ไม่มีอะไร ที่ดำรงอยู่ โดยไม่ได้เกิดขึ้น จากการอิงอาศัยสิ่งอื่น จึง ไม่มีอะไร ที่ดำรงอยู่ ที่ไม่ใช่ ความว่าง...".องค์ดาไล ลามะ กล่าวถึง โศลกที่ 18 และ 19 ของบทที่ 24 ซึ่งคือ การสรุปเนื้อหา ทั้งหมด ของ ปรัชญาทางสายกลาง ของท่าน นาคารชุน
"...การเกิดขึ้น โดยอิงอาศัยสิ่งอื่น เป็นปัจจัย ถูกอธิบายว่า คือ ความว่าง การ มีสิ่งนี้ จึงมีสิ่งนี้ ตัวของมันเอง คือ ทางสายกลาง
จากตำราของ ท่านนาคารชุน -- องค์ดาไล ลามะ กล่าวว่า "...ความว่าง ไม่ได้แปลว่า ไม่มีอะไรเลย แต่ หมายความว่า สิ่งที่ปรากฏนั้น ไม่มีอะไรจริงแท้ เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ..."
(21 มี.ค. 2015 - องค์ดาไล ลามะ เทศน์ ที่ นิวเดลลี อินเดีย )
เครดิต : พุทธศาสนา มหายาน ธิเบต /facebook
นิวรณ์5มารขวางกั้นความดีและปัญญาของผู้ปฏิบัติธรรม
ตราบเท่าที่ยังมีขันธ์5ครบเราจะเผชิญหน้ากับมันเสมอจนเราตายและถ้าพลาดท่าปัญญาจะถดถอยทันที...ปัญญาเท่านั้นที่จะแก้สถานะการณ์ได้และของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไปแม้แต่ครูบาอาจารย์ก็รู้เห็นในสิ่งที่เรารู้เห็นต่างกันทั้งที่เป้าหมายเดียวกันคือนิพพานทำไมถึงเป็นเช่นนั้นเพราะจิตนี้มันไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ในสถานการณ์นั้นไม่มีผู้ใดให้คำปรึกษาท่านได้แต่ขอฝากว่าที่แน่ๆเมื่อรู้เท่าทันนิวรณ์5ท่านก็มีสมาธิกับความเพียรแม้ยามก้าวเดินไปข้างหน้าแล้วและใช้ปัญญาโดยใช้สติรู้ทันเพียงเห็นว่าเป็นเพียงการเกิดดับของจิตที่ไม่ใช่ของเราท่านก็ตัดสายปฏิจสมุปบาทได้ชั่วพริบตาทำบ่อยเจริญบ่อยนะสาธุ
เครดิต : เห็นปฏิจจสมุปบาท เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เห็นธรรมเพื่อความหลุดพ้น /facebook