เมื่อวานพี่ก็ dehydrate ซะจนตัวร้อน มึนๆ เบลอๆ ตอนแรกตกใจเหมือนกันว่าตัวเองจะเป็นอะไรไหม ...แต่พอคนอื่นมาจับตัวบอก เฮ้ย ตัวเธอเย็นมากเลยนะไม่ใช่ร้อน แต่พี่กลับรู้สึกว่าทุกคนมือร้อนจี๋ไปหมด เลยถูกจับกรอกน้ำทั้งวันจนเริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ ^^


โดย: ...ศุวิลา... IP: 81.255.154.129 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:07:18 น.  

 
สวัสดีค่าพี่โน้ต

ไม่ได้แวะเข้ามานาน ในที่สุดก็ได้อ่านแล้ววว ดีใจจัง





แนทยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะคะ ^^~

(กรุณากลับขาวเป็นดำ แล้วจะได้ความจริงสุดซึ้งจากใจ 555)


อย่าหายไปนานๆ นะคะพี่โน้ต เดี๋ยวปูลืมเนื้อเรื่องหมดก่อนไม่รู้น้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: Pupae63 IP: 58.8.15.127 วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:18:30 น.  

 
แหม ยายหนูปู... แวะมาเยี่ยมก็ทวงเชียวนะยะ เชอะ...

ตอนนี้พี่มีภารกิจติดค้างอยู่เล็กน้อยค่ะ (แต่ใกล้เสร็จละ) ตอนนี้เลยคืบคลานไปแบบล่าช้าสักหน่อย ยังไงจะรีบมาต่อเน้อ


โดย: ...ศุวิลา... IP: 81.255.154.129 วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:21:20 น.  

 
อุ๊ยๆๆ หนูก็เคยเป้นค่ะ ที่รู้สึกว่าตัวร้อน มือร้อน แต่พอคนอื่นจับกลับไม่ได้เป็นอะไร

มันเป็นเพราะเรากินน้ำน้อยด้วยค่ะ หนูเลยพยายามกินน้ำเยอะขึ้นๆ แต่มันก็ยังมีบ้างเหมือนกันที่ลืมกิน

ที่ม. หนู คณะเดียวกันมีคนเป็นเยอะมากเลยค่ะ โหหหห โฮะๆๆๆ น่าจะปิดม.ก่อนนะ น่ากลัวมากๆๆๆ คนที่เป็นก็ไม่ยอมปิด ทำไมทำแบบนี้!!!!!

ทานน้ำเยอะๆ นะคะ


โดย: เดหลี IP: 202.44.135.39 วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:32:49 น.  

 
เพิ่งอัพเดทที่ไปดูหนังวันนี้กันมาอะ ไปแจมได้นะ อิอิ


โดย: อุรัสยา วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:13:32 น.  

 
ดีค่ะพี่โน้ตตต

ตอนนี้ก้ามสอบเสร็จละ โล่งงงงงง 555
เลยมานั่งหน้าจอ รอนิยายพี่โน้ตใจจดใจจ่อ

^
^
กดดันกันไปเลย 555


โดย: ก้ามปู IP: 124.121.46.197 วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:36:12 น.  

 
สนุกดีค่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ


โดย: ชะเอมหวาน วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:44:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

...ศุวิลา...
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




'ศุวิลา' นักเขียนแนว LOVE (ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก) สนพ. แจ่มใส ♥








Friends' blogs
[Add ...ศุวิลา...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.