วิวัฒนาการภาพแกะสลักนารายณ์บรรทมสินธุ์เก่าแก่ที่สุดในอุษาคเนย์ ราวพุทธศตวรรษที่11-13
อาศรม (Cella) เก่าแก่ที่พนมฮันเจย จังหวัดกำปงจาม...การรังสรรค์ภาพสลักพระวิษณุนารายณะ -อนันตศายิน ในคติความเชื่อที่คอยกำกับรูปศิลปะของเขมรที่รับมาจากอินเดียผ่านมาทางชวานั้น มีร่องรอยมาตั้งแต่ก่อนยุคเมืองพระนคร ร่องรอย ที่เก่าแก่ที่สุดปรากฏในข้อความจารึกภาษาสันสกฤตของ พระนางกุลประภาวดี อายุในราวพุทธศตวรรษที่ 11 (ราว 1,500 ปีที่แล้ว) พบที่จังหวัดตาแก้ว ได้กล่าวถึงเรื่องการบรรทมสินธุ์ของของพระนารายณ์ไว้ว่า ...ผู้ที่พิจารณาใคร่ครวญอย่างมีเหตุผลพักผ่อนในเกษียรสมุทร บรรทมบนแท่นที่ทำด้วยขดของพญานาคและเป็นผู้รวมเอาโลกทั้งสามไว้ในท้องและให้กำเนิดดอกบัวจากพระนาภี...
นอกจากข้อความในจารึกโบราณในยุคอาณาจักรเจนละ (Chenla) แล้ว รูปสลักนารายณ์บรรทมสินธุ์บนหินทรายที่น่าจะมีอายุ เก่าแก่ที่สุด ในศิลปะเขมร เป็นภาพสลักบนทับหลังประตูของอาคารหลังเล็กอาศรม - ครรภมณฑล (Cella - รูปทรงกล่องสี่เหลี่ยม) ที่ พนมหันเจย (Phnom Han Chey Pr.) อุคระปุระหรือ ชัยคีรี (ชื่อเก่าตามจารึกที่พบ) จังหวัดกัมปงจาม เป็นศิลปะแบบเจนละ (Chenla Style) อายุในราวพุทธศตวรรษที่ 10 11 แต่นักวิชาการชาวฝรั่งเศส ปาร์มังตีเออร์ (Henri Parmentier) เชื่อว่ารูปสลักนารายณ์บรรทมบนอนันตนาคราชที่ปราสาทหันเจยนี้ อาจจะมีอายุเก่าแก่ขึ้นไปจนถึงช่วงยุควัฒนธรรมฟูนัน (Funan) ซึ่งมีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 10 เลยทีเดียว
ห้องครรภมณฑล(cella)จุดปฏิสนธิของการกำเนิดสรรพสิ่งในโลกจักรวาล กล่าวได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมหลังแรกที่มีภาพสลักพระนารายณ์อยู่เหนือกรอบประตูทางเข้าห้องเพื่อบ่งบอกว่าพระองค์เป็นผู้สร้างและดูแลจักรวาลและต่อมามาได้มีการประดิษฐ์ต่อเติมวิวัฒนาการกลายเป็นปราสาทหินนครวัดอันอลังการณ์ดุจทิพยวิมานบนโลกใบนี้
เทวสถานที่เป็นสถาปัตยกรรมรุ่นเดียวกันที่ ชวา อินโดเนเซีย
สถาปัตยกรรมรุ่นแรกของชวา จะมีภาพแกะสลักหน้ากาลหรือราหูเหนือกรอบประตูทางเข้าเทวสถานเพื่อคุ้มครองเทวสถานหรืออีกนัยหนึ่งว่าผู้ทีผ่านประตูนี้ตัวหน้ากาลจะกัดกินสิ่งไม่บริสุทธิ์ทั้งมวลของผู้จาริกแสวงบุญ ก่อนเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์...วัดทางภาคเหนือจะนับถือคตินี้ในการประดับประตูวิหารสำคัญ